ตอนที่3

1484 Words
ตอนที่ 3 ซ่งไห่หยางมองตามร่างของบุตรสาวที่เขารักมากไปด้วยสายตายากจะอ่านความหมายมีแค่เพียงตนเองเท่านั้นที่ทราบว่าตนเองคิดสิ่งใดอยู่ เมื่อครู่กู้กงกงแอบกระซิบกับเขาว่าชุดเจ้าสาวนี้ค้นพบที่ท้ายตำหนักของไฉ่หนิงกงจู่เพียงเท่านี้บิดาเช่นเขาก็กระจ่างทันทีถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในวันนี้ กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำแต่เพราะซ่งไฉ่หนิงเป็นดังแก้วตาของเขาจะให้ลงโทษนางเขายอมที่จะตัดเนื้อของตนเองทิ้งยังจะดีเสียกว่าดังนั้นเรื่องราวในวันนี้เขาจึงยอมเป็นฮ่องเต้ทรราชประหารคนบริสุทธิ์เพื่อปกป้องซ่งไฉ่หนิงแต่ดูแล้วเจ้าลูกตัวแสบคนนี้กลับไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เขาทำเพื่อนางเลย "หาแพะรับบาปได้แล้วก็อย่าประหารคนพวกนั้นจริงให้เอานักโทษคดีร้ายแรงรอประหารสวมรอยแทนจากนั้นให้เงินทองคนเหล่านั้นแล้วส่งออกไปให้ไกลจากเมืองหลวงเสีย" ซ่งไห่หยางเรียกกู้กงกงมาสั่งการเป็นขั้นเป็นตอนก็ได้แต่หวังว่าทำเช่นนี้คงพอชดเชยให้กับนางกำนัลและขันทีบริสุทธิ์พวกนั้นได้อยู่บ้าง "พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท" “พรุ่งนี้เรียกฉู่อ๋องมาพบเจิ้นด้วย เจิ้นจะเลื่อนงานแต่งงานอีกแปดวันเป็นสามวันแทน ช่วงนี้ก็ส่งคนไปดูแลหนิงเอ๋อร์ให้เข้มงวดสักหน่อยอย่างให้นางก่อเรื่องได้อีก” “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” กู้กงกงที่รับใช้ฮ่องเต้มาสามสิบเจ็ดหนาวรับคำแล้วจึงเร่งออกไปจัดการแจกจ่ายงานให้กับเหล่าองครักษ์และขันทีหนุ่มภายใต้บังคับบัญชาของตนเองทันที ฝ่ายของผู้ลงมือแท้จริงเช่นหลินซีเหยาก็รู้สึกทั้งแปลกใจทั้งโมโหที่แผนของตนเองรัดกุมถึงเพียงนั้นแต่กลับมิอาจทำอันใดซ่งไฉ่หนิงได้เลย นางถึงกับเรียกหาถังน้ำเข้ามาภายในห้องส่วนตัวแล้วแช่ตัวลงไปกรีดร้องระบายความโกรธอยู่ใต้น้ำนานเป็นเค่อจึงเรียกให้สาวใช้คนสนิทให้มาพบโดยเร็ว “คนพวกนั้นเจ้ากำจัดทิ้งสิ้นซากแล้วหรือไม่” มีเพียงคนตายเท่านั้นจึงเก็บความลับอยู่ หลินซีเหยาจึงกำชับไปกับสาวใช้คนสนิทว่าเมื่องานเสร็จก็ให้กำจัดผู้ที่ไร้ประโยชน์อย่าให้เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว “เรียบร้อยเจ้าค่ะท่านหญิงเหยา” พอได้ฟังดังนั้นนางจึงยิ้มอ่อนโยนออกมาหนึ่งสายพอวันรุ่งขึ้นหลินซีเหยาก็ตรงไปขอเข้าพบ ‘กงหยวนฉี’ ฉากหน้านางนำขนมที่ตนเองทำมาให้ฉู่อ๋องที่กรมอาญาใต้แห่งต้าเหลียงเพราะตลอดมาถึงทั้งสองจะเป็นคนรักกันแต่กงหยวนฉีมักจะระมัดระวังไม่เชิญหลินซีเหยาไปยังตำหนักเพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายเสื่อมเสียชื่อเสียงดังนั้นวันนี้หญิงสาววัยสิบเจ็ดหนาวที่ตั้งใจมาบอกเล่าถึงเหตุการณ์ภายในวังหลวงที่อาภรณ์ชุดแต่งงานของเจ้าสาวถูกเผาทำลายคาดว่าจะเป็นฝีมือของซ่งไฉ่หนิงหวังใส่ความให้บุรุษที่นางรักยิ่งชิงชังรังเกียจว่าที่พระชายาซึ่งยังไม่ทันได้แต่งเข้าตำหนักโดยที่นางกลับยกเอาเรื่องขนมมาให้ชายหนุ่มได้ลองชิมขึ้นบังหน้าได้อย่างแนบเนียน “ท่านอ๋องที่ด้านนอกท่านหญิงเหยามาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังก้มต่ำอ่านม้วนเอกสารทางคดีอยู่เงยขึ้นมอง ‘เหวินจิ่ง’ ขันทีรับใช้คนสนิทด้วยสายตากังขาแต่ก็เพียงวูบเดียวเท่านั้นเพราะปกติแล้วหลินซีเหยาก็มักมาหาเขาที่กรมอาญาแทบจะทุกวันอยู่แล้ว “ไปเชิญให้นางรอเปิ่นหวางที่ศาลารับรองแขกก่อน อีกครู่เปิ่นหวางจะตามออกไป” “พ่ะย่ะค่ะ” เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเหวินจิ่งผู้เป็นขันทีรับใช้ใกล้ชิดกับ ‘ถงเปียว’ ซึ่งเป็นองครักษ์ที่คอยอารักขาฉู่อ๋องคุ้นเคยกับท่านหญิงเหยาบุตรสาวบุญธรรมของหลินฮองเฮาดียิ่ง เรียกได้ว่าหลายหนาวมานี้พวกเขาแทบจะเรียกอีกฝ่ายว่าฉู่หวางเฟยเสียแล้วด้วยซ้ำรอเพียงทั้งสองแต่งงานกันมิคาดเวลาเหลือไม่ถึงสามเดือนพิธีแต่งงานก็จะมาถึงกลับถูกนางมารไฉ่หนิงล่มลงจนไม่เหลือเช่นนี้ “ซีเหยาถวายพระพรฉู่อ๋องเพคะ” หลินซีเหยารออยู่ไม่นานกงหยวนฉีก็ออกมาพบนางเช่นทุกครั้ง หญิงสาวรีบลุกขึ้นทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างอ่อนช้อยเช่นเดิม “เหยาเอ๋อร์ไม่ต้องมากพิธีนั่งลงเถอะ “ กงหยวนฉีรีบเชิญหญิงสาวให้นั่งลง โดยที่เขานั้นเลือกจะนั่งเบาะตรงกันข้ามกับนางอย่างระมัดระวังกิริยาเพราะบัดนี้เขาไม่ใช่บุรุษที่คู่ควรกับหลินซีเหยาอีกต่อไปแล้ว “ขอบพระทัยเพคะ วันนี้ซีเหยาทำขนมกุ้ยฮวาก็คิดขึ้นมาได้ว่าพบกันครั้งก่อนท่านอ๋องบ่นอยากทานซีเหยาจึงรีบนำมาให้เพคะ” น้ำเสียงอ่อนหวาน ใบหน้าอ่อนโยน กงหยวนฉียิ่งมองอีกฝ่ายใส่ใจตนเองถึงเพียงนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองช่างไม่คู่ควรกับสตรีแสนดีตรงหน้าเพิ่มพูน “ลำบากเหยาเอ๋อร์แล้วจริง ๆ” หลินซีเหยาทำเสียงส่งยิ้มสว่างไสวราวกับแสงตะวันส่องกระทบดอกบัวขาวบริสุทธิ์ที่กลางอุทยานหลวงไปให้กับกงหยวนฉีพร้อมกับเปิดตะกร้าใส่ขนมยกจานที่บรรจุขนมดอกกุ้ยฮวาเอาไว้เต็มจานออกมาวางตรงหน้าของชายหนุ่มจากนั้นนางก็เริ่มลงมือชงน้ำชาด้วยกิริยางดงามไม่มีที่ติ “นี่ท่านเหวินกงกงรู้หรือไม่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาไฉ่หนิงกงจู่สร้างเรื่องใหญ่โตขึ้นอีกแล้ว” ชิงเหนี่ยวสาวใช้คนสนิทของหลินซีเหยาหาโอกาสเอาเรื่องไม่จริงเล่าให้กับขันทีคนสนิทของฉู่อ๋องตามแผนของผู้เป็นนายทันทีหลังจากปล่อยให้หลินซีเหยาพูดคุยจิบน้ำชาอยู่กับฉู่อ๋องและถงเปียวภายในศาลารับรองแขกของกรมอาญาเรียบร้อยแล้ว “เช่นไร?” เหวินจิ่งตกหลุมพรางของชิงเหนี่ยวทันทีเพราะภายในใจของขันทีหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดหนาวนั้นเอนเอียงมาทางหลินซีเหยามากกว่าทางด้านของซ่งไฉ่หนิงอยู่แล้วเมื่อได้ฟังว่าอีกฝ่ายสร้างเรื่องใหญ่จึงอยากทราบขึ้นมาทันที “ก็จะอันใดเสียอีกเล่า หลิงเซียงองค์หญิงนั้นเมื่อหลายวันก่อนก็ถึงกับเร่งไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อขอยกเลิกราชโองการแต่งงานกับฉู่อ๋องจนฝ่าบาทโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี ไม่พอเมื่อคืนนี้นางยังถึงกับส่งคนไปขโมยชุดเจ้าสาวของอดีตไทเฮาที่ฝ่าบาทประทานให้ไปเผาไฟจนเสียหายอีกแล้วนะสิ!” ชิงเหนี่ยวจีบปากจีบคอกลับขาวเป็นดำทันทีทั้งที่ความจริงแล้วซ่งไฉ่หนิงนั้นไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดสักสิ่งแต่เพราะอยากใส่ความให้คนในตำหนักผิงอันที่ฉู่อ๋องพักอาศัยอยู่ในเมืองหลวงนั้นชิงชังซ่งไฉ่หนิงยามใดที่อีกฝ่ายไปอยู่จะได้ยากลำบากจนทนไม่ไหวแล้วหนีกลับวังหลวงคราวนี้ผู้เป็นนายหญิงของนางก็จะได้โอกาสอีกครั้งที่จะแต่งงานกับฉู่อ๋องเสียที “จริงหรือนี่?!” เหวินจิ่งตกใจถึงกับยกมือตบหน้าอกตนเองใบหน้าก็ซีดขาวเนื่องจากไม่คิดว่าหลิงเซียงองค์หญิงนั้นจะไม่อยากแต่งงานออกมากับผู้เป็นนายของตนเองถึงเพียงนี้ “ก็จริงน่ะสิผู้ใดจะกล้าเอาเรื่องไม่จริงมาบอกเล่ากันท่านเหวินกงกงข้าก็กลัวตายเช่นกันนะ” ชิงเหนี่ยวรีบสำทับไปด้วยน้ำเสียงและสีหน้ายิ่งกว่าจริงจัง เหวินจิ่งถึงจะอายุมากกว่าสาวใช้ของหลินซีเหยาก็จริงแต่คงเพราะตนเองนั้นมีอคติกับซ่งไฉ่หนิงไปแล้วจึงคล้อยตามอีกฝ่ายไปโดยง่ายไม่คิดสงสัยอันใดอีกต่อไป และเมื่อหลินซีเหยาที่ได้รับสัญญาณจากสาวใช้ของตนเองสุมเพลิงให้ขันทีคนสนิทของฉู่อ๋องเรียบร้อยแล้วนางจึงขอตัวกลับด้วยกิริยาอ่อนหวานแววตาแสนเศร้า มองไปที่บุรุษหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดหนาวด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์แต่ก็แค่เพียงวูบเดียวก็จางหายไป กลับมาสงบเสงี่ยมสงวนท่าทีเช่นเดิม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD