ตอนที่ 3 คนที่ไม่มีสิทธิ์ (2)

1852 Words
ตอนที่ 3 คนที่ไม่มีสิทธิ์ (2) “เพื่อนถึงได้เป็นห่วงไงคะ กลัวนายโบ๊ตพาเถลไถลไปไหนอีก” “มันน่านัก พี่ก็ห้ามไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปไหนกับหมอนี่ บอกตามตรงว่าคนๆ นี้ไม่น่าไว้วางใจและก็ไม่น่าคบ น้องแพงตามคนแบบนี้ไม่ทันหรอก” “พี่ปราบต์ลองติดต่อแพงให้หน่อยสิคะ คุณพ่อคุณแม่ก็รอ ท่านอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้” “ได้ เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ปฐพีรับคำอย่างว้าวุ่นใจ และรู้สึกว่าภายในจะเพิ่มดีกรีความร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้รู้ว่าพิมพ์มาดากล้าขัดใจทุกๆ คน โดยการออกไปข้างนอกสองต่อสองกับเพื่อนชายของเธอ ทั้งๆ ที่รับปากเขาไว้เป็นอย่างดีว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับวาทิน ชายหนุ่มเดินครุ่นคิดไปจนถึงหน้าลอบบี้ว่าจะจัดการกับคนดื้อรั้นอย่างไรดี ลืมไปชั่วขณะว่าเขายังต้องกลับเข้าไปในงานเลี้ยง เพราะทุกอย่างยังไม่เลิกรา “พี่ปราบต์!” “น้องแพง!” ราวโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างตกใจในความรู้สึกที่ต่างกัน เมื่อปฐพีเดินมาถึงตรงบริเวณที่พิมพ์มาดายืนอยู่ ซึ่งเป็นจังหวะที่เธอกำลังจะกลับพอดี โลกกลมอย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะโคจรมาเจอคนที่ยังไม่อยากให้เขาโผล่หน้ามาในยามนี้ พิมพ์มาดานึกไปถึงว่าโลกช่างเล่นตลกกับเธอเสียเหลือเกิน ไม่อยากคิดต่อว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวจับจ้องมาอย่างคาดคั้นและเอาเรื่อง ‘แย่แล้วเรา’ หญิงสาวโอดครวญอยู่ในใจ เมื่อปฐพีปราดมาประชิดตัวชนิดไม่ทันได้ตั้งหลัก ดูท่าว่าเขาจะโกรธมาก และยังมองไปที่เพื่อนชายของเธออย่างไม่เป็นมิตรอีกด้วย “ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้” “เอ่อ…” ปฐพีมองไปยังวาทินที่ยกมือไหว้อย่างเสียมิได้ แต่เขาไม่อยากรับไหว้เพราะไม่พอใจและอยากตะบันหน้าศัตรูหัวใจมากกว่า รู้ดีว่านั่นคือการทำไปเพราะมารยาท วาทินไม่ชอบหน้าเขาเช่นกัน ทุกอย่างสื่อผ่านออกมาจากแววตา ก่อนที่สายตาคมกล้าจะจับจ้องใบหน้าหญิงสาวคนกลางอย่างคาดคั้น “น้องแพง ทำไมยังไม่กลับบ้าน แล้วมากับเขาได้ยังไง” “พี่ปราบต์ แพงอธิบายได้ มีอะไรเราไปคุยกันที่บ้าน นะคะ” หญิงสาวละล่ำละลัก พลางมองหน้าวาทินเลิกลั่ก เพราะกลัวว่าเขาจะเจ็บตัวเพราะเธอ ขณะวาทินเองนั้นรู้จักปฐพีดี แต่ในเมื่อหญิงสาวที่เขาควงนั้นยังไม่ตกลงใจที่จะเลือกใคร เขาย่อมมีสิทธิ์ วาทินคิดเช่นนั้น “ฉันคิดว่า วันนี้หมดหน้าที่ของนายแล้ว ฉันจะไปส่งเธอเอง” “จะดีหรือครับ” “ดีสิ เพราะฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนี้” “โบ๊ต กลับไปก่อนนะ แพงขอร้อง” วาทินลังเลอยู่สักพัก แต่ก็ยอมที่จะเป็นฝ่ายล่าถอย “ก็ได้…งั้น เดี๋ยวโบ๊ตโทร.หานะ” พิมพ์มาดายิ้มเฝื่อน พลางขยิบตาให้วาทินรีบเดินหนีไป เพราะรู้ดีว่าหากอยู่ต่อจะต้องมีเรื่องราวกันอย่างแน่นอน และที่สำคัญตอนนี้ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนที่อยู่ในใจของปฐพี เพียงเพราะคำพูดของวาทินแค่ ไม่กี่คำ แต่นั่นมันอาจฆ่าเธอได้ หญิงสาวรู้ดี “กลับบ้าน!” เพียงลับร่างวาทิน แววตาคมกล้าตวัดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างขุ่นเคือง มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กให้เดินตามตนไป ที่จริงต้องเรียกว่าลากน่าจะเหมาะกว่า เพราะอารมณ์ที่เดือดดาลทำให้ปฐพีแทบเก็บกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จึงฉุดกระชากลากถูให้พิมพ์มาดาไปขึ้นรถ ท่ามกลางความหวาดหวั่นของคนก่อเหตุ เธอไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน คนต้นเหตุก้มหน้างุด ไม้แม้แต่จะกล้าสบตา เพราะเธอรู้ดีว่าครั้งนี้ตนเองโกหก จากที่เคยรับปากว่าจะเลิกยุ่งกับวาทินตามที่ทางบ้านขอร้อง แต่เธอกลับทำไม่ได้ เมื่อวาทินยังคงเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอ “พี่ไม่ชอบเพื่อนน้องแพง มองตาก็รู้ว่าหมอนี่คบไม่ได้” “พี่ปราบต์ตัดสินคนที่ภายนอก รู้ได้ยังไงว่าโบ๊ตเป็นคนไม่ดี” “หึ…” “แพงไม่ชอบเลย ที่พี่ปราบต์ทำเสียงหัวเราะแบบหยันๆ อย่างนี้” “พี่กำลังหัวเราะให้กับความอ่อนต่อโลกของน้องแพง คนเรามีหลายมุม จะคบใครก็มองให้ลึกกว่านี้ ไม่ใช่เอาตัวไปเกลือกลั้ว ผู้ชายคนนี้จะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้” “เป็นหมอดูเหรอคะ ถึงได้ทำนายอนาคตคนอื่นแบบนี้” “น้องแพง! กล้าที่จะเถียงพี่แล้วเหรอ” “อ๊ะ! ขับช้าๆ สิคะ” การที่พิมพ์มาดากล้าต่อปากต่อคำ ฟางเส้นสุดท้ายจึงขาดผึง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งปาดซ้ายขวาท่ามกลางรถที่แล่นขวักไขว่ จนอีกฝ่ายต้องจับเบาะรถจนแน่น เพราะเธอกลัวว่าเขาจะเสยท้ายรถคันหน้าไปเพราะทำตามอารมณ์ และมุมนี้ของปฐพี เธอไม่เคยเห็นมาก่อน มุมที่เขาโกรธเคืองเธอจนขาดสติเช่นนี้ “พี่ปราบต์ เบาหน่อยได้มั้ยคะ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ” “เดี๋ยวนี้เห็นคนอื่นดีกว่าพี่ จนย้อนยอกได้ทุกคำ น้องแพงไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนี่นะ” เขาไม่เพียงไม่สนใจคำทัดทานของเธอ ยังโต้กลับมาด้วยถ้อยคำแกมตัดพ้อ หากแต่ทว่ายังคงเจือความขุ่นเคืองในน้ำเสียงไปพร้อมๆ กัน พิมพ์มาดายอมนิ่งเงียบ เพราะเธอกลัวที่เขาขับรถน่าหวาดเสียว หากแต่ทว่าอีกฝ่ายสัมผัสได้ ว่ามันเป็นการนิ่งแบบคลื่นใต้น้ำ และนั่นยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะ ปราบม้าพยศให้อยู่หมัดเพื่อจะได้ไม่ไปซุกซนที่ไหน เห็นทีเขาจะต้องตีตราจองด้วยการพาผู้ใหญ่ไปสู่ไว้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป และแน่นอนว่าทางบ้านเธอจะต้องไม่ติดขัด เนื่องจากเขาเองก็เป็นที่รักใคร่ของผู้ใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ปฐพีคิดวางแผนเอาไว้หวังผูกมัด รถเคลื่อนมาจอดสงบนิ่งหน้าบ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ที่มึนตึง โดยไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาก่อน เมื่อเขาเงียบเธอก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องอธิบาย หญิงสาวคิดเมื่อตัดสินใจว่าจะทิ้งความค้างคาใจไว้แบบนี้ “เดี๋ยว!” หญิงสาวต้องชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตู เมื่อแรงบีบจากฝ่ามือแกร่งได้รั้งเธอเอาไว้ แม้จะพยายามบิดท่อนแขนเพื่อให้พ้นจากพันธนาการ เขากลับออกแรงบีบเค้น เพื่อให้เธอยอมจำนน “ปล่อยค่ะ วันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง” “ไม่ จนกว่าน้องแพงจะตอบพี่มา เรื่องที่เราเคยคุยกัน” “คะ?” “เรื่องที่พี่เคยพูดไว้ เรื่องงานแต่งของเรา” หญิงสาวอึ้งไปพักใหญ่ เพราะเธอไม่พร้อมจริงๆ “พี่ปราบต์…คือ…มันเร็วไปในความคิดของแพง” “นึกแล้วเชียว ว่าคำตอบต้องเป็นแบบนี้” “มันเร็วไปจริงๆ นี่คะ“ “แต่พี่รอไม่ได้ คราวนี้พี่คงต้องเอาจริงให้ผู้ใหญ่มาคุยเรื่องนี้สักที” “ไม่ได้นะคะ!” “ทำไม ทำไมจะไม่ได้ ฮึ!” “พี่ปราบต์ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำแบบนี้” “อะไรนะ!” ราวสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เมื่อคำพูดเพียงไม่กี่คำ ได้บีบคั้นใจของปฐพีให้เจ็บปวดได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนชายหนุ่มลืมตัวไปชั่วขณะ ว่าถึงที่หมายนานแล้ว และนี่ก็คือหน้าบ้านของเธอ “พี่ปราบต์ไม่มีสิทธิ์มาบังคับคนอื่น เรื่องหัวใจบังคับกันไม่ได้”” “ไม่มีสิทธิ์งั้นเรอะ!” “อย่านะคะ!” พิมพ์มาดาเบิกตากว้าง หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ เมื่อปฐพีโถมร่างเข้ามา ใช้สองมือยันเบาะรถเพื่อกักร่างเธอเอาไว้ แค่จะดิ้นรนหนีเธอแทบทำไม่ได้ จึงได้แต่นั่งตัวแข็งอยู่ในพันธนาการอ้อมแขนของคนตัวโต ท่ามกลางหัวใจที่เต้นรัวอย่างไม่เคยเป็น ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างหวาดระแวง เพียงแววตาแข็งกร้าวจับจ้องมาเธอต้องหลบสายตาวูบ แล้วก้มหน้างุดอย่างยอมจำนน แสงไฟที่สาดส่องทำให้พอมองเห็นว่าใบหน้าของเขายามนี้แดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป หรือเพราะความกรุ่นโกรธจากถ้อยคำที่เธอเอ่ยออกไปเพราะความปากพล่อยของตัวเองกันแน่ “พี่ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวน้องแพงใช่มั้ย ไหนพูดมาใหม่สิ ว่าพี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวง ไม่มีสิทธิ์ที่จะรัก แล้วใครกันที่มันมีสิทธิ์ ไอ้หมอนั่นใช่มั้ย!” “เจ็บนะ…” หญิงสาวประท้วงเสียงขุ่น เมื่อเขาบีบปลายคางของเธอให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ความหวาดหวั่นเพราะไม่รู้ว่ายามนี้ปฐพีคิดอะไรอยู่ภายในใจ ทำให้เธอเลือกที่จะไม่พูด เพราะกลัวว่าจะยิ่งเป็นการเติมน้ำมันลงบนกองไฟ จนยากที่จะดับลงได้อย่างง่ายดาย “หัวใจน้องแพงทำด้วยอะไร…” คำถามมาพร้อมกับสายตาที่จ้องลึกมายังนัยน์ตาคู่ใส น้ำเสียงนั้นฟังดูตัดพ้อ เป็นประโยคเดียวสั้นๆ แต่ทว่าชัดเจนและกระทบใจคนฟังให้ต้องฉุกคิด จริงของเขาเพราะว่าเธอเหมือนคนใจร้าย ที่ไม่เคยเห็นค่าความรักของคนที่รักเธออย่างจริงจังและมั่นคง เมื่อมองข้ามหัวใจเธอจึงชาชิน และลืมไปว่าการกระทำของตัวนั้นจะไปทำร้ายเขาอย่างไม่รู้ตัว “อย่า! อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวที่บ้านออกมาเห็น” “กลัวพี่เหรอ…” “มะ ไม่ได้กลัว แต่ทุกคนจะสงสัยเอาได้” “หัวใจผู้หญิงซับซ้อนยากที่จะหยั่งถึง หัวใจน้องแพงก็เช่นเดียวกัน” “หัวใจผู้ชายก็ยากจะหยั่งถึงเหมือนกัน” “ไม่…ไม่ใช่ทุกคน พี่เปิดใจแต่น้องแพงไม่คิดที่จะเดินเข้ามาสำรวจเอง” ปลายนิ้วแกร่งทาบไปที่กลีบปากนุ่มเพื่อตัดปัญหาให้เธอหยุดพูด พลางพิจดวงหน้าที่ทำให้เขาลุ่มหลงเนิ่นนาน อยากที่จะผละออกห่างแต่ช่างทำได้ยากเย็น ยิ่งเห็นดวงตากลมโตที่กระพริบปริบๆ คล้ายกำลังพยายามอ้อนวอนร้องขอความสงสาร ยามหลุบตาลงต่ำแพขนตางอนงามช่างรับกันกับดวงหน้าหวานอย่างลงตัว เหมือนจงใจจะฆ่ากันให้ตายเสียตรงนี้ เพียงเพราะเขาไม่อาจทำได้มากกว่านี้ทั้งที่ใจเรียกร้อง อยากเป็นเจ้าของทั้งตัวและหัวใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD