ทำตัวมีพิรุธ

1669 Words
“ไม่ต้องส่ง กูไปเองได้” ไอ้ไนท์ปฏิเสธน้ำใจผมทันทีที่ผมบอกว่าจะเดินไปส่งมันที่รถ ผมฟังมันที่ไหน ดึงดันเดินมาส่งมันถึงที่จนได้ “ตกลงมึงไปไหนต่อเนี่ย” ผมถามอีกรอบเพราะก่อนหน้านี้เคยถามแล้วแต่มันไม่ตอบ “ธุระ” อีกและ… คำตอบเดิมๆ ผมมองมันด้วยสายตาขัดใจ แต่ก็ไม่อยากพูดมาก เมื่อมันไม่อยากบอกแล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากระบายลมหายใจยาวเหยียด “แล้วมึงจะไปเยี่ยมพ่อหรือเปล่า” ผมถามเผื่อได้เจอที่โรงพยาบาล เพราะยังไงผมก็ต้องไปเอารถที่จอดทิ้งไว้อยู่แล้ว ไม่รู้ตอนนี้โดนล็อกล้อหรือยัง “กูไม่ไป” มันตอบอย่างเฉยชา แววตาเด็ดเดี่ยว ผมยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งที่คิดก็ต้องกลืนคำพูดลงคอ พยักหน้ารับรู้ “อืม งั้นก็ขับรถดีๆ” ผมมองตามไอ้ไนท์ที่เปิดประตูขึ้นรถไปด้วยสายตาเป็นห่วง พอพูดถึงพ่อแววตาที่เคยสงบของมันก็จมดิ่งลงไปทันที แม่ง เอาซะกูอยากตบปากตัวเองขึ้นมาเลยที่พูดอะไรไม่คิดให้ดีๆ ก่อน “อ้าวคุณตะวันลืมอะไรคะ” มดเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเดินกลับมาที่ร้าน “เปล่า ไม่ได้ลืม” “อ้าว?” “กลับมาทำงาน” “อ่อ... อ๊ะ ไหนว่าแค่มากินข้าว จู่ๆ ทำไมเปลี่ยนใจ” “ไม่ดีเหรอ” “ดีค่ะดี... แต่ว่าพี่คนนั้นกลับแล้วเหรอ ใครเหรอคะ หล่อมว้าก” “....” ผมกลอกตาขึ้นลงรอบหนึ่ง “รุ่นพี่” ตอบสั้นๆ “ชื่ออะไรคะ รุ่นพี่ที่มหาลัยเหรอคะ” “จะอยากรู้ชื่อไปทำไม” “แหม ก็อยากรู้เอาไว้ไม่ได้เหรอคะ เผื่อมาอีกจะได้เรียกถูก” ผมนิ่งเงียบ... คำพูดมดทำให้ผมนึกสงสัยอยู่เหมือนกันก่อนจะส่ายหน้าพูดกับมดแต่ก็เหมือนบอกตัวเองด้วย “คงไม่มาอีกหรอก” “ทำไมคะ?” “เลิกสนใจเรื่องคนอื่นได้แล้ว ทำงานทำงาน” ผมตัดบทมดที่ยังคงสีหน้าสงสัยกึ่งเสียดายแล้วเดินเข้ามาในครัว ช่วยงานอยู่เบื้องหลัง มีเดินออกมาตรวจตราหน้าร้านบ้างแต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่ด้านในมากกว่า เหตุผลหลักๆ คือผมใส่ชุดเดิมกับเมื่อวาน ถึงจะอาบน้ำแต่ก็ไม่มั่นใจ จึงไม่อยากออกไปเจอลูกค้า ไม่ค่อยอยากเสิร์ฟอาหาร แค่รับออร์เดอร์เฉยๆ ได้ กังวลเรื่องความสะอาด ตอนแรกนึกว่าไม่มีใครรู้ แต่ทันทีที่แขกของผมซึ่งก็คือไอ้ไนท์กลับไป พนักงานก็ท้วงผมขึ้นมา “ชุดเดิมไม่ใช่เหรอ เมื่อคืนไปไหนมาเนี่ย” ถึงจะแซวขำๆ แต่ก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องน่าอายขึ้นมา ถึงกับลนลานตอบไม่ถูกเลยทีเดียว แต่ผมก็ปล่อยให้ตัวเองเสียอาการได้ไม่นานก็ตอบโต้กลับไปแบบกำปั้นทุบดินว่า “ลืมซักผ้า เลยใส่ชุดเดิม” มีคนเชื่อหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ประเด็นเรื่องชุดเดิมกับเมื่อวานก็ค่อยๆ เงียบหายไปในที่สุด ผมขลุกอยู่ที่ร้านจนถึงเวลาร้านปิด แต่วันนี้พิเศษตรงที่มีแพรกับหัวหน้าแม่ครัวรั้งอยู่เป็นเพื่อนเพราะรอไปเยี่ยมแม่ผมที่โรงพยาบาลด้วย ผมรีบเคลียร์บัญชี จัดการทุกอย่างให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ทั้งสองรอนาน แต่กว่าจะได้ออกจากร้านก็สามทุ่มครึ่ง... จากนั้นนั่งอัดกันมาในรถแท็กซี่ถึงโรงพยาบาลเกือบสี่ทุ่ม ผมเกรงใจแพรกับหัวหน้าแม่ครัวเพราะมันดึกแล้ว อยากให้ทั้งคู่กลับไปพักผ่อนมากกว่า แต่หัวหน้าแม่บ้านกับแพรก็เกรงใจผมกับแม่ กลัวว่าดึกแล้วจะรบกวนเวลาพักผ่อนแม่ผม แต่ก็อยากมาแสดงความห่วงใยต่อเจ้านาย ผมไม่อยากขัดความตั้งใจของทั้งคู่ก็เลยพามาด้วย ภายในห้องพักฟื้น แม่ผมนั่งอ่านรายงานในไอแพดอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือติดอยู่ที่แขนข้างหนึ่ง สีหน้าซีดเซียวตามประสาคนไม่ได้แต่งหน้าทาปาก แม่หันมามองทางประตูด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นคนเดินเข้ามาหลายคน หัวหน้าแม่ครัวกับแพรยกมือไหว้ทักทายคุณนายดาว (แม่ผม) ด้วยท่าทางคุ้นเคย ผมปล่อยให้ทั้งสามคุยกันโดยไม่เข้าไปแทรก ส่วนผมเดินไปช่วยป้าแหวนเตรียมผลไม้กับน้ำมารับแขก “คุณวัน... สวมชุดเดิมกับเมื่อวานหรือเปล่าคะ” ขนาดป้าแหวนยังจำได้ ผมยิ้มกระอักกระอ่วน ก้มหน้ากระซิบกระซาบเหมือนกลัวใครได้ยินทั้งที่ตรงนี้มีแค่ผมกับป้าแหวนแค่สองคน “ป้าอย่าพูดดัง ห้ามบอกใครด้วย” “ตกลงไปไหนมาคะ ไม่ได้กลับห้องเหรอ แถมทิ้งรถไว้ที่โรงพยาบาลอีก” ผมเกาหัวแกรก ยิ้มเจื่อนๆ “ผมไปค้างกับเพื่อนมา เลยใช่ชุดเดิมไม่ได้กลับห้อง แต่ผมอาบน้ำนะ ไม่เชื่อป้าดมดู ไม่มีกลิ่นเลย” ผมจับเสื้อดึงไปใกล้ๆ ป้าแหวนอย่างมั่นอกมั่นใจว่าตัวเองปลอดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ป้าแหวนส่ายหน้าถอยห่างจากผมไปครึ่งก้าว จ้องตอบผมด้วยสายตาก้ำกึ่งระหว่างเอ็นดูกับตำหนิติเตียน “ป้าไม่ดมค่ะ แก่แล้วจมูกไม่ดี” “แล้วป้าได้กลิ่นหรือเปล่า?” “ได้แต่กลิ่นน้ำเก๊กฮวยนี่ล่ะค่ะ” “ฮ่าๆ แปลว่าผมไม่ได้เหม็น จบนะครับ” “จบก็จบค่ะ” ผมยิ้มกว้าง ช่วยป้ายกแก้วน้ำหวานมาเสิร์ฟแขก หัวหน้าแม่ครัวกับแพรนั่งอยู่บนโซฟาใกล้ๆ เตียงคนป่วยด้วยท่าทางสงบเรียบร้อย ผมวางแก้วน้ำลงตรงหน้าทั้งคู่ก่อนเดินมาข้างเตียงคุยกับแม่ “เป็นไงบ้าง หายเจ็บยัง” “ก็ดีกว่าเมื่อวาน” แม่ผมไม่ค่อยจะกวนเท่าไหร่เลย “ดีแล้วจะได้กลับบ้านไวๆ” “แล้วเป็นยังไงทำงาน สนุกเหมือนใช้เงินไหม” แม่ถามกลับ ผมยิ้มแห้งเลยทีเดียว “ก็ดี ได้ประสบการณ์” แม่เบะปาก มองผมอย่างไม่อยากเชื่อหู ตอนนั้นเสียงหัวหน้าแม่ครัวก็ดังแทรกเข้ามา “คุณวันเก่งนะคะคุณดาว เรียนรู้งานไว ไม่ถือตัว ปรับตัวเข้ากับพนักงานได้ดี” หน้าผมบานเท่ากระด้งขึ้นมาทันที ยิ้มกว้างจนปากจะฉีกถึงใบหู พร้อมกับยักคิ้วทะเล้นให้แม่ “เป็นไงล่ะ ลูกชายคนเล็กของคุณดาวเคยทำให้ผิดหวังด้วยเหรอ” “หึ... ไม่เคยทำให้ผิดหวังหรอก โดยเฉพาะเรื่องเปย์ผู้หญิง มีแฟนกี่คนๆ ก็ทุ่มให้หมดตัว บัตรเครดิตฉันมีไว้ให้แกใช้ ไม่ได้ให้แกเอาไปผลาญกับผู้หญิง” มาเป็นชุดรัวๆ อย่างกับปืนกล ผมร่างแทบพรุน “แม่ก็พูดเกิน... ผมก็แค่ดูแลแฟนดีเท่านั้นเอง” “แล้วไหนล่ะแฟนแก แม่ป่วยไม่เห็นจะพามาเยี่ยม” ผมหุบยิ้มทันที ไม่ทันนึกถึงเรื่องนั้น... อย่าว่าแต่พามาเยี่ยมแม่เลย ช่วงนี้ผมกับบีบีแทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ ในแชตก็แค่ถามคำตอบคำ กระทั่งวันนี้ผมก็ยังไม่ได้คุยกับบีบีเลย “เงียบ” แม่จ้องผมด้วยสายตาคาดคั้น “ได้ๆ เดี๋ยววันหลังผมจะพาบีบีมาเจอแม่แล้วกัน” “เหอะ” หลังจากนั้นแม่ก็หันไปคุยกับหัวหน้าแม่ครัวต่อ หลักๆ ก็ฝากฝังงานที่ร้านให้ช่วยเป็นหูเป็นตาในระหว่างที่ผู้จัดการไม่อยู่ ก่อนที่หัวหน้าแม่ครัวกับแพรจะขอตัวกลับเพราะเห็นว่าได้เวลาแล้ว แม่กำชับให้ผมไปส่งทั้งคู่แต่ถึงแม่จะไม่บอกผมก็ตั้งใจจะไปส่งอยู่แล้ว ผมส่งหัวหน้าแม่ครัวก่อน แล้วค่อยส่งแพรทีหลัง เสร็จก็ตรงกลับหอพักเพราะพรุ่งนี้มีเรียน ตั้งใจว่าจะรีบอาบน้ำแล้วนอนเลยเพราะรู้สึกเพลียจริงๆ ผลพวงจากเรื่องห่ามๆ ที่ทำไปเมื่อเช้ากับเมื่อคืนยังไม่หายไป พูดแล้วก็นึกถึงไอ้ไนท์ ไม่รู้ตอนนี้มันทำอะไร เงินค่าเหล้าคราวก่อนผมก็ยังไม่โอนให้มันสักที ผมคิดว่าจะแชตไปขอเลขบัญชีกับมัน เอาโทรศัพท์ขึ้นมาขณะเดินเข้าหอพักกำลังจะพิมพ์หาสายตาดันเหลือบไปเห็นบีบียืนอยู่หน้าทางเข้าหอซะก่อน ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง เดินเข้าไปหาบีบีอย่างแปลกใจ เรื่องไอ้ไนท์อันตรธานไปจากหัวทันที “บี? มาทำอะไรเนี่ย” “วัน...” บีบีมองผมท่าทางแตกตื่นนิดๆ แต่ผมไม่ทันได้ใส่ใจ สงสัยมากกว่าว่ามายืนทำอะไรตรงนี้แถมยังแต่งตัวสวยอีกต่างหาก “ยืนรอใครเหรอ” “มาหาวันนั่นแหละ” บีบีโผเข้ามากอดแขนผม “แต่บีลืมเอาคีย์การ์ดมา ก็เลยเข้าข้างในไม่ได้” “ทำไมไม่บอกล่ะว่าจะมา” ผมมองบีบีรู้สึกแปลกๆ อยู่ในใจ ถ้าจะมาก็น่าจะแชตหรือโทรบอกก่อนผมจะได้รีบกลับมา “บีเพิ่งมาถึงน่ะ กำลังจะโทรหาวันอยู่พอดี” “เหรอ” ผมเลิกคิ้ว ถึงจะสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามเค้นอะไรมาก “แล้วนี่แต่งตัวสวยตั้งใจจะไปไหนหรือเปล่า” “อืม... มีปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนที่สาทร บีตั้งใจจะมาชวนวันไปด้วยกัน” “ตอนนี้เหรอ” “อื้ม” ผมขมวดคิ้ว รู้สึกไม่สะดวกขึ้นมาทันที “ทำไมบีไม่บอกก่อน วันเพิ่งกลับมาจากดูแลร้านอาหาร เหนื่อยมากตอนนี้ อยากนอนมากกว่า” ผมพูดตรงๆ บีบีทำหน้าผิดหวังอย่างไม่คิดจะปิดบัง แต่กลับไม่ได้งอแงอย่างที่คิด แค่ทำหน้ายู่เบาๆ แล้วพูดออกมาแบบไม่ได้ง้อผมสักนิด “งั้นบีไปคนเดียวก็ได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD