บทที่๔/๑

1220 Words
กณิศายอมรับว่าอดใจไม่ไหวที่จะไม่หันกลับไปมอง เสียงแจ่มจันทร์นั้นไม่ได้เบาเอาเลยซ้ำยังแกล้งควรญครางออดอ้อนเสียขนาดนั้น เธอจึงอยากรู้ว่าชายหนุ่มที่ถูกร้องขอจะทำเช่นไร แล้วเมื่อหันไปมองกลับรู้สึกว่าคอตนเองแข็งขึ้นมาทันทีกับภาพที่เห็นแจ่มจันทร์ซบอยู่ที่อกของชยธร และเหมือนสายตาชายหนุ่มมองมาที่เธอนั่นมีแววล้อเลียนและเย้ายั่วอยู่ในที กณิศาชักสีหน้าใส่แล้วหันกลับไปทันทีแต่ก็ชะงักอีกครั้งเมื่อนางสายบัวและน้าสำรวยออกมาจากบ้านพอดี “อ้าว จันทร์เป็นอะไร” สำรวยตะโกนถามแล้วเดินฉับๆ สวนทางกณิศาไปหาลูกสาวตนเองทันที ส่วนนางสายบัวก็มองตามนางสำรวยไปเห็นชยธรช่วยพยุงแจ่มจันทร์ แล้วปล่อยมือถอยห่างเมื่อแจ่มจันทร์ยืนเองได้ตรงแล้ว ก่อนจะหันกลับมามองกณิศาอย่างสงสัยแต่นางไม่ได้ถามอะไร แค่พูดเรื่องงานแทน “เดี๋ยวไปช่วยจันทร์มันเคลียร์บัญชี แล้วบ่ายก็ไปธนาคารให้ด้วย” “ค่ะแม่” กณิศารีบรับคำทันที เธอกระตือรือร้นที่จะทำงานให้แม่ อยากตอบแทนพระคุณอยากไถ่โทษกับสิ่งที่เคยทำให้แม่เสียใจแม้จะรู้ว่ามันลบล้างกันไม่หมด หรืออาจจะลบล้างไม่ได้เลยแต่เธอก็อยากทำ และเหนือสิ่งอื่นใดเธออยากอยู่ใกล้แม่ อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นอีกครั้ง แม้สมาชิกในครอบครัวจะไม่เท่าเดิมอีกแล้วก็ตามที “แล้วเด็กกินอะไรหรือยัง” นางสายบัวยังไม่เรียกรวงข้าวว่าหลาน เพราะแสลงใจและเจ็บแปลบทุกครั้งที่คิดว่ามีหลานด้วยความไม่ยินยอม มีหลานพร้อมการตกเป็นเหยื่อจากขี้ปากชาวบ้าน แม้ทุกครั้งที่เห็นตาแป๋วๆ กับแก้มยุ้ยๆ และรอยยิ้มที่เด็กหญิงส่งมาให้ใจนางจะอ่อนยวบลง ทว่าปากนางก็ยังแข็งอยู่ดี “ยังเลยค่ะ ก้อยกำลังจะเข้าไปทำ” กณิศาตอบสั้นๆ ไม่ได้นึกน้อยใจที่แม่ยังมีท่าทีห่างเหินกับเธอและลูกอยู่ การที่นางยินยอมให้เธออยู่ช่วยทำงานก็นับว่าเมตตามากแล้ว และเป็นสัญญาณที่ดีว่าสายสัมพันธ์แห่งสายเลือดนั้นยังเหนียวแน่น แม้จะพร่ามัวเพราะม่านหมอกแห่งความไม่เข้าใจและความลับที่เธอไม่อาจเปิดเผยได้ “ละมุนทำโจ๊กไว้แล้วคงกินได้นะ” “ได้ค่ะ รวงข้าวกินง่ายอยู่ง่ายค่ะ แกกินได้ทุกอย่างผักก็กินทุกชนิดไม่เลือก” กณิศาเอ่ยถึงลูกอย่างชื่นชมก่อนสะอึกกับเสียงที่แทรกขึ้น “กินไม่เลือกใช่ว่าจะดีนะก้อยจ๋า แถมยังกินง่ายอยู่ง่ายทำอะไรง่ายๆ อีก ระวังจะเจริญรอยตาม” “นังจันทร์ ไปช่วยป้ามุนตั้งโต๊ะไป” สำรวยขัดคำพูดก่อนที่แจ่มจันทร์จะพล่ามมากไปกว่านี้ เพราะเกรงใจนางสายบัว คำของแจ่มจันทร์ใครๆ ก็ฟังออกว่ากำลังแขวะกณิศา ก่อนจะฉวยข้อมือลูกสาวกระชากไปเสียจากตรงนั้นทันที “อุ๊ย! เจ็บนะแม่” แจ่มจันทร์พ้อเบาๆ พยายามดึงมือกลับเมื่อลับสายตาทุกคนมาแล้ว นางสำรวยหยุดเดินปล่อยข้อมือแล้วหยิกลงบนหลังมือแทน “แม่! เจ็บ!” แจ่มจันทร์สะบัดมือเร่าๆ ก่อนลูบตรงรอยหยิกเบาๆ มองแม่หน้าง้ำ แต่ถูกนางสำรวยทำตาดุใส่แล้วว่าซ้ำ “เจ็บแล้วจำไว้บ้างสิ บอกกี่ครั้งแล้วอย่าพูดทำนองนั้นต่อหน้าป้าบัว นังก้อยนะมันลูกเขา แกแค่หลานแถมมาอาศัยเขาอยู่ ทำไมไม่จำใส่กะลาหัวเอาไว้บ้าง” “แล้วฉันพูดผิดตรงไหนละแม่ก็” แจ่มจันทร์ยังเถียงจนนางสำรวยเงื้อฝ่ามือขึ้นอีก หญิงสาวจึงวิ่งปรูดไปทันที นางสำรวยจึงได้แต่ตะโกนไล่หลัง “ไปช่วยป้ามุนจัดโต๊ะเลยนังจันทร์” กณิศาคอแข็งขึ้นทันทีเมื่อชยธรเดินเข้ามาใกล้ ยิ้มแย้มทักทายนางสายบัวที่ชักชวนมารับประทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างสนิทสนม แม้เธอไม่ลืมว่าความสนิทสนมของทั้งสองนั้นเกิดมาจากการที่เขาเกือบจะได้เป็นลูกเขยอยู่รอมร่อ และเวลานี้ยังถือว่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกันอีกด้วย “ก้อยพารวงข้าวไปล้างมือ แล้วป้อนข้าวข้างในนะคะ” กณิศาบอกแม่ทันทีที่ชยธรมาหยุดยืนใกล้ๆ แล้วรวงข้าวก็ทำทีโผเข้าหาเขาอีกครั้งจนเธอต้องถอยห่างออกมา ก่อนเบี่ยงตัวหนีเมื่อเด็กหญิงดิ้นไม่หยุดพร้อมชี้ไปหาชยธร “ไปๆ” เสียงเล็กๆ แม้จะดังไม่ชัดนักแต่มีความหมายเหมือนกิริยาที่กำลังโผไปทางชยธร เด็กน้อยใช้วิธีการโถมไปทั้งตัวจนกณิศาแทบจะรับน้ำหนักไม่ไหว ชยธรกลัวว่ารวงข้าวจะตกจึงเข้ามาถึงตัวทันที “มาค่ะ ลุงอุ้ม” และก็เป็นเหมือนครั้งก่อนๆ ที่กณิศาไม่ยินยอม เธอถอยหนีพร้อมตวาดแว้ด “อย่ามายุ่ง” “ก้อย!” นางสายบัวปรามในทันที ไม่เข้าใจท่าทีกณิศาที่แสดงออกมามากจนเกินไปกับแค่ชยธรจะอุ้มรวงข้าว ซึ่งรวงข้าวเองก็มีท่าทีอยากให้ชายหนุ่มอุ้มเอาเสียมากๆ กณิศาชะงักกับเสียงเข้มของแม่แต่ยังตอบอ้อมแอ้ม “ก้อยจะพาลูกไปล้างมือ” จากนั้นเธอก็เดินจากไปทันที นางสายบัวมองตามแล้วส่ายหน้าช้าๆ ก่อนหันมาหาชยธร “ขอโทษแทนยัยก้อยด้วยที่เสียมารยาท” “ไม่เป็นไรครับ แต่ดูคุณก้อยหวงลูกจัง ผมเข้าใกล้ไม่ได้เลย” ชยธรบอกนางสายบัวแล้วมองตามกณิศาไป ยังเห็นแววตาเศร้าสร้อยและมือเล็กๆ ที่กวักเรียกเขาหย็อยๆ จนอดสงสารไม่ได้ “เด็กคงคิดถึงพ่อมั้งครับ เข้าใกล้ผมทีไรอยากให้อุ้มทุกทีเลย” ชยธรพูดออกไปแล้วนึกเกรงใจนางสายบัวขึ้นมาเพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไรและเป็นอย่างเขาคาดนางสายบัวมีสีหน้าสลดลงทันที “ขอโทษครับแม่ ผมไม่ได้ตั้งใจ” “ไม่เป็นไร ยังไงก็หนีความจริงไปไม่พ้นหรอก ไปนั่งคอยตรงโน้นเถอะ เดี๋ยวจันทร์คงยกอาหารเช้ามา” นางสายบัวชวนแล้วเดินนำ “ผมเอาดอกรักไปใส่กรงก่อนนะครับ เดี๋ยวมา” ชายหนุ่มบอกแล้วเดินกลับไป เรียกกระต่ายหูตกตัวกลมที่กนกกรเป็นคนร่ำร้องขอให้เขาซื้อแต่พอได้มาแล้วเธอก็ไม่เลี้ยงดู แค่เห่ออยู่พักเดียวก็ผลักภาระมาให้เขา แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะชอบความขี้อ้อนและน่าเอ็นดูของเจ้ากระต่ายตัวน้อย แล้วชื่อดอกรักก็เป็นชื่อที่เขาตั้งขึ้นหวังสื่อให้กนกกรรู้ว่ารักเธอเพียงใด แต่ดูเหมือนทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด กนกกรไม่ชอบบอกว่าชื่อเชย ครั้นจะให้เธอตั้งชื่อให้ใหม่ก็บอกว่าไม่ว่าง จะให้มันชื่ออะไรได้ ชยธรลอบถอนหายใจอีกครั้งเมื่ออุ้มเจ้าดอกรักขึ้นมา ไม่มีใครรักเราจริงเลยใช่ไหม ดอกรัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD