ค่อยๆ เปิดใจ

1716 Words
ผมนั่งอึนอยู่ในห้องหลังจากอาบน้ำสวมเสื้อผ้าชุดเดิมที่ใส่มาเมื่อคืนเสร็จ นั่งไถโทรศัพท์ขึ้นๆ ลงๆ แต่ความสนใจกลับไม่ได้อยู่ที่จอ ในหัวคิดวนเวียนเกี่ยวกับไอ้ไนท์ไม่หยุด ที่น่าตกใจคือผมไม่ได้รู้สึกดูถูกหรือเหยียดมันเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้ผมมองมันเป็นคนเท่ากัน ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง ไม่ได้เป็นตัวประหลาด หรือเป็นคนที่ต้องหลีกเลี่ยงให้ห่างอีกต่อไป แต่ถึงทัศนคติด้านลบจะหายไปก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะตีหน้าซื่อทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้หรอกนะครับ เรื่องเมื่อคืนกับตอนเช้ายังคุกรุ่นอยู่ในใจ ยากที่จะมองข้ามจริงๆ แต่ผมเดาว่าไอ้ไนท์มันก็คงทำตัวปกติเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ สำหรับมันที่แยกเรื่องเซ็กส์กับความรู้สึกออกจากกันได้ ผมชักจะอยากนับถือมันขึ้นมาบ้างแล้วสิ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตู ผมเดินมาเปิดประตูสีหน้าราบเรียบ จ้องคนตรงหน้าประหนึ่งว่าความหมกมุ่นก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น “มึงแต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ” ผมเอ่ยถามทันทีที่เปิดประตูออกมาเผชิญหน้ากัน “อืม ไม่เห็นออกจากห้อง ก็เลยมาตาม นึกว่าหนีกลับไปแล้ว” ไอ้ไนท์พูด “....” ในสายตามึงเห็นกูเป็นเด็กหรือไงวะ “กินข้าวไหม” มันถาม “กิน” “ข้างล่างมีร้านอาหาร หาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไปส่งมึง” “เดี๋ยว” ผมนึกอะไรขึ้นได้ จับแขนไอ้ไนท์ที่กำลังหมุนตัวเดินออกไป “...?” มันหันกลับมามอง คิ้วเลิกขึ้นอย่างสงสัย สบสายตาคมปลาบของมันแล้วผมก็ลนลานปล่อยมือมันทันที “เดี๋ยวไปร้านที่กูดูแลอยู่ เอากุญแจรถมา” “....” ไอ้ไนท์ทำหน้าประหลาดใจแต่ก็ยื่นกุญแจให้ผมแต่โดยดี “มึงรีบหรือเปล่า” ผมเอ่ยถามระหว่างทางมาที่รถ จำได้ว่าไอ้ไนท์มันบอกว่ามีธุระ ซึ่งไม่รู้ว่ามีธุระจริงหรือแค่บลัฟ “ไม่รีบ” “ธุระมึงล่ะ” “เลื่อนได้” มันบอกสั้นๆ “...?” ผมเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ถามต่อถึงต่อมอยากรู้จะสะกิดยิกๆ อยู่ในใจก็ตาม “มึงไม่กลับห้องก่อนเหรอ” ไอ้ไนท์เอ่ยถามเมื่อผมขับรถเลยทางแยกที่จะไปหอพัก “ไม่ล่ะ เสียเวลา” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่กลัวมีคนรู้หรือไงว่าใส่เสื้อผ้าชุดเดิม” มันแหย่กลับมา “กูอาบน้ำแล้วกัน” ผมสวนกลับทันควัน ไอ้ไนท์หัวเราะกลับมาเบาๆ ผมรู้ว่ามันยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตื่นพอเห็นว่าข้างหน้ามีปั๊มน้ำมันก็หันไปถามมันว่าอยากแวะร้านสะดวกซื้อ หรือร้านกาแฟ หาอะไรกินรองท้องหรือเปล่า ไม่ใช่อะไร กลัวมันหิ้วท้องรอไม่ไหว อีกอย่างเผื่อเจอรถติดจะได้ไม่ต้องทนหิวมาก คิดแล้วผมก็ไม่น่าชวนมันมาทรมานเลยว่ะ น่าจะกินข้าวที่คอนโดมันก่อน จากนั้นค่อยแยกย้ายทางใครทางมัน ไอ้ไนท์ก็จะได้ไปทำธุระของมันด้วย เออว่ะ นี่กูพามันมาด้วยทำไมวะ คิดๆ แล้วก็ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แล้วไอ้ไนท์ก็เสือกตามผมมาอีกนะ ไม่เคยปฏิเสธกูเลยให้ตายเถอะ “กูกินกาแฟมาแล้ว มึงยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่เหรอ” ไอ้ไนท์ตอบผมพร้อมกับส่งสายตาเป็นห่วงกลับมา ผมเกือบหลุดยิ้มตอนที่รู้ว่ามันก็แคร์ผมเหมือนกัน ใจมันฟูอย่างบอกไม่ถูก “ไม่เป็นไร กูรอกินข้าวทีเดียว” ผมท้องว่างอย่างที่มันว่าจริง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร ถ้าไอ้ไนท์บอกไม่แวะผมก็ไม่แวะ แค่นั้น “ตกลงไม่เอาอะไรใช่ไหม” ผมถามย้ำก่อนที่จะเลยปั๊ม “อืม” ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมเดินเข้ามาในร้านอาหารพร้อมกับไอ้ไนท์ พนักงานต้อนรับรีบทักทายทันทีที่เห็นผม แถมยังส่งสายตาวิบวับๆ ไปทางไอ้ไนท์ตั้งหลายที คนหล่อก็เงี้ยะ ตอนผมมาที่ร้านครั้งแรกพนักงานยังไม่เคลิ้มขนาดนี้เลย “สวัสดีค่ะคุณตะวัน วันนี้ก็ไม่หยุดเหรอคะ” พนักงานปากพูดกับผมแต่ดันจ้องไอ้ไนท์ไม่วางตา “หยุด แค่พา...” ผมมองไอ้ไนท์ครู่หนึ่งไม่รู้จะเรียกมันในฐานะอะไรดีก่อนจะกลั้นใจเอ่ยออกไป “...รุ่นพี่มาเลี้ยงข้าว” “อ๋อ... งั้นเชิญเลยค่ะ เดี๋ยวมดดูแลเอง” พนักงานยิ้มกว้าง ผายมือเชิญอย่างกระตือรือร้น ไอ้ไนท์ก็มิวายยิ้มหวานตอบพนักงานผมอีก แม่ง ไม่กลัวมดกัดหรือไงวะ “คุณตะวันสั่งอาหารเลยหรือเปล่าคะ” มดเอ่ยถามเสียงนุ่มหลังจากที่ผมกับไอ้ไนท์นั่งลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผมลอบถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ลูกค้าคนอื่นบริการดีอย่างนี้ไหมเนี่ย “อยากกินอะไรสั่งเลย” ผมบอกไอ้ไนท์ที่นั่งฝั่งตรงข้าม มันหยิบเมนูไปเปิดดูรอบหนึ่งก่อนจะสั่งไปสองสามอย่าง “ร้านใคร” หลังจากพนักงานรับออร์เดอร์เดินออกไปแล้ว ไอ้ไนท์ก็เอ่ยขึ้น มันกวาดตามองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ “ร้านแม่กูเอง” แล้วผมก็เล่าเรื่องที่ต้องมาดูแลร้านนี้ให้มันฟังคร่าเวลา มันหัวเราะพรืดแบบไม่ไว้หน้าผมเลย “เปย์จนได้เรื่องเลยนะมึง” “อืม” ผมส่งเสียงตอบอย่างไม่พอใจในท่าทางของมัน “อาหารที่สั่งได้แล้วคร่า” พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟอย่างร่าเริง หลังวางทุกอย่างเสร็จก็ยืนฉีกยิ้มแฉ่งไม่ยอมผละไปสักที ผมกระแอมไอ ส่งสายตาเตือนแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัว “มด...!” “คะคุณตะวัน อยากได้อะไรเพิ่มเดี๋ยวมดไปเอาให้” “ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ไปได้แล้ว” “คะ... เอ่อ ค่ะ แฮร่ๆ” มดยิ้มเก้อๆ ก่อนจะเดินจากไปด้วยท่าทางเสียดาย ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา หันกลับมามองไอ้ไนท์ที่กำลังหัวเราะขบขันเบาๆ กับท่าทางของพนักงานร้านผม “เห็นคนหล่อหน่อยไม่ได้” ผมพูดเล่นๆ ไม่ได้จริงจังมาก “พนักงานร้านมึงน่ารักดีออก” “อืม น่ารักทุกคน” ผมพูดแบบไม่ได้คิดอะไร จังหวะนั้นเหลือบไปเห็นแพรเดินออกมาจากข้างในพอดี แล้วดันสบสายตาแพรเข้าโดยบังเอิญอีก ทำให้แพรยิ้มทักทายผมซึ่งผมก็ยิ้มตอบปกติ “....” ไอ้ไนท์มองตามสายตาผมไปเจอแพร แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร หยิบช้อนขึ้นมาชิมอาหารบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ นี่ผมต้องอธิบายหรือเปล่าว่าเมื่อกี้ผมไม่ได้คิดอะไรกับแพรแค่ยิ้มทักทายตามประสาคนรู้จัก แต่มาคิดอีกก็ไม่รู้จะอธิบายไปทำไม ไม่จำเป็น (มั้ง) “เป็นไง อร่อยมั้ย” ผมถามหลังจากมันตักข้าวเข้าปากไปคำแรก ปัดประเด็นเรื่องแพรทิ้ง “อืม อร่อยดี” “กินเยอะๆ ไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้ ไม่ต้องเกรงใจ” ผมบอกไอ้ไนท์ก่อนจะลงมือกินเหมือนกันระหว่างนั้นก็เขี่ยโทรศัพท์ไปด้วย ช่วงที่กำลังกินไม่มีใครพูดอะไรเลย ไม่รู้เป็นเพราะต่างคนต่างหิวจัดๆ หรือเพราะมีเหตุผลอื่นแอบแฝงไม่แน่ใจ แต่บรรยากาศตึงเครียดแปลกๆ ผมลอบมองไอ้ไนท์ สีหน้ามันก็ดูปกติ ...หรือผมคิดมากไปเอง เหมือนไอ้ไนท์รู้ตัวว่าผมมอง มันมองตอบผมพลางเลิกคิ้วสงสัย ผมเหลือบมองจานข้าวที่ใกล้หมดของมันก่อนจะเอ่ยแบบเนียนๆ “เอาข้าวอีกเปล่า” “ไม่ล่ะ อิ่มแล้ว อิ่มกาแฟ” “กาแฟแค่แก้วเดียวจะไปอยู่ท้องได้ยังไง เอาของว่างไหมเดียวกูสั่งให้” “แล้วแต่มึง” ไอ้ไนท์ตอบเหมือนขี้เกียจเถียงกับผม ดูมันเนือยๆ ยังไงไม่รู้ว่ะ “มด... อ้าวแพร” ตอนแรกผมจะหันไปโบกมือเรียกมด แต่ดันหันไปเจอแพรเข้าซะก่อน แพรเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มโดยไม่ลืมที่จะพยักหน้าทักทายไอ้ไนท์อย่างสำรวม “สั่งอะไรเพิ่มหรือเปล่า” “อืม เอาของว่างมาสักสามสี่อย่างหน่อย แล้วก็ของหวานด้วยนะ” “ได้ เอาเครื่องดื่มด้วยไหม” “....” ผมเหลือบมองไอ้ไนท์ มันส่ายหน้า ผมจึงหันไปบอกแพรว่า “แค่นี้แหละ” “อืม รอสักครู่นะคะ” แพรเอ่ยกับผมเสร็จก็ไม่ลืมกล่าวกับไอ้ไนท์อย่างสุภาพแล้วเดินออกไป เทียบกับมดแล้วแพรเรียบร้อยกว่าเยอะ “พนักงานคนนี้ใช้ได้นะ” จู่ๆ ไอ้ไนท์ก็เอ่ยขึ้น “หืม” “ดูเป็นงาน” “อืม ตอนกูมาที่นี่วันแรกก็ได้แพรนี่แหละช่วยอะไรหลายๆ อย่าง” “อ่อ ถึงว่าดูมึงปฏิบัติกับคนนี้ต่างจากคนก่อนหน้า” ผมขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่ามันต้องการสื่ออะไร หรือหมายความตามที่พูดจริงๆ ผมไม่แน่ใจก็เลยหยั่งเชิงกลับไป “ต่างยังไง” ไอ้ไนท์ยักไหล่ “อย่างน้อยก็ไม่ได้เรียกมึงว่าคุณเหมือนคนก่อนหน้า” “กูบอกไม่ให้เรียกเอง คนอื่นกูก็บอกเหมือนกัน แต่บางคนก็ยังติดเรียกอยู่ดี” ไอ้ไนท์พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ระหว่างนั้นแพรก็ยกอาหารมาเสิร์ฟพอดี ทำให้บทสนทนาเรื่องนี้จบลงโดยปริยาย “ถ้าไม่พอ สั่งเพิ่มได้เลยนะ” แพรเอ่ยอย่างเป็นมิตรก่อนจะถือถาดเปล่าเดินกลับไปทำงานต่อ “กินเสร็จแล้วมึงจะไปโรงพยาบาลเลยหรือเปล่า กูจะได้ไปส่ง” ไอ้ไนท์ถาม ผมส่ายหน้า “ตอนแรกก็ว่าจะไปนั่นแหละ แต่พี่สาวกูไลน์มาบอกว่าแม่อาการดีขึ้นมากแล้ว กูก็เลยกะว่าจะอยู่ช่วยงานที่ร้านก่อน วันนี้ลูกค้าเยอะด้วย” “งั้นก็รีบกินรีบอิ่มจะได้รีบไปทำงาน” “มึงพูดเหมือนตาแก่เลยรู้ตัวไหมวะ ไม่ต้องห่วงกูหรอก มึงนั่นแหละกินเยอะๆ” “....” ไอ้ไนท์ทำหน้าบอกบุญไม่รับที่ถูกผมบอกให้กินเยอะๆ แก้มมันย้อมสีแดงเรื่อนิดๆ ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD