“ฉันไม่ใช่ยาม โอเค้! และฉันสามารถซื้อแหวนเพชรเป็นร้อยๆ วงให้เธอได้” เลโอนาดท์บอกต่ออย่างหน้ามึน ‘พระเจ้า! ให้ขนาดนี้ยังไม่พอเหรอวะ’
“นี่ฉันอธิบายไม่ชัดตรงไหน! มันไม่ได้เกี่ยวกับแหวน แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหาก! ให้ตายสิ! คุณเคยรักผู้หญิงสักคนไหม”
“ไม่! ไม่เคยถามชื่อเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพวกเธออายุเท่าไหร่ อยู่ประเทศไหน แค่เซ็กส์ร้อนๆ แล้วจบที่ค่าตัว!” เลโอนาดท์บอกด้วยท่าทีสบายๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตลอดชีวิต
“งั้นคุณก็ไปเรียกหาพวกเธอสิ! จะมายุ่งกับพนักงานทำความสะอาดอย่างฉันทำไม”
“ก็เธอน่าเอากว่านี่”
“โอ๊ย! นี่ฉันเริ่มจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ”
“งั้นก็ไม่ต้องทน! เอาเลยดีกว่า เสียเวลา ฉันแข็งจนปวดไปหมดแล้ว ดูสิ!” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับดึงหมอนที่ปิดบังขีปนาวุธออกให้สาวเจ้าดู
“กรี๊ดดดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องเสียงดังอย่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่โจ๋งครึ่มของอีกฝ่าย
“ฮ่าๆๆๆ” เลโอนาดท์หัวเราะจนหน้าแดงก่ำอย่างขบขัน เมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มแดงเถือกมาถึงหู
“ไอ้คนบ้า!” เธอต่อว่า ขณะที่ใบหน้ายังซุกอยู่กับหมอนใบใหญ่
“ฉันไม่ได้บ้า! ฉันก็แค่... อารมณ์ค้าง”
“นี่คุณจะเถียงกันแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลยใช่ไหม?”
“เปลี่ยนเป็นเอาทั้งวันทั้งคืน เข้าท่ากว่านะ! ฮ่าๆๆ”
“ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับคุณแล้วนะ! คุณจะเอายังไง”
“เอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะอาบเอง ส่วนเธอก็ไปทำอาหารรอ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงฉันออกมาแล้วไม่มีอาหารอยู่บนโต๊ะ! ฉันจะกินเธอแทน เข้าใจใช่ไหม!” สิงโตหนุ่มบอกอย่างตัดใจ ‘ใจเย็นๆ ลีโอ! โอกาสที่จะได้ฟาดเธอยังมีอีกเยอะ’
“แต่ฉันไม่มีเสื้อผ้าใส่”
“อยู่ในตู้! ไปเลือกเอาเองแล้วกัน อ้อ! แล้วก็ฝากเก็บหมอนให้ด้วยสิ!” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับโยนหมอนที่ปิดบังอาวุธลับไปให้สาวเจ้าที่นั่งอยู่ข้างเตียงอย่างขำๆ
“ว้าย! กรี๊ดดดดดดด” มะลิฉัตรเห็นหมอนลอยมาทางหางตา ก็รีบคว้าหมับเอาไว้ตามสัญชาตญาณ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าหมอนที่รับเป็นหมอนที่อีกฝ่ายใช้ปิดช่วงล่างมาก่อน สาวเจ้าถึงกับส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับโยนหมอนทิ้งด้วยท่าทางขยะแขยง
“ฮ่าๆๆๆ” เลโอนาดท์หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ กับท่าทางตลกๆ ของสาวเจ้าที่อายจนตัวแดงเหมือนกุ้งต้ม ‘ยัยนี่น่ารักเป็นบ้า!’ ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี
“ไอ้คนบ้า!” มะลิฉัตรต่อว่า หลังจากได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น จึงรีบวิ่งลงจากเตียง ตรงไปยังตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่อย่างไม่รอช้า
เมดสาวก้มมองตัวเองในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงนอนแบบ ผูกเชือกที่เอว “เอาน่ามะลิ ดีกว่าไม่ได้ใส่อะไรเลย!”
มะลิฉัตรปลอบใจตัวเองก่อนจะพับขากางเกงที่ยาวขึ้นมาสี่ห้าตลบ จากนั้นก็รีบเดินออกไปด้านนอก เพื่อจะทำอาหารให้อีกฝ่าย
เธอเดินหาห้องครัวสักพัก เพราะทั้งชั้นค่อนข้างใหญ่และกว้าง มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องทำงาน ห้องนอนสี่ห้องใหญ่ ห้องทานอาหาร ห้องรับแขกและบาร์เครื่องดื่ม
“ว้าว! ไม่รวยเว่อร์คงไม่ได้อยู่แบบนี้แน่ๆ” มะลิฉัตรมองห้องครัวขนาดใหญ่อย่างอึ้งๆ ก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อเลือกของที่จะใช้ทำอาหาร
“อื้อฮือ! ของเยอะอย่างกับจะอยู่เป็นเดือนแน่ะ!” เมดสาวชั่งใจอยู่ครู่ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ
“หึ! รับรองว่านายท่านจะลืมไม่ลงเจ้าค่ะ” มะลิฉัตรรีบหยิบของออกมาเตรียมทำอาหารมื้อพิเศษ เอาใจสิงโตหื่น!
สี่สิบนาทีต่อมา... หลังจากที่ทำอาหารเสร็จ มะลิฉัตรก็เดินไปตามอีกฝ่ายที่ห้อง นอน แต่ก็ไม่พบ เธอจึงเดินไปที่ประตูห้องน้ำด้วยความรู้สึกหวั่นใจแปลกๆ
“คงไม่ได้ลื่นล้มหัวฟาดพื้นตายหรอกนะ เงียบเชียว!” มะลิฉัตรเอ่ยกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอาหูแนบกับประตูห้องน้ำ เพื่อฟังเสียง!
“พระเจ้า... อะ... อา...”
หญิงสาวขนลุกซู่ ใจสั่นขึ้นมาทันใดที่ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายขาดหายเป็นช่วงๆ ราวกับคนที่กำลังจะขาดใจตาย
“ปะ... เป็นอะไรมากหรือเปล่านะ?” เธอจินตนาการไปถึงภาพที่อีกฝ่ายลื่นล้มหัวแตกเลือดไหลท่วมตัว กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นรอความช่วยเหลือ
“คะ... คุณ ปะ... เป็นอะไรไหม?” เธอถามด้วยเสียงสั่นๆ
“อื้อ... อ๊ะ... มะ... ไม่ไหวแล้ว...”
“บ้าจริง! ไอ้สิงโตกำลังจะตายแล้วแน่ๆ” เมดสาวพึมพำเหมือนคนจิตตก รีบผลักประตูห้องน้ำเข้าไป มันเป็นจังหวะเดียวกับที่...
“โอ้พระเจ้า... อ๊ะ!” คนที่เพิ่งจะแตะขอบสวรรค์ถึงกับช็อกตาค้าง ที่เห็นสาวเจ้าพรวดพราดเข้ามา
มะลิฉัตรเห็นร่างเปลือยเปล่าของสิงโตหื่น กำลังยืนกอบกุมตอร์ปิโดขนาดใหญ่ยาวเอาไว้ในมือ ขณะที่น้ำสีขาวข้นๆ พุ่งออกมาจากส่วนปลาย... ต่อหน้าต่อตา
“กรี๊ดดดดด ไอ้บ้ากาม!” หญิงสาวกรีดร้องก่อนจะวิ่งหนีออกไปอย่างคนเสียสติ!
“บ้าฉิบ! ทำไมต้องมาเห็นตอนนี้ด้วยวะ!” ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบคว้าเสื้อคลุมมาใส่แล้ววิ่งตามออกไป
“มะลิเดี๋ยว! หยุดก่อน มะลิ!” เลโอนาดท์ตะโกนบอกคนที่วิ่งหน้าตั้งให้หยุด
“กรี๊ดดด อย่าตามนะไอ้โรคจิต”
เมดสาววิ่งเร็วขึ้นทันทีที่เห็นอีกฝ่ายวิ่งตาม อารมณ์และสถานการณ์ต่างๆ มันดูคล้ายกับเหยื่อสาวบริสุทธิ์ที่กำลังวิ่งหนีฆาตกรโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น
“ให้ตายเถอะ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” สิงโตหนุ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
“ฉะ... ฉันลาออก! ฉะ... ฉันจะไม่ทำงานที่นี่อีกแล้ว” สาวเจ้าวิ่งไปตะโกนไปอย่างเริ่มจะสับสนว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน เพราะเธอวิ่งวนกลับมาที่หน้าห้องของอีกฝ่ายเป็นรอบที่สองแล้ว
“ใจเย็นๆ สิ ฉันก็แค่ปลดปล่อยความต้องการที่อัดอั้นและค้างคามาจากเธอ ก็แค่นั้น!” ลีโอนาดท์บอกหลังจากที่คว้าร่างบางเข้ากอดไว้ได้
“อ๊ะ ปล่อยฉันนะ!” สาวเจ้าร้องเสียงหลงเมื่อถูกจับได้
“เราต้องคุยกัน” เขาบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับหมุนร่างบางให้หันมาเผชิญหน้า
“กะ... ก็เรื่องของคุณสิ! แต่ฉันกลัว ฉันรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้คะ... คุณทำให้ฉันสติแตก”
“เธอก็ทำฉันสติแตกเหมือนกัน! หุ่นเธอ น้ำเสียงเธอ ริมฝีปากเธอ หน้าอกเธอ แล้วก็ตรงนั้นของเธอ ทำให้ฉันคลั่งจนแทบบ้า เธอนอนเปลือยเปล่าครวญครางอยู่บนเตียง ใต้ร่างของฉัน! แต่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรกับเธอ ทั้งๆ ที่อยากจะกลืนกินจนแทบคลั่ง! แต่สุดท้ายก็ต้องไปช่วยตัวเองในห้องน้ำ และเธอก็ดันเปิดประตูเข้ามาเห็นเข้า โอ้พระเจ้า! ฉันสิ! ฉันคือคนที่กำลังสติแตกอยู่ตอนนี้ต่างหาก มะลิ!” สิงโตหื่นระบายอารมณ์ด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทั้งโมโหผู้หญิงตรงหน้า ทั้งอับอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“...” มะลิฉัตรค้างนิ่ง เบลอๆ งงๆ กับประโยคที่ยาวเหยียดของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าตัวเองควรเข้าใจไปทางไหนดี
“เธอทำอาหารเสร็จหรือยัง ฉันหิว!” เขาเอ่ยถามหลังจากที่สาวเจ้านิ่งเงียบไปชั่วขณะ
“สะ... เสร็จแล้วค่ะ” มะลิฉัตรตอบอย่างมึนๆ
“งั้นเราไปทานข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว” เลโอนาดท์เอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ดะ... เดี๋ยว มะ... เมื่อกี้ฉันบอกว่าลาออกนะ” เธอรีบทวนความจำให้อีกฝ่าย
“ไม่เห็นได้ยินเลย เราไปกินกันดีกว่านะ” ชายหนุ่มตีมึนต่อราวกับว่าหลงลืมเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนนั้นไปจนหมดสิ้น
“นะ... นี่คุณโดนผีเข้าหรือเปล่าเนี่ย?” เธอถามอย่างไม่แน่ใจ
“ผีบ้าอะไรล่ะ! ไปเร็ว!” เลโอนาดท์บีบจมูกที่โด่ง นั้นอย่างมันเขี้ยว
‘ไอ้บ้านี่เต็มหรือเปล่านะ?’ มะลิฉัตรมองคนที่จูงมือเดินไปอย่างงงๆ ว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ไหน จนกระทั่งเดินมาถึงโต๊ะทานอาหาร ที่มีฝาชีใหญ่ครอบอยู่
“เธอทำอะไรให้ฉันทานเหรอ?” เขาหันมาถามยิ้มๆ
“ปะ... เปิดดูเองเถอะค่ะท่าน” มะลิฉัตรเริ่มใจสั่นขึ้นมานิดๆ
“ว้าว! มื้อแรกของเราจะเป็นอะไรนะ?” เลโอนาดท์ทำท่าตื่นเต้น ก่อนจะดึงฝาชีที่ครอบออก มะลิฉัตรรีบหลับตาลงอย่างรู้ชะตากรรมว่าอีกฝ่ายจะต้อง...
“พระเจ้า! นี่เธอกะจะให้ฉันตายเลยหรือไง มะลิ!” เขาหันไปถามสาวเจ้าที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าขุ่นเคือง หลังจากที่เห็นพริกกับเส้นมาม่าพันกันไปมาอยู่ในชามใบใหญ่ ‘พริกนี่น่าจะสักครึ่งโลได้’
“เอ่อ... ก็ท่านบอกว่าทานได้ทุกอย่างนี่คะ” คนมีความผิดเอ่ยเสียงเบา เตรียมท่าจะวิ่งหนีอีกครั้ง
“ใช่! แต่ต้องเป็นอาหารที่เธอทานได้ด้วย” เลโอนาดท์กลอกตาอย่างเซ็งๆ
“กะ... ก็ทานได้สิคะ แบบนี้มะลิทานเป็นประจำเลยค่ะ” เธอเอ่ยเสียงใสกลบเกลื่อนอาการสั่นกลัวในใจ
“จริงเหรอ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามอย่างไม่เชื่อ
“จะ... จริงค่ะ ไม่เชื่อมะลิทานให้ดูก็ได้” สาวเจ้าหยิบส้อมขึ้นมาทำท่าจะทานให้ดู แต่กลับถูกมือหนายกจานขึ้นซะก่อน
“อย่า! ฉันไม่อยากหามเธอส่งโรงพยาบาลเพราะอาหารนี่” เขาบอกพร้อมกับรีบเทผัดมาม่าลงในถังขยะ
“งั้นท่านจะทานอะไรดีคะ เดี๋ยวมะลิจะทำให้ใหม่ค่ะ” เธอบอกอย่างรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ
“เธอนั่งรอก็พอ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันจะทำเอง” เขาหันมาบอกก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็น แล้วหยิบของออกมาวาง
“ค่ะ” เธอตอบรับ พร้อมกับจ้องมองร่างสูงที่เริ่มลงมือทำอาหารด้วยท่าทางคล่องแคล่วราวกับเชฟมืออาชีพอย่างแปลกใจ
สามสิบนาทีต่อมา...
เลโอนาดท์วางสเต๊กฟิเลมิยองลงในจานที่มีผักร็อกเกตกับมะเขือเทศเชอร์รี่ที่ราดซอสบัลซามิกเอาไว้ แล้วส่งจานไปให้กับหญิงสาวที่นั่งจ้องหน้าตนนิ่งมาเกือบห้านาที
“นี่ของเธอ” เขาบอกก่อนจะหยิบจานของตัวเองมาวาง พร้อมนั่งลงข้างๆ กับเธอ
“ว้าว! ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรมองสเต๊กจานใหญ่อย่างทึ่งๆ แต่ยังไม่ยอมจับมีดกับส้อม
“หั่นเป็นไหม?” เลโอนาดท์เลิกคิ้วถามยิ้มๆ
“เอ่อ...” มะลิฉัตรส่ายหน้าเบาๆ
“มา! ฉันหั่นให้ดีกว่า จะได้ทานง่ายขึ้น” เขาเลื่อนจานของตัวเองออก แล้วยกจานของเธอมาวางแทนที่ จากนั้นก็ลงมือหั่นสเต๊กให้อย่างอารมณ์ดี
มะลิฉัตรแทบทำตัวไม่ถูก กับการกระทำที่ดูใส่ใจราวกับสุภาพบุรุษในเทพนิยาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าออกจะหื่นจนเธอเกือบไม่รอดมาหลายครั้ง
“เรียบร้อยแล้ว!” เขาเลื่อนจานส่งคืนให้เธอหลังจากที่หั่นเสร็จ
“ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรเผลอยิ้มกว้างอย่างลืมตัว
“นี่! ตรงนี้... สำหรับคำว่าขอบคุณของเธอ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับชี้นิ้วลงที่แก้มของตัวเอง
“ฮะ...” มะลิฉัตรถึงกับอึ้งไปสามวินาที
“ฮะอะไรล่ะ เร็วสิ!” เลโอนาดท์หันมาทำหน้าดุ
“แต่ว่าฉัน...”
“เธอจะเป็นคนหอมฉัน! หรือว่าจะให้ฉันจูบเธอ เลือกมา!”
“เอ่อ... งั้นขอถอนคำพูดเมื่อกี้ได้ไหมคะ ที่บอกว่าขอบคุณ” คนที่ถือมีดกับส้อมค้างเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ‘อีตาบ้านี่หน้ามึนจริงๆ’
“โอเค! งั้นฉันจูบเลยแล้วกัน” เขาเอ่ยพลางทำท่าจะลุกขึ้น
“อย่านะ!” เธอรีบร้องห้ามแล้วขยับหนี
“ให้เร็วเลย! ฉันหิวแล้ว” เลโอนาดท์เอ่ยเสียงเข้มด้วยสีหน้าจริงจัง
“เฮ้อ...ค่ะ” เธอถอนหายใจอย่างเซ็งๆ ก่อนจะลุกขึ้น
‘นี่เรามาถึงจุดนี้ได้ไงนะ จุดที่ต้องทำตามที่อีตาบ้านั่นสั่งทุกอย่าง’
“อาหารจะเย็นหมดแล้วนะ!” ชายหนุ่มเอ่ยเตือนเพราะสาวเจ้ายังไม่ยอมเข้ามาหอมแก้มตนสักที
“ค่ะ” มะลิฉัตรขยับเข้าไปใกล้ แล้วกดริมฝีปากบางที่แก้มของเขาอย่างรวดเร็ว! แต่แล้วก็ตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายดึงเธอเข้าไปกอด
“จุ๊บ! จุ๊บ!” เลโอนาดท์จดริมฝีปากลงที่แก้มนวลทั้งสองข้างอย่างอดใจไม่ไหว
“นี่คุณ!” มะลิฉัตรจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคือง ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นแล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง
“มารยาททางสังคมน่ะ หึๆ” ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะหยิบมีดกับส้อมมาหั่นสเต๊กของตัวเองทานต่ออย่างเนียนๆ
‘สังคมหื่นกามน่ะสิไม่ว่า!’ มะลิฉัตรต่อว่าอีกฝ่ายในใจ
“ทานต่อสิ!”
สาวเจ้าไม่ตอบ แต่จิ้มเนื้อนุ่มขึ้นมาทานต่อด้วยความหิว เพราะตั้งแต่โดนโทร. ตามตัวมาทำงาน เธอยังไม่ได้ทานอะไรเลย!
“อร่อยไหม?”
“ค่ะ” เมดสาวเอ่ยเบาๆ โดยไม่มองหน้าของอีกฝ่าย
“เอาน่า... ก็แค่หอมแก้มเองจะนอยด์อะไรนักหนา เมื่อกี้ฉันทั้งดูด ทั้ง...”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” มะลิฉัตรหน้าแดงขึ้นมาทันใด เมื่ออยู่ๆ ภาพของเธอกับเขาที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง ก็ผุดขึ้นมาให้ระลึกถึงอีกครั้ง!
“ฮ่าๆๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างขบขันกับท่าทางของสาวเจ้า
‘ให้ตายสิ! เขาไม่เคยอยู่กับผู้หญิงคนไหนแล้วมีความสุขขนาดนี้มาก่อน!’
“คุณสนุกนักหรือไงที่ได้แกล้งฉันน่ะ ฮึก!” มะลิฉัตรต่อว่าทั้งน้ำตา
“เฮ้! ฉันแค่หยอกเล่นเฉยๆ” คนที่กำลังหัวเราะถึงกับหยุดชะงักไปทันทีทันใดที่เห็นสาวเจ้ามีน้ำตา
“แล้วคุณเห็นฉันหัวเราะไหม! ฮือๆๆ” เธอปล่อยโฮออกมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่
เลโอนาดท์รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ‘พระเจ้า! เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเกเร ที่ชอบกลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงให้ร้องไห้ยังไงยังงั้น!’
“มะ... มะลิ เงียบก่อน ฉะ... ฉันขอโทษ”
“ฮึก! คุณเห็นฉันเป็นคนที่ต้อยต่ำกว่า คุณจึงคิดว่าจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ คุณมันไอ้คน...” เมดสาวจับมีดหั่นสเต๊กเอาไว้มั่น
“เฮ้! ใจเย็นๆ มะลิ! อย่าเล่นมีดสิ” เลโอนาดท์รีบดึงมีดในมือของสาวเจ้ามาเก็บ เพราะเธอทำท่าเหมือนจะลุกขึ้น แล้วเอามันมาเสียบที่ไหนสักแห่งบนตัวเขา
“ฮือๆๆ ฉันเอาส้อมแทงคุณก็ได้!” มะลิฉัตรบอกอย่างโมโหหลังจากที่ถูกริบอาวุธ
“โอเค! งั้นขอเก็บส้อมอีกอันแล้วกัน!” เขารีบดึงส้อมในมือของเธอมาเก็บอย่างไม่รอช้า
“อ๊ะ! เอาคืนมานะ ฮือๆๆ” มะลิฉัตรกรีดร้องขึ้นอย่างเจ็บใจที่อีกฝ่ายแย่งอาวุธชิ้นสุดท้ายไปต่อหน้าต่อตา
“ไม่ให้แล้ว คนอะไรคิดจะฆ่าผัวด้วยมีดหั่นสเต๊ก หึๆ” เลโอนาดท์เอ่ยพลางกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น มองสาวตรงหน้าที่กำลังสติแตกอย่างขำๆ
‘โถๆ แม่คุณ คิดได้ยังไงวะ จะฆ่ามาเฟียใหญ่อย่างเขาด้วยมีดหั่นสเต๊กกับส้อม’
“คุณก็ไม่ใช่สามีของฉันด้วย ฮือๆๆ” มะลิฉัตรสะอื้นไห้จนตัวสั่น
“อีกเดี๋ยวก็ได้เป็นเชื่อสิ!” เขาเอ่ยยียวนต่ออย่างนึกสนุก
“ฮือๆๆๆๆ” เมดสาวปล่อยโฮเสียงดังเข้าไปอีกเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย ‘ไอ้สิงโตบ้านี่! จ้องจะจับเธอกินจริงๆ ด้วย’
‘หนักกว่าเดิมเลยทีนี้!’ เลโอนาดท์มองสาวเจ้าที่ตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย รีบลุกขึ้นแล้วเข้าไปดึงเธอเข้ามาปลอบ
“ชู่ว์ๆ ผมขอโทษ เงียบซะนะคนดี” เขาเอ่ยพลางลูบหลังปลอบเบาๆ
“ปล่อยนะ! ปล่อย! ฮือๆๆ” เธอทุบหน้าอกกว้างอย่างโมโห
“ชู่ว์ๆ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว เรามาทานข้าวกันต่อเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปพักผ่อน” เด็กโข่งรีบเปลี่ยนเรื่อง พร้อมลูบหลังให้สาวเจ้าอยู่ครู่หนึ่ง จนอีกฝ่ายนิ่งไป เขาจึงรวบเธอขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง
“ฉันป้อนให้นะ!”
“ฮึก! ไม่ต้อง” สาวเจ้าปฏิเสธพร้อมกับจะลุกขึ้น แต่ก็ถูกมือหนากดให้นั่งลงเช่นเดิม
“อ้าปากเร็วคนดี!” เลโอนาดท์ใช้ส้อมจิ้มเนื้อจ่อไปที่ริมฝีปากบางอย่างไม่รอช้า
“ไม่!”
“ได้โปรดเถอะมะลิ!” สิงโตหนุ่มอ้อนต่ออย่างน่ารัก
“ฉะ... อื้อ!” เธอกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่ถูกอีกฝ่ายส่งสเต๊กเนื้อรสเลิศเข้าปากเสียก่อน
“แบบนั้นแหละคนดี” เลโอนาดท์ยิ้มกว้างให้สาวเจ้า ก่อนจะถามต่ออย่างอารมณ์ดี “อร่อยใช่ไหม?”
“อืม!” มะลิฉัตรครางตอบในลำคอ เพราะทั้งหิวทั้งโมโหที่อีกฝ่ายชอบแกล้งและเอาแต่ใจ ‘ทนอีกนิดมะลิ เดี๋ยวไอ้บ้านี่ก็ไปแล้ว’
“เธอชอบทานอะไรเป็นพิเศษเหรอ?”
“ส้มตำค่ะ”
“งั้นมื้อหน้าเราไปทานส้มตำกันดีไหม” เลโอนาดท์จิ้มสเต๊กเนื้อป้อนสาวเจ้าต่อ ในขณะที่มืออีกข้างก็กอดเกี่ยวเอวบางเอาไว้ไม่ปล่อย!
“ค่ะ” เธอตอบรับพร้อมกับคิดแผนการจะเอาคืนอีกฝ่ายเอาไว้ในใจ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเลโอนาดท์ก็ลากเมดสาวเข้าไปในห้องนอน และบังคับให้เธอนอนบนเตียงด้วย
“คุณทำแบบนี้ไม่ได้”
“ก็ทำอยู่นี่ไง”
“ปล่อยฉันนะ! ฉันจะไปทำความสะอาดห้อง”
“ไม่ต้องทำหรอก! สะอาดแล้ว เรานอนกันเถอะ”
“แต่ฉันไม่ง่วง” เมดสาวเอ่ยพลางจะขยับลงเตียง
เลโอนาดท์รีบคว้าเอวบางเอาไว้แนบตัว “นี่พักยกก่อนได้ไหม ผมแค่อยากนอนกอดคุณนิ่งๆ แล้วหลับไป ไม่ได้คิดจะทำอะไรกับคุณสักหน่อย”
“เชื่อได้หรือ?”
“มะลิได้โปรด...” ชายหนุ่มอ้อนวอนเสียงแผ่วเบา
“ถ้าคุณทำอีกครั้ง ฉันจะฆ่าคุณ” สาวเจ้ารีบขู่กลับอย่างไม่ยอม
“อื้อ! กู๊ดไนต์เบบี้” เลโอนาดท์เอ่ยก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า นั่งเครื่องบินตรงมาหลายชั่วโมง กะจะขึ้นมาอาบน้ำแล้วก็นอนพัก แต่ก็กลายเป็นว่าต้องมานั่งต่อปากต่อคำกับเมดสาวอยู่หลายชั่วโมง กว่าจะสงบได้ก็เล่นเอาแทบหมดแรง
ห้าโมงเย็น...
เลโอนาดท์ขยับตัวลุกขึ้นมองคนในอ้อมกอด ที่บอกว่าไม่ง่วงแต่กลับหลับลึกอย่างขำๆ ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนวลอย่างอดใจไม่ได้
เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ได้นอนร่วมเตียงเดียวกับเขา ผู้หญิงคนแรกที่ต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่กลัว ผู้หญิงคนแรกที่เขาอดทนอย่างใจเย็น ผู้หญิงคนแรกที่เขาทำอาหารให้ทาน ผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาคลั่งจนแทบบ้า และเธอยังนอนอยู่บนเตียงของเขา โดยที่เขาได้แต่มอง!
ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย เตรียมตัวจะพาเมดสาวออกไปเที่ยว โดยหลงลืมไปว่าตัวเองยังมีเรื่องที่ต้องทำต่อในช่วงเย็น