13

1171 Words
“อย่าบอกนะว่าเธอคือคนที่ฉันจะจ้างให้มาเป็นเมียจำเป็นน่ะ” ติณณพัฒน์ ถามด้วยน้ำเสียงไม่คาดฝัน “คุณก็อย่าบอกนะว่าคุณคือคุณต้น คนที่จะจ้างฉันให้ไปเป็นเมียจำเป็น ตบตาพ่อกับแม่น่ะ” น้ำเสียงที่พิมพิชชาเอ่ยถามออกไป ไม่ผิดแปลกไปกว่าน้ำเสียงของคู่อริเลย “อืม ก็ใช่น่ะสิ นี่พิม เพื่อนของโน้ตที่ฉันบอกไง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ารู้จักกันมาก่อน” คำพูดของตุลาการตอกย้ำให้อีกสองคนรู้ว่า เรื่องที่ทั้งสองคาดเดานั้นเป็นเรื่องจริง คำพูดหนึ่งจึงหลุดออกมาจากปากของ ติณณพัฒน์กับพิมพิชชาพร้อมๆ กัน ราวกับว่านัดหมายกันพูดออกมา “ไม่!” “หมายความว่าไงวะไอ้ต้น คำว่าไม่ที่นายพูดออกมาเนี่ย” “นั่นสิ หมายความว่ายังไงเหรอพิม” ตุลาการกับเบญจวรรณมีความสงสัยไม่ต่างกันเลย ถามคำถามเหมือนกันอีกด้วย “ไม่ของฉันก็คือฉันจะไม่จ้างผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมียจำเป็นของฉันแน่นอน ไม่มีทาง” ติณณพัฒน์คิดแล้วก็จะทำอย่างที่พูดออกไปจริงๆ “ฉันก็เหมือนกัน ฉันจะไม่มีวันรับงานนี้เด็ดขาด” พิมพิชชาเองก็มีความตั้งใจเดียวแบบเขาไม่มีผิด เธอไม่พูดเปล่า สะบัดหน้าหนีไปอีกทางที่ไม่มีเขา ราวกับว่าไม่อยากจะเห็นหน้ากัน อีกสองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ต่างมองหน้ากันสลับกับมองหน้าผู้จ้างวานกับผู้รับจ้าง ความไม่เข้าใจมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งสองทำราวกับว่าเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางไหน หรือเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน “นายกับพิมมีเรื่องผิดใจกันมาก่อนหรือเปล่า ถึงได้ทำเหมือนกับว่า เป็นขมิ้นกับปูนกันแบบนี้” ตุลาการถามญาติผู้พี่ “ไม่มีเหตุผล ไม่ก็คือไม่” ติณณพัฒน์ไม่ตอบคำถามของตุลาการ แต่กลับยืนกรานคำเดิม “พิมก็เหมือนกัน ไม่ก็คือไม่” พิมพิชชาย้ำชัดอีกคน “โอเค ไม่ก็ไม่ ฉันไม่เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว นายไม่จ้างพิมก็ ไม่เป็นไร แต่นายไปหาผู้หญิงคนอื่นแทนก็แล้วกัน หรือไม่ก็รอวันที่จะแต่งงานกับเง็กซึม ฉันไม่สนใจด้วยแล้ว ไม่ยุ่งด้วยแล้ว ฉันช่วยแค่นี้แหละ” ตุลาการตัดบท ตัดปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องของตนออกไปทันที ติณณพัฒน์สะอึกไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของญาติผู้น้อง แล้วเขาจะไปหาผู้หญิงที่จะสมอ้างเป็นภรรยาได้จากไหนล่ะ จะหวังพึ่งผู้หญิงในสต๊อกของเขาก็ไม่ได้ ผู้หญิงเหล่านั้นเหมาะจะเป็นคู่นอนมากกว่าจะเป็นภรรยา จ้างวานหญิงสาวเหล่านั้นความคงแตกแน่ แล้วเขาก็จะต้องแต่งงานกับหยกแก้วในที่สุด แค่คิดก็สยองแล้ว “พิมไม่รับงานนี้ก็ได้นะ โน้ตไม่ว่าอะไรหรอก มันขึ้นอยู่กับ ความสมัครใจของพิม” เบญจวรรณหันไปพูดกับเพื่อนสาว ก่อนจะพูดเตือนสติทั้งคู่ “แต่โน้ตอยากจะบอกว่าบางครั้งเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมันก็ต้องแยกกันให้ออก โน้ตไม่รู้หรอกว่าพิมกับคุณต้นมีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า โน้ตอยากให้เก็บเรื่องส่วนตัวเอาไว้ แล้วพูดถึงแต่เรื่องงานเท่านั้น” เธอจะไม่ถามว่าทั้งสองมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว การนัดหมายในครั้งนี้คือการเจรจาเรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นน่าจะวางเรื่องบาดหมางเอาไว้ น่าจะคิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการจ้างงานในครั้งนี้มากกว่า ติณณพัฒน์คิดตามคำพูดของเบญจวรรณ ในความคิดของเขานั้นมันยากยิ่งที่จะทำ ไม่ใช่ว่าเขาจะรังเกียจหรือแค้นเคืองพิมพิชชามากมายถึงขนาดร่วมงานกันไม่ได้ เขารู้สึกเสียหน้ามากกว่าที่ถูกผู้หญิงจอมแสบคนนี้ เล่นงานจนร้องโอดครวญอยู่คนเดียว ทว่าพอคิดถึงเรื่องที่จะต้องแต่งงานกับหยกแก้วขึ้นมา ทำให้เขาตั้งใจจะเก็บเรื่องบาดหมางระหว่างเขากับพิมพิชชาเอาไว้ก่อน แล้วค่อยเอาคืนทีหลัง พิมพิชชาเองก็ไตร่ตรองคำพูดของเบญจวรรณอยู่ในใจ หากเธอไม่รับงานนี้ รายได้ของเธอก็จะขาดหายไปด้วย เธอก็จะไม่มีเงินไปจ่ายค่าอัลบั้มรูป ข้อนี้แหละที่เธอทำใจยอมรับไม่ได้ แต่เธอก็ทำใจไม่ได้เหมือนกันที่จะต้องรับงานนี้ ไม่รู้ทำไมเวลามองหน้าติณณพัฒน์ทีไรใจมันหวิวๆ ยังไงบอกถูก จะว่าแพ้คนหล่อก็ไม่ใช่ เพราะเดวิสของเธอหล่อกว่าตั้งเยอะ เห็นทีงานนี้เธอต้องทำตามคำพูดของเบญจวรรณเสียแล้ว วางเรื่องส่วนตัวเอาไว้ ...งานและเงินต้องมาก่อน!! “ก็ได้ ฉันตกลงที่จะจ้างแม่คลองแสนแสบทำงานเป็นเมียจำเป็น” ติณณพัฒน์ ตัดสินใจพูดออกไป “ฉันก็ตกลงรับจ้างเป็นเมียจำเป็นของนายจิตหื่นเหมือนกัน” พิมพิชชาตัดสินใจพูดเช่นกัน หนุ่มสาวอีกคู่ต่างยิ้มให้กันหลังจากที่ได้ยินการตัดสินใจของอีกฝ่าย คำพูดของเบญจวรรณได้ผลดีเกินคาด ทำให้คนแข็งอย่างติณณพัฒน์กับพิมพิชชายอมอ่อนลงได้ เรื่องที่กำลังเจรจาต่อไปนี้ก็ง่ายขึ้นตามไปด้วย “เอาละ ในเมื่อนายกับพิมตกลงที่จะว่าจ้างกันแล้ว เรามาคุยรายละเอียดกันเลยดีกว่า เอ้า เริ่มต้นพูดได้แล้วไอ้คุณต้น” ตุลาการวกเข้าประเด็นทันที ติณณพัฒน์เริ่มพูดในแผนการที่ตนกับญาติผู้น้องได้วางไว้แผนไม่มีอะไรซับซ้อน แค่สมอ้างพิมพิชชาเป็นภรรยา โดยที่ติณณพัฒน์จะพาเธอไปแนะนำให้บิดามารดาได้รู้จัก บอกกับท่านว่าเขาและเธอได้อยู่กินกันเหมือนสามีภรรยามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่กล้าเปิดเผย จนกระทั่งบิดายื่นคำขาดจึงตัดสินใจพาเธอมารู้จัก เขาจะจ้างวานพิมพิชชาเป็นระยะเวลาสองเดือน เป็นสองเดือนที่บิดายื่นคำขาดว่าเขาต้อง ทำให้ภรรยาตั้งครรภ์ ในระหว่างสองเดือนนี้เขาอาจจะพาเธอไปพบบิดา มารดาบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อความสมจริง พอถึงกำหนดสองเดือนภารกิจสุดท้ายของพิมพิชชาก็คือ ทำทีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุ ว่าทำไมเธอถึงไม่ตั้งครรภ์ ก่อนจะนำผลตรวจมาให้บิดามารดารู้ถึงสาเหตุที่พิมพิชชาไม่ตั้งครรภ์ สาเหตุนั้นก็คือเธอเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ ความเสียใจที่ตัวเองเป็นหมันทำให้พิมพิชชาเดินออกไปจากชีวิตของเขาเอง แค่นี้ทุกอย่างก็เรียบร้อย เขาไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับบิดา และไม่ต้องแต่งงานกับหยกแก้วด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD