พิศวาสทาสเสน่หา

3

“กระรอกมายืนทำอะไรตรงนี้” วันชัยเด็กรับรถเอ่ยถาม หลังจากเดินกลับมาประจำหน้าที่ของ สร้อยระย้าได้สติหันมามองต้นเสียง สีหน้าตื่นตกใจ

“ประตูหลังร้านปิดกระรอกเข้าไปไม่ได้ ก็เลยจะเข้าประตูนี้ แต่พอดีเดินชนกับคุณคนนี้” หญิงสาวตอบเสียงอ่อน รู้ในความผิดของตน

“รีบเข้าไปสิ พี่จะถือว่าไม่เห็นเราก็แล้วกัน”

“ขอบคุณที่ชัยมากเลยนะ ถ้าไม่ได้พี่ชัยมีหวังกระรอกถูกตัดเงินแน่ๆ เลย” หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจ ยิ้มแสนสวยของเธอนี่เอง ทำให้หัวใจอาซาร์กระตุก รอยยิ้มละไมนี้ช่างสวยบาดจิต บาดหัวใจอะไรเช่นนี้ เขาเห็นผู้หญิงมามากมายหลายร้อยคน ไม่มีใครทำให้เขาประทับใจได้มากเท่า สาวร่างเล็กคนนี้มาก่อน ดวงตาคมกับราวกับดวงตาของพญาอินทรีย์ มองร่างงามไปจนสุดสายตา

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ชีคหนุ่มถามเด็กรับรถที่ยืนมองหน้าเขานิ่ง นึกหวั่นๆ ในใจกลัวว่าชายมาดเข้มคนนี้จะนำเรื่องไปบอกผู้จัดการผับ เห็นที่เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

“เธอชื่อกระรอกครับ มาทำงานพิเศษที่นี่ ช่วงคนงานในครัวลากลับบ้านครับ ผมต้องขอโทษแทนน้องด้วยนะครับ เธอคงไม่รู้ระเบียบของที่มากนัก” ชัยแก้ตัวแทนสร้อยระย้า เพราะไม่อยากให้เธอถูกตัดเงิน หากผู้จัดการผับจอมเขี้ยวล่วงรู้ว่า สร้อยระย้าใช้ประตูนี้เป็นการสัญจรเข้าออก แม้ว่าจะมีเหตุผลที่ต้องใช้ก็ตาม

“ขอบใจ” อาซาร์ควักธนบัตรใบละหนึ่งพัน จำนวนสามใบให้ชัยเป็นค่าตอบแทนกับคำตอบ หมุนตัวเดินกลับไปในผับทันที

"มาแล้วเหรอครับท่านชีค ไปสูดอากาศข้างนอกมาเป็นยังไงบ้างครับ” ยศวัจน์พูดประชดอีกครั้ง

“อากาศข้างนอกดีมาก ไม่เคยเจออากาศดีอย่างนี้มาก่อนเลย” ชีคหนุ่มพูดยิ้มๆ สองเพื่อนรักมองหน้ากัน ก่อนอาซาร์ออกไป ยังทำหน้าบึ้งตึงอย่างกับหนังกลอง ตอนนี้ใบหน้ากลับมีรอยยิ้ม ต้องไปเจออะไรถูกใจมาแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่อารมณ์ดีแบบนี้

"ไปเจอนางฟ้านางสวรรค์ตนใดมาล่ะ ถึงได้ยิ้มหน้าบานเหมือนกระทั่งแบบนี้ บอกมานะ” ฮาคิมพูดอย่างรู้ใจ ไม่เสียแรงที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก

“นั่นสิ ไม่งั้นหน้าไม่บานอย่างนี้หรอก” ยศวัจน์เห็นด้วยกับคำพูดของฮาคิม

“ถ้าเจอนางฟ้านางสวรรค์อย่างที่แกพูดก็ดีสิ จะได้จับปล้ำซะเลย อย่างเธอคนนี้ที่ฉันเจอ เป็นได้แค่นางซินก้นครัวเท่านั้น” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับดื่มน้ำอัดลมจนหมดแก้ว ปล่อยให้สองเพื่อนซี้ต่างสงสัย และอยากรู้เหลือเกินว่า นางซินก้นครัวคนนี้คือใคร

“อาซาร์อีกสิบห้านาทีจะมีการประมูล สาวสวยระดับนางงามเชียวนะ ราคาประมูลขั้นต่ำอยู่ที่ หนึ่งแสนบาท นายสนหรือเปล่า” ฮาคิมเลิกสนใจนางชินก้นของเพื่อนสนิท เพราะว่ามีเรื่องอื่นที่น่าสนใจมากกว่า

“ใช่ สวยมาก เด็ดด้วย” ยศวัจน์กล่าวเสริม

“สวยระดับนางงามแล้วจะมาประมูลทำไม รอให้มีเสี่ยกระเป๋าหนักมาเลี้ยงไม่ดีกว่าเหรอ และได้ที่ว่าเด็ดนี่ เด็ดยังไง” ชีคหนุ่มพูดด้วยความสงสัย

"แนนซี่เขาไม่ได้เป็นนางงามหรอก ฉันแต่เปรียบเทียบความสวยของเธอเท่านั้นเอง นางงามบางคนยังสู้ไม่ได้ แนนซี่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น เธอจะเลือกรับแขกพูดง่ายๆ อย่างเช่นการประมูลที่จะเริ่มขึ้น หากคนที่ประมูลเธอได้ แต่ถ้าเธอไม่พอใจหรือไม่ชอบ แนนซี่ก็จะไม่ไปด้วย แต่อาจจะเลือกคนที่ให้ราคาอันดับสองหรือสามก็ได้ และที่สำคัญแนนซี่จะทำให้ผู้ชายคนนั้น พอใจถึงขั้นหัวใจวายก็มีนะ” อาซาร์ฟังเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยความรู้สึกย้อนแย้ง มีด้วยหรือที่โสเภณีจะเป็นคนเลือกมากกว่าถูกเลือก เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ อยากรู้นักว่าแนนซี่คนนี้จะสวยและเด็ดดวง เหมือนที่ฮาคิมพูดมามากน้อยแค่ไหน

“อย่างนี้จะประมูลทำไม ก็ให้เจ้าหล่อนชี้ตัวผู้ชายที่อยากนอนด้วยก็หมดเรื่อง ตั้งราคามาเลยว่า เท่าไหร่ ไม่ต้องมานั่งประมูลให้ยุ่งยาก”

“แหม!! ถ้าทําอย่างนั้นมันก็ดูไม่ตื่นเต้นน่ะสิ นายไม่รู้เหรอว่ามีคนอยากจะนอนกับแนนซี่มากแค่ไหน นายดูผู้ชายที่นั่งอยู่ในผับนี้สิ เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์มารอประมูลตัวแนนซี่ทั้งนั้น” ยศวัจน์เป็นฝ่ายพูด ชีคหนุ่มมองไปรอบๆ ผับ คืนนี้มีคนเข้ามาใช้บริการแทบจะเต็มทุกโต๊ะ ทั้ง ที่วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้เขาอยากพิสูจน์ขึ้นมาแล้วว่า แนนซี่จะสวยและเผ็ดร้อนเหมือนกับที่เพื่อนพูดหรือเปล่า

“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะร่วมประมูลด้วย” สองเพื่อนเลิฟรู้อยู่แล้วว่าอาซาร์ต้องเข้าร่วมประมูล แน่นอน พูดขนาดนี้ไม่ประมูลให้มันรู้ไป

“คืนนี้ฉันกับเจย์ จะเปิดทางให้นายประมูลคนเดียว เพราะวันนี้ฉันสองคนมีแล้ว” สองหนุ่มต่างเชื้อชาติยิ้มกริ่ม เขาสองคนเตรียมสาวสวยที่จะมานอนประดับเตียงเอาไว้แล้ว โดยเลือกหญิงสาวสวยประจำผับจากแคตตาล็อครูปภาพ ที่มีสาวสวยมากกว่าสามสิบชีวิต สะอาดไร้โรคภัย ค่าตัวแสนแพง

“อาหารมื้อนี้อร่อยนะ อยากให้รางวัลคนในครัวจังเลย ที่ทำอาหารถูกปากฉันมาก” อาซาร์พูดขึ้น

“อะไรของนาย อาซาร์ อาหารมันก็เหมือนกับที่อื่นนะแหละ เมื่อคืนฉันพานายไปที่บูฟเวย์ นายไม่เห็นชมเลยว่าอาหารอร่อย ยศวัจน์ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย

“ก็วันนี้มันอร่อยกว่าเมื่อวาน ก็เลยต้องให้รางวัล ชาลีมานี่สิ” อาซาร์เรียกบอดี้การ์ดคนสนิทให้เข้ามาใกล้ ก่อนจะสั่งการอะไรบางอย่าง ไม่นานคนที่อยู่ในครัวเดินเรียงเป็นแถวมาที่โต๊ะของสามหนุ่มผู้ร่ำรวย ฮาหมัดหนึ่งในบอดี้การ์ดของอาซาร์ ส่งธนบัตรใบละพันปึกหนึ่งให้กับเจ้านาย