ช่วย

1785 Words
“ไม่คิดจะมาช่วยกันเลยหรือไง” เนื้อทองตะโกนฝ่าสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาจากฟ้าไปหาคนที่ยืนมองเธออยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของรั้วลวดหนาม เมื่อเธอนั้นเริ่มมีสติมากขึ้นและเก็บความเจ็บปวดเอาไว้ภายในไม่แสดงออกมาเหมือนก่อนหน้านี้ที่เพิ่งจะตกลงมา และที่ต้องขอให้เขาเข้ามาช่วยก็เพราะไม่อาจลุกขึ้นเองได้เหมือนกับว่าขาของเธอนั้นจะหักไปแล้ว เธอไม่อยากต้องนอนตากฝนตายอยู่ตรงนี้ก็ต้องจำใจขอความช่วยเหลือจากเขาที่ก่อนหน้านี้เพิ่งจะวิ่งหนีเขามา “ลงไปเองก็ขึ้นมาเองซิ” ชายหนุ่มยืนมองเธอจากฝั่งตรงข้ามด้วยความสะใจอยู่ไม่น้อยที่คนอวดดีอย่างเธอเจอดีเข้าให้แล้ว ถ้าเธอยอมทำตามที่เขาสั่งตั้งแต่แรกคงไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรแบบนี้หรอก เธอทำตัวเธอเอง “ใจดำ” หญิงสาวพ่นคำพูดไม่น่าฟังออกมาจากปากของเธอเมื่อเขานั้นยังไม่ยอมมาช่วยเธอ ร่างกายของเธอเริ่มจะจมน้ำที่ไหลลงมาในหลุมอยู่แล้ว ยังยืนมองเฉยๆอยู่ได้ อยากให้เธอจมน้ำตายไปก่อนหรือไงก็ไม่รู้ถึงจะคิดข้ามรั้วบ้าบอนั้นมาช่วยเธอขึ้นไป ให้ตายเหอะทำไมเธอต้องมามีพ่อเลี้ยงใจร้ายใจดำผิดมนุษย์มนาแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ “เสียงใครนะ” ระหว่างที่พ่อและลูกกำลังสนทนากันด้วยวาจาที่ไม่ค่อยจะน่าฟังนักก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เป็นเสียงของผู้ชายที่ดูจะมีอายุแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมาราวกับรอดูว่าจะมีใครตอบกลับเสียงของเขาไหม “พ่อเลี้ยงกมล” เนื้อทองถึงกับพูดกับตัวเองออกมาเมื่อได้ยินเสียงปริศนาที่คุ้นๆหูนั้น ถ้าเธอจำไม่ผิดเสียงนั้นต้องเป็นเสียงของพ่อเลี้ยงกมลที่เธออยากเจออยู่แน่ๆ “ถามว่าใคร” เสียงปริศนายังคงถามซ้ำในคำถามเดิมและยังไม่ยอมปรากฏตัวให้ใครได้เห็น ยังคงหลบซ่อนอยู่ในป่ากล้วยที่มีแต่ต้นกล้วยหอมพันธุ์ดีถูกปลูกอย่างหนาแน่นนั้น “ครีมเองค่ะ” เนื้อทองรีบแนะนำตัวออกไปเพื่อไม่ให้โอกาสที่เธอจะขอความช่วยเหลือจากพ่อเลี้ยงกลมหลุดมือไป พร้อมกับหันกลับมามองคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเยาะเย้ยที่เธอจะไม่ต้องง้อให้เขามาช่วยแล้ว มีคนพร้อมที่จะช่วยเธอโดยไม่ต้องขอร้องกำลังเดินเข้ามาหาเธอแล้ว “หนูครีมมาทำอะไรแถวนี้ แล้วนั้นเป็นอะไรทำไมลงไปนอนแบบนั้น” กมลปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปืนลูกซองยาวคู่ใจ สองเท้าก้าวอย่างเชื่องช้า สองสายตามองดูไปรอบๆเพื่อว่านี้คืนกลลวง แล้วเมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างปลอดภัยเขาก็รีบเดินเข้าไปดูเด็กสาวที่เขานั้นรู้จักดีใกล้ๆ เขาไม่ได้เจอเธอนานมากแล้ว สองปีเห็นจะได้ เธอดูโตเป็นสาวสวยขึ้นมากเหมือนแม่ของเธอ แต่วันนี้ที่กลับมามีโอกาสได้เจอเธอ เธออยู่ในท่าทีไม่ค่อยดีนักจนเขาต้องรีบเอ่ยถามออกมา “ช่วยหนูด้วยค่ะพ่อเลี้ยง” เนื้อทองรีบขอความช่วยเหลือในทันทีเพื่อไม่ให้เธอนั้นต้องกลับไปกับพ่อเลี้ยงแสนใจดำของเธอ “ลุกขึ้นซิ” ปรินทร์กระโดดข้ามรั้วลวดหนามมาด้วยความรวดเร็วเมื่อเนื้อทองกำลังหาทางหนีไปอีกครั้ง เขาเข้าไปรั้งต้นแขนเล็กๆของเธอขึ้นและบังคับให้เธอยืนขึ้นต่อหน้ากมล “โอ๊ย เบาๆหน่อยซิ” ร่างบางลุกขึ้นในทันทีตามแรงกระชากนั้น แต่นั่นไม่ใช่เรียกว่าการลุกขึ้นเองแต่เรียกว่าปลิวตามแรงลมขึ้นไปยืนจะดีกว่า เพราะเขาที่มีแรงมากมายมหาศาลอย่างกับแรงควายกระชากเธอเต็มแรงมาก เธอที่ร่างกายเล็กนิดเดียวราวกับเด็กที่ไม่โตจะเอาแรงที่ไหนไปต้านไหว ไม่ปลิวกระเด็นหายไปในป่ากล้วยก็บุญแล้ว “คุณหนึ่งพาลูกสาวไปขึ้นรถผมก่อนเถอะครับ จอดอยู่ใกล้แค่นี้เอง เดี๋ยวผมไปส่งกลับไร่ครับ” กมลเห็นว่าเด็กสาวดูจะบาดเจ็บหนักพอสมควรเพราะเห็นยกขาข้างหนึ่งเอาไว้ตลอด ก็แสดงความมีใจออกมาเพราะว่าเขาก็เอ็นดูเด็กสาวอย่างเนื้อทองไม่น้อยไปกว่าเอ็นดูลูกสาวของตัวเอง แต่กับปรินทร์ไม่ใช่แบบนั้น แต่ก็ไม่ถึงขั้นเจอกันแล้วต้องเข้าต่อยหน้ากัน ยังพอทำใจนั่งร่วมไปในรถคันเดียวกันได้ถึงจะไม่ชอบหน้ากันอยู่ก็ตาม “ไปซิ” เนื้อทองหันมาสั่งคนที่ประคองเธออยู่ให้เดินตามพ่อเลี้ยงกมลไปก่อนที่ฝนจะตกหนักไปกว่านี้ เพราะเธอเริ่มรู้สึกหนาวเหมือนจะสู้กับสายฝนไม่ไหวแล้ว และตรงขาก็รู้สึกปวดมากเหมือนมันจะหักเข้าจริงๆแล้ว “อย่ามาสั่ง” ปรินทร์ที่เกลียดการถูกสั่งเป็นที่สุดตะคอกเด็กสาวกลับอย่างไม่มียอมง่ายๆ เธอเป็นใครเขาเป็นใครกล้าดียังไงมาสั่งคนอย่างเขา มันจะมากไปแล้วนะเด็กคนนี้ “ถ้าเดินกลับไปก็ดูโง่เต็มทนอ่ะนะ” เห็นท่าทีว่าเขากำลังจะปล่อยแขนของเธอออกเด็กสาวที่ฝีปากกล้าอย่างเนื้อทองก็ใช้ข้อดีข้อนี้เข้าช่วย เธอจะให้เขากลับไปก่อนไม่ได้เด็กขาดเพราะเธอไม่มีปัญญาเดินไปขึ้นรถของพ่อเลี้ยงกมลเองได้ และพ่อเลี้ยงกมลก็ออกเดินนำหน้าไปไกลมากแล้ว จะเรียกหาก็คงไม่มีทางจะได้ยินเพราะเสียงฝนที่ตกลงมามันกำลังดัง “เธอว่าฉันเหรอ” สายตาคมของปรินทร์ก้มลงมองเด็กสาวที่เขายังคงใช้มือหนาจับแขนของเธออยู่อย่างดุดัน เขากำลังจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้นๆเมื่อเธอนั้นยังไม่หยุดความกล้าของฝีปากลง ความอดทนของเขามันกำลังจะหมดลง เธอกำลังจะต้องกลายเป็นศพให้กับความโมโหของเขาตรงนี้ “ถ้าตีกันตรงนี้ เกรงว่าจะขายขี้หน้าไม่ใช่น้อยนะ” เนื้อทองจ้องหน้าเขากลับด้วยสายตาอันแข็งกระด้างไร้ซึ่งความอ่อนหวานใดๆที่เด็กสาวอย่างเธอควรมี เธอไม่กลัวถ้าเขาจะฆ่าเธอหมกป่าตรงนี้ เพราะยังไงเขาก็หนีการติดคุกไปไม่ได้ ปรินทร์ฉุกคิดขึ้นมาได้เล็กน้อยเมื่อเขากำลังจะเผลอทำในสิ่งที่น่าอับอายต่อหน้ากมลคู่ปรับตลอดกาลของเขา ทำให้เขาต้องหันกลับไปช่วยเด็กสาวที่ใครๆก็รู้จักเธอในนามลูกเลี้ยงของเขา “ขี่หลังไปเท่านั้น ถ้าอุ้มฉันไม่ไป” เนื้อทองกลับมามีโอกาสอีกครั้ง เธอก็เริ่มเป็นฝ่ายเลือกอีก เพราะไม่อยากให้เขานั้นทำตามใจตัวเอง แต่ให้ทำตามใจเธอเท่านั้น “อย่ามามากเรื่องนะ” ชายหนุ่มถึงกับต้องไล่คว้าเอาร่างบางที่ยืนเองแทบไม่อยู่เพื่อที่จะได้อุ้มขึ้นมา แล้วจะได้พาเดินไปขึ้นรถเสียที “พ่อเลี้ยงกมลกำลังจะหันกลับมาถามแล้ว คุณจะตอบว่ายังไงดีล่ะ” เด็กสาวกลับไม่ยอมขยับหนีจนล้มลงไปกองที่เดิม พร้อมกับเอาพ่อเลี้ยงกมลที่กำลังหันหน้ามามองมาอ้าง เธออยากจะรู้นักว่าคนอย่างเขาจะตอบคำถามยังไงเมื่อไม่สามารถช่วยเธอที่เป็นลูกเลี้ยงของเขาด้วยตัวเองได้ “รีบขึ้นมาเร็วๆ” ชายหนุ่มถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างดังทะลุฝ่าสายฝนออกไป ก่อนจะหันหลังให้กับเด็กสาวแล้วย่อตัวลง จำใจให้เด็กสาวจอมปากมากขึ้นมาขี่หลังตามที่ขอทั้งที่ไม่เต็มใจเลยสักนิดเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใกล้มาขี่เขาแบบนี้มาก่อน “เดินดีๆหน่อยซิ และก็เร็วอีกหน่อยได้ไหมฝนลงเม็ดหนามากแล้วนะ” เมื่อได้ดั่งใจที่ต้องการ เนื้อทองก็แอบยิ้มอย่างดีใจท่ามกลางความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาหา แต่ก็ยังมิวายแกล้งเขาต่อ เพราะเธอกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบเป็นอย่างมาก ปรินทร์เงียบมาตลอดทางจนกระทั่งเดินมาถึงรถกระบะของกมลที่จอดรออยู่ เขาส่งเด็กสาวขึ้นรถไปก่อนเพราะเธออยู่บนหลังของเขา “โอ๊ย” ศีรษะของเนื้อทองโขกเข้ากับประตูรถอย่างจังเหมือนคนส่งขึ้นรถจะจงใจให้เธอเพราะเขาเบี่ยงตัวไปทางนั้นมาก ความเจ็บทำเอาเธอร้องเสียงดังลั่นอย่างไม่อาย และยกมือขึ้นจับศีรษะในทันทีเพื่อนวดบรรเทาความเจ็บ สายตาหวานๆจ้องมองเขาที่ยังคงยืนอยู่นอกรถอย่างโกรธแค้นเพราะรู้ว่าเขานั้นตั้งใจทำให้ศีรษะของเธอโขกไปกับประตูรถเต็มแรงอย่างนั้น “หึๆ” ปรินทร์กลั้วหัวเราะในลำคออย่างนึกชอบใจที่ได้เอาคืนคนปากดีอย่างเธอ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถอีกคนเพื่อจะได้กลับไปยังบ้านไร่สักทีหลังจากเสียเวลาไปมากกับเรื่องไม่ใช่เรื่องอีกแล้ว “ฝากไว้ก่อนเหอะ” เด็กสาวหันมาคาดโทษเขาอย่างไม่กลัวพร้อมกับกำหมัดแน่นด้วยความแค้นฝังใจ เธอเป็นเด็กตัวแค่นี้แล้วดูเขาทำกับเธอมันรุนแรงเกินกว่าจะรับได้ ถ้าเธอหัวแตกไปจะทำไง ความแค้นนี้จะต้องได้รับการชำระ ไม่มีวันที่เธอจะปล่อยเขาลอยนวลไปได้หรอก “ไปที่บ้านของผมก่อนนะครับ ฝนตกแบบนี้ถ้าไปไกลคงอันตรายน่าดูเลย” กมลเห็นว่าพ่อกับลูกคุยกับกะหนุงกะหนิงรักใครกันดีก่อนค่อยๆเอ่ยขัดจังหวะขึ้น เขาค่อยๆพูดไม่ทำให้คนทั้งสองตกใจ เพราะรู้ดีว่านานๆทีปรินทร์จะกลับมาหาลูกเลี้ยงของเขา “ค่ะ” คนที่ยังต้องเอาตัวรอดอยู่อย่างเนื้อทองรีบตกปากรับคำออกไป ไม่ให้เขามีโอกาสได้พูดอะไรออกมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD