ทันใดนั้นเอง
เสียงหัวเราะกึกก้องของอิสตรีแผดดังลั่นขึ้นภายในกระโจมที่ประทับ ร่างสันทัดยกมือโบกสะบัดไปมาเพื่อปิดกั้นเสียงมิให้เล็ดรอดออกไปภายนอก
ทันทีที่เสียงของอิสตรีแผดดังก้องออกมานั้น กระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนพระศอของแม่ทัพหนุ่มสว่างวาบขึ้นมาโดยพลันด้วยสัมผัสได้ว่า ร่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหาใช่มนุษย์แต่มันคือปีศาจนั่นเอง พร้อมความเปลี่ยนแปลงบังเกิดขึ้นตรงพระพักตร์แม่ทัพชื่อก้องขึ้นมาทันใด
ร่างสันทัดของเหอผิงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นร่างบอบบางของอิสตรีในฉลองพระองค์ฝ่ายหญิงของราชสำนักซีโจว ใบหน้าครึ่งซีกเป็นคนอีกครึ่งเต็มไปด้วยเกล็ดงูสีดำเมี่ยม โฉมหน้าแปรเปลี่ยนเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจ ดวงตาเล็กรียาว ปากเคลือบสีชาดแดงสด แสยะยิ้มเย้ยหยันพร้อมลิ้นสองเฉกแล่บออกมาจากปากอยู่ตลอดเวลา ตามนิสัยของงูนั่นเอง
นางปีศาจปรากฏร่างจริงออกมาเองโดยมิรู้ตัว ท่ามกลางพระอาการตกตะลึงของแม่ทัพผู้ลือนาม ครั้นได้ทอดพระเนตรสิ่งที่เกิดขึ้นตรงพระพักตร์เต็มสองพระเนตรอยู่ในขณะนี้
“อาภรณ์นางสนมของซีโจว!เจ้าเป็นผู้ใดแอบเร้นแปลงกายเป็นผู้อื่นเช่นนี้ มิใช่คนแต่เป็นปีศาจ!!!”รับสั่งตวาดถามสุรเสียงกระหึ่ม
ครั้นนางปีศาจในคราบนางสนมชั้นเอกแห่งราชสำนักซีโจวได้ยินเช่นนั้น มันรีบก้มหน้าสำรวจร่างของตนทันใด
“เป็นไปไม่ได้!เหตุใดจู่ๆ ข้าจึงคืนร่างเดิมออกมาเช่นนี้!”นางปีศาจพล่ามรำพึง ก่อนจะรีบสลัดความตกใจระคนสงสัยออกไปโดยพลันด้วยเบื้องหน้าของมันคือเป้าหมายที่ต้องรีบกำจัดให้พ้นไป
ปากบางที่มีลิ้นสองเฉกแลบออกมาอยู่ตลอดเวลา ค่อยๆ แสยะยิ้มเหยียดพลางเชิดหน้าขึ้นสูงพร้อมมองพระพักตร์หล่อเหลาของอดีตรัชทายาทของไท่เจิ้งฮ่องเต้ที่เข้าใจว่าตายไปตั้งแต่มีการก่อกบฏเมื่อ 23 ปีก่อน
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าจะชาญฉลาดสามารถซ่อนเร้นตัวตนที่แท้จริงได้อย่างแนบเนียนถึงเพียงนี้เชียวองค์ชายโจวโย่วเฉิง”นางปีศาจเรียกพระนามอันแท้จริงของแม่ทัพรูปงามได้อย่างถูกต้อง
และนั่นทำให้เจ้าของพระนามดังกล่าวทรงทอดพระเนตรนางปีศาจตนนั้นเขม็ง พระองค์ทรงล่วงรู้แล้วว่าปีศาจที่ผู้คนต่างพากันเล่าลือในตำนานมาอย่างช้านาน บัดนี้มีตัวตนจริงๆ และกำลังปรากฏกายให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งนางปีศาจที่กำลังอยู่ตรงพระพักตร์จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางราชสำนักซีโจวเป็นแน่แท้
ครั้นทรงทอดพระเนตรอาภรณ์ที่อยู่บนเรือนร่างของนางปีศาจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างละเอียด ทำให้ล่วงรู้โดยพลันว่าอาภรณ์เหล่านั้นบ่งบอกว่ามีฐานะอยู่ในระดับพระสนมเอกเลยทีเดียว และก็คงจะเป็นผู้ใดไปไม่ได้ถ้าแม้นไม่ใช่พระสนมเอกคนงามของไค๋หยวนฮ่องเต้
“ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เองฮั่วซี!!!”รับสั่งออกมาทันใดครั้นทรงแน่พระทัยว่านางปีศาจแท้จริงคือผู้ใด
รอยแสยะยิ้มเหยียดที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าเมื่อครู่ที่ผ่านมาเลือนหายไปโดยพลัน ครั้นอีกฝ่ายล่วงรู้แล้วว่าแท้จริงแล้วนางปีศาจแอบแฝงเป็นผู้ใดอยู่ในราชสำนักดังกล่าว
“สมคำร่ำลือจริงๆ ว่าแม่ทัพไร้พ่ายผู้ลือนามฉลาดปราดเปรื่องเป็นยิ่งนัก ล่วงรู้เสียด้วยว่าข้านั้นแท้จริงแล้วคือผู้ใด ถ้าเช่นนั้นในเมื่อช่างฉลาดหลักแหลมเสียนี่กระไร ล่วงรู้หรือไม่ว่านับแต่นี้ต่อไปเบื้องหน้าจะต้องเจอกับอะไรบ้างท่านแม่ทัพ”นางปีศาจถามกลับไปเป็นการหยั่งเชิง
พระโอษฐ์ยกยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อยครั้นทรงได้ยินนางปีศาจถามกลับมาเช่นนั้น
“เรื่องของข้าอย่าสู่รู้ พูดไปปีศาจเช่นเจ้าที่มีแต่ความโง่เขลาก็มิอาจคาดเดาความคิดของข้าได้ น่าสงสารไค๋หยวนเสียนี่กระไรที่ได้สัตว์เดรัจฉานเช่นเจ้าเป็นนางสนมข้างกายโดยมิรู้ตัว และผู้ที่น่าสงสารมากเสียยิ่งกว่าผู้ใดก็คือจื่อโหยวบุตรชายของเจ้าที่มีสายเลือดครึ่งคนครึ่งปีศาจ ที่หาล่วงรู้แต่อย่างใดว่ามีแม่เป็นนางปีศาจเช่นเจ้า!”รับสั่งเย้ยหยันกลับไป
ดวงตายาวรีเล็กแข็งกร้าวด้วยความโกรธขึ้นมาโดยพลันครั้นได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยถ้อยเจรจาเช่นนั้นตอบกลับมา
“ช่างเจรจาตีฝีปากกล้าเสียจริงนะท่านแม่ทัพ แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่อุตสาห์วางแผนมาอย่างยาวนานกลับไม่เป็นดั่งที่คิด เพราะผู้ครอบครองบัลลังก์ซีโจวมีเพียงลูกของข้าเท่านั้น! อดีตรัชทายาทไร้บัลลังก์เช่นเจ้าหรือแม้แต่โอรสลับของอู๋ฮองเฮาก็ไม่มีวันที่จะถูกเจ้าปลุกขึ้นมาใช้ตามแผนอีกเป็นอันขาด!เพราะข้าไม่มีทางให้มันเกิดขึ้น!!!”นางปีศาจตวาดกลับไป
ฉับพลันท่อนร่างของนางปีศาจค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นไปโดยพลันปรากฏลำตัวคล้ายสัตว์เลื้อยคลานสีดำทะมึนซึ่งก็คืองูนั้นเอง นางพญางูพันปีตวัดหางยาวพุ่งตรงเข้าหาแม่ทัพชื่อก้องอย่างรวดเร็ว
ฟิ้วววว!!! แม่ทัพรูปงามทรงใช้วรยุทธ์ของพระองค์หลบหลีกการไล่ล่าของนางปีศาจมิให้ตกเป็นเหยื่อสังหารของนางได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่านางปีศาจจะพยายามใช้วรยุทธ์ใดก็เทียบฝีมือไม่ได้เลย
“บัดซบสิ้นดี! วรยุทธ์ของข้าเปรียบเทียบฝีมือกลับเจ้าเด็กเมื่อวานซืนผู้นี้ช่างห่างชั้นเสียนี่กระไร ขืนเป็นเช่นนี้ไม่ได้การเสียแล้ว”นางปีศาจสบถออกมาด้วยความเจ็บใจ
นางปีศาจงูพันปีเปลี่ยนจากการใช้วรยุทธ์มาเป็นร่ายเวทคาถาที่นางถนัดเป็นยิ่งนักเข้ามาแทนที่
“ในเมื่อวรยุทธ์ของข้าสู้เจ้าไม่ได้มันก็ต้องใช้เวทย์คาถาเข้าช่วยเสียแล้วเจ้ามนุษย์หน้าโง่!!!”นางปีศาจงูเอ่ยลอดไรฟันพร้อมร่ายเวทเพื่อทำให้พระวรกายใหญ่ของแม่ทัพไร้พ่ายถูกตรึงให้อยู่กับที่
ทว่ายังมิทันที่นางปีศาจงูพันปีจะร่ายคาถาตรึงร่าง จู่ๆ วรองค์สูงใหญ่ขององค์ชายโจวโยว่เฉิงพลันหยุดชะงักเสียขึ้นมาดื้อๆ เมื่อโรคประหลาดของพระองค์ที่รักษาจนหายไปเนิ่นนานแล้ว พลันหวนกลับคืนมาพร้อมปรากฏพระอาการขึ้นมาอย่างมิรู้สาเหตุ
มิหนำซ้ำกลับมาแสดงพระอาการในขณะที่กำลังมีภัยถึงแก่พระชนม์ชีพในขณะนี้ เปลือกพระเนตรปิดสนิทลงทันทีทรงเกิดพระอาการหลับใหลอย่างมิรู้ต้นสายปลายเหตุในขณะที่ทรงใช้วรยุทธ์เร้นพระวรกายหลบหลีกนางปีศาจงูจนมันเกิดอาการเวียนหัวไปหมด
ตุ๊บ!!! พระวรกายใหญ่หงายหลังล้มกระแทกฟาดลงไปกับพื้นนอนแน่นิ่ง ไร้สิ้นพระสติอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน ท่ามกลางความแปลกใจของนางปีศาจงูเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกอย่าง หางงูขนาดใหญ่ค่อยๆ เลือนหายไปกลับคืนกลายเป็นคนอย่างสมบูรณ์ก่อนจะยืนมองร่างตรงหน้าด้วยความงุนงงอย่างยิ่งยวด
หากแต่เพียงครู่ปากสีแดงชาดค่อยๆ แสยะยิ้มเหยียดพร้อมเสียงหัวเราะดังกระหึ่มออกมาโดยพลัน
“สวรรค์ช่างเป็นใจให้แก่ข้าเสียนี่กระไร จู่ๆ ศัตรูของข้ากับพบจุดจบของตัวเองได้อย่างง่ายดายอะไรเช่นนี้โดยมิได้เสียเวลาออกแรงแม้แต่น้อย ในที่สุดโหย่วเอ๋อร์ของข้าก็ได้ครอบครองบัลลังก์ซีโจวนี้แต่เพียงผู้เดียว!ผู้เดียวเท่านั้น”นางปีศาจกล่าวพร้อมแผดเสียงหัวเราะดังกึกก้องออกมาทันใดกับชัยชนะของนางที่ได้รับ
“ขอบใจเจ้ามากนะโจวโย่วเฉิง เป็นเพราะแผนการของเจ้าจึงทำให้ข้าไม่ต้องเหนื่อยแต่อย่างใด เพียงแค่กำจัดเจ้าผู้เดียวก็เท่ากับว่าไร้สิ้นคนขวางทางการก้าวขึ้นครองบัลลังก์ของลูกข้า เจ้าช่างอาภัพวาสนาเสียนี่กระไร เกิดมาเป็นได้แค่เพียงรัชทายาทไร้บัลลังก์เท่านั้น ยังมิทันใช้โอรสลับของอู๋ฮองเฮาเริ่มแผนการ ก็ต้องมาพบจุดจบด้วยน้ำมือของข้าไปก่อนเสียแล้ว ช่างน่าสมเพชเวทนาสิ้นดี”
นางปีศาจกล่าวด้วยความลำพอง เพราะเข้าใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเป็นฝีมือของตนทั้งสิ้น ช่างเป็นปีศาจที่หลงตัวเองยิ่งนัก นางปีศาจส่งเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอเบาๆ พลางยกแขนโบกสะบัดไปมาติดๆ กัน
ทันใดนั้นเอง
พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายโจวโยว่เฉิงค่อยๆ จมหายลงไปใต้ผืนทรายอย่างช้าๆ ผืนทรายดูดกลืนร่างของแม่ทัพผู้ลือนามจวบจนกระทั่งกลบมิดมิเหลือร่องรอยแต่อย่างใด
ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนเป็นปกติดั่งเดิมราวกับว่าไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นภายในกระโจมแม้แต่น้อย ผืนทรายเบื้องล่างราบเรียบมิเห็นรอยขุด พื้นเสมอเป็นแนวระนาบเดียวกัน ท่ามกลางความพึงพอใจของนางปีศาจที่จัดการทุกอย่างได้อย่างไร้ที่ติ
“ลาก่อนนะท่านแม่ทัพผู้กล้า นับจากนี้เป็นต้นไปฉายาแม่ทัพไร้พ่ายก็เหลือเพียงชื่อและเรื่องเล่าเป็นตำนานไว้ให้เล่าขานเท่านั้น อายุของเจ้ามันมาได้เพียงเท่านี้ ตามจริงแล้วชีวิตของเจ้าไม่ควรที่จะยืนยาวนานมาถึงขนาดนี้สมควรจะตายตามพ่อและแม่ของเจ้าไปตั้งแต่ถูกช่วงชิงราชบัลลังก์ไปเสียตั้งแต่ครานั้น ต่อให้มีผู้คนพากันค้นหาเจ้าพลิกแผ่นดินก็ไม่มีทางขุดพบซากศพของเจ้าแต่อย่างใด จงหลับใหลอยู่ใต้ผืนทรายไปเช่นนี้ตลอดกาล!!!”
นางปีศาจกล่าวพร้อมโบกมือสั่งลาพื้นตรงหน้านางก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไปจากกระโจม ท่ามกลางความเงียบงันที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ
ฉับพลันผืนทรายบริเวณที่เป็นจุดฝังร่างของแม่ทัพในตำนานที่จมอยู่ใต้ผืนทรายในขณะนั้น ปรากกฎแสงสว่างเรืองรองลุกวาววาบค่อยๆ ลามเลียพระวรกายขององค์ชายโจวโยว่เฉิง
ราวกับว่ากำลังทำหน้าที่รักษาและคุ้มครองดวงจิตแม่ทัพหนุ่มให้สถิตอยู่กับร่างที่ถูกฝังไปตลอดกาลก่อนจะเลือนหายไป บัดนี้เวลาแห่งรัตติกาลได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นจากขอบฟ้า แสงสว่างเริ่มปรากฏขึ้นไปทั่วบริเวณ
ทว่าหามีผู้ใดล่วงรู้เลยว่านับตั้งแต่นี้ต่อไปแม่ทัพไร้พ่ายไม่สามารถปรากฏกายได้อีกต่อไปแล้ว ภายใต้ผืนทรายกลางกระโจมที่ประทับกลับกลายเป็นสุสานฝังร่างอดีตรัชทายาทหนุ่มเอาไว้จนมิดชิดมิเหลือร่องรอยให้ได้สืบค้นหา มิทิ้งสิ่งใดให้คนใกล้ชิดได้ล่วงรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพระองค์
ดั่งสวรรค์กลั่นแกล้งเสียนี่กระไรไม่คาดคิดเลยว่าโรคประหลาดที่ทรงเคยมีพระอาการเมื่อครั้งยังเยาว์ชันษาจะหวนกลับคืนมาอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
และนั่นทำให้แม่ทัพไร้พ่ายชื่อกะฉ่อนต้องสิ้นชีพลงโดยที่พระองค์ก็มิทรงล่วงรู้เช่นกันว่าการหลับใหลดังกล่าวนำหายนะมาเยือนจนต้องพบกับจุดจบของพระชนม์ชีพที่ทำให้มิอาจสืบสานเจตนารมณ์อื่นใดได้อีก
ร่างของแม่ทัพลือนามนอนสงบนิ่งอยู่ใต้ผืนทรายอันร้อนระอุ ภายในกระโจมที่ประทับของพระองค์ หลงเหลือทิ้งไว้เพียงตำนานเล่าขานและบันทึก ถูกถ่ายทอดนับรุ่นสู่รุ่นนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา