Ep.2

1000 Words
ป้าหอมนวลแกมีลูกชายสองคน คนหนึ่งชื่ออำนาจ อีกคนชื่ออนิรุจน์ และยังมีลูกสาวอีกคนซึ่งเป็นเพื่อนกับน้ำมนต์เช่นกัน “เปล่าจ้ะ ไอ้นาจไม่อยู่ หนูน้ำจำพี่รุจได้ไหม” “พี่รุจเหรอ จำได้ น้ำจำพี่รุจได้ แต่ว่าน้ำไม่ได้เจอพี่รุจมาตั้งสิบปีแล้วมั้งจ๊ะ พี่รุจยังหน้าเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า” คิ้วเรียวของคนที่ไม่แน่ใจว่าจะจำผู้ชายใจดีที่เคยซื้อลูกอมให้เธอกินตอนเด็กๆบ่อยๆ ย่นเข้าหากันเป็นปม จนคนมองยิ้มขำ “พี่รุจก็เปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ แต่ป้าคิดว่าหนูน่าจะยังจำพี่เขาได้อยู่ ป้าฝากหน่อยนะ ตอนนี้แกอยูที่บ้านนั่นแหละ เห็นบ่นอยากจะกินแกงหน่อไม้ใส่ชะอมตั้งแต่กลับมาบ้านเมื่อวาน ถ้าหนูมีเวลาก็แกงให้พี่รุจกินได้เลยนะ ป้าจะขอบใจมาก” “งั้น น้ำจะเอาของนี่ไปส่งให้พี่รุจนะจ๊ะ แต่... น้ำไม่แน่ใจนะจ๊ะว่าจะแกงให้พี่รุจด้วยหรือเปล่า น้ำว่าจะไปเยี่ยมป้านุชเสียหน่อยจ้ะ” “แล้วแต่น้ำนะ นี่จ้ะ ไม่ต้องทอนนะ ป้าให้” น้ำมนต์ยกมือไหว้ขอบคุณผู้อาวุโสแสนใจดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ป้าหอมนวลให้ทิปเธอ แต่ป้าแกให้ทุกครั้งที่มาซื้อผักผลไม้กับเธอ “ขอบคุณมากจ้ะป้านวล” ป้าหอมนวลยิ้มให้เด็กสาว นางเองก็อยากได้น้ำมนต์มาเป็นลูกสะใภ้เช่นกัน หลังจากน้ำมนต์เก็บของใส่ตะกร้าแล้ว ก็หิ้วตะกร้าไปทางบ้านของป้าหอมนวลซึ่งจะต้องเดินผ่านบ้านคนอื่นๆ ไปประมาณสิบหลังและผ่านทุ่งนาไป น้ำมนต์ได้ข่าวมาเหมือนกัน ว่าลูกชายของป้าหอมนวลกลับมาบ้านแล้ว แต่คิดว่าเป็นอำนาจที่ไปทำงานเมืองกรุงฯเช่นกัน ไม่คิดว่าจะเป็นลูกชายคนโตของป้าแก ซึ่งไม่ได้ข่าวมานานมาก ไม่รู้ว่าแกไปทำงานที่ไหน ทำงานอะไรมา แต่อีกไม่กี่นาทีแหละคงได้เห็นหน้าและถามไถ่กัน ‘รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ’ น้ำมนต์ก้มมองการแต่งตัวมอซอของตัวเองแล้วต้องถอนหายใจ มันห่างไกลจากคำว่าสวยงามมากจริงๆ เสื้อแขนยาวสีกรมท่าเก่าๆขาดๆที่ยืมยายมาใส่ กับกางเกงยีนเก๋ากึ๊กที่ญาติห่างๆให้มา เสื้อยืนสีหม่นข้างในก็เป็นของลูกสาวยายที่ไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว คือทุกอย่างที่สวมอยู่บนร่างกาย มีเพียงชุดชั้นในเท่านั้นที่เป็นสมบัติที่เธอซื้อเองจริงๆ เธอแต่งตัวมอมแมมแบบนี้ทุกวัน แล้วผู้ชายคนไหนจะมาแล ก็เพิ่งจะได้ยินป้าสงวนบอกเมื่อกี้นี้แหละว่าทศพลบอกว่าเธอน่ารัก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเธอสวยนี่นา ตุ๊บ! “ว้าย!” ร่างเล็กที่เดินใจลอย ลอยหวือล้มลง ล้มทั้งคนล้มทั้งตะกร้าที่หิ้วมา ‘ใครนะเดินไม่ดูทาง ชนเธอจนล้ม ข้าวของกระจัดกระจายหมดแล้วเนี่ย ดีนะที่ผักไม่ตกออกจากตะกร้าจนหมด ตกแค่ผักตำลึงมัดหนึ่ง ที่เหลือยังอยู่ในตะกร้า’ หมับ! มือที่เอื้อมจะไปเก็บผักตำลึงที่ตกบนพื้นหญ้า ถูกมือของใครคนหนึ่งกุมอยู่ด้านบนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะอีกฝ่ายคงจะเอื้อมไปเก็บผักตำลึงเช่นกัน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง หมายจะบ่นว่าสักหน่อยว่าเขาเดินไม่ดูทาง แต่ก็ต้องชะงักค้าง เมื่อสบตาเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเธอไม่คุ้นหน้าเลย น่าจะบอกว่าไม่เคยรู้จักมากกว่า แต่ว่าเขา ‘หล่อมากกกกกกก...’ เป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอใจเต้นแรงแบบนี้ และรู้สึกหน้าร้อนซู่ขึ้นมาเมื่อเขาส่งยิ้มมาให้ “ขอโทษนะครับที่ผมเดินไม่ระวัง ข้าวของคุณเสียหายหมดเลย” ตึก...ตึก...ตึก! หัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย “คือ เอ่อ... มะ... ไม่เป็นไรค่ะ” “ให้ผมไถ่โทษด้วยการหิ้วตะกร้านี่ไปส่งนะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันหิ้วเองได้ ไม่หนักอะไร” “อย่าดื้อสิครับ มะ...ผมช่วยหิ้วเอง” “ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้ดื้อนะคะ แต่ฉันหิ้วเองได้” เธอแย่งตะกร้ามาจากมือชายหนุ่ม ขณะที่เขาก็แย่งคืนไป “นี่หรือครับที่ว่าไม่ดื้อ ผมหิ้วให้เอง” “ไม่ดีกว่าค่ะ คนอื่นเห็นจะไม่ดี เอาตะกร้ามาให้ฉันเถอะค่ะ” ‘ใครที่ไหนก็ไม่รู้ ถึงแม้จะหล่อลากไส้ขนาดไหน เธอก็ไม่ไว้ใจหรอก ถ้าเจอพวกที่หลอกลวงสาวๆไปขายเธอจะทำยังไง’ แววตาดื้อรั้นที่หญิงสาวส่งมาให้ ว่าเธอจะหิ้วตะกร้าเองให้ได้ ทำให้ชายหนุ่มต้องส่ายหน้า แต่ก็ยิ้มให้เธอ ยอมคืนตะกร้าให้ หญิงสาวเอาตำลึงวางลงในตะกร้าแล้วหิ้วคล้องไหล่บางตามเดิม ก่อนจะเดินไปยังบ้านของป้าหอมนวล ทว่าพอหันหลังกลับก็พบว่าคนที่เดินชนเธอเมื่อครู่ยังตามเธอมาอยู่ หญิงสาวจึงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น พอถึงประตูหน้าบ้านของป้าหอมนวลก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านเลย ปลั๊ก! “อุ๊บ!” ร่างเล็กชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของเจ้าของบ้านอย่างจัง แล้วตะกร้าก็หล่นตุ้บลงข้างตัว หญิงสาวรีบพยุงตัวในอ้อมแขนของใครบางคนอย่างไว ด้วยความเกรงใจ “เขาะ...ขอ...โทษ ค่ะ...” น้ำมนต์เกิดอาการอ้าปากค้างอีกครั้ง เมื่อพบกับผู้ชายหล่อๆอีกคนในเวลาไล่ๆกัน ‘ทำมันนี้เธอถึงเดินชนแต่คนหล่อๆ ตะ...แต่ว่าคนนี้หน้าคุ้นๆแฮะ’ “ใช่น้ำมนต์หรือเปล่าจ๊ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD