ปาริฉัตรดูแคลนอีกฝ่ายในใจ
“ลูกปัดไม่เชื่อหรอกค่ะ คุณเมฆกำลังพยายามจับปลาสองมือตั้งใจจะจับทั้งลูกปัดทั้งผู้หญิงคนนั้น”
“อย่าดูถูกผม!!”
“ละ... ลูกปัดขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไร ไปล้างหน้าล้างตาซะนะมอมแมมหมดแล้ว”
อัศวเมฆินทร์บอก ไม่ชอบเลยที่เห็นใครต่อใครต้องเสียน้ำตาเพราะเขาคือต้นเหตุ มันออกจะไร้สาระไปหน่อย เขาเอนหลังพิงวีลแชร์ไม่ได้มองตามไปเขาเลยไม่รู้ว่าทิศทางที่ปาริฉัตรเดินไปไม่ใช่ห้องน้ำแต่เป็นห้องครัว!
เสียงฝีเท้าเดินเป็นจังหวะเข้ามาใกล้วารสาวางมือจากผลไม้ตรงหน้าก่อนหันกลับไปทว่ายังไม่ทันได้เห็นเลยว่าใครฝ่ามือหนักของผู้มาใหม่ก็สะบัดตบใส่แก้มเต็มแรงส่งผลให้ดวงหน้าหล่อนหันตามแรงตบ
ให้ตายเถอะ
มือหนักใช่ย่อยตบแรงจนเลือดซึมมุมปากในทันที!
วารสาเจ็บใจยืนนิ่งจ้องมองปาริฉัตรแววตาแข็งกร้าวไม่พอใจที่โดนตบแบบไม่ทันตั้งตัว
“ฉันรู้นะว่าแกมาที่นี่ทำไมแต่แกจะไม่มีวันได้คุณเมฆคืนเพราะฉันจะไม่มีวันยอมยกเขาคืนให้! ฉันดูแลคุณเมฆมาเป็นปีๆ แกจะมาชุบมือเปิบไปดื้อๆ แบบนี้มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ”
“เหรอคะ ดูแลมานานขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เออสิ!!”
“งั้นก็ขอบคุณมากแต่ฉันคงไม่ถอย”
“นังหน้าด้าน ไร้ยางอาย ฉันจะตบแกให้หายปากดีเอง!”
เงื้อมือขึ้นจะตบอีกครั้งแต่คราวนี้วารสาไวกว่ากระชากข้อมือปาริฉัตรแรงจนเสียหลักล้มลงพื้น
“ฉันสู้คนนะคะบอกก่อนเผื่อคุณไม่รู้!”
ปาริฉัตรโกรธจนหน้ามืดตามัวยันกายลุกขึ้น ชี้หน้าด่า “แกไม่มีทางชนะฉันหรอกเพราะถึงยังไงคุณเมฆก็ต้องหมั้นกับฉัน”
“ขอบคุณที่อุตส่าห์บอก”
“นังบ้า!!”
ตวาดใส่แล้วกระทืบเท้าออกไปจากห้องครัวปล่อยให้วารสายืนนิ่งอยู่กับความรู้สึกพ่ายแพ้ทั้งที่การปะทะคารมเมื่อกี้หล่อนต่างหากคือผู้ชนะ ชนะฝีปากแต่ทำไมหัวใจถึงเจ็บมากขนาดนี้ จะต้องเจ็บแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน
ปาริฉัตรเป็นลูกสาวนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดบิดาค่อนข้างมีอิทธิพลดังนั้นหล่อนจึงกลับไปร้องไห้ฟูมฟายให้บิดาสงสาร
“มันทำกับหนูถึงขนาดนี้เลยเหรอลูก ไม่ได้แล้วป๊าจะจัดการให้ ริอ่านมากระตุกหนวดเสือ!!”
“ฮึก... ฮือ... ป๊าขา”
“จ๋าลูก”
“หนูอยากหมั้นกับคุณเมฆเร็วๆ ป๊าช่วยเร่งทางนั้นให้หนูได้ไหมคะ ฮือ... หนูกลัวคุณเมฆกลับไปรักนังนั่น”
“ได้สิลูก ได้ทุกอย่างเดี๋ยวป๊าจัดการให้ ไม่ร้องนะลูกสาวคนสวยของป๊า” คุณอัศนีกอดปลอบลูกสาวคนเดียวที่รักดุจดังแก้วตาดวงใจ เพราะปาริฉัตรขาดแม่มาแต่เด็กทำให้ท่านต้องคอยเลี้ยงมาอย่างตามใจอยากได้อะไรก็หามาประเคนให้ ไม่เคยต้องลำบากเสียใจหรือเสียน้ำตาสักหน ยกเว้นครั้งนี้ลูกรักต้องเสียน้ำตาเพราะผู้หญิงที่ชื่อวารสา!
“แต่งตัวแบบนี้จะออกไปยั่วผู้ชายแถวไหน!”
อัศวเมฆินทร์ถามอย่างร้อนใจเดินบนวอร์คเกอร์ช่วยเดินไปขวางทางวารสาไม่ให้ออกไปจากห้องโถงบ้าน เอื้อมมือแข็งแรงไปกอบกุมรอบข้อมือเล็กแน่นออกแรงบีบไม่ให้หล่อนพยศแต่กระนั้นวารสาก็ยังพยศดึงดันหนักแม้จะสู้แรงไม่ได้
สู้ไม่ได้วารสาก็ยังฝืนทนสู้
‘ทำร้ายลูกปัดทำไมทั้งที่ฉันสั่งแล้วว่าห้ามยุ่งกับลูกปัด เขาเป็นว่าที่คู่หมั้นของฉันนะ!’
‘สาทำอะไรคะ’
‘ไม่ต้องมาทำหน้าตาย ถ้าเธอไม่ทำแล้วทำไมข้อมือลูกปัดถึงแดงเถือกขนาดนั้น บอกแล้วไม่เชื่อฟังกันอยากจะไปไหนก็ไปเลยไป อย่ากลับมาอีกรำคาญตา!!’
ไม่ฟังกันเลยสักนิด...
เขาด่าทอมาชุดใหญ่หล่อนทำได้แค่กำหมัดแน่นฟังคำด่าทออย่างโต้เถียงอะไรไม่ได้ เม้มเรียวปากแน่นเป็นเส้นตรง ช่างหัวน้ำตาอยากไหลก็เชิญ อดทนไม่ไหวแล้ว
‘ขอโทษค่ะ…’ เสียงวารสาแผ่วเบาติดสั่นเล็กน้อยยามเอ่ยคำต่อไป ‘สาลืมไปว่าไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งป้องกันตัว สาผิดเองที่ไม่ยอมยืนเฉยๆ ให้คนรักของคุณตบซ้ำอีกครั้ง’
วินาทีนั้นน้ำตาหล่อนไหล่ลงอาบรอยนิ้วมือทั้งห้าบนแก้มซ้าย เงยหน้าขึ้นสบสายตาเห็นนัยน์ตาเขาเบิกกว้าง
หึ... คงจะสมใจเขาแล้วสินะ
“จะไปยั่วผู้ชายแถวไหนมันก็เรื่องของสา ไม่เกี่ยวกับคุณ!” ยังคงพยศใส่ไม่ยอมเขาง่ายๆ