หนีเสือปะจรเข้ หรือเปล่านะ

2294 Words
เพียงขวัญเปิดกระเป๋าสตางค์ เหลือเงินแค่สองร้อยกว่าบาท สองทุ่มเกือบครึ่งแล้ว เพิ่งรู้สึกว่าปากตัวเองติดเลือด กลับเข้าไปล้างหน้าอีกหน เป็นเลือดของเมฆา ชุดเดรสสีเหลืองที่ใส่เต็มไปด้วยหยดเลือด สมน้ำหน้า ปากดีนัก คนบ้า เอาแต่ใจ ถือว่าเป็นเจ้าหนี้ ถือว่าเป็นเจ้านาย จะทำอะไรกับเธอก็ได้งั้นเหรอ ที่ปล่อยเพราะไม่มีทางสู้ และคิดว่าเขาจะไม่ล้ำเส้น เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้าไม่ตายคงใช้หนี้เขาหมด เธอไม่รู้ว่าค่ารักษาพ่อเท่าไหร่ ไม่กล้าทักหาที่บ้าน แต่เชื่อว่าทุกคนคงสบายดี มั่นใจว่าเขาไม่ไปยุ่งกับครอบครัวเธอแน่นอน เพียงขวัญตกใจตรงหน้าเธอตอนนี้ กรกนก น้องสาวของเมฆา หญิงสาวถอยหลังแต่ไม่คิดจะหนี มองกวาดสายตาไปรอบๆกลัวว่าเมฆาจะอยู่แถวนี้ “น้องขวัญ ไม่ต้องกลัวนะ พี่มากับแม่กำลังจะไปหาพี่เมฆที่คอนโด เห็นน้องขวัญวิ่งขึ้นแท็กซี่พอดี ไม่ตองกลัวนะแม่ห้ามไม่ให้บอกพี่เมฆ พี่กับแม่มาดี แม่รออยู่ที่รถไปกับพี่นะ รับรองปลอดภัยแน่นอน แม่กับพี่ไม่ได้สนับสนุนพี่เมฆให้ทำแบบนี้” “ไปกับพี่เถอะ แถวนี้ไม่ไกลจากคอนโดของพี่เมฆ แท็กซี่เพิ่งจะกลับไป พี่เชื่อว่าพี่เมฆกำลังออกตามหาขวัญ ดีไม่ดีอาจเจอกับแท็กซี่คันที่มาส่งขวัญแล้วก็ได้” “เชื่อพี่นะเพียงขวัญ ถึงพี่จะเป็นน้องพี่เมฆแต่พี่ก็ไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้ รีบไปดีกว่า ค่อยไปคุยกันบนรถ ว่าจะเอายังไงต่อไป” “ขวัญจะเชื่อใจได้ยังไงคะว่า เขาจะตามหาขวัญไม่เจอ ในเมื่อขวัญไม่ใช่คนในครอบครัว แถมเป็นลูกหนี้อีก” “รีบไปเถอะขวัญแม่ตามแล้ว พี่เมฆโทรหาแม่” เพียงขวัญตามกรกนกไปที่รถ คุณโสรยานั่งรออยู่ด้านหน้าคู่กับคนขับ เพียงขวัญขึ้นด้านหลัง เอนตัวลงให้ต่ำที่สุด “หนูขวัญ นอนลงไปเลยลูกเดี๋ยวเราไปเปลี่ยนรถที่คอนโดของกรกนก คืนนี้เราจะลงใต้กัน “ เพียงขวัญหมอบตัวลงหลังรถใจเต้นแรง เสียงของคุณโสรยา ทำใหเธอรู้ว่าเมฆาออกตามหาเธอแน่ๆใช้เวลาประมาณสี่สิบห้านาที กรกนกขับรถไปจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง เปลี่ยนเป็นรถคันใหญ่กว่าเดิม รีบขับออกนอกเมือง เสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกดังขึ้น เมื่อรถวิ่งอยู่บนถนนสายหลักมุ่งสู่ภาคใต้ “เดี๋ยวแวะนอนที่สมุทรสงครามนะ ขับต่อไม่ไหวหรอก หนูขวัญเหนื่อย แม่เองก็เหนื่อยแล้ว อยากนอนมากกว่า เมฆาไลน์หาบอกว่าติดธุระด่วน ขอเข้าไปเซ็นเอกสารวันหลัง” รีสอร์ทหรูบรรยากาศส่วนตัว ห้องพักห้องใหญ่สำหรับครอบครัว เป็นของเพื่อนคุณโสรยา กรกนกจอดรถหน้าบ้านพัก ไม่มีการพูดคุยอะไร ได้ยินแค่เสียงสะอื้นของเพียงขวัญเป็นระยะๆ นั่นทำให้หัวใจของสองแม่ลูกรู้สึกผิดกับผู้หญิงคนนี้มาก เสียใจที่ลูกชาย เสียใจที่พี่ชายข่มเหงผู้หญิง “เอาล่ะหนูขวัญเอาชุดของป้านี่ใส่ไปก่อน ชุดนี้เปื้อนเลือดใส่ถุงทิ้งไปได้เลยนะ อาบน้ำนะลูก เราจะนอนรวมกันในห้องนี้ ไม่ต้องห่วงที่นี่ปลอดภัย เป็นของเพื่อนป้าเอง” กรกนกต้องไปยืนเฝ้าเพียงขวัญอาบน้ำ กลัวว่าหญิงสาวจะล้มหรือเป็นอะไรไป แต่เพียงขวัญชินแล้วกับการอาบน้ำมือเดียวแขนเดียว ไม่ถึงสามสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย “ไหนหนูขวัญมาให้ป้าดูใกล้ๆซิ “คุณโสรยามองเห็นบริเวณแขนและคอของเพียงขวัญ มีรอยปื้นแดงเต็มไปหมด “โถ...เจ็บไหมลูก เมฆนะเมฆทำได้ยังไงนะ คนเจ็บอยู่แล้วยิ่งทำให้เจ็บกว่าเดิม กรกนกถ่ายรูปไว้ให้หมดเลยนะ ดูซิคนยิ่งขาวเดี๋ยวก็ช้ำไปทั้งตัวแน่เลยเนี้ย” “พี่เมฆนี่ทำตัวน่าเกลียดจังเลยนะคะแม่ สาธุขออย่าให้กรเจอผู้ชายแบบนี้เลย” “เอาล่ะๆ ไหนเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ตั้งแต่ออกจากสวน ให้ป้าฟังหน่อยได้ไหมลูก” “เล่าเถอะขวัญ ไว้ใจพี่ไว้ใจแม่ บอกแล้วไงว่าแม่กับพี่ไม่สนับสนุนการกระทำของพี่เมฆ” เพียงขวัญพยายามกลั้นสะอื้น แล้วเริ่มเล่าเรื่องของวันนี้ทั้งหมดให้สองแม่ลูกฟังอย่างละเอียด “เมฆทำไม่ถูกเลย เอาแต่ใจตัวเอง เห็นแก่ตัว ใจร้อน แม่ไม่เห็นด้วยเลยนะเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมาก” “ไม่มีใครชอบหรอกค่ะแม่ ลองเป็นกรโดนแบบนี้ซิ พี่เมฆก็ไม่ยอมหรอก เห็นแก่ตัวดูถูกผู้หญิง เป็นผู้ชายยังไงรังแกและเอาเปรียบผู้หญิง” “หนูขวัญไม่ต้องกลัวนะลูก เรื่องหนี้สิน เรื่องการผ่าตัดของพ่อ ป้าจัดการเอง “ “หมายความว่ายังไงคะคุณป้า ขวัญไม่เข้าใจ “ “ก็หมายความว่าช่วงนี้ หนูขวัญอยู่เงียบๆทำตัวให้หายไปเลย แต่ถ้าเมฆมีปัญหา ป้าจะรับหนี้ทั้งหมดของหนูมาดูแล แล้วหนูก็มาทำงานกับป้า กับพี่กรเขา ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเมฆาแล้ว พอใจไหมลูก” “จริงเหรอคะคุณป้า พี่กร จะไม่มีปัญหาเหรอคะ “ “ไม่ต้องห่วงนะเพียงขวัญ หนี้ที่เหลือ และค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดพ่อของพ่อขวัญ เราจะผิดชอบเอง และขวัญมาทำงานบัญชีช่วยพี่ เงินเดือนเท่าที่พี่เมฆให้เลย และขวัญจะตัวติดกับแม่กับพี่ตลอด ไม่ต้องกลัวว่าพี่เมฆจะหาเจอ “ “เพราะอะไรคะ คุณป้ากับพี่กรถึงช่วยขวัญ” คุณโสรยาและกรนกมองหน้ากัน “เพราะเราเป็นผู้หญิงเหมือนกันไงลูก ป้าไม่ชอบสิ่งที่ลูกชายป้าปฏิบัติกับหนูขวัญ มันไม่ยุติธรรม ป้าไม่ชอบที่เขารังแกคนที่ไม่มีทางสู้ ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ป้ายิ่งรับไม่ได้เลย” “ยังไงขวัญก็ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยขวัญ บ้านเราไม่มีเงิน ไม่รู้จะไปพึ่งใครค่ะ แต่พอรู้ว่าเป็นหนี้ก็อยากใช้หนี้ไห้หมด แต่ไม่คิดว่าจะเจอเจ้าหนี้แบบคุณเมฆา” “ไหนหนูขวัญเล่าให้เราฟังหน่อยว่าเจอกับเมฆายังไง ทำไมถึงได้ไปอยู่ที่สวนทุเรียนได้” “เล่ามาเถอะน้องขวัญ พี่กับแม่อยากรู้ แต่พี่บอกก่อนนะว่า วันนั้นที่เราไปเจอน้องขวัญ พี่กับแม่อยากช่วย แต่พี่เมฆไม่เปิดโอกาสเลย นี่โชคดีนะ ที่เขาไม่ทำปู้ยี้ปู้ยำ แค่นอนเตียงเดียวกันเฉยๆ” เพียงขวัญเล่าเรื่องตั้งแต่เจอกับเมฆาครั้งแรกที่ร้านอาหาร ที่เธอนัดเจอกับเพื่อนให้สองแม่ลูกฟัง เห็นได้ว่าคุณโสรยาและกรกนก อารมณ์เสียตลอดเวลา บ่นลูกบ่นพี่ไปด้วยระหว่างที่ฟังเพียงขวัญเล่า “โอ้ย...แม่จะเป็นลม นี่พี่เราเป็นไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ นี่เขาคิดอะไรอยู่ของเขานะ มัน พ.ศ.ไหนแล้ว ทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ดีนะคะที่วันนี้เราเจอน้องขวัญ ไม่งั้นไม่รู้ว่าน้องจะเป็นยังไง เหลือเงินแค่ไม่กี่ร้อย และโชคดีมากเลยนะ ที่ได้โทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์มา” “เอาล่ะๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ป้าจะพาไปหาหมอ ดูว่าเฝือกนี่จะถอดได้หรือยัง “นอนนะลูกนะ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น อยู่กับป้า ถึงเมฆาจะรู้ว่าหนูอยู่กับป้า เขาก็ไม่กล้าหรอก วางใจนะลูกนอนพักผ่อนเถอะ”คุณโสรยาลูบหัวของเพียงขวัญเบาๆ นั่นทำให้หญิงสาวน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งจากที่เพิ่งเช็ดแห้งไป “แล้วจะนอนยังไงน้องขวัญ แขนเจ็บแบบนี้ พี่ไม่อยากคิดเลยนะว่าตั้งแต่แขนเจ็บ ใจของน้องขวัญเจ็บกว่า พูดแล้วจะร้องไห้ แม่ขากรเกลียดพี่เมฆจังเลย”กรกนกบ่นต่อ จัดที่จัดทางให้เพียงขวัญได้นอนสบายๆแอบน้ำตาไหล เพราะสงสาร เพียงขวัญล้มตัวลงนอน วันนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน คิดถึงเรื่องที่เธอเจอวันนี้แล้ว มันโหดร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ สงสัยว่าทำไมอยู่ๆเขาก็อารมณ์เสียขึ้นมา ใช่ว่าเธอจะยอมเขาตลอดหรอกนะ คนเราก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน แล้วนี่เธอต้องมารับความช่วยเหลือจากแม่และน้องสาวของเขา จะรอดได้ถึงเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลยเพียงขวัญเอ้ย เธอไม่มียากิน ช่างมันวันนี้วันสุดท้ายพรุ่งนี้ก็ครบกำหนดถอดเฝือกแล้ว ไม่ได้กินเวลาเดียวไม่เป็นไรหรอก ไม่นานหญิงสาวก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย คุณโสรยากับกรกนกมองหน้ากันอย่างเศร้าใจ แม้หลับก็ยังสะอื้น ผู้หญิงตัวเล็กๆต้องมาแบกรับภาระหนี้ของครอบครัว แถมต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัว อยู่กับเจ้าหนี้เจ้านายบ้าๆบอๆโรคจิต อารมณ์ไม่คงที่อีก แน่นอนไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่สองแม่ลูกมาหาลูกชายที่คอนโด เมฆาก็เมฆาเถอะ เจอแม่เมฆามาเหนือกว่า แม่ก็คือแม่ ลูกก็คือลูก คุณโสรยารู้ตั้งแต่ลูกชายไม่ยอมไปทำงานแล้ว ว่าจะต้องมีอะไรแน่นอน ถึงได้ไปดูให้แน่ใจที่สวนทุเรียน รู้ว่าลูกชายหวงเพียงขวัญมาก ต้องขอบคุณสมหมาย กับป้าจัน ที่คอยส่งรายละเอียด คุณโสรยาเกือบเสียใจ ถ้ามาช้ากว่านี้ ไม่รู้ว่าเพียงขวัญจะเหลืออะไรไว้ให้ภูมิใจบ้าง เมฆาเป็นคนใจร้อน สมัยเป็นสาวคุณโสรยาใจร้อนมาก บวกกับมีเงินมีฐานะ ทำอะไรตามใจตัวเองมาตลอด จนมาเจอกับสามีที่ใจเย็นมาก และนั่นทำให้เธอปรับลดอารมณ์ลง แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะได้นิสัยนี้ไปเต็มๆ และยิ่งเขาเป็นผู้ชาย หนักกว่าเธอเมื่อสมัยเป็นสาวมาก คุณโสรยารู้ว่า ลูกชายคิดยังไงกับเด็กเพียงขวัญ แต่เขายังสับสนยังไม่รู้ใจตัวเอง ถึงได้แสดงออกมาในรูปแบบนี้ ทำอะไรไม่คิดให้ดี ให้รอบคอบ อยู่ๆจะเอาลูกสาวเขาไปนอนกกกอดเฉยๆได้ยังไงกัน ชอบเขาก็ไม่บอกเขาไปตรงๆปวดหัวกับลูกชาย นี่ไม่รู้ว่าจะซ่อนเด็กเพียงขวัญนี่ได้อีกกี่วัน นางเชื่อว่ายังไงลูกชายก็ต้องออกตามหาเพียงขวัญแน่นอน แล้วเด็กเพียงขวัญก็น่าสงสารมาก คิดมากจนหน้าตาเศร้าหมอง ร่างกายซูบผอม แต่ก็ยังสวย เหมาะกับเมฆา จะทำยังไงให้สองคนนี้พูดจากันดีๆ ถ้าเมฆารู้ใจตัวเองก็คงดี แต่ถ้าเขาหึงมั่วไปหมด เอาแต่ใจตัวเอง พูดไม่เป็นแบบนี้ อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ก็พัง เด็กเพียงขวัญเองก็ไม่รู้สึกฉงนใจเลยว่าผู้ชายเขารักเขาชอบ แบบนี้ก็มีด้วย สมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายเขาไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว เพียงขวัญยังไม่รู้เรื่องเลย หรืออาจเป็นเพราะว่าเพียงขวัญเป็นเด็กดี อยู่กับครอบครัวไม่ดื้อ แถมซื่อถึงได้เป็นแบบนี้ ไม่มีไหวพริบเรื่องผู้ชายเลย ถึงขนาดผู้ชายนอนเตียงเดียวกันตั้งหลายคืนยังไม่รู้อีกว่าเขาคิดอะไรกับตัวเอง คุณโสรยาถอนหายใจ โทรศัพท์ของเพียงขวัญดัง ดีที่เสียงเบา กรกนกรีบหยิบมาดูและหรี่เสียง ตาโตรีบยื่นไปให้คุณโสรยาดู หน้าจอขึ้นชื่อว่า“คุณเมฆา” สองแม่ลูกมองหน้ากัน กว่าเมฆาจะวางสาย ก็หลายนาที จากนั้นเป็นอันว่าโทรศัพท์ของเพียงขวัญไม่ว่างเลย เพราะดูเหมือนว่าเมฆากดโทรหาตลอด มีข้อความมาทางไลน์ กรกนกไม่กล้าเปิดอ่าน เมฆาพยายามทุกอย่างที่จะติดต่อหาเพียงขวัญ หญิงสาวปิดเสียงโทรศัพท์ ในใจอยากที่จะปิดเครื่องหนี แต่ก็กลัวว่าพี่ชายจะรู้ เธอรู้ว่าพี่ชายไม่มีวันยอมปล่อยเพียงขวัญแน่นอน ยังไงเขาก็ต้องออกตามหา รู้ว่าพี่ชายมีใจและชอบเพียงขวัญแปลกชอบเขาก็ไม่ยอมบอกเขาดีๆมาทำให้เขาจำตัวเองในภาพที่ไม่ดีอยู่ได้ "เอายังไงดีคะแม่ พี่เมฆทั้งโทรทั้งส่งข้อความในไลน์ไม่หยุดเลย" "ปล่อยไป เดี๋ยวแบตก็หมดเองแหละ สมน้ำหน้า" "แม่คะ แล้วพี่เมฆจะสงสัยเราไหมคะ" "สงสัยก็สงสัย ไม่ต้องไปสนใจปล่อยให้เขาบ้าไป คนที่เราจะต้องสนใจตอนนี้คือหนูเพียงขวัญ" "น่าสงสารจังเลยนะคะแม่ อายุแค่นี้ต้องมาเจอกับอะไรก็ไม่รู้" "ก็เพราะแบบนี้ไง แม่ถึงได้เห็นใจ ดูก็รู้ว่าเพียงขวัญเป็นเด็กดี" "เรารู้นะคะว่าน้องเป็นเด็กดี มีแต่พี่เมฆคนเดียวที่ไม่รู้ บ้าบอ" สองแม่ลูกพูดคุยปรึกษาวางแผนกันเรื่องที่จะช่วยเพียงขวัญ จนดึกดื่นต่างคนต่างเห็นใจเพียงขวัญ ยินดีที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD