บทที่ 3 เหมยลี่หลินติดสุรา
เซียวจื่อจ้านนั่งแกะส้มผลโตเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย เขานั่งพิงต้นไม้อยู่ที่ริมสระบัว บริเวณนี้ช่างเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง เขาหยิบตำราออกมาอ่านบ้างเพื่อฆ่าเวลา ส่วนใหญ่จะเป็นตำราเกี่ยวกับการแต่งกลอนบทกวี ดนตรีกวีกานท์ และศิลปะการวาดภาพ เขาเองก็พอจะมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง เซียวจื่อจ้านคนเก่าก็ความจำดีไม่น้อย เพียงเขาอ่านตำราเหล่านั้นผ่านๆ ตาก็จำได้ในคราเดียว
เซียวจื่อจ้านนั้นเก่งทั้งด้านบุ๋นและบู๊ เขาสอบจอหงวนได้อันดับที่หนึ่ง เขาได้รับพระราชทานรางวัลมากมายจากฮ่องเต้ รวมถึงเสื้อนอกผ้าไหมปักที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้สอบได้จอหงวน พร้อมทั้งมีขบวนเกียรติยศแห่จากวังหลวงไปจนถึงจวนตระกูลเซียว และยังได้ความรู้ด้านการใช้กระบี่จากผู้เป็นบิดามาอีกด้วย
มิน่าเล่าจึงจองหองอวดดีหยิ่งยโสกับภรรยาตนเช่นนี้
เซียวจื่อจ้านเบ้ปากเล็กน้อย ก็เพียงแค่ตำแหน่งจอมปลอมเท่านั้น แต่งกับองค์หญิงเสียแล้วก็เป็นเพียงขุนนางไร้อำนาจ มิอาจเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการเมืองในราชสำนักได้ ถึงต้องมาเป็นอาจารย์คอยสอนสั่งเหล่าบัณฑิตอบรมสั่งสอนให้เป็นขุนนางที่ดีรับใช้วังหลวงอย่างซื่อสัตย์เช่นนี้อย่างไรเล่า
เขาเดินกลับเข้ามาที่ตำหนักด้วยท่าทีไม่รีบไม่ร้อน เพราะเขาแต่งกับนางซึ่งเป็นพระธิดาเพียงองค์เดียวที่ฮ่องเต้ทรงรักใคร่ เขาจึงต้องย้ายเข้ามาอยู่ในตำหนักเดียวกับนางในวังหลวง
หลังจากตรวจดูการใช้ชีวิตของร่างเดิมจนแน่ใจแล้ว เขาจึงได้รู้ว่า ในเจ็ดวันเซียวจื่อจ้านจะสอนเหล่าบัณฑิตเพียงห้าวันเท่านั้น และวันนี้ก็เป็นวันพักผ่อนของเขา
เขาหันไปมองเหมยลี่หลินที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้วยแววตาเป็นประกาย นางเองก็คล้ายจะรับรู้ว่าถูกเขาจ้องมอง จึงหันมาถลึงตาใส่เขา
เซียวจื่อจ้านคร้านจะใส่ใจนาง เขาเดินตรงเข้าไปในห้องครัว เพื่อทำอาหารสักสองสามอย่างให้นางได้ลองชิม
"คารวะท่านราชบุตรเขย"
นางกำนัลน้อยส่งเสียงหวานเอ่ยถาม พลางช้อนสายตาจ้องมองเขาด้วยท่าทียั่วยวน เซียวจื่อจ้านจ้องมองนางอย่างพิจารณา ก่อนจะถอนหายใจออกมา
เป็นราชบุตรเขยก็สบายอยู่แล้ว ข้าไม่อยากถูกเมียไล่ออกจากตำหนักหรอกนะ
"เตรียมของให้ข้า ข้าจะทำอาหารเสียหน่อย"
"ให้บ่าวช่วยนะเจ้าคะ"
"ข้าไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายยามที่ข้าทำอาหาร เจ้าออกไปเถิด"
"แต่ว่า"
"ไม่ออกข้าถีบนะ"
นางกำนัลน้อยนางนั้นรีบก้มหน้างุดก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก
เซียวจื่อจ้านชอบทำอาหารเป็นที่สุด ยามที่ว่างเว้นจากงานเต้นยั่วลูกค้า เขาก็จะทำอาหารกินเองเสมอ ไม่นานนักอาหารทั้งหมดก็เสร็จเรียบร้อย เขาจึงสั่งให้คนยกอาหารออกไปวางที่โต๊ะ และสั่งให้สาวใช้ไปแจ้งแก่องค์หญิงว่าอาหารมื้อค่ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เหมยลี่หลินเดินกลับเข้ามาในตำหนักอย่างไม่รีบไม่ร้อน นางถือพัดเอาไว้ในมือเพื่อพัดคลายร้อน ดวงตาคู่สวยจ้องมองเซียวจื่อจ้านที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้ด้วยสายตาเย็นชา โต๊ะรับสำรับถูกจัดเอาไว้ภายในห้องนอน อาหารมากมายถูกวางเรียงรายเต็มไปหมด
"ลี่หลินเจ้านั่งก่อนเถิด"
"มิใช่คนสนิท อย่าบังอาจมาเรียกชื่อข้าห้วนๆ เช่นนี้อีก"
หึ!!! ทีเจ้าเรียกชื่อข้าเล่าข้ามิเคยจะถือสาเจ้าเลยแม้แต่น้อย
เซียวจื่อจ้านคร้านจะหาเรื่องทะเลาะกับนาง เขาสะบัดมือไล่นางกำนัลให้ออกไปจนหมด เหมยลี่หลินขมวดคิ้วมุ่นด้วยท่าทีสงสัย
"เจ้าไล่พวกนางออกไปทำไมกัน?"
เซียวจื่อจ้านยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะขยับกายเข้าไปใกล้นางมากยิ่งขึ้น เหมยลี่หลินพยายามจะขยับหนีแต่ก็ถูกเขาใช้แขนแกร่งกักตัวนางเอาไว้
เซียวจื่อจ้านจ้องมองเหมยลี่หลินด้วยแววตาที่ล้ำลึก
"อาหารพวกนี้ข้าทำเองทั้งหมด เจ้าลองชิมสักคำเถิด"
"ข้าไม่กิน!!! ข้าไม่หิว"
"จะกินดีดีหรือจะให้ข้าเด้งให้เจ้าดูอีกครา"
"จื่อจ้าน!!! เจ้าอย่ามาทำตัวต่ำช้าเช่นนี้กับข้านะ!!!"
"ต่ำช้าที่ใดกัน?"
"หึ!!! ต่ำช้า จองหอง อวดดี!!!"
"เจ้าชมข้าเช่นนี้ข้าก็เขินอายแย่"
"จื่อจ้าน!!!"
"โอ๊ะ!!! เอวข้ามันมาอีกแล้ว อ๊าส์!!!"
เซียวจื่อจ้านขยับสะโพกหนาโยกขึ้นโยกลงอย่างช้าๆ และเน้นๆ ตรงหน้านาง จนเหมยลี่หลินใบหน้าแดงก่ำ
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!"
"แรงๆ อีกหรือ? ได้เลย!!!"
เซียวจื่อจ้านเด้งเอวให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น จนเหมยลี่หลินร่างกายแข็งเกร็ง ให้ตายสิ!!! เอวของเขามันช่าง
เอวดีเหลือเกิน!!!
"อ๊าส์!!! ข้าบอกให้หยุด!!!"
"ตรงนี้ข้าเด้งไม่ถนัดมาเด้งบนเตียงกันเถิด!!!"
เหมยลี่หลินดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยปากถามสิ่งใด เซียวจื่อจ้านก็ช้อนอุ้มร่างของนางขึ้นไปวางลงบนเตียงเสียแล้ว เขายกยิ้มมุมปากก่อนจะกระโดดขึ้นมานอนคร่อมอยู่บนกายนางอย่างถือวิสาสะ
"ออกไปนะ!!!"
"ชอบหรือไม่ โอ้!!!"
"อ๊าส์!!! คนบ้า!!!"
เซียวจื่อจ้านนอนคร่อมอยู่บนร่างของนาง เขาเท้าแขนทั้งสองข้างเพื่อกักร่างของนางเอาไว้ใต้ร่างแกร่ง สะโพกสอบก็ขยับกระเด้งขึ้นลงเป็นจังหวะอย่างถี่เร่า
เหมยลี่หลินใบหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย นางมิเคยเจอบุรุษใดหื่นกามเช่นนี้มาก่อน เกิดสิ่งใดขึ้นกับเขากันเล่า เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียแล้ว
นางรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักเขาจนกระเด็นตกเตียง เซียวจื่อจ้านหันขวับมามองนางทันที เขาพยายามข่มใจมิให้ลำแท่งเอ็นร้อนมันแข็งชูชันไปมากกว่านี้ แต่ยิ่งได้อยู่ใกล้นาง เขาเองก็คล้ายจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้
ต้องหาเวลาไปชักในที่ลับตาคนเสียแล้ว!
"จื่อจ้าน!!! เจ้าช่างกล้า!!!"
"เจ้าอย่าโกรธไปเลย ข้าเพียงแค่หยอกล้อเจ้าเล่นเท่านั้น ดื่มสุราดอกท้อนี่ก่อนเถิด เจ้าจะได้คลายโทสะลง"
เหมยลี่หลินหันขวับไปจ้องมองจอกสุรานั้นแทบจะทันที กลิ่นของมันช่างเย้ายวนใจของนางไม่น้อย
ไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้ว่านางติดสุรา และชอบดื่มมันเป็นชีวิตจิตใจหากมิได้ดื่มมือไม้ร่างกายของนางจะสั่นจนไร้เรี่ยวแรง แต่เพราะแต่งกับเซียวจื่อจ้านนางจึงต้องรักษาหน้าตาเสียหน่อย หลายวันแล้วที่นางมิได้ดื่มสุรา นางจะลงแดงตายอยู่แล้ว
"ข้ามิดื่มสุรา"
"ลองดื่มเสียหน่อย ข้าลองดื่มแล้วรสชาติดียิ่งนัก"
"ข้าบอกว่าไม่ดื่ม"
"ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะเอาไปเก็บเดี๋ยวนี้"
"เอามานี่!!!"
เหมยลี่หลินทนไม่ไหวแล้ว พิษสุราเรื้อรังมันกำลังกัดกร่อนกายนางจนแทบคลั่ง นางเดินตึงตังไปที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะยกไหสุราขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมด
เซียวจื่อจ้านจ้องมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึงไม่น้อย นางเป็นสตรีเหตุใดจึง...
สวรรค์!!!.
บอกข้าทีเถิด!!!
ข้า!!!
ข้า!!!
ข้า!!!
ข้าเจอสหายร่ำสุราแล้ว!!! นางยกกระดกจนหมดไหเชียวหรือ??? สตรีเช่นนี้ช่างจัดจ้านเร้าใจยิ่งนัก
เหมยลี่หลินรู้สึกดีไม่น้อย ราวกับนางกำลังล่องลอยอยู่บนสวรรค์ ดั่งมีสายฝนฉ่ำเย็นมาชโลมใจนาง มือไม้เริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
เซียวจื่อจ้านยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
เขาจะชวนนางดื่มทุกวันจนนางเมาแล้วก็...หึหึ
เหมยลี่หลินจ้องมองเซียวจื่อจ้านด้วยแววตาที่ไม่พอใจ หึ! ในเมื่อเขาเห็นเช่นนี้แล้วก็มิจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ใดใดอีก
"ข้าติดสุรา หากเจ้ามิพอใจก็หย่าไปเสีย!"
"ข้าไม่หย่า ข้าชอบสตรีที่ติดสุรา ต่อให้เจ้าลงแดงนอนชักดิ้นชักงอ ข้าก็จะหาเหล้ามากรอกใส่ปากเจ้าเอง"
"จื่อจ้าน!!!"
"มีอีกเยอะเลย เจ้าสนใจหรือไม่?"
เหมยลี่หลินแววตาเป็นประกายก่อนจะหันไปมองเขา
"จริงหรือ?"
"แน่นอน"
"ไปนำมาให้ข้า โอ๊ะ!!!"
เหมยลี่หลินกำลังจะหันหลังเดินกลับไปรอที่เตียง แต่ทว่านางไม่ทันระวังจึงลื่นล้ม ดีที่เซียวจื่อจ้านรีบคว้าร่างของนางเอาไว้ได้ทัน เหมยลี่หลินโผเข้าไปซบที่แผงอกของเขา ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเขาเล็กน้อย
ทั้งสองสบสายตากันและกัน เป็นเซียวจื่อจ้านที่จู่โจมก่อนอย่างไม่รอช้า เขารีบโน้มใบหน้าลงไปทาบทับริมฝีปากตนเองลงบนริมฝีปากบางสวยของนาง พร้อมกับสอดแทรกลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากของนางอย่างหื่นกระหาย
"อื้ออ!!!"
เหมยลี่หลินผลักเขาออก ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาจนเต็มแรง
"ชั่วช้ายิ่งนัก!!! ออกไปเสีย"
เซียวจื่อจ้านยกมือลูบใบหน้าของตนเล็กน้อย ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องตำรา เขาปิดล็อกประตูด้วยความแน่นหนา ก่อนจะถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนออกจนหมด ฝ่ามือหนาใหญ่กอบกุมลำแท่งเอ็นร้อนรูดชักขึ้นลงอย่างถี่ระรัว
"ซี้ดดดดด!!!"
เขาทนมานานแล้ว ดีที่นางไล่เขาออกมามิเช่นนั้นเขาคงต้องควักมันออกมาชักให้นางดูเป็นแน่
เขาสาวลำแท่งเอ็นร้อนรูดขึ้นรูดลงอย่างถี่เร่าอีกครั้ง ไม่นานนักมวลน้ำกามสีขาวขุ่นก็ไหลล้นทะลักออกมาจากลำแท่งเอ็นร้อนของเขา เซียวจื่อจ้านแอ่นสะโพกขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อให้น้ำกามของตนพุ่งสูงขึ้นไปด้านบน เขาชอบทำเช่นนี้เป็นประจำ เวลาที่เห็นสายน้ำรักลอยขึ้นไปบนอากาศ มันช่างสวยงามราวกับภาพวาดน้ำพุบนสวรรค์ก็มิปาน
เขาหายใจเหนื่อยหอบเล็กน้อย ก่อนจะจัดการสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
เอาเถิด! ต้องไปง้อนางเสียหน่อย
เขาเดินตรงกลับไปที่ตำหนักของนางอีกครั้ง นางกำนัลที่ได้เห็นเขาจึงรีบเอ่ยทักท้วงทันที
"ท่านราชบุตรเขย องค์หญิงสั่งห้ามผู้ใดเข้าไปรบกวนเจ้าค่ะ"
"ข้าเป็นสามีนาง ถอยไป"
"แต่ว่า"
"ข้าบอกให้ถอย"
นางกำนัลน้อยจำต้องยอมทำตามด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน เซียวจื่อจ้านรีบเปิดประตูห้องเข้าไปทันที
"ข้าบอกว่าห้ามใครรบกวน!!!"
เซียวจื่อจ้านปิดประตูลงกลอนก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหานาง เป็นจังหวะที่นางเองก็หันมามองเขาเช่นกัน
"จื่อจ้าน!!!"
"เจ้า!!!"
เซียวจื่อจ้านจ้องมองเหมยลี่หลินที่กำลังนั่งอ้าขากว้างๆ และสอดนิ้วเรียวนิ้วหนึ่งเข้าไปในรูสวยของนางเองและขยับนิ้วนั้นเข้าออกที่รูสวาทสีแดงสดอย่างช้าๆ
"อ๊าส์!!!"
"หยุดร้อง!!!"
"อ๊าส์!!! อ๊อก!!!"
เซียวจื่อจ้านเกรงว่านางกำนัลจะตกใจแตกตื่น เขารีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และควักลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่ยัดเข้าไปในโพรงปากสวยของนางทันที
"อื้อออ!!!"
"อมไว้ อันนี้อร่อยกว่าสุราเสียอีก!!!"