EP 22

1126 Words
ดีหน่อยที่ยังจ่ายค่าเทอมลูก แต่ก็ไม่วายถูกกลั่นแกล้งเหมือนตอนนี้ ที่ลูกจะต้องเดือดร้อนไปยืมเงินคนอื่น เดือดร้อนต้องไปทำงานหาเงินมาไว้ใช้จ่ายเอง และไหนจะเอาไว้เป็นค่าเทอมอีก “แม่จ๋า! เสร็จแล้วจ้ะ มากินเร็ว” ยังไม่ทันที่คนเป็นแม่จะได้ลุกไปนั่งเก้าอี้ด้วยซ้ำ ก็มีเจ้าของรูปร่างผอมสูง ในเดรสผ้าลูกไม้สีน้ำเงินเข้ม กับเครื่องประดับครบชุด ไม่ว่าจะเป็นสร้อยไข่มุก แหวนเพชรเม็ดโต นาฬิกาฝังเพชร  ก้าวเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉย มีแม่บ้านคู่ใจที่หุ่นกับชื่อช่างตรงกันนักในความรู้สึกของผู้คน คอยหิ้วกระเป๋าถือปักเลื่อมวับแวมยืนอยู่ด้านหลัง “ไหนว่าไม่มีเงินไปจ่ายค่าเทอมยังไงล่ะยะ แล้วนี่อะไร! ทำไมยังกินอาหารหรูขนาดนี้ หรือมีใครแรดไปขอจากคุณพี่ถึงออฟฟิศกัน” อังคณาปรายตามองไปยังโต๊ะอาหารเล็กๆ มีของกินวางเรียงรายด้วยท่าทีชิงชัง ราวกับมันมีชีวิตก็ไม่ปาน ส่วนสองแม่ลูกที่ไม่คาดคิดว่าภัยจะมาถึงตัวตั้งแต่เที่ยงอย่างนี้ ก็ไม่คิดจะโต้ตอบใดๆ นอกจากเงียบ อีกทั้งรู้ดีว่า ต่อให้ตอบอะไรออกไป คุณผู้หญิงก็จะหาเรื่องได้ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ดี “นังอ้วน!” เจ้านายส่งเสียงเข้มเรียกคนด้านหลังอย่างทรงอำนาจ “ขาคุณผู้หญิง มีอะไรให้อ้วนรับใช้เหรอคะ” คนยืนอยู่ด้านหลังทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อมายืนอยู่ข้างๆ ทันควัน “แกช่วยบอกฉันอีกทีซิ ว่าวันก่อนคุณแอลลี่กับคุณผู้ชายบอกว่าใครนะ หน้าด้านไปหาถึงออฟฟิศน่ะ” ปริยกรถอนหายใจเบาๆ ด้วยไม่เข้าใจ ว่าทำไมพ่อจะต้องเอาเรื่องนั้นมาป่าวประกาศด้วย ในเมื่อไม่ได้ช่วยอะไรลูกเลยด้วยซ้ำ ทำไมจะต้องทำให้มีปัญหาตามมาด้วย “ก็คุณผู้ชายบ่นกระบุงโกยน่ะสิคะ ว่ามีลูกนังเล็กๆ น้อยๆ หน้าด้านไปขอเงินค่าเทอมถึงออฟฟิศ ทั้งที่คุณผู้หญิงสั่งห้ามเอาไว้แล้ว” ปรียาเองก็ถอนหายใจออกมา เพราะรู้ดีว่าลูกคงจะดิ้นรนหาทางรอดอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงได้บากหน้าไปหาพ่อผู้ให้กำเนิด แต่สุดท้ายลูกก็ไม่วายต้องไปหยิบยืมจากคนอื่นอยู่ดี ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าคนเป็นพ่อทำไมใจไม้ไส้ระกำกับลูกนัก ขนาดบากหน้าไปหาแล้วยังไม่ช่วยอีก “เหรอ! แล้วแกพอจะรู้มั้ยว่าใครที่บังอาจขัดคำสั่งฉัน” คนเป็นเจ้านายเบะปากนิดๆ สายตาก็จ้องเขม็งไปยังสองแม่ลูก ที่เอาแต่นั่งนิ่งไม่ตอบโต้ใดๆ แม้แต่คำเดียวด้วยความเกลียดชังยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด “จะมีใครล่ะคะคุณผู้หญิง! ถ้าไม่ใช่ อีพวกลูกช่างแย่ง ลูกช่างขอ ได้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ ชีวิตไม่คิดจะทำอะไร วันๆ เอาแต่นอนงอมืองอตีนรอกินกับผัวชาวบ้าน ตัวไปเองไม่ได้ ก็เสี้ยมก็สอนให้ลูกไปแทน” แม่บ้านร่างอวบเข้ากับเจ้านายเป็นปี่เป็นขลุ่ย จ้องมองสองแม่ลูกด้วยสายตาชิงชังไม่แพ้เจ้านาย ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใดๆ มาก่อนนอกจากฟังจากปากเจ้านายแค่นั้น “แล้วฉันควรจะทำยังไงกับอีพวกนี้ดีล่ะนังอ้วน” “อุ๊ย!!! คุณผู้หญิงไม่ต้องทำอะไรหรอกค่ะ ปล่อยเรื่องนี้ให้อ้วนจัดการเอง” อ้วนส่งกระเป๋าเจ้านายคล้องไว้กับแขน แล้วทำท่าลูบไม้ลูกมือคล้ายจะเตรียมออกศึก “แกจะทำยังไงกับพวกมันล่ะนังอ้วน” คนเป็นเจ้านายก็รู้เกมเข็นเสือให้วัวกลัวเป็นอย่างดี เลยส่งกับรับกันเป็นทีม “ทำยังไงดีล่ะคะคุณผู้หญิงขา!!! ให้อ้วนตบมันสองแม่ลูกจนหน้าหันดีมั้ยคะ ต่อไปมันจะได้ไม่ต้องเอาหน้าด้านๆ ของมันไปกวนคุณผู้ชายอีก เรื่องตบๆ ตีๆ นี่อีอ้วนถนัดนักล่ะคะ” อ้วนใช้สองมือถูกันไปมาทำท่าเตรียมพร้อม ปรียานั้นหวาดกลัวไม่น้อย เพราะตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะต่อสู้กับใครได้ ทว่าคนเป็นลูกนั้นคิดไว้ในใจอยู่แล้วว่า ถ้าถึงขนาดมารังควานขนาดนั้น ก็ไม่มีวันจะยอมงอมืองอเท้าให้ใครรังแกอีกต่อไป ‘กลัวอะไร! อย่างมากก็ย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่เท่านั้น เงินก็มีแล้ว ฉันจะไม่ยอมใครอีกแล้ว’ นั่นคือประโยคที่ปริยกรบอกตัวเองไว้ เมื่อเห็นอ้วนเดินเอามือลูกกันตรงมาหา สีหน้าและท่าทางก็บอกอยู่แล้วว่าวันนี้จงใจจะมาหาเรื่องถึงในบ้าน “ไม่ต้องหรอกนังอ้วน ฉันไม่ใช่พวกไพร่ พวกสถุล จะต้องใช้กำลังตบตีกับใครๆ และโดยเฉพาะพวกนังหน้าด้านหน้าทน ชอบแย่งผัวชาวบ้านด้วยแล้ว ตบไปก็เปลืองมือเปล่าๆ ถอย! ฉันจะจัดการเอง” “ค่ะคุณผู้หญิง” เมื่อมีเสียงห้ามขึ้น อ้วนก็พาร่างตุ๊ต๊ะถอยร่นไปยืนอยู่ข้างหลังแทบจะทันที ทิ้งหน้าที่จัดการกับหนามชีวิต ให้เป็นของเจ้านายไปอย่างที่ตั้งใจและเตี๊ยมกันมาอย่างดิบดีแล้ว “โทษฐานที่แกสะเอะให้ลูกบุกไปหาคุณพี่ถึงออฟฟิศ ฉันถือว่าแกขัดคำสั่ง ไม่เชื่อฟังฉัน ไม่เห็นหัวฉัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกสองแม่ลูก จะไม่ได้รับค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น แล้วไม่ต้องสะเออะไปขอข้าวปลาอาหารที่บ้านใหญ่เชียว พวกแกต้องไปดิ้นรนหากินเอง ฉันไม่ได้สั่งเองหรอกนะ แต่นี่เป็นคำสั่งตรงมาจากคุณพี่ ความจริงแล้วคุณพี่จะให้ไล่พวกแกไปอยู่ที่อื่นด้วยซ้ำ ถ้าไม่เพราะฉันขอไว้ล่ะก็ ป่านนี้พวกแกได้ขนของออกไปแทบไม่ทันแล้ว หัดสำนึกบุญคุณฉันบ้าง แต่คนอย่างแกคงไม่รู้จักคำนี้หรอก เพราะถ้ารู้ แกคงไม่หน้าด้านแย่งผัวฉันมาหน้าตาเฉยหรอก ถ้าไม่เพราะฉันเป็นคนดี ฉันคงให้คุณพี่ไล่ตะเพิดแกสองแม่ลูกไปอยู่ที่อื่นนานแล้ว หัดจำบุญคุณของฉัน ใส่กะโหลกหนาๆ ของพวกแกเอาไว้ด้วย” สิ้นเสียงอันทรงอำนาจ คุณผู้หญิงของบ้านก็หันหลังเดินกลับออกไปด้วยท่าทีสง่างาม มีแม่บ้านคู่ใจเดินหิ้วกระเป๋าตามออกไปต้อยๆ ราวกับสุนัขรับใช้ในความคิดของปริยกร มือที่กำแน่นพร้อมจะตอบโต้ค่อยคลายออกและโล่งใจไม่น้อย ที่ยังไม่มีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้น 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD