4

1137 Words
“ถูกปากถึงขนาดแจกเงินเลยเหรอ ฉันว่าไม่น่าจะถูกปากธรรมดานะเนี่ย” ฮาคิมอดแซวไม่ได้ อาซาร์ไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้มมุมปาก พยักหน้าเป็นสัญญาณให้บุคคลที่ทำงานในครัว เดินเข้ามารับเงินรางวัลจากเขาทีละคน “เร็วสิกระรอก เขาแจกเงินแล้วนะ” สุริวิภาเร่งเพื่อนร่วมงานชั่วคราวให้ละมือจากการล้างจาน ออกไปรับเงินรางวัลตามคําสั่งของโรสผู้จัดการผับ “เสร็จแล้วไปเดี๋ยวนี้แหละ” ทันทีที่เธอวางจานใบสุดท้ายที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จ หญิงสาวเช็ดมือให้แห้ง ก่อนจะเดินแกมวิ่งออกไปในตัวผับ “รีบไปเร็วกระรอก เขาได้กันคนละตั้งสามสี่พันแน่ะ” โรสสาวสวยวัยสามสิบเก้าเร่งสร้อยระย้า หญิงสาวที่เธอให้ความเอ็นดูเหมือนน้องสาว กลัวจะไม่ทัน เนื่องจากคนสุดท้ายของแถวกำลังจะได้รับเงิน สายตาของอาซาร์มองหน้าของคนที่มารับเงินทุกคน มองไปตามบุคคลที่ยืนต่อแถว ไม่เห็นร่างหญิงสาวที่เขาต้องการพบ หรือว่าเด็กรับรถคนนั้นจะโกหก สาวคนนั้นไม่ได้ทำงานในห้องครัว ทว่าความสงสัยของชีคหนุ่มหมดไป เมื่อเห็นสร้อยระย้าเดินมาต่อแถวเป็นคนสุดท้าย สร้อยระย้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนอวดรวยแจกเงินพนักงานในห้องครัว คือชายหนุ่มมาดเข้มที่เธอเดินชนหน้าประตูผับ หากเขารู้ว่าเธอเป็นหนึ่งในพนักงานห้องครัว ที่เขาแจกเงินรางวัล เขาจะให้ตนหรือไม่ “เดินเข้ามาสิ มาเอาเงินรางวัล” อาซาร์สั่งเสียงเรียบ มองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ยิ้มบาง ๆ มุมปากอย่างพึงพอใจ ฮาคิมและยศวัจน์มองสายตาอาซาร์ออก รู้แล้วว่านางในห้องครัว ที่เพื่อนพูดถึงคือใคร “เดินเข้ามาสิครับ” ยศวัจน์คิดว่าเธอคงฟังภาษาอังกฤษไม่ออก จึงแปลให้เธอเสร็จศัพท์ โดยไม่รู้ว่าสร้อยระย้านั้นอ่านออกเขียนได้ แถมพูดคล่อง สร้อยระย้าเดินเข้ามาหยุดยืนด้านข้างของโต๊ะ เนื่องจากอาซาร์นั่งอยู่ริมสุด ยื่นมือออกไปรับเงินที่เขาส่งมาให้ เงินจำนวนที่เขาส่งมาให้นั้นมากกว่าทุกคนที่ได้รับหลายเท่านัก พูดง่ายๆ คือเงินที่เหลืออยู่เป็นของเธอคนเดียว “ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวพนมมือไหว้อย่างสวยงาม เหลือบตามองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหมุนกาย เดินกลับไปห้องครัว ด้วยขาสั่นเทา หัวใจเต้นรัวแรง "คนนี้สินะที่เป็นนางซินก้นครัวของนาย” ยศวัจน์เอ่ยถาม “สวยนี่หว่า สมแล้วที่เป็นนางซินในห้องครัว แค่เห็นหน้าก็อยากจะ..” “อยากจะอะไร” เสียงของอาซาร์ค่อนข้างดัง เขาพูดก่อนที่ฮาคิมจะพูดจบประโยคด้วยซ้ำ น้ำเสียงสะบัดห้วน บ่งบอกถึงความไม่พอใจเต็มที่ “อยากจะมอง มีอะไรหรือเปล่า หรือว่ามองไม่ได้” ฮาคิมพูดต่อ “เปล่า อยากจะมองก็มองไป ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ หล่อนไม่ใช่ของฉัน นายจะมองให้ทะลุเนื้อผ้าก็ ตามใจพวกนายสิ” ชีคหนุ่มพูดกลบเกลื่อนทันที เพื่อนสองคนนี้ชอบจับผิดเขาอยู่ด้วย แค่พูดว่านางซินก้นครัว ยังจะอุตส่าห์ทายถูกอีกว่าเป็นใคร จะให้สองคนนี้รู้ไม่ได้ว่าเขาสนในนางซินก้นครัวคนนี้ โดนแซวตายเลยงานนี้ “งั้นก็แล้วไป แต่ก็ว่าไปแล้ว หุ่นแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ จะให้ดีต้องมองตอนไม่ใส่เสื้อผ้า คงจะดีไม่น้อย” ฮาคิมพูดยิ้มๆ แต่คนที่ยิ้มแทบจะไม่ออกกลับเป็นอาซาร์ แต่จำต้องฝืนยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกคันยุบยิบเหมือนมีมดเข้าไปกัดไปได้ในหัวใจ ทั้งๆ ที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ท่าจะเพี้ยนหนักแล้วเรา แค่นางซินก้นครัวไม่มีค่าพอที่จะทำให้ชีคผู้ร่ำรวยเช่นเขาหวั่นไหวได้หรอก อาซาร์จึงสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปอย่างไม่ใยดี พรุ่งนี้ก็ลืม เขาคิดในใจ เวลาการประมูลหญิงงามได้เดินทางมาถึงในอีกสิบนาทีต่อมา แนนซี่สาวผู้เลอโฉมร้อนแรงกว่าร้อยองศายามอยู่บนเตียง เดินออกมาจากหลังผ้าม่านสีแดงบนเวที วันนี้เธอสวมใส่ชุดราตรีสีฟ้า ด้านหน้าผ่ากว้างจนร่องกลางท้อง อวดอกขนาดพอเหมาะ ชุดราตรีรัดรูปยาวกรอมเท้า ผ่าลึกถึงโคนขา แนนซี่เดินอวดสรีระเรียกน้ำย่อย ให้ชายที่หมายปองเธอน้ำลายไหล สายตาของแนนซี่สะดุดอยู่กับหนุ่มมาดเข้มผู้หล่อเหลา คล้ายกับคนตะวันออกกลางฐานะร่ำรวย จิกสายตาเย้ายวนให้ความสนใจเขาเปิดเผย อาซาร์มองสายตาของเธอออก ยิ้มนั้นรู้กัน “เริ่มเลยนะคะ ราคาประมูลวันนี้อยู่ที่หนึ่งแสนบาทค่ะ” โรสผู้จัดการสาวเริ่มการประมูลทันที พนักงานในร้านรวมทั้งพนักงานในครัว ต่างมายืนมองสังเกตการณ์ตามจุดต่าง ๆ ที่พอจะเมียงมองเห็น ไม้เว้นแม้แต่สร้อยระย้า "แสนห้า” ชายร่างอ้วนเปิดการประมูลเป็นคนแรก “แสนเจ็ด” ชายร่างเตี้ยเกทับเป็นคนที่สอง ราคาการประมูลครั้งนี้ยังไม่หยุดนิ่ง ราคาเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสองแสนในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที และเพิ่มเป็นสามแสนในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีสามสิบวินาทีและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “โอ้โห!! พี่แนนซี่นี่เขาแรงจริง ๆ นะแก ดูสิไม่ถึงสองนาทีล่อเข้าไปจะสี่แสนแล้ว ฉันว่านะวันนี้ ต้องถึงหกแสนแน่ เลย” เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องของแนนซี่คาดเดา “นั่นสิ แต่ละคนอยากจะได้พี่แนนซี่ขึ้นเตียงทั้งนั้น แต่ไม่รู้ว่าคนที่ได้ราคาประมูลสูงสุดจะได้ตัวพี่แกไปนอนหรือเปล่า ถ้าเพื่อพี่แนนซี่ไม่โอเค ไปเลือกคนอื่นที่ราคาต่ำกว่า งานนี้มีเฮ” ที่ว่ามีเฮนั้นเนื่องจาก พนักงานในผับจะเดิมพันกันว่า แนนซี่จะยอมไปกับคนที่ประมูลราคาสูงสุดหรือไม่ “กระรอกจะเล่นด้วยมั้ย เอาค่าแรงวันนี้ก็ได้ วันนี้กระรอกได้เงินสามร้อยบาท ถ้ากระรอกทายถูก ได้สามเท่าเลยนะ ตั้งเก้าร้อยแน่ะ” สมศรีเอ่ยชวน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD