กุ้งเป็นเหตุ

1705 Words
ผมเหลือบมองท่าทางแกะกุ้งอย่างคล่องแคล่วของไอ้เอิร์ธแล้วรู้สึกไม่ยุติธรรมขึ้นมา “แกะให้กูบ้างดิเอิร์ธ” “อยากกินแกะเอง” สัส กูแกะเองก็ได้วะ ผมคว้ากุ้งตัวที่อยู่บนสุดด้วยความรู้สึกไม่พอใจอยู่ในทีแล้วดึงหัวมันออกพรวด แต่คงออกแรงมากเกินไป ถึงได้มีเศษเนื้อกับน้ำในหัวกุ้งซ่านกระเซ็นออกรอบทิศทาง “เฮ้ย! เบาๆ สิวะ” ไอ้เอิร์ธหันมาตวาดผมทันที “อึก” ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงอุทานดังมาจากฝั่งตรงข้าม พอผมกับไอ้เอิร์ธหันไปมองก็เห็นไอ้ไนท์กำลังเอามือปิดตาข้างหนึ่ง ท่าทางไม่สบายเป็นอย่างมาก “หืม? เกิดอะไรขึ้น” ผมวางตัวกับหัวกุ้งลงทันที มองไอ้ไนท์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างงงๆ อย่าบอกนะว่าเศษกุ้งกระเด็นเข้าตา ผมมองไอ้ไนท์อย่างกระอึกกระอัก ไม่รู้จะพูดอะไรดี แล้วก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อด้วยว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้มันมีอาการผิดปกติแบบนั้น “พี่ไนท์?” เป็นไอ้ตี๋ที่รีบยื่นหน้าเข้าไปดูด้วยท่าทางเป็นกังวล ดูร้อนเนื้อร้อนใจกว่าเจ้าตัวซะอีก “เมื่อกี้เหมือนมีอะไรกระเด็นเข้าตา” ไอ้ไนท์บอกพลางเอามือคลึงเปลือกตาที่ปิดไว้เบาๆ ตาอีกข้างที่ยังเปิดเหลือบมองกุ้งที่ถูกดึงหัวออกบนจานตรงหน้าผม ต่อให้มันไม่พูดทุกคนก็เดาได้แล้ว ผมรู้สึกจนคำพูด ไม่คิดว่าแค่จะกินกุ้งก็ทำให้คนเจ็บได้ “พี่ไปห้องน้ำก่อนเถอะ” ไอ้เอิร์ธรีบบอก “อืม” ซึ่งไอ้ไนท์ก็พยัก ต่อให้ไอ้เอิร์ธไม่บอกมันก็เตรียมจะลุกอยู่แล้ว ไอ้เอิร์ธกับไอ้ตี๋ทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะไปพร้อมกับไอ้ไนท์ “เอ่อ...” มันสองคนชะงัก มองตากันไปมาสรุปไม่ได้ว่าใครจะไป ขณะที่มันสองคนคุมเชิงกันอยู่ ตัวผมที่เป็นต้นเหตุกลับนั่งนิ่งไม่ไหวติง แม่งเอ๊ย ผมรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ แต่ก็กระดากใจที่จะออกหน้า ไอ้ไนท์ใช้ตาข้างหนึ่งมองไอ้เอิร์ธกับไอ้ตี๋สลับกันไปมาก่อนทอดถอนใจ “ไม่ต้อง ไปเองได้” “แต่...” พอไอ้ตี๋ปายเอ่ยปากจะแย้ง ไอ้ไนท์ก็ยกมือขึ้นห้าม มันกำลังจะเดินออกไป ผมที่เป็นตัวการก็อดรนทนต่อความรู้สึกผิดในใจไม่ไหว พรวดพราดขึ้นยืน “กูไปเป็นเพื่อนมึงเอง” บนโต๊ะเงียบกริบ แต่ก็ชั่วแวบสั้นๆ เท่านั้น ไอ้ไนท์มองผมอย่างประหลาดใจ แต่ก็ไม่ขัดถ้าผมจะไปห้องน้ำกับมัน เพราะยังไงซะผมก็เป็นต้นเหตุที่ทำมันเจ็บตัว ถึงจะไม่ตั้งใจก็เถอะ ไอ้เอิร์ธพยักหน้าเห็นด้วยที่เป็นผม ส่วนไอ้ตี๋เหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด ปล่อยให้ผมเดินตามไอ้ไนท์ไปห้องน้ำเงียบๆ “กูมองไม่ถนัด” ไอ้ไนท์มันพูดเสียงขัดๆ เคืองๆ ระหว่างโน้มหน้าเข้าไปใกล้กระจกห้องน้ำ ผมกอดอกรออยู่ห่างๆ ได้ยินแบบนั้นก็นึกรำคาญใจ ไม่รู้แม่งอะไรนักหนา ครั้นจะไม่สนก็ไม่ได้ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนเดินเข้าไปหา “ให้กูดูหน่อย” “อือ...” มันหันกลับมาเผชิญหน้าผม สะโพกพิงขอบอ่างย่อตัวลงให้อยู่ในระดับต่ำกว่าสายตาผมเพราะมันตัวสูงกว่า ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้เพื่อจะช่วยดูเศษกุ้งที่อยู่ในตามัน พยายามไม่ใส่ใจท่วงท่าสองแง่สองง่ามของพวกเรา รีบช่วยรีบเสร็จจะได้หลุดจากสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดนี่สักที “เจอแล้ว” มีเศษเล็กๆ อยู่ในตามันจริงด้วย เอาตรงๆ ตอนแรกผมยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง คิดไปถึงว่ามันอาจจะตบตาสร้างสถานการณ์ขึ้นมาปั่นหัวผมเล่น กับอีกความคิดหนึ่งคือมีอะไรเข้าตามันจริงแต่สาเหตุอาจจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้มาจากผม “เอาออกได้ไหม” ไอ้ไนท์ถามกลับมาเสียงขัดๆ เคืองๆ บอกให้รู้ว่ามันกำลังระคายเคืองในดวงตาจนจะทนไม่ไหว แต่คำพูดมันแม่ง ฟังแล้วชวนให้คิดดีไม่ได้เลย “จะให้กูเอาออกยังไง เป่าเหรอ” ผมถามอย่างไม่รู้จะทำยังไง ผิวแก้มก็ดันร้อนวูบขึ้นมาเหมือนมีใครเอาถ่านติดไฟมาแนบ “ถอดคอนแทคเลนส์” ไอ้ไนท์พึมพำโดยไม่สนใจท่าทางประดักประเดิดของผม “ถอดยังไง ให้กูถอดเหรอ” ผมถามอย่างทึ่มๆ พูดออกไปแล้วก็อยากตบปากตัวเอง เหี้ยเอ๊ย เป็นอะไรของกูวะเนี่ย “....” ไอ้ไนท์ไม่พูดมาก มันดันไหล่ผมออกห่างแล้วหันกลับไปที่กระจก ฝืนถ่างตาที่ระคายเคืองและแดงเถือกขึ้น ใช้นิ้วเขี่ยเลนส์ใสออก จิ้มอยู่สองสามจึกก็มีแผ่นใสติดนิ้วออกมาแล้วรีบล้างตา “ออกหรือยัง” ผ่านไปครู่หนึ่งมันก็หันมาถาม พลางย่อตัวลงให้ผมดูให้ หยาดน้ำยังเกาะติดอยู่บนผิวแก้มไหลลงเป็นสายไปถึงลำคอ คอเสื้อมีรอยเปื้อนน้ำเป็นหยดๆ จากการล้างตาไม่ระวัง ผมรู้สึกไม่สบายตาที่จะมองใบหน้าเปียกชุ่มไม่เรียบร้อยของมัน พอดีกับหางตาเหลือบเห็นกระดาษทิชชู่ข้างก๊อกน้ำเลยเอื้อมมือไปดึงมาสองแผ่นซับน้ำบนหน้าให้ “....” ผมกดทิชชู่ลงบนหน้าไอ้ไนท์เบาๆ สองครั้งก็ชะงัก พลันมุมปากกระตุก ภายในใจปั่นป่วนขึ้นมา นี่กูกำลังทำบ้าอะไรอยู่วะ! ดวงตาคมเข้มที่ฉายแววเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกอยู่ตลอดเวลาของไอ้ไนท์ตอนนี้กลับกำลังจ้องผมนิ่งไม่ไหวติง บรรยากาศรอบข้างเงียบงัน ทว่าสถานการณ์หยุดชะงักนี่เกิดขึ้นในเวลาแค่อึดใจเดียวเท่านั้น รอยยิ้มระรื่นก็ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของไอ้ไนท์ “น่ารักดี กูชอบ” “สัส กูไม่ยุ่งกับมึงแล้ว” ผมปาทิชชู่ใส่มันแล้วจ้ำอ้าวออกมาทันที หน้าชาไปจนถึงใบหู พอกลับมาที่โต๊ะ ไอ้เอิร์ธก็ถามถึงไอ้ไนท์ ส่วนไอ้ตี๋ก็มองมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ทว่าไอ้เอิร์ธถามยังไม่ทันขาดคำ ร่างสูงของไอ้ไนท์ก็เดินอาดๆ กลับมาพร้อมกับสีหน้าเปื้อนยิ้มน้อยๆ และตาแดงข้างหนึ่ง ผมสบตากับมันแวบหนึ่ง รู้สึกเหมือนมีไอร้อนวาบผ่านหน้าอย่างไม่รู้สาเหตุ จากนั้นผมก็ไม่ยอมมองหน้ามันตรงๆ อีกเลยแม้ว่ามันจะยังนั่งอยู่ตรงหน้าผมก็เถอะ “พี่โอเคนะ” ไอ้ตี๋ถามพลางมองด้วยสีหน้าเป็นห่วง ผมลอบชำเลืองมองไอ้ตี๋แล้วก็อดแขวะในใจไม่ได้ แค่ฝุ่นเข้าตา ทำอย่างกับเป็นเรื่องใหญ่ ทางไอ้ตี๋เงียบลง ทางผมก็ดังขึ้นต่อ “ทำไมตาพี่แดงอย่างนั้นล่ะ” เสียงไอ้เอิร์ธ “....” ผมเงียบไม่พูดจา กินอย่างเดียว “อือ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย” ไอ้ไนท์บอกด้วยเสียงที่ไม่เจ็บไม่คัน แต่จู่ๆ ผมที่กำลังตั้งอกตั้งใจกินก็ต้องเงยหน้าขึ้นเพราะคำพูดประโยคต่อมาของมัน “ตะวัน! กูอยากกินกุ้ง” “....” “แกะให้หน่อย” “....” ผมสบสายตาประหนึ่งออดอ้อนประหนึ่งเรียกร้องของไอ้ไนท์แล้วรู้สึกเหมือนโดนมัดมือมัดเท้าทำอะไรไม่ได้ขึ้นมา จะปฏิเสธก็จนใจเพราะมีคดีติดตัวจะตอบรับก็กระดากอาย ปกติผมไม่แกะกุ้งให้ใคร ยกเว้นแม่กับสาวๆ ที่อยากเอาใจเท่านั้น ระหว่างที่ผมทำตัวไม่ถูกกับคำขอที่ฟังดูไร้สาระของไอ้ไนท์เสียงไอ้ตี๋ก็ดังขึ้น “มา ผมแกะให้” ไอ้ตี๋เสนอตัว ผมลอบถอนหายใจ แต่ตอนที่คิดว่ารอดแล้วจู่ๆ เอิร์ธเพื่อนยากก็ขยับปากงึมงำ “ทำคนเจ็บแล้วตามใจหน่อยก็ไม่ได้” ผมนี่แทบอยากเอาตะเกียบทิ่มตามันสักที กินเงียบๆ ไม่ได้หรือไงวะ กดดันกูเพื่ออะไร ผมละหน่ายใจ ชำเลืองมองมันด้วยหางตา แต่มันกลับทำไม่รู้ไม่ชี้ คีบเนื้อใส่ปากหน้าระรื่น ฮึ่มม ถึงเสียงไอ้เอิร์ธจะเบาแต่ก็ได้ยินกันทุกคน ไอ้ตี๋เหลือบมองแวบหนึ่งแต่ก็ไม่มีอะไรหยุดความตั้งใจที่จะแกะกุ้งของมันได้ ส่วนไอ้ไนท์กลับเผยรอยยิ้มกริ่มบางๆ ที่ถ้าไม่มองดีๆ ก็จะไม่สังเกตเห็น ตอนไอ้เอิร์ธพูดจบผมบังเอิญชำเลืองมองไอ้ไนท์อย่างไม่ได้ตั้งใจ จึงทันเห็นสายตาที่ชื่นชมและอยากตกรางวัลให้ไอ้เอิร์ธของมันเข้าพอดี “กูแกะกุ้งไม่เก่ง” ผมปฏิเสธแบบอ้อมๆ อาศัยเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ผมทำเศษกุ้งกระเด็นเข้าตาไอไนท์เป็นข้ออ้าง “ไม่เป็นไร ไม่ต้องให้ถึงมือมึงหรอก” ไอ้ไนท์บอกอย่างไม่ใส่ใจพลางใช้ตะเกียบเขี่ยเนื้อบนเตา ราวกับว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของมันไม่มีความหมายเป็นเพียงคำพูดลอยๆ เท่านั้น พออีกฝ่ายเลิกราง่ายๆ ผมก็นึกฉุนขึ้นมา อารมณ์เหมือนผมถูกมันปั่นหัวอยู่ยังไงยังงั้น ระหว่างนั้นไอ้ตี๋ก็วางกุ้งที่แกะแล้วลงบนจานไอ้ไนท์ ไม่นานบนจานของมันก็เต็มไปด้วยกุ้งกองหนึ่ง “ขอบใจปาย” “ไม่เป็นไรครับ พี่กินเยอะๆ” “อืม แต่พอแล้ว กุ้งไม่ต้องแกะแล้ว” “พี่พอแล้วเหรอ” “อิ่มแล้ว” พอมีคนบอกว่าอิ่ม ทุกคนบนโต๊ะก็สบสายตากันโดยไม่ได้นัดหมาย ราวกับกลัวว่าผมกับไอ้เอิร์ธที่เพิ่งกินได้ไม่นานจะอึดอัด ไอ้ไนท์ก็โบกไม้โบกมือบอกพวกเราตามสบายไม่ต้องรีบกิน มันไม่เร่งรีบไปไหนมีเวลาเหลือเฟือ แต่ผมกลับอยากให้มันมีธุระลุกออกจากโต๊ะไปเลย ดีกว่ามานั่งจ้องผมกินอยู่แบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD