บทที่6 ไบโพล่า

1092 Words
บทที่6 ไบโพล่า โยเกิร์ตเดินกลับเข้ามาในร้านไม่ทันไรเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึง ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต้องให้ปากคำจนเกือบฟ้าสางและก็เป็นไปตามคำพูดขององศาร้านของเธอถูกสั่งปิดจนกว่าคดีนี้จะสิ้นสุดลง "ป้าโบตั๋นครับ" ภูริเดินมาหาเจ้านายพร้อมด้วยน้องสาวอย่างปุยนุ่นเขามีความในใจจะบอกกับท่านและหวังว่าการตัดสินใจของเขามันจะอช่วยแบ่งเบาภาระของโยเกิร์ตกับแม่เธอบ้าง "ว่าไงลูก" "ผมกับน้องคุยกันแล้วว่าเดือนนี้เราสองคนจะไม่รับค่าแรงครับ" "ไม่ได้นะตาภูเรื่องค่าแรงยังไงป้าก็ต้องจ่ายส่วนเรื่องร้านถ้ามันถึงเวลาต้องปล่อยป้าก็ยอม" "ถึงแม่ปล่อยร้านนี้ไปก็ใช่ว่าหนี้สินเราจะไม่ต้องจ่ายนะแม่เราเอาเงินเขามาทำทุนโปะหนี้ธนาคารตั้ง 5 ล้าน" "ผมว่าผมจะไปทำงานพิเศษอีกสักที่เผื่อจะได้เงินตรงนั้นมาช่วยเหลือป้าโบตั๋นบ้าง" "พี่ภูอย่าให้ต้องถึงขั้นนั้นเลยพี่เองก็ทำงานเหนื่อยมากควรมีเวลาให้ตัวเองบ้าง" "พี่ไม่มีพ่อมีแม่ส่วนปุยนุ่นก็ดูแลตัวเองได้แล้วป้าโบตั๋นครับถ้าเกิดผมจะขอดูแลป้าโบตั๋นกับโยเกิร์ตจะได้ไหมครับ" ทุกคนที่นั่งอยู่พากันอึ้งเมื่อหนุ่มหล่อประจำร้านโบตั๋นประกาศลั่นว่าจะขอดูแลโยเกิร์ตและแม่แต่โยเกิร์ตเธอไม่ได้คิดอะไรเกินเลยมากกว่าพี่น้องเธอเห็นภูริเป็นเพียงพี่ชายที่เธอรักและเคารพเพียงเท่านั้น "เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราสองคนนั่นแหละป้าตัดสินใจไม่ได้หรอกภูริ" "โยเกิร์ตว่าโยเกิร์ตจะหาทางไปคุยกับคุณองศาก่อน คุณองศาดูท่าจะไว้ใจโยเกิร์ตมากกว่าคนอื่นโยเกิร์ตขอบคุณมากเลยนะคะพี่ภูที่พี่ยื่นมือมาช่วยโยเกิร์ตทุกครั้งโยเกิร์ตซึ้งใจจริงๆ ค่ะ" "ก็เพราะว่าพี่...." "พี่โบตั๋นเกิดเรื่องแล้วพี่!" สาวประเภทสองวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเมื่อจู่ๆ สาวสวยทั้งหลายก็พากันมาขอลาออกเพราะว่าร้านนี้ถูกปิดชั่วคราวแต่พวกเธอก็มีภาระค่าใช้จ่ายทุกวันจึงขอลาออกอย่างพร้อมเพรียงกันแม้โบตั๋นจะเสียดายแต่ก็ต้องยอมรับความจริง "เอาเถอะในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องปล่อยถ้าพวกเด็กๆ มันอยากลาออกก็ให้มันออกกันไป" โยเกิร์ตแทบร้องไห้ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังพังทลายแต่ลึกๆ เธอก็แอบรู้สึกดีใจที่อาชีพโสเภณีกำลังจะจบลง ความวุ่นวายของร้านโบตั๋นถูกรายงานให้องศาได้รู้ความดื้อดึงของสองแม่ลูกกำลังทำให้ทุกคนเดือดร้อนเมื่อสาวๆ แห่กันขอลาออกสองแม่ลูกจะทำยังไง "คุณองศาครับผมว่าเรายื่นมือเข้าไปช่วยเลยดีไหมครับ" "ปล่อยไปก่อนกูอยากรู้ว่าเด็กคนนั้นจะใจเด็ดแค่ไหน" "ผมรู้สึกว่าเชฟประจำร้านที่ออกมาช่วยเธอประกาศไม่ขอรับเงินเดือนเพื่อให้เธอนำเงินส่วนนั้นมาใช้หนี้คุณองศาครับ" "ปล่อยมัน มันอยากอดตายก็ปล่อยมันมึงคอยจับตาดูลูกของป้าโบตั๋นเอาไว้ก็แล้วกัน" "ครับคุณองศา" หลังจากนี้องศาไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงเขาปล่อยให้สองแม่ลูกจัดการชีวิตตัวเองแต่เขาคงไม่รู้ว่าโบตั๋นเป็นผู้หญิงแกร่งถึงร้านจะถูกสั่งปิดเธอก็พาลูกสาวทำข้าวกล่องออกไปขายในตอนเช้าตามหน้าโรงเรียนในชุมชนแม้จะได้เงินมาไม่เยอะมากแต่ก็ยังพอใช้จ่ายส่วนนึงก็เก็บเอาไว้ใช้หนี้ "ข้าวคลุกกะปิไหมคะพี่ชาย ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูก็มีนะคะ" โยเกิร์ตตะโกนเรียกลูกค้าแต่เพราะความน่ารักของเธอทำให้ลูกค้าต่างแวะเวียนเข้ามาซื้อคนละกล่องสองกล่อง "แม่ค้าน่ารักแบบนี้ทำไมไม่ไปเป็นดาราจ๊ะ" "อย่าดีกว่าค่ะหนูเป็นคนขี้อาย" เธอตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะไม่ถึงชั่วโมงข้าวกล่องที่ทำออกมาก็ขายหมดเกลี้ยงสองแม่ลูกช่วยกันนับเงินแล้วยิ้มให้กัน นี่คงเป็นเงินก้อนแม้จะไม่ได้มากมายแต่ก็เป็นเงินที่เธอกับแม่หาได้ด้วยความสุจริต อีกด้านธนัทถือจานข้าวคลุกกะปิเข้ามาเสิร์ฟให้เจ้านายที่กำลังนั่งเคร่งเครียดตรวจงานบัญชีเขามองข้าวในจานแล้วมองหน้าลูกน้องคนสนิทปกติแล้วเขาไม่ทานอาหารพวกนี้ยิ่งเป็นข้าวตามตลาดนัดเขายิ่งไม่เคยแตะมันเลย "ใครสั่งให้มึงซื้อเข้าข้างทางมาให้กู" "แต่ข้าวคลุกกะปิเป็นฝีมือของป้าโบตั๋นกับลูกสาวนะครับทั้งสองช่วยกันทำข้าวกล่องออกไปขายตามหน้าโรงเรียนแล้วก็แหล่งชุมชนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยครับ" "ใจคอจะไม่คิดมาขอร้องความช่วยเหลือจากกูเลยหรือไงวะ!" องศาทุบโต๊ะด้วยความโมโหนี่ก็ผ่านไป 2 อาทิตย์แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่โยเกิร์ตจะมาขอร้องความช่วยเหลือจากเขาเลย "ผมว่าคงไม่มาหรอกครับตอนนี้คุณโยเกิร์ตขายข้าวกล่องจนมีลูกค้าประจำแล้ว พนักงานโรงงานนักเรียนนักศึกษาคนวัยทำงานทั้งผู้หญิงผู้ชายโดยเฉพาะผู้ชายหน้าตาดีแวะเวียนมาซื้อข้าวกล่องของเธอทุกวัน" "มึงจะไปไหนก็ไปไอ้นัท!" "ครับคุณองศา" ธนัทเดินมาหยิบจานข้าวคลุกกะปิหวังจะหยิบออกมาจากห้องแต่กลับถูกเจ้านายมองตาเขียวปั๊ดใส่เขาจึงหมุนตัวกลับมามือเปล่า เจ้านายของเขายิ่งกว่าไบโพล่าอีกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย "พี่นัทผู้หญิงจากร้านโบตั๋นมาสมัครงานหลายคนเลย เอายังไงดีคะ" สายธารวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกข่าวเธอเป็นน้องสาวของธนัทเรียนอยู่ปีสี่แล้วเป็นเด็กทุนขององศาแถมเรียนดีเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงศ์ตระกูล "ก็คงต้องรับที่พวกเขาตกงานก็เพราะเจ้านายของพวกเรา" "ได้งั้นหนูลงไปแจ้งข้างล่างก่อนว่าแต่ห้องจะมีพอเหรอพี่ ปรึกษาคุณองศากันก่อนดีไหม" "เดี๋ยวพี่จัดการเองตอนนี้คุณองศากำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่" ---------------------- ปวดหัวกับคุณองศาเหลือเกินไอ้คนนิสัยไม่ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD