EP.7

1064 Words
เช้าตรู่วันต่อมา          น้ำมนต์ก็ตื่นแต่เช้ามาขุดหน่อไม้ที่ริมตลิ่ง ตั้งใจจะเอามาแกงใส่ผักชะอมที่ปลูกอยู่ริมรั้วกินกันเช้านี้ นี่แหละอาหารของคนจนๆอย่างเธอ กินแกงหน่อไม้ แกงผัก แกงปลาหมุนเวียนกันไปแบบนี้แหละ เคยกินอยู่กันมาอย่างไร ก็อยู่ต่อไปแบบนั้น “เฮ่ เบบี๋”          เสียงคุ้นๆนั้นมาอีกแล้ว จากทางก่อไผ่ฝั่งตรงข้ามนั่นแหละ หญิงสาวที่กำลังตั้งใจขุดหน่อไม้เงยหน้าขึ้นมองหน้าชายหนุ่ม แล้วยิ้มแห้งๆให้เขา          แบเรียลเดินข้ามฝั่งมาหา รู้ว่าเขาจะต้องถามเธอว่าอะไร ไม่ถามเรื่องการขายแหวน ก็ต้องถามเรื่องการเลือกเจ้าบ่าวของเธอ          “พรุ่งนี้ไปเที่ยวกับผมไหม”          ‘อ้าว ผิดคาด เขาไม่ได้ถามทั้งสองเรื่องเลย’          “คุณ ชวนฉันไปเที่ยวกับคุณเหรอคะ”          ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ          “ใช่ครับ ถูกต้องแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องเดินทางแล้ว”          “ไปไหนคะ” หญิงสาวหรี่ตาถาม ด้วยความอยากรู้          “อยุธยา ผมอยากไปชมวัดสวยๆ”          “อ้อ”          “ไปเที่ยวด้วยกันไหม” แบเรียลถามย้ำ          “ไม่ค่ะ ฉันต้องทำงาน”          “ทำงานหาเงินใช่ไหม”          “ก็ต้องใช่สิคะ คุณก็ถามแปลก”          “ถ้าอย่างนั้น ผมจ้างคุณไปเที่ยวกับผมวันละแสน สี่วันเท่านั้น ตกลงไหมครับ”          น้ำมนต์ได้ฟังเงื่อนไขของเขาแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อ เขาจ้างเธอไปเที่ยวด้วยเนี่ยนะ แค่จ้างไปเที่ยวด้วย ตั้งวันละแสนเชียวเหรอ บ้าหรือเปล่า เขาสติดีไหมเนี่ย หรือเขารวยมากจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรดี เลยเอามาฟาดหัวคนจนเล่นๆเป็นงานอดิเรก          “อย่ามองผมแบบนั้นสิครับ ผมแค่อยากไปเที่ยวกับคนน่ารักอย่างคุณเท่านั้น แค่เที่ยวจริงๆ”          ทว่าแววตาของสาวน้อยก็ยังมีแววฉงนสนเท่ห์อยู่ดี          ไม่แปลกหรอกที่หล่อนจะรู้สึกแบบนั้นกับเขา          แต่มันแปลกที่เขารู้สึกเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าคนนี้มากต่างหาก ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก และแค่ได้ยินเรื่องของเธอผ่านคนรู้จัก มันก็ทำให้เขานึกอยากจะช่วยเหลือเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา          ...นึกอยากจะเป็นเจ้าบ่าวที่เธอเลือกเสียเอง...          แบเรียลยิ้มขำกับความคิดของตนเองในตอนนี้ ลองถามหยั่งเชิงดูดีไหมนะ ว่าถ้าเขาเป็นผู้ชายคนที่สี่ที่จะเสนอตัวให้เธอเลือก เธอจะสนใจไหม          “ถ้าฉันตกลง ฉันพาเพื่อนไปด้วยอีกคนได้ไหม”          “ได้สิ” ชายหนุ่มรีบตอบตกลงทันที          “แต่แค่เที่ยวจริงๆนะ ไม่ได้พาไปทำอย่างอื่นนะ”          แม้จะฟังภาษาไทยไม่ออกทุกคำ แต่ก็พอเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูด ก็ดูจากสีหน้าแววตาใสๆของหล่อนแล้ว มันเดาความในใจของหล่อนได้ไม่ยากหรอก เพราะความรู้สึกของหล่อนมันแสดงออกมาทางแววตาทั้งหมดเลย ก็หล่อนดูใสซื่ออย่างกับน้ำในคลองนี้ที่มองผ่านก็เห็นกุ้งหอยปูปลาอยู่ข้างใต้นั้น          “แค่เที่ยวจริงๆครับ” เขาย้ำชัดๆ          “แต่ฉันต้องขออนุญาตตากับยายก่อน ถ้าตากับยายไม่ให้ไป ฉันก็คงไปเที่ยวไม่ได้หรอก”          “แสดงว่าไม่เคยหนีเที่ยว”          “เคยค่ะ”          “ลองหนีเที่ยวสักครั้งสิครับ ไปกับเพื่อนของคุณ คิดว่าทำเพื่อคนที่คุณรัก”          “เฮ่อ...” หญิงสาวถอนหายใจแล้วทำท่าครุ่นคิด          ‘ชวนพริ้มไปด้วย แล้วให้พริ้มช่วยพูด ตากับยายน่าจะอนุญาต’          “อืม งั้นฉันขอไปปรึกษาเพื่อนก่อนนะคะ”          “ได้สิครับ แต่ผมขอคำตอบภายในเย็นนี้นะครับ หกโมงเย็น ผมจะมารอฟังคำตอบ ที่นี่”          “ได้ค่ะ”          “ว่าแต่ คุณเลือกแล้วใช่ไหม ว่าจะแต่งงานกับใคร”          หญิงสาวส่ายหน้า และตัดสินใจบอกความจริงออกไป          “ถ้าเย็นนี้ฉันตกลงไปเที่ยวกับคุณ แปลว่าฉันไม่ได้เลือกใคร แค่ต้องการเงินไปใช้หนี้ท่านั้น”          ‘อ้อ เขาเข้าใจแล้ว แต่ว่า’          “แล้วคุณไม่ได้เอาแหวนไปขาย เอาเงินมาใช้หนี้เหรอครับ”          “ขายค่ะ แต่เงินถูกโจรวิ่งราว คือถูกขโมยไปหมดเลย” แบเรียลยังทำหน้าสงสัย          “คือมันนี่ หายไป มีใครบางคนฉกไปจากระเป๋าของฉันค่ะ” เธอพยายามอธิบายบวกกับภาษามือให้ชายหนุ่มเข้าใจ          “อ้อ ผมเข้าใจแล้ว น่าเสียดายนะครับ”          ‘มิน่าเล่า หล่อนถึงยังดูหน้าหมองเศร้านัก เพราะแบบนี้นี่เอง’          “บางที ฉันอาจจะต้องเลือกใครสักคนเป็นสามี”          “ทำเพื่อตากับยายเหรอ”          “ค่ะ”          “ถ้าอย่างนั้น ไปเที่ยวกับผมดีกว่านะ ไม่ต้องเลือกใครสักคน ผมไว้ใจได้นะ สาบานได้ ว่าผมไม่พาคุณไปขาย ไปข่มขืน หรือไปทำอะไรไม่ดีแน่นอน ผมมาดีนะ และผมรู้สึกเห็นใจคุณ ผมอยากช่วยคุณจริงๆ”          น้ำมนต์ยิ้ม ในการพยายามอธิบายยาวๆ ด้วยภาษาแปร่งๆของเขา เพื่อให้เธอเข้าใจ และมันแปลกที่เธอนึกเชื่อคำพูดของผู้ชายฝรั่งแปลกหน้าคนนี้ เพราะว่าเขาหล่องั้นหรือ ไม่หรอก ความรู้สึกมันบอกว่า เขาน่าจะไว้ใจได้จริงๆ          “เดี๋ยว ตอนเย็น ฉันจะมาให้คำตอบค่ะ ที่นี่หกโมงเย็น” เธอคงขายของหมดพอดี          “แล้วช่วงกลางวัน คุณจะไปไหนเหรอ” “ทำงานค่ะ”          “งานอะไร” ชายหนุ่มมีสีหน้างงๆ          “วันนี้ว่าจะไปหักข้าวโพดมาขายค่ะ ตากับยายบอกว่า ข้าวโพดบางแปลงหักได้แล้ว”          “ข้าวโพด” ชายหนุ่มทวนคำสีหน้างงๆ          “Corn ค่ะ หักมาเซล” แล้วทำท่าหักให้ชายหนุ่มดู          “อ้อ ผมเข้าใจแล้ว น่าสนใจนะ ผมไปช่วยหักข้าวโพดไหม”          “ฮ่ะ! คุณว่าไงนะ ไปหักข้าวโพดช่วยฉัน” หญิงสาวตาโต ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง          “ครับ ผมพูดจริงๆ โอเคนะ เดี๋ยวผมจะไปบอกไกด์ก่อน ว่าวันนี้ผมจะไปช่วยคุณ”          “เอ่อ... คือ...” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบประโยค เจ้าของร่างสูงก็เดินข้ามคลองและเดินจ้ำอ้าวขึ้นฝั่งไปแล้ว          ‘แล้วจะบอกตากับยายว่ายังไงดีเนี่ย’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD