ผมออกจากห้อง ได้ยินเสียงทีวีดังมาจากทางห้องโถง หรือว่าไอ้ไนท์ยังไม่นอน หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เดินตรงไปยังห้องโถง เห็นไอ้ไนท์นั่งหันหลังอยู่บนโซฟา ตรงหน้ามันมีโน๊ตบุ๊คกับแฟ้มเอกสารกางอยู่ ผมเพิ่งจะเคยเห็นมันทำงานแบบนี้เป็นครั้งแรก น่าชื่นชมจริงๆ
“ตะวัน?” ไอ้ไนท์หันมาแทบจะทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในบริเวณห้องโถง “ยังไม่นอนเหรอ”
“นอนไม่หลับ แล้วมึงทำอะไร ทำไมไม่นอน”
“ยังไม่ง่วง ก็เลยหาอะไรทำ”
ผมเดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับมัน เหลือบมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่ง่วงหรือว่าติดนอนเช้าจนชิน”
“ไม่เกี่ยว กูนอนได้ตลอด ไม่เลือกเวลา”
ผมพยักหน้าให้กับความปรับเวลานอนเก่งของมันแบบส่งๆ หยิบแฟ้มตรงหน้าขึ้นมาเปิดดูแก้เบื่อ ปากก็ขยับพูด
“หิว ห้องมึงมีอะไรกินไหม”
“บะหมี่อยู่ในครัว ต้มกินได้”
“มึงให้กูกินบะหมี่ตอนนี้เนี่ยนะ”
“แล้วมึงจะกินอะไร”
“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่บะหมี่” ผมส่งสายตาอ้อนมันแบบไม่รู้ตัว ไอ้ไนท์นิ่งไปแวบหนึ่งก่อนชักสีหน้ารำคาญ ผมนึกว่าจะโดนตะเพิดแล้วซะอีกแต่ไอ้ไนท์กลับพูดอะไรที่ผิดคาดออกมาแทน
“ข้าวต้มกุ้งไหมล่ะ เดี๋ยวกูทำให้กิน”
“....”
ผ่านไปสิบห้านาทีโดยประมาณ
ผมนั่งไขว่ห้างดูบอลอยู่บนโซฟาในห้องโถง (ที่เดิมไม่ได้ลุกไปไหน) อย่างสบายใจเฉิบ ชามข้าวต้มกุ้งหอมกรุ่นเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ถูกวางลงตรงหน้า ส่วนโน๊ตบุ๊คกับแฟ้มเอกสารถูกย้ายไปไว้ที่โซฟาเดี่ยว พื้นที่บนโต๊ะตอนนี้กลายเป็นของผมคนเดียว แม่ง ทำหน้าไม่ถูกเลยครับตอนนี้ ไม่รู้ว่าควรจะภูมิใจ เกรงใจ กลัวใจ หรือรู้สึกมันทั้งหมดที่ว่ามาดี คือใครจะไปคิดว่าไอ้ไนท์มันจะลุกไปทำข้าวต้มกุ้งให้ผมกินจริงๆ โคตรจะคิดไม่ถึงและไม่เคยคิดด้วย
“แล้วของมึงล่ะ ไม่กินเหรอ”
ผมมองชามข้าวต้มกุ้งที่หน้าตาดูดีไม่หยอกตรงหน้าแล้วหันไปมองไอ้ไนท์ที่หย่อนก้นลงนั่งข้างๆ มันถือเบียร์กระป๋องกับน้ำมาด้วยหนึ่งขวด มันวางขวดน้ำเปล่าให้ผม ส่วนมันเปิดกระป๋องเบียร์ดื่ม
“กินเถอะ กูไม่หิว” มันบอกสั้นๆ
ข้าวต้มกุ้งส่งกลิ่นหอมฉุย ตลบเข้าจมูก ยั่วน้ำลายเรียกน้ำย่อยเป็นอย่างมากแต่ผมก็ยังรั้งรอที่จะกิน
“ไม่กินล่ะ? หิวไม่ใช่เหรอ” ไอ้ไนท์ถามเมื่อเห็นผมไม่ยอมแตะชามข้าวต้มกุ้งของมัน “สบายใจได้ กูไม่ได้ใส่ยาพิษ”
ผมผ่อนลมหายใจกับคำประชดประชันของมัน “กูไม่ได้คิดแบบนั้น”
“แล้วทำไมไม่กิน หรือมึงแค่แกล้งกูเล่น”
“เปล่าแกล้ง”
“งั้นก็กินสิ นี่กินเข้าไป”
“โอ๊ยร้อน... ไนท์! ไอ้...สัสเลอะหมดแล้วเนี่ย”
ไอ้ไนท์ตักข้าวต้มใส่ปากผมเหมือนโมโห ผมไม่ทันตั้งตัว ช้อนร้อนๆ ก็ชนปากแล้ว พอเบี่ยงหลบข้าวต้มในช้อนเล็กๆ ก็กระฉอกหกเลอะคอกับเสื้อผมเป็นดวงๆ
เปื้อนไม่มากแต่เหนียว
“มึงไม่ตักราดหัวกูเลยล่ะถ้าจะเล่นแบบนี้” ผมชักสีหน้าไม่พอใจ
ไอ้ไนท์เลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นว่าผมกำลังหัวเสีย
มันวางช้อนข้าวต้มในมือลงแล้วเอื้อมไปดึงทิชชู่สองสามแผ่นยื่นมาให้ผม “กูขอโทษ”
“....” ผมฉวยทิชชู่จากมือไอ้ไนท์มาเช็ดเงียบๆ
“เอาเสื้อตัวใหม่ไหม” ไอ้ไนท์มองผมที่ยังไม่หายฉุนแล้วเอ่ยด้วยความหวังดี
“ไม่เป็นไร”
“เดี๋ยวกูเอาตัวใหม่มาให้” ไอ้ไนท์ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที ผมห้ามแล้วแต่มันก็ไม่ฟัง ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมเสื้อยืดสีเทาในมือ
“ไม่เป็นไร กูใส่ตัวเดิมได้ มันไม่ได้เปื้อนอะไรมาก”
“เปลี่ยนเถอะ เดี๋ยวมดขึ้น” ไอ้ไนท์มองผมด้วยสายตาบีบคั้นที่ยากจะปฏิเสธ ผมจำใจรับเสื้อมาจากมัน ก่อนจะถอดเสื้อออก เปลี่ยนมันโต้งๆ ตรงนี้เลย
ไอ้ไนท์ท่าทางเลิ่กลั่กภายในเวลาสั้นๆ มันก็กลับมามีสีหน้าสงบเยือกเหมือนเดิม
ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไร แต่เพราะท่าทางแปลกๆ ของไอ้ไนท์เมื่อกี้ทำให้ผมรู้ตัวว่ากำลังอยู่กับใครและทำอะไรอยู่
“มึงกลืนน้ำลาย” ผมท้วงเสียงนิ่ง มือสอดแขนเสื้อตัวใหม่ค้างเอาไว้ยังไม่ได้สวม จ้องมองไอ้ไนท์อย่างจับผิด
“ไม่มีอะไร เบียร์ติดคอ”
ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่ารู้สึกว่าเสียงมันสั่นเล็กน้อย แต่คำตอบของมันก็ทำผมอดที่จะเลิกคิ้วไม่ได้
“เบียร์ติดคอ?”
“อืม” ไอ้ไนท์ขมวดคิ้วขณะส่งเสียงตอบ มันดูขัดใจที่ถูกผมยอกย้อน แต่ยิ่งเห็นมันงุ่มง่ามผมยิ่งรู้สึกได้ใจ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าได้รูปไร้ที่ติของมันแล้วมองช้อนดวงตาคมเข้มอย่างยั่วยุ
“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้กำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่”
“แล้วถ้ากูบอกว่าคิดล่ะ” ไอ้ไนท์หรี่ตาลง จู่ๆ ท่าทางของมันก็เปลี่ยนไป เหมือนตอนแรกมันพยายามข่มสัญชาตญาณเอาไว้ แต่พอถูกสะกิดเข้าหน่อยก็อดทนอดกลั้นต่อไม่ไหว
ผมชะงักเริ่มรู้แล้วว่าเล่นจนเลยเถิดกำลังจะผละออกแต่ถูกไอ้ไนท์ดึงคอเสื้อเข้าหาก่อนจะประกบปากจูบอย่างร้อนแรง ผมเบิกตากว้าง หัวใจกระตุกแรง มองเปลือกตาบางพริ้มปิดอยู่ตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก
“....” ผมยกมือขึ้นจับบ่าไอ้ไนท์ ถูกเรียวลิ้นร้อนจัดของมันแผลงฤทธิ์อยู่ในโพรงปากจนหายใจหายคอไม่ทัน ผมบีบบ่ามันแน่น จากที่คิดจะผลักออกก็เปลี่ยนใจกดมันลงบนโซฟา ตอบรับคำเชิญชวนของอีกฝ่ายด้วยจูบที่ดุดันและหื่นกระหายยิ่งกว่า
“อึก...” ไอ้ไนท์ส่งเสียงประท้วงแหบพร่าในลำคอเมื่อฟันผมขบเข้าที่ริมฝีปากบอบบางของมันอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ถึงขั้นเลือดซึม มันคงเจ็บมาก ไม่งั้นคงไม่ร้องออกมา
ผมรู้สึกผิดและคิดจะถอนจูบออกแต่ไอ้ไนท์กลับโอบแขนรั้งต้นคอผมเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ถอยหนี จูบปากแลกลิ้นกับผมต่ออย่างไม่สนใจ
เรียวขายาวยกขึ้นพาดเอวผมแล้วเกี่ยวรัดลงไปแนบชิดกับลำตัวท่อนล่างของมัน ผมไม่ได้ต่อต้าน ร่างกายโอนอ่อนคล้อยตามในทุกการชักนำของคนใต้ร่าง มันจับของผม ผมจับของมัน มันรูดของผม ผมก็บีบคลึงของมันเล่นด้วยความมันมือ น่าแปลกที่ผมไม่รังเกียจหรือฝืดฝืนใจแต่อย่างใดตรงข้ามกลับรู้สึกเร่าร้อนจนทนไม่ไหว ดึงกางเกงที่หลุดมาถึงขาอ่อนของมันทิ้งอย่างรู้สึกเกะกะ ก่อนจะจับเรียวขายาวได้สัดส่วนแยกออก บดเบียดแก่นลำอวบแข็งกับร่องนุ่มนิ่มโดยไม่เคอะเขิน
ไอ้ไนท์สั่นสะท้าน ส่งเสียงครางแผ่ววิว ร่องแยกกระตุกริกๆ ราวกับกำลังเรียกร้องไม่หยุด ผมถูไถแท่งเนื้อขึ้นลงจนร้อนจัดยิ่งทำไอ้ไนท์ก็ยิ่งอ้าขาออกกว้าง ลำตัวคดงอไม่เป็นท่า แต่กลับดูเย้ายวนกระชากอารมณ์ที่ปกติก็ยากจะระงับอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งระงับไม่อยู่
ผมจับแก่นกายแข็งเกร็งจ่อเข้ากับช่องแคบ รับรู้ได้ถึงเส้นชีพจรที่กำลังเต้นตุบๆ จากปากถ้ำ แต่เพิ่งจะออกแรงดันไม่ทันไรคนใต้ร่างที่กำลังเคลิ้มอยู่ดีๆ ก็พรวดพราดลุกขึ้นมาคร่อมทับกดร่างผมติดกับโซฟา
“กูทำเอง”
ไอ้ไนท์พูดเร็วๆ พร้อมกับลมหายใจที่ไม่มั่นคง ผมขมวดคิ้ว อารมณ์สะดุดไปชั่วขณะหนึ่ง มองมันค่อยๆ เลื่อนตัวต่ำลงไปใช้ปากเล้าโลมท่อนเนื้อผม ปลายลิ้นร้อนระอุไล้วนรอบลำสลับลากเลียจากโคนจรดปลายอย่างออกรสออกชาติก่อนจะดูดกลืนเข้าปากทั้งแท่ง ผมเสียวจนต้องซู้ดปาก มือหนึ่งจับโซฟา มือหนึ่งขยุ้มผมของมัน
อุณหภูมิภายในโพรงปากของไอ้ไนท์ร้อนจัดแค่แรงดูดเบาๆ ผมก็แทบทนไม่ไหว
“อึก…” ผมสูดหายใจลึก เลือดลมพลุ่งพล่าน เหงื่อแตกพลั่ก อารมณ์ถูกเร้าถึงขีดสุด ดึงศีรษะไอ้ไนท์ที่กำลังขยับอยู่ตรงหว่างขาออกก่อนที่ผมจะปลดปล่อยออกมา
“….” ของเหลวข้นขลั่กฉีดพ่นใส่หน้าไอ้ไนท์สายหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาสะเทือนไหวก่อนจะนิ่งงัน
“กูไม่ได้ตั้งใจ” ผมรีบลุกขึ้นมาขอโทษขอโพย “กูผลักมึงออกเพราะกลัวแตกในปากมึง ไม่คิดว่าจะทำให้หน้ามึงเปื้อน” ผมยื่นมือไปเช็ดคราบออกจากหน้ามันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ไอ้ไนท์ปล่อยให้ผมเช็ดหน้าให้โดยไม่หือไม่อือ จังหวะที่ผมจะดึงมือกลับมันก็คว้ามือผมที่มีคราบเหนียวหนืดไปดูดเลียจนมือผมชุ่มไปด้วยน้ำลาย มันมองผมด้วยแววตาที่กลัดแน่นไปด้วยความต้องการ ก่อนจะขึ้นมานั่งบนตักผมแล้วจับมือเปียกลื่นของผมข้างนั้นไปที่สะโพกแน่นตึงของมัน
“ถึงตามึงแล้ว” เสียงแหบพลิ้วกระซิบข้างหูก่อนจะขบกัดติ่งหูผมเป็นเชิงรบเร้า