6

4010 Words
ยี่สิบนาทีต่อมา...  เลโอนาดท์ที่อาบน้ำเสร็จใส่เสื้อคลุมเดินกลับมาที่เตียง ก็ยังเห็นสาวเจ้าหลับอยู่เช่นเดิม ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ก่อนจะเข้าไปปลุกคนขี้เซาให้ตื่น “มะลิ! มะลิ! ตื่นเร็ว” “อื้อ... อย่ากวนได้ไหม” คนที่กำลังงัวเงียปัดมือหนาที่แตะแขนออกอย่างรู้สึกรำคาญ “มะลิ! ถ้าเธอยังไม่ตื่น ฉันจะ... ” คนที่เพิ่งรู้สึกตัวหูผึ่งขึ้นมาทันใด ที่ได้ยินเสียงของผู้ชายดังขึ้นใกล้ๆ หู “ว้าย! ตื่นแล้วๆ” “ไปอาบน้ำ! เดี๋ยวออกไปข้างนอกกับฉัน” เลโอนาดท์บอกยิ้มๆ ‘ผู้หญิงอะไร! เซ็กซี่เป็นบ้า!’ “แล้วเสื้อผ้า...” เมดสาวก้มลงมองตัวเองอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ “เดี๋ยวฉันจัดการให้ เธอไปอาบน้ำได้เลย” “เอ่อ... แต่ว่า...” สาวเจ้าอึกอัก พยายามคิดหาข้ออ้างที่จะไม่ไปกับอีกฝ่าย “จะให้ฉันอาบให้ใช่ไหม?” เขาถามพร้อมกับขยับเข้าหา “ไม่ค่ะ ไม่ต้อง!” หญิงสาวปฏิเสธพร้อมกับรีบลงจากเตียง แล้ววิ่งตรงไปยังห้องน้ำอย่างรวดเร็ว “ต้องให้กระตุ้นตลอดหรือไงนะ หึๆ” เลโอนาดท์ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทร. สั่งงานคนสนิทให้เตรียมชุดให้สาวเจ้า สี่สิบนาทีต่อมา...   มะลิฉัตรอาบน้ำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างมึนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องทำตาม เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับหน้าที่ของเธอเลยแม้แต่น้อย ก๊อกๆ  เสียงเคาะประตูห้องทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ “มะลิ! ชุดวางอยู่บนเตียงนะ ฉันจะออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น” น้ำเสียงเข้มๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู “คะ... ค่ะ” เมดสาวเอ่ยรับ ก่อนจะเร่งมืออาบน้ำต่ออย่างหวาดผวา กลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาตาม   สิบนาทีต่อมา... หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ มะลิฉัตรก็เดินตรงไปที่เตียงนอน เธอเห็นชุดเสื้อผ้าสตรีของแบรนด์ Adidas วางอยู่บนเตียงหลายชุด จึงหยิบกางเกงเลกกิ้งขายาวสีดำกับเสื้อยืดแขนยาวสีขาวแถบสีดำ ตรงไปยังห้องแต่งตัว ทันทีที่เข้าไปด้านในก็เจอชุดชั้นในวางเรียงอยู่เต็ม จึงหยิบขึ้นมาดูด้วยมือสั่นๆ เพราะขนาดบราและแพนตี้พอดีกับขนาดที่เธอใส่อยู่เป๊ะ! “ว้าว! วิกตอเรียซีเคร็ตซะด้วย!” มะลิฉัตรเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยอารมณ์เบิกบาน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณหนูที่ฐานะทางบ้านร่ำรวย ไม่มีผิด สาวเจ้ายืนหมุนซ้ายหมุนขวาที่หน้ากระจกบานใหญ่ สำรวจความเรียบร้อยอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดินออกไปหาอีกฝ่ายที่ด้านนอก        ขณะที่เลโอนาดท์นั่งเลือกรองเท้าให้หญิงสาวฆ่าเวลาอยู่นั้น ทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง เขาก็รีบหันไปมอง “ว้าว! อย่างกับเด็กสาวอายุ 16-17 แน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับจ้องมองเรือนร่างบอบบางอย่างสำรวจ “Adidas!” มะลิฉัตรไม่สนใจกับคำพูดของอีกฝ่าย เพราะกำลังตื่นเต้นกับรองเท้าที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะนับสิบคู่  “ใช่ ของเธอทั้งหมดเลย วันนี้ใส่คู่นี้นะ” ชายหนุ่มส่ง Adidas Stan Smith สีขาวแถบสีน้ำเงินไปให้ “ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยรับ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ อีกฝ่าย เพื่อใส่รองเท้า! “เธอชอบอาดิดาสเหรอ?” เลโอนาดท์ถามคนที่ก้มหน้าก้มตาผูกเชือกไปยิ้มไปด้วยความอยากรู้ “ค่ะ คุณรู้ได้ไงคะ?” เมดสาวเงยหน้าขึ้นถามอย่างสงสัย “เปล่า! พอดีว่าร้านของอาดิดาสอยู่ใกล้กับโรงแรมน่ะ” “แล้วชุดชั้นในล่ะคะ” “ก็โทร. ไปสั่งที่ร้านเขาก็ให้คนเอามาส่งให้” “แล้วคุณรู้ขนาดได้ยังไง” “เธอก็ถามแปลก! ฉันวัดมาเองกับมือจะไม่รู้ได้ยังไง” เลโอนาดท์ตอบก่อนจะทำท่าบีบคลึงบางอย่างให้สาวเจ้าดู “บ้า!” เมดสาวใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันใด “หึๆ ไปกันได้หรือยัง?” “ค่ะ แล้วนี่คุณจะพาฉันไปไหนเหรอคะ?” “ไปทานอาหาร เธออยากทานอะไร?” “อืม... ปิ้งย่างไหมคะ” เธอรีบเสนอ “เธอรู้จักร้านที่อร่อยๆ งั้นสิ!” “ค่ะ ก็รู้จักอยู่ร้านหนึ่ง” “โอเค งั้นบอกทางไปด้วยแล้วกัน” เลโอนาดท์ตอบยิ้มๆ “ได้ค่ะ แต่มีปัญหานิดๆ คือมะลิไม่อยากให้พนักงานในโรงแรมเห็นค่ะ ว่าออกไปกับท่าน” เธอกลัวว่าจะกลายเป็นที่ครหา หากว่ามีคนเห็นเธอออกไปไหนมาไหนกับเจ้าของโรงแรม แถมการแต่งตัวก็ยังแปลกไปจากชุดของเมดที่ใส่ทำงาน ทุกอย่างมันจะดูส่อแววไปในทางที่ไม่ดีได้ “โรงแรมฉันมีทางออกลับ สำหรับเวลาที่มีแขกคนสำคัญๆ มาพัก เธอไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครเห็นเธออย่างแน่นอน!” เลโอนาดท์เอ่ยเสร็จก็เดินนำออกไป “ค่ะ” มะลิฉัตรรีบเดินตามร่างสูงที่สวมเสื้อหนังสีดำแขนยาวทับเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำและรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม อย่างเงียบๆ พร้อมกับแอบวิจารณ์ชายหนุ่มในใจ ‘อีตาสิงโตนี่ ดูไปดูมาก็หล่อใช้ได้เหมือนกันแฮะ! แต่เสียอยู่อย่างเดียว หื่นไปหน่อย’ “อ้อ! อีกอย่างนะ ไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านหรอก เรียกแค่ลีโอก็พอ!” คนที่เดินนำไปได้สองสามก้าวหันมาบอกอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ “ค่ะคุณสิงโต” มะลิฉัตรยกมือขึ้นลูบหน้าอกเบาๆ เพราะตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็หันกลับมา! “ลีโอ!” เลโอนาดท์เอ่ยสวนขึ้นทันใด “ค่ะ! ลีโอแปลว่าสิงโต คิกๆๆ” เธอหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจที่เห็นชายหนุ่มหน้าบึ้งขึ้นมานิดๆ “แต่ฉันจะให้เรียกว่าลีโอ!” “ก็ได้ค่ะ คุณลีโอ” เธอรีบพูดตามก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มอารมณ์เสีย! “ถ้าเรียกฉันว่าสิงโตอีกเมื่อไหร่ เจอดีแน่!” เลโอนาดท์คาดโทษก่อนจะออกเดินต่อ “รับทราบค่ะ คิกๆๆ” มะลิฉัตรเอ่ยพลางอดขำกับท่าทางบึ้งตึงของอีกฝ่ายไม่ได้ “ยังจะขำอีก! ไปได้แล้ว” คนถูกล้อเลียนต่อว่า แล้วดึงมือของสาวเจ้าให้ออกเดินไปพร้อมกัน “อ๊ะ! ทำไมต้องจับมือด้วยล่ะ” หญิงสาวท้วงพร้อมกับพยายามสะบัดมือหนาออก “เงียบ! ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ!” สิงโตหนุ่มบอกก่อนจะเดินตรงไปยังมุมหนึ่งของชั้น แล้วขยับกรอบรูปขนาดใหญ่ออกจากผนังห้อง เผยให้เห็นประตูลิฟต์ที่ซ่อนอยู่ด้านหลัง มะลิฉัตรอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตา! ‘มีลิฟต์ส่วนตัวด้วยเหรอเนี่ย’ “เข้ามาสิ!” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อสาวเจ้ายังไม่ยอมขยับเข้ามาด้านในกับตน “ค่ะ” เธอรีบตามเข้าไปด้วยสีหน้าตื่นๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสายลับอย่างไรอย่างนั้น “ตื่นเต้นเหรอ?” เลโอนาดท์ถามก่อนจะกดรหัสให้ลิฟต์ทำงาน “คะ...ค่ะ” เธอบอกเสียงสั่น ขณะที่ลิฟต์เคลื่อนตัวลงไปยังชั้นล่างอย่างรวดเร็ว “นี่เป็นความปลอดภัยของฉัน ห้ามบอกใครนะ!” ชายหนุ่มกำชับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ค่ะ มะลิจะไม่บอกใคร” “ดีมาก!” เลโอนาดท์ยิ้มบางๆ หลังจากที่แอบหันไปมองบั้นท้ายที่งอนสวยได้รูปของสาวเจ้าเป็นพักๆ   ติ๊ง! เสียงเตือนของลิฟต์ดังขึ้นก่อนประตูจะเปิดออก เมดสาวยืนนิ่งอยู่กับที่ ขณะกวาดตามองรถสปอร์ตยี่ห้อดัง ที่จอดเรียงกันอยู่สี่ห้าคัน   อย่างรู้สึกทึ่งๆ “เธออยากนั่งคันไหน?” “เอ่อ...” มะลิฉัตรมองรถแต่ละคันที่โดดเด่นไปด้วยรูปลักษณ์ที่สวยต่างกันไปอย่างเลือกไม่ถูก “มัสแตงสีดำนั่นไหม?” เขาชี้ไปยังคันที่จอดอยู่ใกล้ๆ “ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเบาๆ เลโอนาดท์ยิ้มก่อนจะเดินไปเอากุญแจรถจาก ‘รอน’ บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ใกล้ๆ “วันนี้ไม่ต้องตาม!” รอนกับการ์ดอีกสองคนที่กำลังเตรียมตัวจะออกเดินทาง ถึงกับหยุดชะงักไปทันใด ที่ผู้เป็นนายจะพาสาวออกไปเที่ยวข้างนอกโดยไร้การคุ้มกัน “แต่ท่านครับ!” รอนพยายามจะเอ่ยท้วง “ไม่ต้องตาม” เขาย้ำอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งข้างออกให้สาวเจ้า “ครับ!” รอนเอ่ยรับด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจ “มะลิ! มาขึ้นรถ!” เลโอนาดท์หันไปบอกคนที่ยืนนิ่งอยู่ยิ้มๆ “ค่ะ” มะลิฉัตรพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปนั่งในรถอย่างว่าง่าย เลโอนาดท์ปิดประตูรถให้ ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ “เปิดประตู! บอสกำลังจะออกไป” รอนกรอกเสียงบอกผ่านเครื่องสื่อสารราคาแพง ไม่ถึงสองนาทีประตูลับก็เลื่อนออกจากกัน “คาดเบลต์แล้วใช่ไหม พร้อมนะ?” คนขับหันมาถาม พร้อมกับจ้องมองหน้าอกตูมๆ ของสาวเจ้ายิ้มๆ มะลิฉัตรไม่ตอบแต่มองค้อนคนหื่น ที่ทำสายตาแวววาวใส่เธอไม่หยุด เลโอนาดท์หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วขับออกไปด้วยความเร็ว   รอนมองตามรถที่แล่นออกไปอย่างรู้สึกมึนๆ ไม่รู้ว่าผู้เป็นนายไปพาสาวเจ้ามาจากไหน แถมยังพาออกมาทางลิฟต์ส่วนตัวโดยไม่ห่วงความปลอดภัย ว่าเรื่องที่เป็นความลับนี้จะถูกแพร่งพรายให้คนนอกรู้ “รอน! บอสออกไปรับคุณซาเก้เหรอ?” แดนที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำมาถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นรถของผู้เป็นนายขับออกไป “ไม่! นายกับฉันต่างหากที่ต้องไปรับคุณซาเก้แทน” รอนหันไปบอก “อ้าว! แล้วบอสไปไหน ทำไมไม่มีคนคุ้มกัน” แดนถามอย่างร้อนใจ เพราะกลัวว่าเจซีที่กำลังเตรียมเอกสารการประชุมอยู่ จะรู้เรื่องนี้เข้า “บอสพาสาวไปเที่ยว สั่งห้ามติดตาม” รอนย้ำก่อนเดินไปบอกบอดี้การ์ดอีกสองคนที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้อง ให้เตรียมตัวไปรับเพื่อนเจ้านายที่สนามบิน “หวังว่าเรื่องคงไม่แย่นะ” แดนบอกด้วยสีหน้าหวั่นๆ “แย่อะไรล่ะ! บอสยิ้มให้สาวคนนั้นอย่างกับคนเป็นบ้าแน่ะ ไปๆ ไปเตรียมตัวเถอะ อีกชั่วโมงหนึ่งคุณซาเก้ก็มาถึงแล้ว” รอนบอกก่อนจะดึงแขนของแดนให้ออกเดินตาม   ปรื้น! ปรื้น! ปรื้นนนนน เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ราคาแพงดังก้องไปทั่วบริเวณที่รถแล่นผ่าน มะลิฉัตรนั่งตัวตรง จ้องมองท้องถนนอย่างรู้สึกหวาดเสียว “กลัวเหรอมะลิ?” เลโอนาดท์ถามขึ้นเมื่อเห็นสาวเจ้าเงียบไป “คะ... ค่ะ” มะลิฉัตรบอกเสียงสั่น ‘พระเจ้า! มันน่าจะมีเบรกให้เธอช่วยเหยียบอีกอันนะ อีตาบ้านี่ขับน่ากลัวอย่างกับ... สิบล้อตีนผีในตำนานแน่ะ’ “โอเค! ฉันจะขับช้าลง” เขาบอกพลางลดความเร็วลง “ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรยิ้มเจื่อนๆ “อืม... แล้วร้านที่เธอบอกมันอยู่ตรงไหนเหรอ?” “ขับตรงไปอีกสองไฟแดงก็ถึงค่ะ ร้านจะอยู่ติดข้างทาง ป้ายของร้านเป็นสีออกส้มๆ ใหญ่ๆ” “หวังว่าที่ร้านคนคงไม่เยอะนะ” คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวถามกลับเสียงนิ่ง “ค่ะ” ต้องบอกว่าขอให้มีโต๊ะว่างต่างหาก มะลิฉัตรกลืนประโยคหลังลงคอไปอย่างขำๆ “มันเป็นร้านแบบไหนเหรอ?” เขาถามต่ออย่างสนใจ “ก็ร้านปิ้งย่างไงคะ” เธอบอกก่อนจะอมยิ้มนิดๆ เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอ้าปากค้าง และหันมองตามรถที่เธอนั่ง “เช่น...” “เนื้อ หมู ของทะเลน่ะค่ะ พอได้ไหมคะ?” “เธอชอบเหรอ?” “ค่ะ นานๆ จะมากับพิครั้งหนึ่งค่ะ” “พินี่ใครเหรอ” “พิเป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวของมะลิค่ะ เขาทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาที่โรงแรม แล้วเราก็พักอยู่ด้วยกัน” “ผู้หญิงหรือผู้ชาย?” เลโอนาดท์ถามเสียงเข้ม “ผู้หญิงสิคะ! ถามแปลกๆ มะลิพักอยู่หอหญิงนะคะ” “หอพักของพนักงานโรงแรมน่ะเหรอ?” “ใช่ค่ะ” เธอบอกพร้อมกับมองหน้าคนขับยิ้มๆ “แล้วทำไมเธอถึงมาสมัครเป็นแม่บ้านล่ะ?” เลโอนาดท์ถามอย่างสงสัย ‘สวยๆ แบบนี้น่าจะอยู่แผนกต้อนรับมากกว่า’ “ตอนแรกมะลิก็ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับค่ะ แต่เป็นแม่บ้านแล้วสบายใจกว่า” มะลิฉัตรบอกเลี่ยงๆ เพราะเธอไม่ได้เดือดร้อนกับตำแหน่งคนทำความสะอาดเท่าไหร่ แถมยังรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องได้ยินอะไรที่ระคายหูตอนทำงาน “เธอโดนแกล้งเหรอ” เขาหันมาถามด้วยสีหน้าตึงๆ “ไม่หรอกค่ะ มะลิชอบอยู่เงียบๆ ค่ะ” เมดสาวรีบปฏิเสธยิ้มๆ ก่อนจะตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็เหยียบเบรกกะทันหัน   เอี๊ยดดดดด “พระเจ้า! อย่าบอกนะว่าร้านนี้” เลโอนาดท์มองป้าย ‘ทะเลเดือด 499-’ สีส้มเข้มๆ ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ข้างทางอย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง “ใช่ค่ะ!” มะลิฉัตรพยักหน้ายิ้มๆ “นี่เธออำฉันเล่นใช่ไหม” คนที่ไม่เคยทานร้านบุฟเฟ่ต์ข้างทางมาก่อนถึงกับอึ้งไปห้าวินาทีกับคำตอบของสาวเจ้า “ร้านนี้มีแต่ของทะเลสดๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ” มะลิฉัตรบอกพร้อมกับมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ‘ราคาก็ไม่ได้ถูกๆ ซะหน่อย เกือบห้าร้อยบาทแน่ะ! อีตาบ้านี่เรื่องมากชะมัดเลย’ “แต่ฉัน...” “ถ้าเป็นร้านแพงๆ มะลิไม่เคยไปนั่งหรอกค่ะ ถ้าหากคุณนั่งไม่ได้   ก็เปลี่ยนไปทานที่ร้านอื่นเถอะค่ะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “เฮ้อ... ฉันจะทำยังไงกับเธอดีเนี่ยมะลิ” ชายหนุ่มถอนหายใจยาวพร้อมกับมองผู้คนที่ลุกเดินไปมาข้างในร้าน ด้วยความรู้สึกที่หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ‘บ้าจริง! ยัยนี่จะให้เราเดินไปหยิบจับของพวกนั้น แล้วเอามานั่งย่างกินเองเนี่ยนะ’ “งั้นก็ไปร้านที่คุณเคยไปนั่งเถอะค่ะ” “ถ้าคืนนี้ฉันท้องเสียแล้วพรุ่งนี้เช้าเข้าประชุมไม่ได้ เธอต้องรับผิดชอบนะมะลิ” เลโอนาดท์หันมาคาดโทษคนที่นั่งข้างๆ ก่อนจะตัดสินใจหักพวงมาลัยรถ เลี้ยวเข้าไปข้างในร้าน “เปลี่ยนไปนั่งร้าน...” สาวเจ้าพยายามเอ่ยท้วงแต่ก็ไม่ทัน! เพราะอีกฝ่ายจอดรถเสร็จแล้ว “ฉันหิวแล้ว และเธอต้องบริการฉันทุกอย่าง โอเค้!” เขาหันมาบอกคนที่ทำหน้าเหวอๆ ก่อนจะเปิดประตูออกจากรถ แล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ มะลิฉัตรมองอย่างรู้สึกมึนๆ งงๆ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่ ทันทีที่เดินเข้ามาภายในร้าน เลโอนาดท์ก็เห็นผู้คนมากมาย ต่างลุกเดินไปมา และตักของกินต่างๆ สารพัดเมนูที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง “ที่นี่มีห้องวีไอพีไหม?” เขาถามหลังจากที่ส่งสายตามองหาความเป็นส่วนตัวมาได้สักพัก... แต่ไม่เจอ! “ไม่มีค่ะ มีโต๊ะนั่งตามที่เห็น คุณอยากจะนั่งตรงมุมไหนคะ”  มะลิฉัตรบอกยิ้มๆ ‘มีห้องวีไอพีไหม? อะไรจะเยอะขนาดนี้เนี่ยพ่อคุณ’ “ฉันไม่ชอบคนเยอะๆ ฉันชอบที่ที่เป็นส่วนตัวๆ น่ะ” เขาบอกด้วย  สีหน้าคิดหนัก “งั้นเราไปนั่งหลังร้าน ตรงที่เขาล้างจานกันไหมคะ จะได้เป็นส่วนตัวๆ หน่อย?” มะลิฉัตรเลิกคิ้วถามอย่างรู้สึกหมั่นไส้คนรวยขึ้นมานิดๆ “มะลิ!” เลโอนาดท์หันมาส่งสายตาดุๆ ให้คนช่างประชด “แค่อยากให้คุณอารมณ์ดี เห็นทำหน้าบึ้งมาตั้งนาน คิกๆ” “ยังอีก!” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของสาวเจ้า ที่ดูเหมือนจะสนุกกับการได้เห็นเขาหงุดหงิด “เราไปนั่งตรงนั้นกันไหมคะ” เธอบอกพร้อมกับชี้ไปยังมุมที่ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน “อืม!” เลโอนาดท์ตอบก่อนจะออกเดินนำสาวเจ้าไปด้วยสีหน้าตึงๆ มะลิฉัตรเดินตามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่สุดท้ายแล้วอีกฝ่ายก็ยอมนั่งทานร้านบุฟเฟ่ต์ด้วยกัน พนักงานเสิร์ฟรีบเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากที่ลูกค้านั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว “มากี่ที่ครับพี่สาวคนสวย” “สองที่ค่ะ” เธอหันไปตอบพนักงานชายที่คุ้นหน้า เพราะเจออีกฝ่ายแทบทุกครั้งที่มาทานกับเพื่อนสาว “ครับ! เครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีครับ” พนักงานหันไปมองชายหนุ่มตัวโตอย่างสนใจ ‘อื้อฮือ... เคยได้ยินคำว่าลูกผู้ชายอกสามศอก แต่นี่น่าจะเกินคำว่าสามศอกไปเยอะนะเนี่ย!’ “เบียร์สดมีไหม?” เลโอนาดท์ถาม “มีครับ” พนักงานเสิร์ฟพยักหน้ารับ “เอามาหนึ่งทาวเวอร์” “ครับ! รอสักครู่นะครับ” พนักงานเสิร์ฟบอกก่อนจะส่งกระดาษเมนูให้สาวสวยเลือกอาหารรอ “นี่คุณ! จะดื่มจริงๆ เหรอ” มะลิฉัตรรีบถามหลังจากที่พนักงานเดินออกไป “ทำไมจะดื่มไม่ได้ล่ะ” เลโอนาดท์หันมาเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ “ก็คุณต้องขับรถไง?” “แค่นี้จิ๊บๆ เธอก็ต้องดื่มเป็นเพื่อนฉันเหมือนกัน” “ไม่มีทาง!” “ทำไม?” “ก็กลัวว่าถ้าเมาแล้ว... ฉันจะเสียตัวให้คุณน่ะสิ” “หึๆ ไม่เมาก็เสียตัวได้นะมะลิ” เลโอนาดท์บอกพลางขยิบตาให้สาวเจ้าอย่างต้องการจะหยอกเย้า “บ้า!” มะลิฉัตรมองค้อน ก่อนจะก้มลงเลือกเมนูที่ต้องการต่อ “ฉันดื่มคนเดียวจะสนุกอะไรล่ะ” เขาตื๊อต่อ “จ้างให้แก้วละพันก็ไม่ดื่มหรอกค่ะ” มะลิฉัตรบอกอย่างไม่สนใจ ‘อีตาบ้านี่ยิ่งหื่นๆ อยู่ด้วย’ “ฮ่าๆๆ งั้นให้แก้วละหมื่นแล้วกัน” เลโอนาดท์บอกพลางหัวเราะชอบใจกับท่าทางของสาวเจ้า ที่เหมือนจะรู้ทันความคิดของตน “อะ... อะไรนะคะ” มะลิฉัตรเงยหน้าขึ้นถามอย่างไม่เชื่อหู “ฉันให้แก้วละหมื่น พอจะดื่มเป็นเพื่อนฉันสักแก้วได้ไหม” เลโอนาดท์เอ่ยก่อนจะส่งยิ้มยียวนไปให้อย่างท้าทาย “สัญญานะว่าถ้าฉันเมาแล้วคุณจะไม่ลวนลามเหมือนตอนกลางวัน” คนที่ปฏิเสธในตอนแรก รีบขอคำมั่นด้วยหัวใจสั่น ‘แม่เจ้า! แก้วละหมื่น รวยอย่างเดียวพูดไม่ได้นะเนี่ย’ “ฉันสัญญา! เอาเลขบัญชีเธอมาได้เลย ฉันจะโอนเข้าให้ทุกครั้งที่เธอดื่มหมดแก้ว โอเคไหม?” “สิบแก้วก็หนึ่งแสน!” มะลิฉัตรตาโตขึ้นมาทันใดเมื่อนึกไปถึงเงินแสน เธอรีบหยิบมือถือออกมาเปิดหารูปหน้าบัญชีที่เคยถ่ายเอาไว้ แล้วส่งให้อีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “แบบนี้ง่ายกว่า” เลโอนาดท์คว้ามือถือของเธอมากดสแกนคิวอาร์โค้ดเพิ่มเพื่อนที่ไลน์ ก่อนจะส่งมือถือคืน “อ้ะ! ส่งเลขบัญชีมาในไลน์ได้เลย” “เอ่อ... ค่ะ” มะลิฉัตรรับมือถือมาอย่างมึนๆ งงๆ ก่อนจะทำตามที่อีกฝ่ายบอก “ถ้าเธอดื่มครบทุกๆ สิบแก้ว ฉันแถมพิเศษให้อีกแสนหนึ่งเลย”  คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มกับท่าทางซื่อๆ นั้นอย่างชอบใจ “สิบแก้วสองแสน!” เธอทวนซ้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหู “ใช่! เอ่อ... ว่าแต่เราจะต้องลุกไปเอาเหมือนคนอื่นๆ ไหม” สิงโตหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพื่อกลบเกลื่อนอาการดีใจจนเนื้อเต้น ที่ซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย ‘หึ! เด็กหนอเด็ก’ “นั่นเฉพาะคนที่อยากทานสดๆ แบบจับเองน่ะค่ะ แต่เราสั่งพนักงานเอามาให้ก็ได้ สดเหมือนกันค่ะ แต่ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มอีก100 บาท” มะลิฉัตรรีบเสนอทางเลือก “งั้นก็ดีสิ! ฉันไม่อยากลุกไปแย่งชิงอาหารกับคนอื่นๆ น่ะ” เลโอนาดท์เอ่ยพลางหันไปมองคนที่กำลังแย่งกันจับกุ้งเป็นๆ ซึ่งมองๆ แล้วมันก็ดูสนุก แต่เขารู้สึกกระดากเกินที่จะทำอะไรแบบนั้น “เบียร์เย็นๆ มาแล้วครับ” พนักงานเสิร์ฟชายสองคนยกเบียร์และน้ำแข็งมาวางใกล้ๆ “นี่แฟนของพี่เหรอครับ” พนักงานชวนคุยก่อนจะหยิบแก้วเบียร์ที่รินเสร็จส่งให้กับลูกค้าทั้งสองคน “เอ่อ... มะ...ไม่” เธอตกใจหน้าเหวอเตรียมจะปฏิเสธ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะมือหนาเอื้อมมาบีบที่แขนเอาไว้ “ใช่ มีอะไรเหรอ?” เลโอนาดท์หันไปตอบแทน “แค่ถามดูเฉยๆ ครับ ปกติจะเห็นพี่สาวมากับเพื่อนอีกคน” พนักงานเสิร์ฟบอกยิ้มๆ “ใบสั่งของค่ะ” มะลิฉัตรรีบส่งใบรายการอาหารให้อีกฝ่าย “รอสักครู่นะครับ” พนักงานเสิร์ฟพยักหน้ารับก่อนจะนำไปส่งที่เคาน์เตอร์จัดเตรียมของ “เธอมาที่นี่บ่อยเหรอ?” เลโอนาดท์ถามอย่างอยากรู้ “นานๆ ครั้งค่ะ เอ่อ... เมื่อกี้ทำไมคุณต้องรับว่าเป็นแฟนด้วยคะ” มะลิฉัตรถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ “งั้นเธอจะให้ฉันบอกว่าเป็นผัวเธอ อย่างนั้นใช่ไหม” “บ้า! คุณอย่าพูดจาน่าเกลียดสิ ฉันเป็นผู้หญิงนะ” เธอเตือนก่อนจะหันไปมองรอบๆ กลัวว่าจะเจอคนรู้จักเข้า “รู้! นมใหญ่ด้วย” เลโอนาดท์ยกยิ้มที่มุมปากอย่างกวนๆ “ฉันเริ่มจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ” เธอกัดฟันข่มอารมณ์เดือดๆ เอาไว้อย่างสุดกลั้น เมื่ออีกฝ่ายพูดจาทะลึ่งไม่หยุด “ก็มันใหญ่จริงๆ นี่ ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มแดงก่ำขึ้นมาทันทีทันใดราวกับเปิดสวิตช์ไฟ “คนบ้า! นี่แน่ะๆๆ” สาวเจ้าต่อว่า ก่อนจะระดมกำปั้นทุบที่แขนล่ำๆ ของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว “โอ๊ย! พอแล้วๆ ไม่อายคนหรือไง?” เขาบอกอย่างขำๆ เมื่อเห็นพนักงานคนเดิมเดินกลับมา มะลิฉัตรถึงกับหยุดชะงักไปทันใด เมื่อได้ยินเสียงของบุคคลที่สามเอ่ยขึ้น “ขออนุญาตครับ” เด็กเสิร์ฟวางของทะเลและน้ำจิ้มลงด้วยสีหน้ายิ้มๆ ที่เห็นหนุ่มสาวหยอกล้อกันไปมา “ขะ... ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรบอกอย่างอายๆ หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟวางของลงจนครบ “ผมจะอยู่ใกล้ๆ จะรับอะไรเพิ่ม ก็ยกมือเรียกได้เลยนะครับ” “โอเค! ขอบใจนายมาก” เลโอนาดท์หันไปตอบ ก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าจิ้มลิ้มต่ออย่างหลงใหล มะลิฉัตรเริ่มลงมือย่างของทะเลอย่างสนุก ในขณะที่เลโอนาดท์นั่งจิบเบียร์มองหน้าอก เอ๊ย! มองสาวเจ้าหยิบนู่นจับนี่ไปพลางๆ   สองชั่วโมงต่อมา... หลังจากที่ดื่มเบียร์แก้วแรกไปอย่างยากลำบาก แต่พอเห็นอีกฝ่ายกดโอนเงินเข้าบัญชี เธอก็ดื่มแก้วที่สองต่ออย่างเริ่มสนุก และดื่มต่อเรื่อยๆ จนกระทั่ง... “มะลิไหวไหม?” เลโอนาดท์ถามขณะมองใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว ก่อนจะอดหัวเราะไม่ได้ ‘คออ่อนจัง’ “หวาย... ค่ะ” คนที่ดื่มไปสิบห้าแก้วตอบเสียงยานๆ “หมดแก้วนี้แล้วฉันจ่ายเงินเลยนะ เดี๋ยวเราค่อยกลับไปดื่มต่อที่ห้องกัน” ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ “เยี่ยมค่ะ” มะลิฉัตรยิ้มกว้าง พร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้สิงโตตัวใหญ่ยักษ์ “พระเจ้า! มองแบบนี้ฆ่ากันเสียเถอะมะลิ” เลโอนาดท์เริ่มรู้สึกร้อนรุ่มภายในกายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “แบบไหนเหรอคะ คิกๆ” สาวเจ้าเงยหน้าขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้อีกครั้งอย่างนึกสนุก “อย่ายั่วนะ!” เขาต่อว่า ก่อนจะหันไปบอกพนักงานเสิร์ฟที่ยืนอยู่ใกล้ๆ  “น้อง! เก็บเงิน”    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD