ความเห็นอกเห็นใจ

1654 Words
รอยยิ้มซาบซึ้งใจของไอ้ไนท์ทำผมเคลิ้มไม่รู้ตัว จนเสียงโทรศัพท์มันดัง ผมถึงได้สติ เบือนสายตาไปทางอื่นแบบเนียนๆ “ครับอา... งั้นเหรอ อืม คงไม่แล้ว ครับ...” ผมชำเลืองมองหลังจากมันวางสาย ทั้งที่เพิ่งคุยได้ไม่นาน “มีอะไรหรือเปล่า” ผมไม่แน่ใจว่าถามได้ไหม แต่ก็ถามไปแล้ว มันจะตอบไม่ตอบก็อีกเรื่องหนึ่ง “พ่อถูกย้ายไปห้องไอซียู” “มึงจะไปเยี่ยมหรือเปล่า” “กูบอกอาแล้วว่าจะไม่ขึ้นไป ตอนนี้น้องชายกูก็มาแล้ว กูอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์” “มึงจะกลับเลยเหรอ” “อืม” ไอ้ไนท์พยักหน้า ผมผ่อนลมหายใจ รู้สึกเสียดายอย่างไม่รู้สาเหตุที่รู้ว่ามันจะไปแล้ว แต่ไอ้ไนท์ไม่ได้รีบร้อน ท่าทางมันคงคิดจะนั่งอยู่ในร้านต่อสักพักแล้วค่อยไป ถึงงั้นผมก็รู้สึกว่าเวลาที่จะได้อยู่กับมันสั้นลงเรื่อยๆ “....” ผมเคาะนิ้วกับโต๊ะอย่างคนที่ต้องการความกล้าในการตัดสินใจหรือทำอะไรสักอย่าง มองพื้นผิวโต๊ะเบื้องหน้าใจสั่น แต่ก่อนที่ผมจะเค้นคำในหัวได้เสียงไอ้ไนท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน “เรื่องเมื่อคืน... กูผิดเอง กูขอโทษที่ต่อยมึง” ผมอึ้งไปครู่หนึ่งไม่คิดว่ามันจะเอ่ยเรื่องนั้นออกมา เอาตามตรงตอนเจอมันที่ห้องฉุกเฉินผมก็มีเคืองๆ อยู่หลายส่วน ทว่าตอนนี้ผมกลับไม่ได้คิดอะไรแล้ว ผมหลุบตาลง ไตร่ตรองเรื่องราวครู่หนึ่งก็เอ่ยตอบ “ความจริงกูก็พูดไม่ดีเองแหละ ไม่แปลกหรอกถ้าจะโดนต่อย” “มึงยอมรับ?” ไอ้ไนท์หลุดยิ้มออกมา ไม่รู้ทำไม ยิ้มของมันถึงทำให้ผมรู้สึกเก้อเขินได้ “อืม... กูมักจะปากเสียกับมึงกูรู้ตัว” “มึงนี่มาแปลก หรือว่าโดยต่อยแล้วเพี้ยน นอกจากจะเลี้ยงน้ำกูแล้วยังช่วยปลอบใจอีก คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะได้เห็นมุมนี้ของมึง” “ก็มึงทำหน้าเหมือนโลกจะถล่มลงมา ใครเห็นก็ทนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ” “หืม” ไอ้ไนท์มันทำหน้าคับข้องใจในคำพูดผม “ทนไม่ได้ยังไง” “ก็...” ผมมองดวงตาคมกริบลึกล้ำของมันแล้วชะงัก คำพูดค้างอยู่ในลำคอ ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเอ่อล้นอยู่ภายในใจ “...น่าเป็นห่วง” ผมพึมพำต่อเสียงเบา หนังศีรษะพลันร้อนวาบเมื่อตระหนักว่าจริงๆ แล้วผมทนเห็นมันทุกข์ใจไม่ได้ซึ่งเท่ากับว่าผมกำลังห่วงใยมัน? ทั้งที่ความจริงแล้วผมควรจะรังเกียจมัน สมน้ำหน้ามันถึงจะถูก “เป็นห่วง?” ไอ้ไนท์ทวนคำของผมอย่างไม่อยากเชื่อหู อีกนัยหนึ่งก็เหมือนมันกำลังล้อเลียนผมอยู่ ครู่ต่อมามันก็ยิ้มบาง แววตาฉายรอยเศร้าอยู่ลึกๆ “กูดูอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือไง” “เปล่า มึงไม่ได้อ่อนแอ มึงแค่ทำหน้าเหมือนโลกจะแตกพรุ่งนี้” “....” “แล้วนี่มึงจะกลับยังไง เอารถมาเหรอ” “อืม แต่คิดว่าจะพักโรงแรมแถวนี้สักคืน พรุ่งนี้ค่อยขับรถกลับ” มันบอกอย่างไม่ใส่ใจพลางเปิดโทรศัพท์จองโรงแรมผ่านแอปพลิเคชัน ผมอึ้ง ไม่คิดว่ามันจะไม่เกี่ยงที่หลับนอนแบบนี้ “บ้านมึงไม่ได้อยู่แถวนี้เหรอ” เดาจากที่พ่อมันมาโรงพยาบาลนี้ บ้านน่าจะอยู่ใกล้ๆ นี่ แต่ก็อาจจะไม่เสมอไป บางทีพ่อมันอาจจะแค่ทำประกันสุขภาพเอาไว้กับโรงพยาบาลนี้ก็ได้ “กูถูกไล่ออกจากบ้าน จำไม่ได้เหรอ” แปลว่าบ้านมันอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล งั้นก็แสดงว่าบ้านเราอยู่เขตเดียวกัน “อืม แล้วมึงไม่กลับคอนโดเหรอ จะพักโรงแรมทำไม เปลืองเงิน” “กูเหนื่อย ดึกแล้วขี้เกียจขับรถไกล” “เดี๋ยวกูขับเอง เอากุญแจรถมา” “มึงว่าไงนะ” ไอ้ไนท์มองหน้าผมอย่างคาดไม่ถึง “เอากุญแจมา กูขับไปส่ง” “นี่... มึงใช่ไอ้เด็กตะวันที่กูรู้จักจริงป่ะเนี่ย” “สัส! ช่างแม่งเหอะ มึงจะนอนไหนก็เรื่องของมึง” ผมสบถเห็นท่าทางเข้าใจยากของมันก็หมดความอดทนซะเอง ไอ้ไนท์รีบยัดกุญแจใส่มือผมทันที “กูแค่แปลกใจ ปกติมึงไม่ใจดีกับกูขนาดนี้นี่นา” “....” “กูโทรบอกป้าแม่บ้านก่อน” ผมบอกระหว่างเดินออกจากร้านกาแฟ แยกออกมาโทรหาป้าแหวน บอกว่าจะไปส่งบ้าน ส่วนรถผมทิ้งไว้ที่นี่พรุ่งนี้ค่อยกลับมาเอา ยังไงก็ต้องมาเยี่ยมแม่อยู่แล้ว ผมเดินมาหาไอ้ไนท์ที่ยืนรออยู่ไม่ไกลหลังคุยกับป้าแหวนเสร็จ “รถมึงจอดที่ไหน” “ไม่ไกลจากห้องฉุกเฉินเท่าไหร่” มันพูดพลางเดินนำผมไป “แล้วรถมึงจอดทิ้งไว้นี่เหรอ” “อืม” “มึงแน่ใจเหรอ” “แน่ใจอะไร” “ที่จะไปส่งกูเนี่ย คิดดีแล้วเหรอ” “....” ผมไม่ตอบแต่มองกลับด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย กูจะเปลี่ยนใจก็เพราะมึงเอาแต่ถามย้ำๆ นี่ล่ะ “กูแค่ไม่อยากถูกทิ้งกลางทางน่ะ” “กูไม่ใช่คนผีเข้าผีออกแบบนั้น อีกอย่างนี่ก็รถมึง กูจะทิ้งมึงได้ยังไง” “มึงจะให้กูไปส่งที่ร้านหรือที่คอนโด” ผมเอ่ยขึ้นระหว่างทางขับรถ ไอ้ไนท์นั่งเอนหลังอยู่เบาะข้าง ท่าทางเคลิ้มหลับลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงผม “คอนโด” “แล้วมึงไม่ต้องเข้าร้านเหรอวันนี้” “กูบอกที่ร้านแล้วว่าจะไม่เข้าไปอีก” “อ่อ” ผมพยักหน้าเข้าใจ ไม่พูดอะไรอีก จนกระทั่งถึงทางเข้าคอนโด รปภ.จำรถไอ้ไนท์ได้ เปิดไม้กั้นรถให้โดยไม่ถามอะไรสักคำ ผมขับผ่านป้อมยามมาที่ลานจอดรถก่อนจะหันไปเรียกมัน “ไนท์... ถึงแล้ว” “หือ” ไอ้ไนท์งัวเงียขึ้นมองรอบด้าน เมื่อเห็นภาพลานจอดรถที่คุ้นเคยมันก็หันมาขอบใจผม ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ ผมตามมันลงไปทันที เดินอ้อมไปหามันแล้วยื่นกุญแจรถให้ “แล้วมึงกลับไง” ไอ้ไนท์ถาม ช่างเป็นสถานการณ์ที่คุ้นเคยอะไรอย่างนี้ เมื่อวานผมก็มาส่งมันที่คอนโด ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มาอีก “เดี๋ยวกูนั่งวินกลับ” “เอารถกูไป” มันส่งกุญแจคืนมา ผมส่ายหน้า “ขี้เกียจขับมาคืน กูนั่งวินไปง่ายกว่า” ไอ้ไนท์เงียบครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา “ทำไมไม่ค้างที่นี่ล่ะ พรุ่งนี้ค่อยไปโรงพยาบาลพร้อมกัน” ผมกะพริบตาปริบ คิดไม่ถึงว่ามันจะชวนกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้ แต่กูไม่ใช่คนง่ายๆ จะนอนที่ไหนก็ได้นะโว้ย ผมกำลังจะปฏิเสธ ไอ้ไนท์ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนเหมือนมันอ่านท่าทางของผมออก “ความจริงกูแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว เรื่องไปโรงพยาบาลเป็นแค่ข้ออ้าง ...มึงลืมที่กูพูดไปเถอะ ขอบใจที่มาส่ง” ไอ้ไนท์หันหลังให้ผมแล้วเดินไหล่ตกออกไป ดูแล้วมันน่าจะยังปล่อยวางเรื่องพ่อไม่ได้ ผมมองแผ่นหลังที่ห่างออกไปทีละก้าวของไอ้ไนท์แล้วก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้ “ไนท์” “....” มันหันกลับมามองสายตาเรียบนิ่ง ผมเดินเข้าไปหามันอย่างไม่หวั่นไหว “กูอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง” คอนโดไอ้ไนท์ค่อนข้างใหญ่ มีหลายห้อง แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน ผมไม่ได้มาห้องมันเป็นครั้งแรก แต่นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมมาแบบเต็มใจ ไม่ได้ถูกบีบหรือโดนสถานการณ์บังคับมา “มึงใช้ห้องนี้ได้ตามสบาย ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้ ส่วนเสื้อผ้าเดี๋ยวกูเอามาให้” ไอ้ไนท์เปิดประตูห้องนอนเล็กให้ผม เป็นคนละห้องกับที่ผมเคยนอนกับมันก่อนหน้านี้ หน้าผมพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อนึกถึงเรื่องชวนกระดากอาย “อือ” ผมพยักหน้าตอบรับคำพูดของไอ้ไนท์ เดินเข้ามาในห้องโดยไม่ปิดประตู ไอ้ไนท์เอาเสื้อผ้ามาให้หลังจากผละไปไม่นาน ผมไม่ได้พูดอะไรกับมันมาก แค่เอ่ย ‘ขอบใจ’ มันเบาๆ ไอ้ไนท์ก็กลับไปส่วนผมปิดประตูเข้าห้อง อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า กระโดดขึ้นเตียง นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หลายตลบ ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ผมพูดเองว่าจะอยู่เป็นเพื่อนไอ้ไนท์แต่ดันมานอนอยู่ที่นี่คนเดียวแล้วมันต่างอะไรกับการที่ผมกลับไปนอนห้องตัวเองวะ ผมลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะส่ายหน้า ทิ้งตัวลงนอนอีกรอบ ปัดความคิดที่อยากจะไปหาไอ้ไนท์ทิ้งเพราะมันล่อแหลมเกินไป แต่กูก็นอนไม่หลับอยู่ดี... ผมผุดกายขึ้นนั่งอีกรอบ คว้าโทรศัพท์มาดูเวลา ตีสองแล้ว... ตายังแข็งอยู่เลยว่ะ ทั้งที่วันนี้ผมควรจะหลับสบายแท้ๆ เพราะได้ออกแรงช่วยงานที่ร้านอาหารทั้งวัน ถึงจะทำไม่สู้ลูกจ้างแต่ก็ใช้พลังงานไปไม่น้อยเลย ผมเช็กโทรศัพท์อย่างไม่ใส่ใจ มีแชตที่ผมคุยค้างกับบีบีแล้วบีบีตอบกลับมาผมขี้เกียจเปิดอ่านก็ปัดรายการแจ้งเตือนนั้นทิ้งไปแล้วข้ามไปดูอย่างอื่นแทน แต่ยิ่งไถจอก็ยิ่งหายง่วง เห็นพวกไอ้แต้มมันออนเกมอยู่ก็เข้าไปเล่นด้วยอยู่เกมสองเกมก็ออกมา อยู่นานไม่ได้เดี๋ยวมันถาม ผมขี้เกียจตอบ เพราะแค่นี้มันยังชวนผมออกไปหาอะไรกินรอบดึกเลย พูดแล้วก็หิวว่ะ คอนโดไอ้ไนท์มีอะไรให้กินบ้างไหมวะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD