ชีคอาซาร์ บูฮาเซ็น อัคคาชีค นั่งทำหน้าเบื่อหน่าย มองร่างอรชรในชุดบางเบา ที่เต้นยั่วเย้าบนเวที ปลุกเร้าอารมณ์ชายให้ตื่นตัว ทว่าตอนนี้เขาหาได้มีอารมณ์พิสมัยแม้แต่นิด ต่างกับเพื่อนสนิทอีกสองคนที่มองร่างของสาวนางนั้นตาเป็นมัน
“เป็นอะไรอาซาร์ นั่งหน้ามุ่ยยังกับกินรังแตนมาสักสิบรัง” ฮาคิมลูกชายคนเดียวของเจ้าของบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศชามาเรีย เพื่อนสนิทของอาซาร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“นั่นนะสิ ตั้งแต่เข้ามาในนี้ ฉันเห็นนายนั่งหน้าบึ้งตลอดเวลา หรือว่าผู้หญิงบนเวทีไม่ได้เรียกความกระษัยให้กับนายเลย ตายด้านหรือเปล่าวะ” ยศวัจน์ลูกชายคนรองของตระกูลบวรรัตน์ เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำอัดลมชื่อดัง เอ่ยแซวอาซาร์
“เบื่อ เบื่อ เบื่อ ตั้งแต่นั้นมาเมืองไทย พวกนายพาฉันมาเที่ยวแต่สถานที่แบบนี้ทุกวันเลย เบื่อจะตายอยู่แล้ว หัวสมองของพวกนายมีสถานที่เที่ยวอยู่แค่นี้เหรอ” อาซาร์ทำสีหน้าเซ็งสุดชีวิต เขาเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขามาท่องเที่ยวแบบส่วนตัว ไม่ได้มาเพราะธุรกิจ
“ก็ตอนนี้มันตอนกลางคืนนะครับท่านชีค จะให้พวกผมพาท่านไปไหนครับ จะพาไปเที่ยวทะเล ก็บ่นว่าไม่ชอบ จะพาขึ้นเหนือก็บ่นว่าไม่อยากไปมันไกล จะพาล่องใต้ก็บอกขี้เกียจนั่งเครื่องบิน จะพาไปกินส้มตำปลาร้าที่ภาคอีสานก็บอกว่ากินไม่เป็น แล้วอย่างนี้จะให้กระผมพาไปเที่ยวที่ไหนครับ ที่ท่านชีคอยากไป ก็เห็นมีแต่ที่นี่เท่านั้นแหละครับ เหมาะกับท่านชีคที่สุด เพื่อหาหญิงงามมานอนกอด แนบกายในยามค่ำคืน” ยศวัจน์ไม่ได้พูดประชด จริงตามเขาพูด อาซาร์ไม่ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ที่ยศวัจน์เสนอมา พูดคำเดียวว่าเบื่อแล้วคนเป็นไกด์จะทำยังไง ก็ได้แต่นั่งกุมขมับคิดไม่ออกว่าจะพาเพื่อนไปเที่ยวที่ไหนดี นอกจากที่นี่
“ฉันก็ว่าพานายมาเที่ยวที่นี่น่ะถูกแล้ว นายชอบกินผู้หญิงเป็นอาหารค่ำไม่ใช่เหรอ ยิ่งมาเมืองไทยห่างพวกนางในฮาเร็ม นายอาจจะหนาวกายอยากได้ไออุ่นจากกายสาวมากกกอด ฉันกับเจย์ก็พานายมาที่นี่ไง” ฮาคิมพูดเสริม
“งั้นพรุ่งนี้นายพาฉันไปเที่ยวตลาดน้ำก็ได้ ฉันเห็นในทีวีมันสวยดี”
“ตกลงครับท่านชีค” หนุ่มชาวไทยรับคำชีคหนุ่มหน้าทะเล้น
“เจย์ นายบอกว่าที่นี่มีทีเด็ด ไม่เห็นมีอะไรเลย นอกจากมีคนมาเต้นยั่ว ฉันเห็นจนเบื่อแล้ว” ชีคหนุ่มอดต่อว่าเพื่อนสนิทไม่ได้ เขามานั่งในผับนี้เกือบชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นทีเด็ดอย่างที่ยศวัจน์พูดเลย
“เออน่า ของดีเค้ามีไว้รอบดึก รับรองว่าเด็ด นายต้องชอบแน่”
“อีกนานมั้ยเนี่ย” อาซาร์ถามอีกครั้ง
“ประมาณหนึ่งชั่วโมง”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปสูดอากาศข้างนอกก่อนก็แล้วกัน เห็นหน้าแกสองคนแล้วเสียอารมณ์” คนที่พูดเดินออกไปจากผับหรูทันที โดยมีบอดี้การ์ดมาดเข้มสามนายเดินตามไม่ห่าง
“กระรอกเอาอาหารกล่องนี้ไปให้ป้ายิ้มหน่อยได้หรือเปล่า"
ป้าก้องหมายถึงอาหาร ที่รวบรวมจากผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ชอบกินทิ้งกินขว้าง กินไม่ถึงครึ่งจานก็ไม่กินต่อ ไม่คุ้มกับค่าอาหารที่เสียไปเลย นางจะนำอาหารส่วนนี้ไปให้ป้ายิ้มหญิงวัยกลางคนที่ อาศัยอยู่ป้ายรถเมล์ ที่อยู่ห่างจากผับเพียงห้าสิบเมตร
“ได้ค่ะ งานของกระรอกเสร็จพอดีเลย” สร้อยระย้าเดินมาหยิบถุงอาหารกล่องที่ป้าก้องแม่ครัวใหญ่จัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะเดินออกไปทางประตูด้านหลัง ซึ่งเป็นประตูของห้องครัว เวลาผักสด เนื้อสด เครื่องดื่มทุกชนิดมาส่ง รวมทั้งพนักงานในร้านด้วย ไม่มีสิทธิ์เดินเข้าออกประตูของนักท่องราตรี นอกจากจะเดินออกมาพร้อมกับลูกค้า
หญิงสาวเดินเอาอาหารไปให้ป้ายิ้มตามป้าก้องไว้วาน เธอกำลังเดินกลับมาเข้าห้องครัว ซึ่งปกติจะเปิดทิ้งไว้หากผับเปิด แต่พอมาถึงประตูห้องครัวปิด เธอไม่สามารถเปิดออกได้จากด้านนอก ต้องให้คนอยู่ภายในห้องครัวเปิดออกเท่านั้น
ซ้ำร้ายสัญญาณกริ่งเกิดเสีย ทำให้สร้อยระย้าไม่สามารถเข้าไปในร้านได้ จะใช้ประตูหน้าผับก็ไม่ได้เพราะผิดกฎ สร้อยระย้าทำได้ตอนนี้คือยืนคอย ให้คนด้านในเปิดประตูออกมา ห้านาที สิบนาที สิบห้านาที รอมากว่าสิบห้านาที ประตูด้านหลังหาได้เปิดออก จะร้องเรียกก็คงไม่มีใครได้ยิน หญิงสาวจึงเดินมาตรงหัวมุมของผับ มองไปยังประตูทางเข้า ลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่
“เอาวะ ก็ประตูห้องครัวเข้าไม่ได้นี่”
คิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินไปยังประตูหน้าผับ ความสว่างไสวของแสงสีด้านหน้า ทำให้เธอไม่อาจอำพรางตัวเองได้ หญิงสาวจึงต้องรีบวิ่งเข้าไปในผับให้เร็วที่สุด ก่อนเด็กรับรถผับสามคนจะมาเห็นเข้า ความรีบร้อนกลัวคนจะมาเห็น และความไม่รู้ว่าประตูผับแห่งนี้จะเปิดอัตโนมัติ หากมีคนเข้ามาในรัศมีของเลเซอร์ ทำให้เธอชนกับบุคคลร่างยักษ์ที่เดินออกมาจากกันอย่างจัง
“โอ๊ย!!” เสียงร้องดังขึ้น เมื่อร่างสาวชนกับกำแพงหนา จนก้นลงไปกระแทกกับพื้นกระเบื่อง เกิดความเจ็บร้าววไปทั่วสะโพก ทว่าคนที่เธอเดินชนนั้นหาได้สะดุ้งสะเทือน ยืนนิ่ง นัยน์ตาเขามองคนตัวเล็ก ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นยืน เขาไม่ยอมขยับไปไหน ไม่คิดช่วยประคองร่างสาวแม้แต่น้อย
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรู้ว่าตนผิดจึงกล่าวคำขอโทษ พนมมือไหว้ลูกค้าใจดำที่ยืนอยู่ตรงหน้า นึกในใจผู้ชายคนนี้ช่างสูงใหญ่เหลือเกิน ใบหน้าของเธออยู่แค่ระดับอกเขาเท่านั้น ดวงหน้าสวยแหงนเชื่องช้า อยากเห็นหน้าคนใจดำนักว่า หน้าตาจะเป็นอย่างไร พอได้เห็นใบหน้าเขา ดวงตาหวานสวยขยายกว้างเล็กน้อย อ้าปากค้างราวกับว่าได้เห็นเทพบุตรลงมาจุติ
ใช่...เขาเป็นเทพบุตรที่หล่อมาก มีทั้งเสน่ห์จากหนวดเคราขึ้นเขียวครึ้ม และความคมเข้มจากเชื้อสายตะวันออกกลาง สะกดสายตาของสร้อยระย้าให้หยุดนิ่ง