ชายหนุ่มก้าวเข้ามาใกล้ เขาเชยคางเธอให้เงยหน้าขึ้น หัสดินจึงได้เห็นหยดน้ำที่คลอรอบหน่วยตาคู่สวย แต่มันไม่ไหลออกมา แถมยังหายไปด้วยเมื่อเธอกะพริบตาไล่
เขาก้มหน้าลงไปใกล้ใบหูของเธอ และกระซิบ
“แต่ผมจะไม่ทำแบบนั้น ผมแค่ยังปล่อยคุณไปตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าไอ้กายรู้ มันจะตามล่าคุณ ในฐานะของเล่นของมัน คุณเคยเลี้ยงแมวมั้ย... เวลามันล่าหนู บางทีมันทำเพื่อความสนุก ตีจนกว่าจะช้ำตายโดยไม่กิน ไอ้กายมันเป็นคนแบบนั้น” ชายหนุ่มพูดเสียงเบาลงอีกเหมือนกลัวว่าใครจะแอบติดเครื่องดักฟังไว้ในนี้ “เพราะงั้น คุณต้องทำทุกอย่างตามที่ผมสั่ง คุณถึงจะเป็นหนูตัวที่รอด...”
หัสดินเลื่อนใบหน้าออกมามองสบตา ดวงตาคมกล้าของเขามีประกายจริงจังแกมดุดันอยู่ในนั้น
“แล้วผมสัญญาว่าคุณจะปลอดภัย”
บัวหวานมองสบตาเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ตอนนี้เธอไม่เหลือทางเลือกแล้วใช่ไหม...
“แล้วฉันต้องทำยังไง”
หญิงสาวตั้งคำถามด้วยหัวใจที่สั่นไหว ก่อนที่เธอจะสะดุ้งโหยงเมื่อเขาก้มลงนั่งคุกเข่าตรงหน้า แล้วจับขาเธอยกขึ้น จากนั้นก็หยิบของบางอย่างที่เหมือนปลอกคออะลูมิเนียมมาสวมไว้ที่ข้อเท้าของเธอ
แกร๊ก!
สิ้นเสียงล็อกของสิ่งนั้น บัวหวานก็รู้สึกเหมือนโดนกักขังอยู่ในกรงที่มองไม่เห็น
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดหน้าจอทัชสกรีนได้ไม่นาน ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้เธอดูตรงหน้า
“ผมมีกฎอยู่สองข้อให้คุณทำตาม กฎข้อที่หนึ่งคุณต้องสวมปลอกข้อเท้าติดจีพีเอสไว้ แล้วผมจะได้รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนแบบเรียลไทม์”
หน้าจอโทรศัพท์แสดงให้เห็นแผนที่ดาวเทียม มีจุดสีดำกับจุดสีขาวกะพริบอยู่ข้างกัน แสดงให้เห็นว่าเธออยู่ตรงหน้าเขาตามที่แอปพลิเคชันแสดง
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงไว้เหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะพูดต่อ
“กฎข้อที่สองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณต้องไว้ใจผม ทำตามที่ผมสั่ง อย่าถามหาเหตุผล”
บัวหวานนิ่วหน้า นี่เขาคิดว่าตัวเองน่าสบายใจเวลาอยู่ใกล้ขนาดนั้นเลยเชียวถึงควรจะไว้ใจเขา คิดว่าตัวเองเป็นพ่อพระ ทั้งที่เป็นพ่อค้ามนุษย์เนี่ยนะ!
“ทำได้หรือเปล่า”
เขาถามเสียงเรียบ สีหน้าเคร่งขรึมจนบัวหวานเดาอารมณ์เขาไม่ออก เธอกำมือแน่นด้วยความคับแค้นใจ แต่ก็อย่างที่เขารู้...
“แล้วฉันมีทางเลือกอื่นอีกหรือไง”
“ไม่มี”
หยดน้ำใสๆ ร่วงเผาะแตะแก้มนุ่ม แต่แค่ชั่วพริบตา เธอก็ยกมือขึ้นปาดมันทิ้งแล้วเงยหน้ามองเขาอย่างจำนน
“ฉันจะได้กลับบ้านใช่มั้ย”
“อาจจะ” เขาหันไปสแกนนิ้วให้ประตูลิฟต์เปิดอีกครั้ง ก่อนจะหันมาพูดต่อ “ถ้าคุณเป็นเด็กดี ผมอาจจะหาทางให้คุณได้กลับบ้าน โดยไม่โดนไอ้กายมันตามรังควานก็ได้”
ชายหนุ่มจับแขนเรียวดึงให้เดินตามออกมาจากลิฟต์ แต่ด้วยช่วงขาของเขาที่ยาวกว่าเธอมาก ทำให้บัวหวานต้องสับเท้าตามเร็วๆ จนแทบจะตัวลอย
หัสดินเหลือบมองโดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว แต่เมื่อเงยหน้ามองเขาอีกที บัวหวานก็เห็นเขาหันไปมองทางเดินแล้ว ทว่าราวกับช่วงขายาวๆ ของเขากำลังก้าวช้าลงเพื่อให้เป็นจังหวะเดียวกับขาสั้นๆ ของเธอ
ไม่หรอก... เธอคิดไปเอง
พวกพ่อค้ามนุษย์ ไม่มีทางใจดีกับ ‘สินค้า’ หรอก
“อ้าว นาย”
บัวหวานเจอผู้ชายตัวใหญ่หน้าเหี้ยมยืนรออยู่หน้าห้องของหัสดินอย่างนอบน้อม แม้ว่าใบหน้าโหดๆ นั่นจะเกลื่อนรอยยิ้มก็ตาม
ไม้แอบมองผู้หญิงของเจ้านายแวบเดียวก็รู้แล้วว่าสวยหุ่นเซี๊ยะ อย่างนี้เองเล่าหัสดินถึงสั่งให้เขาซื้อของกระจุกกระจิกพวกนี้มาให้ ทั้งที่ปกติ ถึงหัสดินจะดูแล ‘เด็กๆ’ อย่างดี แต่ก็ไม่เคยเห็นซื้อของให้ใครเยอะแยะขนาดนี้มาก่อนเลย
“นี่ครับ ของที่นายสั่ง”
ไม้ส่งถุงติดตราห้างสรรพสินค้าชื่อดังเกือบสามสิบใบให้หัสดิน
“ขอบใจ เดี๋ยวกูโอนเงินให้”
“คร้าบ เจ้านาย”
ไม้ไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินที่หัสดินว่าเท่าไหร่ เขาเปิดประตูให้เจ้านายและผู้หญิงของเจ้านายอย่างนอบน้อม ก่อนจะแอบมองเธอเต็มๆ ตาตอนที่หัสดินดึงตัวบัวหวานเข้าไปในห้อง
ใบหน้าสวยสะคราญหันมองมาพอดี ดวงตากลมโตประดับด้วยแพขนตายาวหนางอนเหมือนสาวจากแดนภารตะ ริมฝีปากอวบอิ่ม ผิวไม่ขาวเท่าไหร่แต่นวลเนียน แล้วไหนจะหุ่นเซี๊ยะๆ นั่น
อื้อฮือ สวยหยาดเยิ้มเป็นบ้าเลยอีหนู...
ปัง!
ไม้สะดุ้งเมื่อหัสดินกระแทกประตูปิดเฉียดปลายจมูกเขาแค่นิดเดียว โธ่! ขี้งกชะมัด ขอดูหน่อยก็ไม่ได้
ของแค่นี้แค่ดูไม่สึกไม่หรอสักหน่อยนี่นาเจ้านาย...
แมงดาหนุ่มโอดครวญอยู่ในใจ ก่อนเดินคลำจมูกจากไป โดยไม่มีโอกาสได้รู้อีกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้นบ้าง
หัสดินพาบัวหวานมานั่งที่โซฟากลางห้อง เขาวางถุงกระดาษทั้งหมดลงกับพรมหน้าโซฟา ก่อนหยิบถุงหนึ่งที่ติดตราชุดชั้นในสตรีราคาแพงขึ้นมา
“ก่อนอื่น เธอน่าจะต้องการไอ้นี่”
หัสดินหมายถึงบราเซีย และเขาก็ดึงเจ้าสิ่งที่ควรจะเป็นบราเซียออกมา เพราะมันมีโครงเหล็กโดนมือด้วย
แต่สิ่งที่ชายหนุ่มหยิบออกมา กลับเป็นชุดชั้นในลูกไม้สีดำที่มีแค่โครงจริงๆ เพราะตรงจุดที่ควรมีการปกปิด กลับไม่มีผ้าสักชิ้น!
ถ้าจินตนาการว่าบัวหวานสวมชุดชั้นในคอลเลคชั่นนี้ ก็เท่ากับไม่ได้สวมอะไรเลย นอกจากสายสีดำเซ็กซี่ที่ไม่สามารถปกปิดความงามลึกลับของเธอ แถมมันยังช่วยขับให้ตรงนั้นตรงนี้เด่นสะดุดตากว่าเดิมไปอีก
บัวหวานอึ้ง หัสดินก็อึ้ง
ชายหนุ่มเทของในถุงออกมากองอยู่บนพรมทั้งหมด และพบว่าเป็นชุดชั้นในแบบเดียวกัน คละแค่สี ถึงยี่สิบชุด
“ไอ้ไม้!!!”
ชายหนุ่มหันไปมองทางประตูแล้วระเบิดเสียงคำรามลั่น แต่อนิจจา ห้องของเขาเก็บเสียงได้อย่างชะงัด ความโมโหของหัสดินจึงไปไม่ถึงไม้ที่ตอนนี้กำลังผิวปากเดินลงบันไดอย่างอารมณ์ดี...
ที่นี่คือโรงพยาบาล...
บัวหวานหยีตาเพราะแสงจ้าของไฟเพดานที่ส่องสว่าง ผนังสีขาวยิ่งทำให้ที่นี่ดูเหมือนคนละขั้วกับห้องของหัสดิน หญิงสาวเห็นตัวเองและแม่นั่งอยู่ตรงข้ามกับหมอ ถึงแม้สีหน้าของหมอจะเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเครียดไปด้วย แต่บัวหวานก็เห็นรอยกังวลจางๆ ในแววตาของนายแพทย์รุ่นใหญ่อยู่ดี
‘ยังไงก็ต้องผ่าตัดครับ เพราะเนื้องอกตรงนี้ใหญ่มากจนไปขวางทางเดินของน้ำเลี้ยงไขสันหลัง’