ตอนที่ 3 คนที่ไม่มีสิทธิ์ (2)
“เพื่อนถึงได้เป็นห่วงไงคะ กลัวนายโบ๊ตพาเถลไถลไปไหนอีก”
“มันน่านัก พี่ก็ห้ามไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปไหนกับหมอนี่ บอกตามตรงว่าคนๆ นี้ไม่น่าไว้วางใจและก็ไม่น่าคบ น้องแพงตามคนแบบนี้ไม่ทันหรอก”
“พี่ปราบต์ลองติดต่อแพงให้หน่อยสิคะ คุณพ่อคุณแม่ก็รอ ท่านอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้”
“ได้ เดี๋ยวพี่จัดการเอง”
ปฐพีรับคำอย่างว้าวุ่นใจ และรู้สึกว่าภายในจะเพิ่มดีกรีความร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้รู้ว่าพิมพ์มาดากล้าขัดใจทุกๆ คน โดยการออกไปข้างนอกสองต่อสองกับเพื่อนชายของเธอ ทั้งๆ ที่รับปากเขาไว้เป็นอย่างดีว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับวาทิน ชายหนุ่มเดินครุ่นคิดไปจนถึงหน้าลอบบี้ว่าจะจัดการกับคนดื้อรั้นอย่างไรดี ลืมไปชั่วขณะว่าเขายังต้องกลับเข้าไปในงานเลี้ยง เพราะทุกอย่างยังไม่เลิกรา
“พี่ปราบต์!”
“น้องแพง!”
ราวโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างตกใจในความรู้สึกที่ต่างกัน เมื่อปฐพีเดินมาถึงตรงบริเวณที่พิมพ์มาดายืนอยู่ ซึ่งเป็นจังหวะที่เธอกำลังจะกลับพอดี โลกกลมอย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะโคจรมาเจอคนที่ยังไม่อยากให้เขาโผล่หน้ามาในยามนี้ พิมพ์มาดานึกไปถึงว่าโลกช่างเล่นตลกกับเธอเสียเหลือเกิน ไม่อยากคิดต่อว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นแววตาแข็งกร้าวจับจ้องมาอย่างคาดคั้นและเอาเรื่อง
‘แย่แล้วเรา’
หญิงสาวโอดครวญอยู่ในใจ เมื่อปฐพีปราดมาประชิดตัวชนิดไม่ทันได้ตั้งหลัก ดูท่าว่าเขาจะโกรธมาก และยังมองไปที่เพื่อนชายของเธออย่างไม่เป็นมิตรอีกด้วย
“ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้”
“เอ่อ…”
ปฐพีมองไปยังวาทินที่ยกมือไหว้อย่างเสียมิได้ แต่เขาไม่อยากรับไหว้เพราะไม่พอใจและอยากตะบันหน้าศัตรูหัวใจมากกว่า รู้ดีว่านั่นคือการทำไปเพราะมารยาท วาทินไม่ชอบหน้าเขาเช่นกัน ทุกอย่างสื่อผ่านออกมาจากแววตา ก่อนที่สายตาคมกล้าจะจับจ้องใบหน้าหญิงสาวคนกลางอย่างคาดคั้น
“น้องแพง ทำไมยังไม่กลับบ้าน แล้วมากับเขาได้ยังไง”
“พี่ปราบต์ แพงอธิบายได้ มีอะไรเราไปคุยกันที่บ้าน นะคะ”
หญิงสาวละล่ำละลัก พลางมองหน้าวาทินเลิกลั่ก เพราะกลัวว่าเขาจะเจ็บตัวเพราะเธอ ขณะวาทินเองนั้นรู้จักปฐพีดี แต่ในเมื่อหญิงสาวที่เขาควงนั้นยังไม่ตกลงใจที่จะเลือกใคร เขาย่อมมีสิทธิ์ วาทินคิดเช่นนั้น
“ฉันคิดว่า วันนี้หมดหน้าที่ของนายแล้ว ฉันจะไปส่งเธอเอง”
“จะดีหรือครับ”
“ดีสิ เพราะฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนี้”
“โบ๊ต กลับไปก่อนนะ แพงขอร้อง”
วาทินลังเลอยู่สักพัก แต่ก็ยอมที่จะเป็นฝ่ายล่าถอย
“ก็ได้…งั้น เดี๋ยวโบ๊ตโทร.หานะ”
พิมพ์มาดายิ้มเฝื่อน พลางขยิบตาให้วาทินรีบเดินหนีไป เพราะรู้ดีว่าหากอยู่ต่อจะต้องมีเรื่องราวกันอย่างแน่นอน และที่สำคัญตอนนี้ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนที่อยู่ในใจของปฐพี เพียงเพราะคำพูดของวาทินแค่
ไม่กี่คำ แต่นั่นมันอาจฆ่าเธอได้ หญิงสาวรู้ดี
“กลับบ้าน!”
เพียงลับร่างวาทิน แววตาคมกล้าตวัดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างขุ่นเคือง มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กให้เดินตามตนไป ที่จริงต้องเรียกว่าลากน่าจะเหมาะกว่า เพราะอารมณ์ที่เดือดดาลทำให้ปฐพีแทบเก็บกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จึงฉุดกระชากลากถูให้พิมพ์มาดาไปขึ้นรถ ท่ามกลางความหวาดหวั่นของคนก่อเหตุ เธอไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน
คนต้นเหตุก้มหน้างุด ไม้แม้แต่จะกล้าสบตา เพราะเธอรู้ดีว่าครั้งนี้ตนเองโกหก จากที่เคยรับปากว่าจะเลิกยุ่งกับวาทินตามที่ทางบ้านขอร้อง แต่เธอกลับทำไม่ได้ เมื่อวาทินยังคงเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอ
“พี่ไม่ชอบเพื่อนน้องแพง มองตาก็รู้ว่าหมอนี่คบไม่ได้”
“พี่ปราบต์ตัดสินคนที่ภายนอก รู้ได้ยังไงว่าโบ๊ตเป็นคนไม่ดี”
“หึ…”
“แพงไม่ชอบเลย ที่พี่ปราบต์ทำเสียงหัวเราะแบบหยันๆ อย่างนี้”
“พี่กำลังหัวเราะให้กับความอ่อนต่อโลกของน้องแพง คนเรามีหลายมุม จะคบใครก็มองให้ลึกกว่านี้ ไม่ใช่เอาตัวไปเกลือกลั้ว ผู้ชายคนนี้จะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้”
“เป็นหมอดูเหรอคะ ถึงได้ทำนายอนาคตคนอื่นแบบนี้”
“น้องแพง! กล้าที่จะเถียงพี่แล้วเหรอ”
“อ๊ะ! ขับช้าๆ สิคะ”
การที่พิมพ์มาดากล้าต่อปากต่อคำ ฟางเส้นสุดท้ายจึงขาดผึง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปทำให้ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งปาดซ้ายขวาท่ามกลางรถที่แล่นขวักไขว่ จนอีกฝ่ายต้องจับเบาะรถจนแน่น เพราะเธอกลัวว่าเขาจะเสยท้ายรถคันหน้าไปเพราะทำตามอารมณ์ และมุมนี้ของปฐพี เธอไม่เคยเห็นมาก่อน มุมที่เขาโกรธเคืองเธอจนขาดสติเช่นนี้
“พี่ปราบต์ เบาหน่อยได้มั้ยคะ เดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ”
“เดี๋ยวนี้เห็นคนอื่นดีกว่าพี่ จนย้อนยอกได้ทุกคำ น้องแพงไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนี่นะ”
เขาไม่เพียงไม่สนใจคำทัดทานของเธอ ยังโต้กลับมาด้วยถ้อยคำแกมตัดพ้อ หากแต่ทว่ายังคงเจือความขุ่นเคืองในน้ำเสียงไปพร้อมๆ กัน
พิมพ์มาดายอมนิ่งเงียบ เพราะเธอกลัวที่เขาขับรถน่าหวาดเสียว หากแต่ทว่าอีกฝ่ายสัมผัสได้ ว่ามันเป็นการนิ่งแบบคลื่นใต้น้ำ และนั่นยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะ ปราบม้าพยศให้อยู่หมัดเพื่อจะได้ไม่ไปซุกซนที่ไหน
เห็นทีเขาจะต้องตีตราจองด้วยการพาผู้ใหญ่ไปสู่ไว้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป และแน่นอนว่าทางบ้านเธอจะต้องไม่ติดขัด เนื่องจากเขาเองก็เป็นที่รักใคร่ของผู้ใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ปฐพีคิดวางแผนเอาไว้หวังผูกมัด
รถเคลื่อนมาจอดสงบนิ่งหน้าบ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ที่มึนตึง
โดยไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาก่อน เมื่อเขาเงียบเธอก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องอธิบาย หญิงสาวคิดเมื่อตัดสินใจว่าจะทิ้งความค้างคาใจไว้แบบนี้
“เดี๋ยว!”
หญิงสาวต้องชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตู เมื่อแรงบีบจากฝ่ามือแกร่งได้รั้งเธอเอาไว้ แม้จะพยายามบิดท่อนแขนเพื่อให้พ้นจากพันธนาการ เขากลับออกแรงบีบเค้น เพื่อให้เธอยอมจำนน
“ปล่อยค่ะ วันนี้เราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง”
“ไม่ จนกว่าน้องแพงจะตอบพี่มา เรื่องที่เราเคยคุยกัน”
“คะ?”
“เรื่องที่พี่เคยพูดไว้ เรื่องงานแต่งของเรา”
หญิงสาวอึ้งไปพักใหญ่ เพราะเธอไม่พร้อมจริงๆ
“พี่ปราบต์…คือ…มันเร็วไปในความคิดของแพง”
“นึกแล้วเชียว ว่าคำตอบต้องเป็นแบบนี้”
“มันเร็วไปจริงๆ นี่คะ“
“แต่พี่รอไม่ได้ คราวนี้พี่คงต้องเอาจริงให้ผู้ใหญ่มาคุยเรื่องนี้สักที”
“ไม่ได้นะคะ!”
“ทำไม ทำไมจะไม่ได้ ฮึ!”
“พี่ปราบต์ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำแบบนี้”
“อะไรนะ!”
ราวสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เมื่อคำพูดเพียงไม่กี่คำ ได้บีบคั้นใจของปฐพีให้เจ็บปวดได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนชายหนุ่มลืมตัวไปชั่วขณะ ว่าถึงที่หมายนานแล้ว และนี่ก็คือหน้าบ้านของเธอ
“พี่ปราบต์ไม่มีสิทธิ์มาบังคับคนอื่น เรื่องหัวใจบังคับกันไม่ได้””
“ไม่มีสิทธิ์งั้นเรอะ!”
“อย่านะคะ!”
พิมพ์มาดาเบิกตากว้าง หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ เมื่อปฐพีโถมร่างเข้ามา ใช้สองมือยันเบาะรถเพื่อกักร่างเธอเอาไว้ แค่จะดิ้นรนหนีเธอแทบทำไม่ได้ จึงได้แต่นั่งตัวแข็งอยู่ในพันธนาการอ้อมแขนของคนตัวโต ท่ามกลางหัวใจที่เต้นรัวอย่างไม่เคยเป็น
ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างหวาดระแวง เพียงแววตาแข็งกร้าวจับจ้องมาเธอต้องหลบสายตาวูบ แล้วก้มหน้างุดอย่างยอมจำนน แสงไฟที่สาดส่องทำให้พอมองเห็นว่าใบหน้าของเขายามนี้แดงก่ำ ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป หรือเพราะความกรุ่นโกรธจากถ้อยคำที่เธอเอ่ยออกไปเพราะความปากพล่อยของตัวเองกันแน่
“พี่ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวน้องแพงใช่มั้ย ไหนพูดมาใหม่สิ ว่าพี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงหวง ไม่มีสิทธิ์ที่จะรัก แล้วใครกันที่มันมีสิทธิ์ ไอ้หมอนั่นใช่มั้ย!”
“เจ็บนะ…”
หญิงสาวประท้วงเสียงขุ่น เมื่อเขาบีบปลายคางของเธอให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ความหวาดหวั่นเพราะไม่รู้ว่ายามนี้ปฐพีคิดอะไรอยู่ภายในใจ ทำให้เธอเลือกที่จะไม่พูด เพราะกลัวว่าจะยิ่งเป็นการเติมน้ำมันลงบนกองไฟ จนยากที่จะดับลงได้อย่างง่ายดาย
“หัวใจน้องแพงทำด้วยอะไร…”
คำถามมาพร้อมกับสายตาที่จ้องลึกมายังนัยน์ตาคู่ใส น้ำเสียงนั้นฟังดูตัดพ้อ เป็นประโยคเดียวสั้นๆ แต่ทว่าชัดเจนและกระทบใจคนฟังให้ต้องฉุกคิด จริงของเขาเพราะว่าเธอเหมือนคนใจร้าย ที่ไม่เคยเห็นค่าความรักของคนที่รักเธออย่างจริงจังและมั่นคง เมื่อมองข้ามหัวใจเธอจึงชาชิน และลืมไปว่าการกระทำของตัวนั้นจะไปทำร้ายเขาอย่างไม่รู้ตัว
“อย่า! อย่าทำแบบนี้ เดี๋ยวที่บ้านออกมาเห็น”
“กลัวพี่เหรอ…”
“มะ ไม่ได้กลัว แต่ทุกคนจะสงสัยเอาได้”
“หัวใจผู้หญิงซับซ้อนยากที่จะหยั่งถึง หัวใจน้องแพงก็เช่นเดียวกัน”
“หัวใจผู้ชายก็ยากจะหยั่งถึงเหมือนกัน”
“ไม่…ไม่ใช่ทุกคน พี่เปิดใจแต่น้องแพงไม่คิดที่จะเดินเข้ามาสำรวจเอง”
ปลายนิ้วแกร่งทาบไปที่กลีบปากนุ่มเพื่อตัดปัญหาให้เธอหยุดพูด
พลางพิจดวงหน้าที่ทำให้เขาลุ่มหลงเนิ่นนาน อยากที่จะผละออกห่างแต่ช่างทำได้ยากเย็น ยิ่งเห็นดวงตากลมโตที่กระพริบปริบๆ คล้ายกำลังพยายามอ้อนวอนร้องขอความสงสาร ยามหลุบตาลงต่ำแพขนตางอนงามช่างรับกันกับดวงหน้าหวานอย่างลงตัว เหมือนจงใจจะฆ่ากันให้ตายเสียตรงนี้ เพียงเพราะเขาไม่อาจทำได้มากกว่านี้ทั้งที่ใจเรียกร้อง อยากเป็นเจ้าของทั้งตัวและหัวใจ