ดื้อ ไม่ยอมรับความจริง

2263 Words
เมฆาตกใจกับเลือดของตัวเองที่มีอยู่เต็มผ้าปูที่นอน ตกใจกับรอยฟันของเพียงขวัญที่กัดเข้าเต็มที่บนแขนของเขาทั้งสองข้าง ไม่คิดว่าเด็กนั่นจะกล้า เขาระงับอารมณ์ไม่ได้เลยจริงๆตกใจกับอารมณ์ของตัวเองที่หงุดหงิดไปหมดตั้งแต่ทรงกลดโทรมา เพียงขวัญเถียงเขา เขาก็ทำตามใจตัวเอง ลืมว่าเพียงขวัญเจ็บ รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป เขาไม่ได้ไปหาหมอ ใช้น้ำสะอาดล้างแผล ออกตามหาเพียงขวัญทันที แต่ไม่ทันแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าไปไหน เด็กนั่นจะไปไหนได้ เงินไม่มีแถมเจ็บ เมฆาร้อนใจเขาคิดไม่ออกว่า เพียงขวัญจะไปที่ไหน เขาให้คุณสมหมายเช็คประวัติของเพียงขวัญอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนสนิททุกคน เพียงขวัญไม่ได้ไปหาใครเลย ที่บ้านไม่มีใครรู้ว่าเพียงขวัญมากรุงเทพฯกับเขา น้องชายบอกว่าพี่สาวทำงานอยู่ที่จันทบุรี วันนี้ช่วงเช้ายังคุยไลน์กับพี่สาวอยู่เลย เพียงขวัญไปไหน อยู่กับใคร เขาโทรหาป้าจันลุงคิด ไม่มีแม้เงาเพียงขวัญ ใครจะบ้ากลับไป เมฆารอจนเช้า กระเป๋าเสื้อผ้าของเพียงขวัญยังอยู่ในห้อง เขาเริ่มต้นไม่ถูก งานก็ต้องทำ เข้าไปเซ็นเอกสารให้น้องสาว กรกนกบ่นเขายาวในไลน์กลุ่ม ไม่พอแม่เขาเข้ามาบ่นต่อ ดีที่น้องชายกับพ่อไม่ซ้ำเติมเขาอีก เสร็จงานที่กรุงเทพฯเขาเดินทางไปเชียงรายทันที ตลอดเวลาพยายามโทรหาเพียงขวัญ ขอโทษ ไม่รับสาย ไม่อ่านไลน์ จนเขาโมโหอีกครั้ง อย่าให้เจอนะเพียงขวัญ ถ้าครั้งนี้เธอหนีฉันได้อีกก็ไม่ใช่เมฆาหรอก “แม่คะ พี่เมฆไปเชียงราย วันมะรืนจะลงใต้ เอายังไงดีคะแม่ หรือจะให้เพียงขวัญอยู่ที่นี่ก่อน กรกลัวว่าเราจะไม่เนียน “ “ขอแม่คิดก่อน งั้นเราพักที่นี่ต่ออย่าเพิ่งเดินทาง” “คุณป้า พี่กรคะ ปล่อยขวัญไว้ที่นี่ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวขวัญหางานทำที่นี่ ขวัญมีเพื่อนอยู่แถวนี้ หรือถ้าไม่ได้งานที่นี่ ขวัญจะเข้ากรุงเทพฯ ขวัญสมัครงานไว้ และเขารับขวัญแล้ว แต่บังเอิญขวัญต้องไปอยู่ที่จันทบุรี ที่นั่นเป็นบริษัทฯที่มีหอพักอยู่ภายใน น่าจะไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ ถ้าคุณป้าจะกรุณา ส่วนเรื่องหนี้สินขวัญจะพยายามทำงานใช้หนี้” “ไม่ได้หรอกลูก ป้าจะไม่ให้หนูขวัญลำบากอีกแล้วนะ มันอันตรายเกินไป ป้าไม่ไว้ใครเลยแม้กระทั่งเมฆา เอาอย่างนี้นะ เราไปเชียงใหม่ขับรถไปกัน สวนทางกับเมฆา ให้หนูขวัญทำงานที่โน้น ที่ไม่ใช่งานโรงแรม บริษัทฯรับทำบัญชีของเราไงกรกนก ลืมแล้วเหรอ ที่นั่นเมฆาไม่มีหุ้น” “จริงค่ะแม่ กรลืมไปเลย ตกลงนะน้องขวัญ ดีที่สุดเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ใช้หนี้ พี่มีบ้านอยู่ที่โน้น สำนักงานบัญชีของพี่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน พรุ่งนี้เราออกเดินทางกัน รับรองว่าธุรกิจนี้ไม่เกี่ยวกับพี่เมฆ โรงแรมของบ้านเราอยู่ที่เชียงราย แต่สำนักงานบัญชีอยู่เชียงใหม่ “ “งั้นก็ได้ค่ะ ขวัญขอบพระคุณ คุณป้ากับพี่กรมากนะคะ ที่ใจดีกับขวัญ” “ไม่เป็นไร เราผู้หญิงเหมือนกัน และป้าทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ถูกรังแก” “พี่กรคะ แล้วถ้าพี่กับคุณป้าแสดงตัวว่าจะช่วยขวัญล่ะคะ เขาจะไม่สงสัยใช่ไหม” “จริงด้วยค่ะแม่ กรลืมคิดตรงนี้เลย ตอนนี้พี่เมฆยังไม่รู้นะคะว่าเราพาน้องมา” “ก็ยังไม่บอกไง ถ้าติดต่อหนูขวัญไม่ได้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ดีแล้วปล่อยให้เขาวุ่นวายของเขาไป หนูขวัญก็อยู่สบายๆไม่ต้องคิดอะไรมากนะลูก เรื่องหนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ใช้ ” “ได้ค่ะแม่ ตกลงสบายใจแล้วนะน้องขวัญ” “ตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราพาหนูขวัญออกไปถอดเฝือกกันจะได้สบายตัวสักที “ เพียงขวัญซาบซึ้งในน้ำใจของสองแม่ลูก รุ่งเช้าของอีกวันสองแม่ลูกพาเธอไปถอดเฝือก “หมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะหนูขวัญ ต่อไปก็ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆนะลูก” “ขอบคุณมากค่ะคุณป้า พี่กร ขวัญไม่มีญาติที่ไหน พวกเรามีกันแค่สี่คน เรื่องหนี้สินมันใหญ่มาก ทุกคนฝากความหวังไว้ที่ขวัญ สัญญานะคะว่าจะทำงานให้เต็มที่” เพียงขวัญโทรหาน้องชาย ขอคุยกับพ่อและแม่ บอกว่าได้งานที่ใหม่แล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้สิน คืนนี้เป็นคืนที่เพียงขวัญนอนได้แบบสบายใจที่สุด หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่กับสองแม่ลูก ใจก็ห่วงครอบครัว แต่เธอกลับไปตอนนี้ไม่ได้ คุณโสรยาพาเพียงขวัญไปเชียงใหม่ กรกนกเช็คพี่ชายตลอดว่าอยู่ที่ไหน ไม่นานทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่ กรกนกและคุณโสรยาพาเพียงขวัญไปหาซื้อเสื้อผ้า และของใช้ ยิ่งสองแม่ลูกดูแลเธอดี เพียงขวัญยิ่งเศร้า สงสารตัวเอง กรกนกให้เพียงขวัญพักอยู่ที่บ้านที่เธอซื้อไว้ เป็นบ้านส่วนตัวเวลาที่มาพักที่เชียงใหม่ มีเพียงแม่และเธอเท่านั้นที่รู้ คุณโสรยาสงสารเพียงขวัญ ตั้งแต่คืนแรกที่นอนพักด้วยกัน เพียงขวัญสะดุ้งตื่นด้วยความหวาดกลัวหลายครั้ง กรกนกยิ่งไม่พอใจพี่ชายมาก ที่ทำให้เพียงขวัญหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ระแวงคนแปลกหน้า และยังไม่รู้เลยว่าจะมีสมาธิทำงานได้ไหม “แม่คะ ทำยังไงดี น้องขวัญยังรู้สึกระแวงคนแปลกหน้าอยู่เลยค่ะ ” “เนี้ยแหละแม่ล่ะโมโหพี่เราอยู่เนี้ย ทำเอาคนดีๆคนหนึ่งหลอนไปเลย” “แม่จะกลับไปใต้ก่อน เดี๋ยวพี่เราเขาจะสงสัย กรอยู่ที่นี่กับน้อง ให้หนูขวัญสบายใจก่อน” “ได้ค่ะแม่ กรไม่อยากทิ้งน้องไว้คนเดียวเหมือนกัน สงสารค่ะกลางคืนยังนอนสะอื้นอยู่เลย” คุณโสรยาอยู่เชียงใหม่สองคืนและเดินทางกลับใต้ทันที หงุดหงิดหัวใจ โมโหลูกชายที่ทำให้เด็กผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่ง แทนที่จะได้ใช้ชีวิตที่มีความสุขกับครอบครัว ต้องมาเที่ยวหลบซ่อนตัว คิดว่าตัวเองจะอดไม่ไหวเมื่อเห็นหน้าลูกชาย แต่ก็จะพยายามเก็บอารมณ์ไม่ให้ขุ่นมัว คุณกิตติ แปลกใจที่ลูกชายมาหา ปกติเขาจะอยู่ที่สวนทุเรียนของเขา ไม่ออกมาพบปะผู้คน “ว่าไงไอ้ลูกชาย มีอะไร ฝนจะตกใหญ่แล้วมั้ง มาหาพ่อได้” “คิดถึงพ่อครับ นี่แม่กับน้องยังไม่กลับบ้านเหรอครับพ่อ” “ยังเลย เห็นว่าแม่เขากำลังมา แต่แม่กร ยังอยู่ที่เชียงราย บอกว่างานมีปัญหา” “ครับพ่อ เกิดจากผมเอง เซ็นเอกสารให้น้องช้า” “มีเรื่องอะไรเมฆ เห็นแม่กับน้องๆเขาบ่น มีปัญหาอะไรที่สวนรึเปล่าปกติไม่เคยเหลวไหลเลยนี่นา” “พ่อครับ ตอนที่พ่อจีบแม่ใช้เวลานานไหมครับ แล้วพ่อรู้ได้ยังไงว่าแม่คือคนที่พ่อจะอยู่ด้วย” “ยาก บอกเลยว่ายาก ก็แม่เราเป็นคนแบบนี้ เมฆก็ดูเอาล่ะกัน” “แม่เอาแต่ใจ ใจร้อน พูดตรง เสียงดัง ไม่รู้หรอกว่าถูกหรือผิด ขอให้ได้ทำก่อน ผิดถูกค่อยว่ากันตามหลัง นานกว่าแม่จะยอมรับพ่อ คนอย่างแม่ต้องเจอคนที่เก่งกว่า ใจเย็นกว่า” “พ่อก็ใช้ความใจเย็น ความเป็นผู้ใหญ่ เอาชนะใจเขา อีกอย่างรู้ไหม พ่อให้เกียรติเขา เราเป็นผู้ชายต้องเป็นสุภาพบุรุษ ยิ่งกับผู้หญิงดีๆเรายิ่งต้องให้เกียรติเขาให้มาก กรณีของพ่อกับแม่ เพราะพ่อเลือกแล้ว พ่อรักแม่ที่แม่เป็นแบบนี้ พ่อยอมรับได้หมด ไม่ว่าแม่จะเป็นยังไง เพราะสุดท้าย แม่เขาก็เชื่อใจพ่อ ยอมปรับตัว เราถึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไง แม่แรงพ่อก็อ่อน ใช้เหตุผลคุยกัน” “ผมดีใจจังที่ได้มาหาพ่อวันนี้ ผมคุยกับแม่ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย แม่รู้ทันผมทุกอย่าง เราเหมือนกันเกินไป” “เขาทำทุกอย่างเพราะรักลูกทั้งนั้นแหละ ใครบ้างจะไม่รักลูก พ่อกับแม่อยากเห็นลูกมีคู่ครองที่ดี แม่เขาพยายามหาคู่ให้เมฆกับน้อง ก็อย่าไปรำคาญเขา เราไม่ชอบก็บอกเขาไป อย่าไปโกรธหรือรำคาญแม่ “ “ครับพ่อ ผมเข้าใจทุกอย่างเลย แต่เรื่องนี้ผมขอนะครับขอเลือกเอง” “แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมมันเหมือนรอยกัด”คุณกิตติมองหน้าลูกชาย “เมฆมีเรื่องอะไร นี่พ่อไม่สบายใจนะ พูดมา มีอะไรอยากระบาย” เท่านั้นแหละ เมฆาเล่าเรื่องที่เขาบังเอิญได้เจอกับเพียงขวัญ จนกระทั่งเรื่องที่เพิ่งเกิดที่คอนโดของเขา ให้คุณกิตติฟัง “แล้วเมฆคิดยังไงกับหนูเพียงขวัญคนนั้น เท่าที่ฟังมาเขาก็เป็นเด็กดีนะ แต่อายุยังน้อยมาก เรียนเพิ่งจบใช่ไหม” “ผมแค่ไม่อยากให้ห่างสายตา เพราะเขาต้องทำงานใช้หนี้ผม” “ถ้าเมฆคิดแค่นั้น เมฆก็ต้องให้เขาทำงาน ไม่ใช่ไปกักตัวเขาไว้ เขาต้องมีอิสระ ไอ้เรื่องที่ทำเขาเจ็บอีกเรื่องนะ พ่อไม่เห็นด้วย เราควรให้เกียรติผู้หญิง ต้องดูแลเขาด้วยซ้ำ เมฆโตกว่าเขาตั้งหลายปี หนูคนนั้นไม่มีทางอื่นเลยนะ นอกจากทนทำงานใช้หนี้” “เมฆบอกเองใช่ไหมว่าเขาเพิ่งเรียนจบ อยู่กับครอบครัวมาตลอด เท่าที่ฟังเขาเป็นเด็กดี แต่อยู่ต้องมารู้ว่าที่บ้านมีหนี้มากมาย และต้องจากครอบครัว ไปอยู่กับใครก็ไม่รู้พ่อว่าเขาน่าเห็นใจ เรื่องที่เกิดขึ้นเมฆผิด” “ผมรู้ครับพ่อ ผมถึงเสียใจมาก อยากเจอเขา อยากขอโทษ แต่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหน เขามีแค่ครอบครัว ผมสืบมาหมดแล้วครับ ไม่เจอเลย เขาไม่มีเงิน แถมยังเจ็บ ” “แล้วเรื่องพ่อเขาอีกล่ะ จะใกล้ผ่าตัดแล้วไม่ใช่เหรอ เขาคงไปเยี่ยมพ่อเข้าบ้างแหละ” “บอกมาว่าชอบเขา หรือแค่เห็นว่าเขาเป็นลูกหนี้ คำเดียว พูดมาเลย” “ผมไม่รู้ครับพ่อ แต่ผมชอบที่เวลาได้อยู่ใกล้เขา นอนหลับสนิท เขาดูแลบ้าน ทำอาหาร ใจเย็น อยู่ใกล้แล้วรู้สึกดี ไม่อยากให้ห่างหรือหายไปจากสายตาเลย และรู้สึกเสียใจที่ทำไม่ดีกับเขา” “ยังไม่ได้คิดว่าจะต้องอยู่กับเขาตลอดไปเหรอ ไม่อยากรักเขาใช่ไหม ไม่ได้อยากได้เขามาเป็นภรรยาใช่ไหม ถึงตอนนี้แล้วเราต้องเปิดใจคุยกันนะเมฆ สำหรับเราผู้ชายเราไม่มีปัญหา ไม่เสียหาย แต่ผู้หญิงเขาเสียหาย แล้วเด็กเพียงขวัญนี่เท่าที่ฟังมา เขาเป็นเด็กดี ถ้าเมฆไม่ได้คิดอะไรกับเขา ก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้สิน” “ยังไงครับพ่อ” “ก็พ่อนี่แหละ เดี๋ยวพ่อจ่ายหนี้ของหนูเพียงขวัญให้เมฆเอง แล้วปล่อยเขาไป วัยของเขาควรที่จะได้ใช้ชีวิตมีความสุขสมวัย พ่อว่ามันหนักเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง” “ทำไมครับพ่อ ปกติพ่อไม่ค่อยสนใจอะไร ทำไมอยู่ๆถึงอยากช่วยคนที่ไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักแบบนี้ เด็กเพียงขวัญอาจไม่ใช่คนดีอย่างที่พ่อรู้สึกก็ได้นะครับ” “นี่ไง ความคิดเล็กคิดน้อยของเมฆ ถึงต้องอยู่คนเดียว แค่ประวัติของเพียงขวัญ กับการที่เมฆได้มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา ยังไม่รู้เหรอว่าเขานิสัยยังไง นี่ถ้ามีโอกาสนะ พ่ออยากเจอเขาสักครั้ง พ่อยินดีช่วยเงินพ่อมีเยอะแยะ การที่จะช่วยคนดีๆสักคนไม่เห็นเป็นอะไรเลย” “พ่อครับ เกินไปไหมครับ พ่อยังรู้ไม่จักเขาเลยนะครับ มั่นใจได้ยังไงว่าเขาเป็นคนดี” “ยิ่งพูดยิ่งไม่เข้าใจ ตกลงเดี๋ยวพ่อให้น้องโอนหนี้ที่เหลือทั้งหมดของเพียงขวัญให้เมฆ แล้วเรื่องค่ารักษาพยาบาลของพ่อเขา เดี๋ยวพ่อจัดการเอง และพ่อนี่แหละจะตามหาเด็กเพียงขวัญเอง เมฆไม่ต้องยุ่งแล้ว กลับไปดูแลสวนของเมฆ อยู่กับตัวเองเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว ไปได้แล้ว เดี๋ยวคนงานเขาจะงง นี่เห็นตาคิดบอกว่าจะเก็บทุเรียนอีกรอบแล้วไม่ใช่เหรอ ทุกคนที่สวนรอเมฆอยู่ กลับไปทำงานกลับไปอยู่กับตัวเอง เมฆไม่เหมาะกับที่จะอยู่กับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้นแหละ อยู่คนเดียวน่ะดีแล้ว จะอยู่ก็ตามใจนะ พ่อจะไปพักผ่อนแล้ว ขี้เกียจพูดเมื่อยปาก” คุณกิตติเหนื่อยที่จะคุยกับลูกชาย เดินหายเข้าห้องไปเพื่อพักผ่อน ปล่อยให้เมฆานั่งอยู่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD