ตอนที่ 8 อารามดับทุกข์

1591 Words
“พี่ใหญ่ ไก่ตายไปสองตัวขอรับ" เด็กชายรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาหวังจะได้กินเนื้อไก่และภาวนาให้มันตายเร็วๆ แต่พอได้สร้างเล้า ได้เห็นพวกมันออกไข่ก็รู้สึกใจหายเมื่อเห็นแม่ไก่สองตัวที่นอนสงบแน่นิ่งอยู่ “มัดไก่ตายไปด้วย แล้วอุ้มไก่เป็นไปคนละตัว พี่รองจะไปเก็บข้าวสารกับเมล็ดพันธุ์ผักเอง" มู่หรงฉีจัดการมัดไก่ตายเอาไว้ด้วยเชือก จากนั้นก็เอาเชือกมาคล้องคอเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ จับไก่เป็นที่ยังติดอยู่ในเล้ามามัดและส่งให้มู่หยวนอุ้มไว้ตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัวเขาก็อุ้มเอาไว้เอง มู่หรั่นชิวได้ข้าวสารกับเมล็ดพันธุ์ผักที่เหลืออยู่ยังดีที่มันบรรจุเอาไว้ในโอ่งดินเผาที่มีฝาปิดจึงยังไม่เสียหาย นางเอามันใส่ตะกร้าใบใหญ่แบกขึ้นหลัง มือที่เหลือก็คว้าเอาแหที่มีปลาติดอยู่ 1 ตัว รวมทั้งตะกร้าผักป่าที่เพิ่งเก็บมาจากริมแม่น้ำติดไปด้วย ………. ตลอดทางที่เดินไปยังอารามดับทุกข์เพื่อขออาศัยนอน มู่หรั่นชิวอยากจะตะโกนสบถด่าฟ้าดินเหลือเกิน ที่ปล่อยให้ชีวิตน้อยๆ 3 ชีวิตอย่างเด็กสกุลมู่ต้องมาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เลวร้ายอะไรเช่นนี้ ยิ่งเมื่อนึกถึงว่าหากนางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของมู่หรั่นชิวคนนี้ เด็กสองคนจะรอดชีวิตกันไปได้อย่างไร “พี่รองข้าคิดถึงพี่ใหญ่เจ้าค่ะ” มู่หยวนกลั้นน้ำตาเอาไว้เต็มที่ กอดไก่ที่อุ้มเอาไว้แน่นราวกับจะหาที่พึ่งพิง “หยวนเอ๋อร์ ฉีเอ๋อร์ เจ้าสองคนฟังข้าให้ดี ข้าดูแลเจ้าสองคนได้แน่นอน ข้าจะหาทางหาเงินกลับไปซ่อมบ้านเราให้ได้ ไม่ต้องกลัวนะ” “หากพี่ใหญ่กลับมาไม่เจอเราเล่าพี่รอง” มู่หรงฉีเริ่มกังวล “พี่ใหญ่เพิ่งจากไปได้ 2 เดือนกว่าเอง การออกไปรบไม่สามารถกลับมาได้รวดเร็วหรอกฉีเอ๋อร์ พวกเราช่วยกันหาเงินให้มากไว้ กว่าพี่ใหญ่จะกลับมาไม่แน่ว่าเราอาจสร้างบ้านหลังใหญ่รอเขากลับมาอยู่ด้วยกันเสร็จแล้วก็ได้นะ” มู่หรั่นชิวพยายามเรียกขวัญและกำลังใจเด็กน้อยที่ตื่นตระหนก ขนาดนางยังพร่ำบ่นถึงเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ แล้วน้องสองคนจะหวาดกลัวถึงเพียงใด ก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนถึงกับต้องช่วยกันขุดหลุมฝังร่างพี่สาวมาแล้ว นางจะมามัวโทษฟ้าดินพร่ำบ่นให้น้องหวาดกลัวเพิ่มขึ้นไม่ได้อีกแล้ว การมาถึงของสามพี่น้องสกุลมู่ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเสี่ยวทั้ง 12 คน พวกเขาช่วยกันหาเสื้อผ้ามาให้คนทั้งสามได้พลัดเปลี่ยน อีกทางก็หาแผ่นไม้ที่มีอยู่มากมายมาทำกรงขังไก่ที่รอดชีวิตสองตัวเอาไว้ “พี่สาวพวกท่านกินข้าวกันหรือยัง ข้าจะไปต้มข้าวให้ดีหรือไม่” เสี่ยวเจ๋อ เด็กชายวัย 9 ปี ที่มีลูกตำดำเล็กผิดปกติจนดูแปลกประหลาด เดินมาถามมู่หรั่นชิวด้วยท่าทีสุภาพ “ยังเลย ข้าเอาข้าวสารจากที่บ้านมาด้วย พวกเจ้าใช้ของเราก็ได้นะ จริงสิยังมีไก่อีกสองตัว และปลาอีกตัวหนึ่งที่ยังไม่ตาย ข้าฝากหาน้ำมาขังปลาเอาไว้ก่อน มีใครกล้าแล่เนื้อไก่หรือไม่เล่า?" “ข้าทำเอง ข้าเคยเห็นคนเชือดไก่มาก่อน” เสี่ยวเหวินอาสา เสี่ยวเหวินกับเสี่ยวอ่างช่วยกันต้มน้ำมาถอนขนไก่ จัดการล้างทำความสะอาดเสร็จก็ต้มไก่ลงไปในหม้อทั้งตัว ซึ่งเรื่องนี้เขาได้รับอนุญาตจากมู่หรั่นชิวแล้ว และไก่ที่เหลืออีกตัวพวกเขาก็วางแผนจะเก็บเอาไว้กินในวันพรุ่งนี้ก่อนที่มันจะเน่าไปเสียก่อน อารามดับทุกข์เป็นอาคารหลังใหญ่ สร้างเป็นแนวยาวขนานไปกับภูเขา มีห้องแบ่งเอาไว้ 20 ห้อง โดยสร้างให้แต่ละฝั่งมีห้อง 10 ห้องหันหลังชนกัน มีประตูและหน้าต่างอยู่หน้าห้องพัก และแต่ละฝั่งหน้าห้องพักก็จะเป็นระเบียงทางเดินยาว โรงครัวขนาดใหญ่กับส้วมและห้องอาบน้ำแยกออกมาทางด้านหลัง อาหารการกินทุกอย่างจะทำให้เสร็จกันที่ครัว นักบวชไม่อนุญาตให้พวกเขาเอาอาหารขึ้นไปกินบนอาราม ที่นั่นจะใช้เป็นเพียงที่พักผ่อนหลับนอนเท่านั้น เวลานี้เด็กเล็กเด็กโตอายุตั้งแต่ 5-13 ปี จึงมารวมกันอยู่ที่โรงครัวกันทั้งหมด มู่หรั่นชิวยามนี้รู้ดีว่าที่อารามดับทุกข์ไม่ขาดข้าวสาร แต่เชื่อว่าเสี่ยวเหวินเด็กชายอายุมากสุดในวัย 10 ปี ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มก็คงจะดูแลอาหารการกินให้เด็กทั้ง 12 ชีวิตได้ไม่ดีนักพวกเขาจึงได้ผอมแห้งกันเช่นนี้ นางจึงให้เด็กๆ ได้กินข้าวกับเนื้อไก่ต้มพร้อมกับสามพี่น้องสกุลมู่อีกรอบ นางยังคงปฏิบัติเช่นเดิมโดยการแบ่งเนื้อไก่ให้เด็กๆ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ท่ามกลางสายตาซาบซึ้งอย่างรุนแรงของเด็กทุกคน ความสุขจากการได้กินเนื้อสัตว์ของเสี่ยวทั้ง 12 ส่งผลให้พวกเขายิ้มแย้มแจ่มใส หยอกล้อเล่นกับมู่หรงฉีและมู่หยวนจนเด็กสองคนเริ่มร่าเริงขึ้น ทำให้มู่หรั่นชิวเบาใจลงไปได้บ้าง พอกินอิ่มเด็กทั้ง 14 คนต่างก็พากันไปล้างถ้วยจานเก็บคว่ำไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยที่พวกเขาไม่ยอมให้มู่หรั่นชิวต้องมาทำด้วย เสี่ยวเหวินนั้นดีใจมากกว่าผู้ใดที่มีมู่หรั่นชิวเข้ามาอยู่ในอารามดับทุกข์ด้วย เขาอายุน้อยแต่ต้องกลายมาเป็นพี่ใหญ่ พอมีมู่หรั่นชิวที่อายุมากกว่าเขาถึง 3 ปี เด็กชายรู้สึกว่าตนสามารถเป็นน้องที่อยากวิ่งเล่น อยากหัวเราะโดยไม่ต้องคอยกังวลในทุกเช้าค่ำว่าพรุ่งนี้จะต้องให้น้องๆ ที่เหลือทำอะไรบ้าง “เด็กผู้ชายต้องอยู่ห้องพักฝั่งตะวันออก ส่วนเด็กผู้หญิงต้องไปพักห้องฝั่งตะวันตกขอรับ” เสี่ยวเจ๋ออธิบาย เมื่อเห็นมู่หรงฉีเดินตามมู่หรั่นชิวต้อยๆ “หรงฉีเจ้ามานอนกับข้าก็ได้ หรืออยากจะนอนคนเดียวก็ได้ห้องพักยังว่างอยู่อีกหลายห้อง” เสี่ยวเหวินชักชวน “คืนนี้ข้านอนกับเจ้าก็แล้วกัน พรุ่งนี้ข้าค่อยคิดดูใหม่” “หรงฉีพี่อยู่แค่ข้างหลังนี่เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก พี่รองจะนอนกับหย่วนเอ๋อร์เอง รีบนอนพักเสียนะไม่ต้องคิดอะไรมาก พรุ่งนี้เช้าเราค่อยกลับไปที่บ้านกันอีกครั้ง” มู่หรั่นชิวรู้ดีว่ามู่หรงฉีอาจจะวิตกอยู่บ้างหากต้องนอนคนเดียว หรือนอนร่วมกับผู้อื่น เห็นสีหน้าน้องชายที่ซีดลงไปเล็กน้อยแต่ยังทำฝืนเลยแสร้งบอกไม่ให้เขาเป็นห่วง นางอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง พื้นบนอารามดับทุกข์สะอาดสะอ้าน พวกเขาต้องถอดรองเท้าเอาไว้ที่บันไดก่อนจะขึ้นมายังส่วนของห้องพัก เด็กเหล่านี้ไม่ได้สวมถุงเท้า จะสวมก็ต่อเมื่อเป็นฤดูหนาวเท่านั้น เรื่องนี้ก็สร้างความแปลกใจให้กับมู่หรั่นชิวอยู่บ้าง ตามความรู้ของนาง คนโบราณมักจะไม่เปลือยเท้าให้ผู้ใดได้เห็นง่ายๆ โดยเฉพาะสตรีไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ นางไม่รู้ว่านางอยู่ในยุคใดกันแน่ ผู้ใดเป็นจักรพรรดิ หรือมีเหตุการณ์สำคัญใดๆ ในช่วงเวลานี้บ้าง แต่ตลอดชีวิตของมู่หรั่นชิวคนเก่าก็ไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย เดินผ่านห้องพักแต่ละห้องที่มีกลิ่นอับชื้นอยู่บ้าง ยิ่งเมื่อช่วงบ่ายมีฝนตกลงมาอย่างหนักยิ่งทำให้กลิ่นอับยิ่งโชยมาทำลายบรรยากาศดีๆ และภาพลักษณ์ที่สะอาดของอารามดับทุกข์ไปไม่น้อย คืนนี้มู่หรั่นชิวจงใจนอนกอดมู่หยวนเอาไว้ เป็นการปลอบประโลมจิตใจให้เด็กน้อย จนกระทั่งเด็กหญิงหลับไปแล้วมู่หรั่นชิวจึงได้ร้องไห้ออกมาเบาๆ ใช่ว่านางจะยอมรับสภาพชีวิตในเวลานี้ได้เต็มร้อยเสียเมื่อไร นางเคยมีบิดามารดาคอยหุงหาให้กิน ที่หลับที่นอนเครื่องใช้อำนวยความสะดวกที่เคยมีก็หายไปภายในพริบตา หญิงสาวสะกดกลั้นอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน อย่างไรนางก็เป็นแค่หญิงสาววัย 18 ปีในชาติก่อนเท่านั้น จะไม่ให้รู้สึกท้อถอยได้อย่างไรกัน แต่ทุกครั้งที่นางรู้สึกเป็นทุกข์แล้วมองเห็นหน้ามู่หรงฉีและมู่หยวน นางก็เห็นคนที่กำลังทุกข์ใจยิ่งกว่านางจึงจำเป็นต้องเข้มแข็ง และยอมรับชะตากรรม นางค่อยๆ หลับตาลงพร้อมกับสัญญากับตัวเองว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางจะร้องไห้คร่ำครวญ จากนี้ไปนางจะทำให้ชีวิตของสามพี่น้องดียิ่งขึ้น รวมทั้งเด็กๆ ที่น่ารักในอารามดับทุกข์อีก 12 คนนี้ด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD