บทที่9เจรจาภาษาบิดาและลูกๆ

3696 Words
บทที่9เจรจาภาษาบิดาและลูกๆ  ...กล่าวไปถึงฟากฝั่งของพระราชวังหลวงของเป่ยเหลียงที่ห้องทรงพระอักษรในตำหนักชิงหลวน...   "อาการของลูกสะใภ้ข้าเป็นเช่นไรบ้างเล่าเฉิงเอ๋อร์"   บุรุษวัยหกสิบหนาวทว่าร่างกายนั้นกลับยังดูหนุ่มกว่าวัยในตาเปล่งประกายนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทรงงานใบหน้าดูเคร่งขรึมมีอำนาจเอ่ยถามบุรุษหนุ่มวัยยี่สิบกว่าหนาวถึงอาการของ'ลูกสะใภ้'ที่เขานั้นได้ข่าวมาว่าเพียงยังมิทันฟังราชโองการจบสิ้นก็เป็นลมหมดสติไปเสียก่อนแล้ว   ...ช่างน่าเอ็นดูอย่างยิ่งสะใภ้ของข้า...  "ก็ดีพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"   ร่างในอาภรณ์สีดำสนิทเอ่ยตอบน้ำเสียงเรียบนิ่งยากจะคาดเดาถึงความในใจว่าเขาผู้นั้นที่แท้กำลังคิดการร้ายอันใดอยู่กันแน่แต่ที่แน่แท้นั้นก็คือตอบนั้นไปกระตุกหนวดมังกรเฒ่าจนแทบหน้าทิ่มเสียแล้ว   "เฉิงเอ๋อร์...ไอ้ก็ดีของเจ้านั้นน่ะ ข้าไม่อาจเข้าใจมันได้ทั้งหมดหรอกอย่างไรเจ้าก็ช่วยพูดให้มันมากหน่อยจะได้หรือไม่ ในวังนี้คงมีแต่เจ้าที่สงวนคำพูดดังกับว่ามันคือทองคำล้ำค่า แม้แต่องค์หญิงทั้งหลายยังมีคำพูดมากกว่าเจ้าเสียอีกช่วยทำตัวให้เหมือนมนุษย์ทั่วไปเขาเป็นกันหน่อยจะได้หรือไม่เฉิงเอ๋อร์"   ทว่านอกจาก'เฉิงเอ๋อร์'จะไม่ตอบคำมันยังทรุดลงไปนั่งจิบน้ำชาอุ่นพร้อมเดินหมากล้อมกับบุรุษอีกผู้เฉยอีกด้วย   ...บิดามันตายสิน่า!...   'เอ่อ...บิดามันก็เป็นข้าเองมิใช่หรือไรหึ๊ย...'   "โม่หราน"   เมื่อ'เอาความ'กับไอ้ลูกบิดาลืมสั่งสอนไม่ได้องค์ฮ่องเต้'หลี่หยางเฉิน'เลยจำต้องเงยหน้าขึ้นมาจากกองม้วนไม้ไผ่ฎีกามากมายที่กำลังทรงอ่านอยู่มองตรงไปยังร่างของบุรุษผู้ในวัยราวยี่สิบกว่าหนาวอีกผู้ซึ่งเขาผู้นั้นมีใบหน้าค่อนข้างคล้ายคนที่เอ่ยถามอยู่ถึงเจ็ดส่วน   ซึ่งนั่งสงบนิ่งถัดออกไปจากเจ้า'หมาป่าจอมเย่อหยิ่ง'เช่นจ้าวไห่เฉิงคนผู้นั้นดูอ่อนวัยกว่าทั้งสองบุรุษที่กล่าวโต้ตอบกันแต่แรกถึงรูปกายของเขานั้นมิได้แตกต่างกันมากมายกับองค์ฮ่องเต้และท่านรองแม่ทัพจ้าว ทว่าที่แตกต่างคงเป็นกิริยานุ่มนวลใบหน้างดงามปานล่มปฐพีกับการชอบนั่งสงบ...นิ่งจนคล้ายรูปปั้นของเทวรูปในอารามหลวงก็มิปาน   ยังดีอยู่บ้างที่บนกายแกร่งนั้นสวมอาภรณ์สีดำสนิทจึงมิให้ความรู้สึกว่าบุรุษผู้นั้นคือเทพเซียนมากกว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป หากแต่ว่าเมื่อมันเป็นสีดำสนิทเมื่อมันมารวมอยู่บนร่างกายที่มีผิวขาวซีดแล้วกลับยิ่งข่มให้ดูว่าความขาวนั้นยิ่งพลันซีดจัดมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวนัก...   ...ตกลงหากองค์ชายแปดมิได้เป็นเทพเซียนเขาก็ยังสามารถจะเป็นจอมปีศาจบิดาน้ำแข็งได้อยู่ดี...   "โม่หรานเจ้าก็ลืมเอาปากกลับมาจากค่ายหลางจินเซ่อด้วยหรือไร?"   ...บัดซบบิดามันเถอะ!...   'มีลูกชายแต่ละคน...จะปกติธรรมดาเช่นชาวบ้านชาวช่องเขามันจะตายหรือไรนะหลี่หยางเฉิน!'   คิดตกแล้วหลี่หยางเฉินเขาก็เหลือบดวงตามองตรงไปยังด้านหน้าที่มีพระโอรสถึงสองพระองค์นั่งอยู่ทว่าคล้ายกับตนเองกำลังนั่งอยู่ร่วมกับตอไม้หรือไม่ก็ก้อนศิลาขนาดยักษ์ถึงสองก้อน!   มองแล้วก็ถอนหายใจทิ้งด้วยความหน่ายใจเล็กน้อยกับทั้งพระโอรสอันเปิดเผยได้และผู้ที่ชาตินี้ก็เกรงว่ามิอาจเปิดเผยฐานะระหว่างกันไปได้ถึงเจ้าสองคนนี้มันจะเก่งกาจและฉลาดผิดพี่ผิดน้องไปไกล  ทว่าความเอาแต่ใจและเข้าถึงได้ยากเย็นก็มีมากขึ้นไปกว่าพระโอรสอีกหลายพระองค์เช่นกันยิ่งเจ้า'แปด'ผู้นั้นอายุหรือก็เข้ายี่สิบเก้าหนาวแล้วไม่รู้ว่าจะกระทำตนเยี่ยงนักพรตไปจนกระทั่งแก่ความตายไปเลยหรืออย่างไร...   ...เห็นทีข้าจะต้องเป็นกามเทพผูกด้ายแดงอีกแล้วเป็นแน่...   ถึงจะมีส่วนดีที่ทั้งสองมิใครมักใหญ่ไฝ่สูงแก่งแย่งดังพี่น้องผู้อื่นอีกหลายคนแต่ไอ้ไม่ค่อยจะสนใจคนทั้งโลกหล้าเขาเองก็เกินจะทนเช่นกันเจ้าหกนั้นหมดห่วงมีภรรยามาให้เขาได้เบาใจว่ามันจะเป็นหมาป่าสีเงินผู้มิเดียวดายไปแล้วทว่าเจ้าหมาป่าสีทองเช่นหลี่โม่หรานเขานั้นปวดเศียรเวียนศีรษะกับมันอย่างยิ่ง!   "หม่อมชั้นหมายความว่านางอาการดีขึ้นมากแล้วก็เพียงตกใจจนเป็นลมฝ่าบาทจะแตกตื่นไปไยหากนางเป็นลมเพราะมีครรภ์ตอนนั้นฝ่าบาทจึงค่อยแตกตื่นจะมิดีกว่าหรือไร?"   จะมองค้อนหลี่หยางเฉินนั้นก็มิกล้าเพราะตนเองนั้นเป็นถึงผู้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินเป่ยเหลียงมังกรเฒ่าให้คิดทบทวนว่าตนเองนั้นไป'พลาดท่า'เสียทีให้แก่สตรีแซ่จ้าวด้วยท่าพิสดารอันใดเข้าจึงได้มีคนเช่นจ้าวไห่เฉิงออกมาให้เข้าร้าวรานเช่นนี้   "เจ้าเพิ่งเข้าหอมิใช่หรือเฉิงเอ๋อร์ไยจึงมีความมั่นอกมั่นใจเร็วไวถึงปานนี้?"   หางตาถูกจิกมองส่งให้บิดามิเกรงใจก็กล่าวไปแล้วฮ่องเต้นั้นมิใช่บุรุษที่เขาจะเกรงกลัวก็ในใต้หล้านี้บุรุษที่เขาจะเกรงใจมีเพียงท่านตาซึ่งตายจากไปหลายหนาวแล้ว ส่วนฮ่องเต้นั้นต่อให้เขารู้แจ้งว่าเป็นบิดาหากไม่ติดสัญญากับท่านแม่รับรองแม่แต่นั่งปลดทุกข์เขาล้วนไม่หันทิศทางมาทางวังหลวงเด็ดขาด   ...บุรุษขี้ขลาดไร้ยางอายผู้ใดจะคิดนับญาติด้วยกัน!...   "โม่หรานแล้วเจ้าเล่าอายุก็ปานนี้แล้วเมื่อใดจึงจะตบแต่งชายาสักครา?"   หลังจากหมดคำจะพูดกับบุตรชายคนเล็กสุดไปเสียแล้วหลี่หยางเฉินเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ทันทีซึ่งคำถามนี้ทำเอาท่านหมาป่าสีทองถึงกับเสียสมาธิเดินหมากผิดถูกเจ้าน้องชั่วกินเรียบไปครึ่งกระดาน   ...บัดซบมันเอ๊ย...   "ไยฝ่าบาทจึงต้องว้าวุ่นใจเสียจริงกับการที่กระหม่อมยังมิคิดตบแต่งสตรีมาเป็นภรรยา"   ...โครม!...   ช่างเป็นคำตอบอันกำกวมจนหลี่หยางเฉินนั้นมือไม้อ่อนม้วนฎีกาพลันร่วงหล่นตกลงพื้นเสียงดัง จ้าวไห่เฉิงผู้รอทับถมฮ่องเต้อยู่ก่อนเปิดรอยยิ้มเย้ยหยันไม่พอมันยังยักคิ้วหลิ่วตาดูสาแก่ใจอย่างยิ่ง!   "จะ...เจ้ากล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันโม่หราน?!"   "...."   คนถูกถามเขากลับจับหมากเริ่มจัดเรียงหวังจะเดินกระดานต่อไปชนิดที่ว่าหากตนเองไม่รู้ชนะวันนี้จ้าวไห่เฉิงก็อย่าได้คิดกลับจวนไปนอนกกกอดฮูหยินให้อุ่นใจเลยทีเดียวปล่อยให้องค์ฮ่องเต้คิดมากไปเองจนใบหน้านั้นประเดี๋ยวก็ซีดขาวประเดี๋ยวก็เขียวคล้ำดำจนคล้ายจะม่วงไปหมดซางเหอกงกงที่ยืนโบกพัดที่ด้านหลังขยี้ตาอยู่สามรอบก็คิดว่าสายตาของตนเองเกินจะเยียวยาเสียแล้วเมื่อเขานั้นแลเห็นเส้นผมขององค์ฮ่องเต้คล้ายจะหงอกขาวขึ้นมากระจุกใหญ่   "ฝ่าบาทจะคิดมากไปไยถึงกระหม่อมสุดท้ายจะตบแต่งภรรยาหรือรับเอาสามีมาอยู่ร่วมตำหนักกระหม่อมก็ยังเป็นองค์ชายแปดคนเดิมมิแปรผันนะพ่ะย่ะค่ะ"   ...เพล้ง!...   "ฝะ...ฝ่าบาท...ยาดมพ่ะย่ะค่ะ...ยาดม...ทรงสูดหายใจเข้าลึกๆ พ่ะย่ะค่ะ"   และต่อให้องค์ฮ่องเต้ถูกประคองลงไปนอนบนเตียงด้านข้างมีเหล่าขันทีตรงเข้าไปบีบนวดดูวุ่นวายสองพี่น้องผู้อกตัญญูอย่างถึงแก่งกลับมิสำนึกผิดยังคงนั่งถกหมากล้อมกันชนิดดุเดือดปล่อยให้บิดาเป็นลมเองก็หายเองมิเกรงใจผู้ใดจนสิ้น   "มะ...โม่หราน...เจ้าจะมิสนใจคุณหนูเหวินหรือไม่ก็คุณหนูตู้จริงหรือพวกนางนั้นกิริยางดงามการบ้านการเรือนล้วนเพียบพร้อมอาหารนั้นฝีมือเป็นเลิศงานเย็บปักพวกนางนั้นนับว่าเป็นอันดับหนึ่งแห่งเป่ยเหลียงแล้วนะ"   สุดท้ายเป็นลมไปสามยกกลับไร้ผลท่านผู้เฒ่าจึงจำต้องขยับไปโน้มหนาวไปถึงคุณสมบัติดีงามของเหล่าคุณหนูที่เขาหมายตาจะให้ตบแต่งไปเป็นพระชายาแปด   "น้องสิบหกเรื่องผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวของน้องสะใภ้สิบหกนั้นเจ้าก็มิต้องว้าวุ่นใจไปอีกตั้งสองเดือนข้าหลับตาข้างลืมตาข้างปักเพียงสองชั่วยามก็สำเร็จแล้ว"   'ข้าลืมไปได้เช่นไรว่าที่หนึ่งเหนือที่หนึ่งของช่างปักลวดลายผ้าก็คือมารดาของไอ้เจ้าปีศาจน้ำแข็งนั่น'   หลี่หยางเฉินผู้ปกครองบริหารราชการแผ่นดินมาร่วมสามสิบหนาวกลับถึงการมืดมนกับเพียงจะ'จัดการ'ให้บุตรชายตบแต่งเอาสตรีเข้าเรือนไปเป็นภรรยามิใช่ตบแต่งเอาบุรุษมาเป็นสามีเคียงหมอนอย่างถึงแก่นก็วันนี้   "เช่นนั้นก็ลำบากพี่แปดช่วยจัดการอาหารภายในงานเลี้ยงไปด้วยเลยจะได้หรือไม่"   จ้าวไห่เฉิงนั้นนับเป็นบุรุษผู้มากมายน้ำใจยิ่งเรื่องอกตัญญูนั้นท่านรองแม่ทัพจ้าวกลับชำนาญกว่าหากมีหนทางใด'รังแก'ฝ่าบาทได้ท่านรองแม่ทัพจ้าวล้วนไม่เกรงใจเร่ง'ขยี้'ต่อทันใด เช่นกันการนี้เขาอยากจะช่วยพี่ชายคนสนิทบอกกับฮ่องเต้ทางอ้อมว่าสตรีอ่อนแอจะตบแต่งเข้าจวนท่านแม่ทัพใหญ่ไปทำไมกันชายแดนห่างไกลเช่นนั้นขืนตบแต่งคุณหนูตระกูลสูงส่งมิเกินสามวันที่ไปถึงจวนท่านแม่ทัพหลี่นางคงเร่งขอหนังสือหย่าขาดปลดสามีให้เท่านั้น   ...กับข้าวหลี่โม่หรานนั้นล้ำเลิศ...งานฝีมือพี่แปดของเขากลับมีมากกว่า...เช่นนี้จะตบแต่งสตรีเก่งงานเรือนไปรกหูรกตาไปไย สำหรับท่านแม่ทัพหลี่ที่ต้องการเกรงว่าจะเป็นนักฆ่าสาวฝีมือฉกาจนั่นจึงคู่ควร!   "ฝ่าบาทถึงเช่นไรกระหม่อมก็ยังรู้สึกว่าตนเองเป็นคนปกติดีอยู่ทุกวันมิได้ผิดแผกไปจากผู้ใดเลย ยังคงกินข้าวสามมื้อดื่มน้ำสะอาดนอนหลับบนเตียงได้ปกติดีอยู่ยังไม่เคยกินหญ้าแทนข้าวหรือนอนห้อยหัวเช่นค้างคาวเลยสักครั้ง ดังนั้นฝ่าบาทจะร้อนใจไปไยเล่าพ่ะย่ะค่ะ"   ...โครม!...   กายสูงใหญ่ของจอมมังกรหงายหลังล้มตึงไปอีกเป็นยกที่สี่นับว่าวันที่เป็นหลี่โม่หรานที่พิชิตชัยได้เด็ดขาดปั่นป่วนก่อกวนองค์ฮ่องเต้ไปผู้เดียวให้มังกรเฒ่าโมโหจนเป็นลมถึงสี่ยกจึงถึงเวลาแยกย้ายกลับไปทางใครทางมันสักครา   "อา...วันนี้ทองคำร่วงลงมาจากริมฝีปากงดงามของท่านหลายร้อยแผ่นแล้วพี่แปด...เอาเถิดวันนี้เราก็เล่นกันแค่เพียงหอมปากหอมคอดีหรือไม่'ธุระ'ของกระหม่อมลุร่วงแล้ว...ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ...ฝ่าบาท"   ...ฝ่ายถูกแดกดันแต่ก็ยังคงความนิ่งเฉยดังกับภูผา...   เก็บเอาทั้งเม็ดหมากล้อมและกระดาษเนิบนาบปล่อยให้จ้าวไห่เฉิงจากไปก่อน ทว่าแค่เพียงองค์ชายแปดหรือก็คือท่านแม่ทัพหลี่แห่งค่ายหลางจินเซ่อที่ซั่วโจวนั้นมิปริปากอีกซางเหอกงกงเขาก็แทบจะลงไปโขกศีรษะขอบคุณอีกฝ่ายอย่างยิ่งแล้ว   ...บุรุษสองคนนี้มาพร้อมกันล้วนบรรลัยมิเคยแปรเปลี่ยนสิน่า...   "เจ้าพวกนรกเมินมันไปกันหมดแล้วหรือยัง?"   จำต้องสร้างเรื่องเป็นลมหมดสติไปก่อนที่ตนเองจะเส้นโลหิตในสมองจะแตกตายไปจริงแท้เสียก่อนกระซิบถามขันทีเฒ่าข้างกายด้วยลืมสิ้นกิริยาองอาจหาญกล้า   'บิดามันเถิดว่ามีเจ้าแปดผู้เดียวก็แย่แล้วบัดนี้ยังจะมาเพิ่มฝาแฝดนรกเมินเช่นไห่เฉิงมาอีกผู้นั้นความร้ายกาจล้วนมากมายเท่าทวีคูณเป็นสองความวิงเวียนและจุกแน่นจึงมากมายอย่างยิ่ง!'   "ฝ่าบาท...เล่นเป็นเด็กเช่นนี้มิใช่เรื่องดีพ่ะย่ะค่ะ"   ...เฮือก!...   "ไยเจ้าจึงยังอยู่อีกหรือเจ้าแปด?..."   "ฝ่าบาททรงยังมิได้ประทับตราในหนังสืองบหลวงในส่วนของค่ายหลางจินเซ่อและค่ายหลางหยินเซ่อพ่ะย่ะค่ะ"   เห็นหรือไม่หากมิได้เห็นผู้พูดคงคิดว่าเป็นคนเดียวกันที่เอื้อนเอ่ยวาจาทั้งตอบตรงทื่อในแบบฉบับขุนพลหน้าเดียวเยี่ยมยุทธ์เกินใครสมกับเป็นพี่น้องที่รักใคร่ผูกพันกันอย่างยิ่ง   "หึ...หากมิใช่เรื่องเงินเรื่องทองต่อให้เสด็จพ่อของเจ้าสิ้นใจเกรงว่าพวกเจ้าสองหมาป่าหางตาก็คงยากจะเหลือบแลตาเฒ่าเช่นข้าแล้วเป็นแน่"   ถึงจะกล่าววาจาน้อยอกน้อยใจเปิดเผยแต่ที่'ตาเฒ่า'ที่มิได้เดียวดายเช่นที่กำลังแสดงยิ่งใหญ่เพราะเพียงนางสนมนั้นก็ครึ่งพันคงมิต้องกล่าวถึงลูกหลานจนแน่นวังหลังนั้นมีมากเท่าใด   "ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เมตตาเหล่าทหารกล้ายังชายแดน...โม่หรานทูลลาพ่ะย่ะค่ะ"   กายสูงใหญ่ที่ได้รับเอกสารทางการทหารเรียบร้อยแล้วเขาจึงเตรียมตัวจะถอยลากลับไปเช่นน้องชายต่างมารดาเช่นกัน ก็สถานที่แห่งนี้ล้วนมิได้มีเอาไว้เพื่อพวกเขาอยู่แล้วยิ่งอยู่นานยิ่งมีภัยเร่งจากไปนั่นแหละย่อมดีที่สุดแล้ว   "ช้าก่อนโม่หราน...ที่ข้านัดดูตัวให้เจ้ากับคุณหนูเผยเจ้าได้พบนางแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง นางถูกใจเจ้าหรือไม่ งามสมกับคำที่ข้าเคยเอ่ยบอกกับเจ้าไหม...นางนั้นเป็นธิดาคนที่สามของท่านราชครูเผยเก่งกาจด้านบู๊ข้ารู้เจ้าไม่ชอบสตรีอ่อนแอ"   ถึงจะอย่างไรคนเป็นพ่อก็ยังหวังว่าสิ่งที่ตนเองเห็นว่าดีที่สุดจะถูกใจผู้เป็นลูกอยู่บ้างแม่ว่าบุตรชายผู้นี้จะไม่เหมือนพี่น้องดังว่าก็ตามทีแต่ อย่างน้อยผู้ชายก็ย่อมต้องหวั่นไหวต่อความงามของสตรีอยู่บ้างไม่มากก็น้อยและเผยอิงอิงนางก็งดงามพร้อมทั้งเก่งกาจจนบุรุษทั่วเป่ยเหลียงมิกล้าเดินเฉียดใกล้เกินสามฉือเสียด้วยซ้ำ   หากแต่ทว่า...   "นางก็...ดีพ่ะย่ะค่ะ "   "ก็ดีอีกแล้ว"   องค์ฮ่องเต้ทวนคำแล้วเลยนิ่งไปหากในใจนั้นรู้สึกอยากจะบรรยายด้วยความกวนโทสะนั้นดังกับถอดออกมาจากต้นแบบเดียวกันทั้งพี่ชายและน้องชายเลยทีเดียว   "มีคำอธิบายที่กระจ่างกว่านี้หรือไม่องค์ชายแปด"   ไอโทสะเริ่มแน่นหนาขึ้นเป็นลำดับจนท่านกงกงเฒ่ายังแทบหยุดหายใจเสียให้ได้จะมีก็แค่'หลางจินเซ่อ'จอมทัพผู้งดงามล่มปฐพีทว่ากลับโหดเหี้ยมเกินผู้ใดในใต้หล้าเท่านั้นที่ยังหายใจได้สะดวกไร้ความรู้สึกใดทั้งสิ้น   "อันที่จริงนางจะเป็นเช่นไรหากฝ่าบาทคิดเห็นว่าสมควรก็ไม่เห็นต้องมาสอบถามเอาตอนนี้นี่พ่ะย่ะค่ะ เพราะความรู้สึกของกระหม่อมนั้นจะเป็นเช่นไรชอบหรือไม่ เช่นไรสมรสนี้หากฝ่าบาทประสงค์เพียงออกพระราชโองการออกมาก็คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่พระองค์ทรงวางแผนเอาไว้หมดอยู่แล้วมิใช่หรือ?โม่หราน ทูลลาอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ"   นั่นเองที่หลี่หยางเฉินนั้นต้องทำเสียงในลำคอออกมาดัง...เฮ๊อะ! ...จากนั้นรวบสติออก ห่างจากโทสะโดยเร็วด้วยพูดคุยกับเจ้าบุตรชายทั้งสองนี้เมื่อใดเขาต้องฝึกลมปราณให้นิ่งที่สุดมิเช่นนั้นธาตุไฟคงเข้าแทรกเข้าเป็นแน่   "เฮ้อ...ซางกงกง...เจ้าดูเอาเถิดหากไม่ติดว่าเขายังห่วงมารดาที่ป่วยไข้บ่อยครั้งอยู่คงได้ออกบวชไปเสียนานแล้วเป็นแน่ข้ารู้สึกว่าตนเองช้างไร้ความสามารถเสียนักที่วางใจให้มารดาเช่นหยวนกุ้ยเฟยเลี้ยงดูบุตรชายทั้งสองคนนี้เสียจริงเฮ้อ!...."   ...องค์ฮ่องเต้ทรงตรัสระบายความในใจออกคล้ายใกล้ถึงขีดความอดทน...   "ก็เพราะองค์ชายแปดเป็นเช่นนี้ จึงยังทานอำนาจระหว่าง องค์ชายสามและองค์รัชทายาทให้สถานการณ์ทุกอย่างไม่เลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่มีใช่หรือพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท นี่หากได้สกุลเผยและกงจู่จางตงเสวี่ยมาเสริมกำลังให้ทางฝ่ายองค์ไท่จื่ออีกแรง รากฐานในอนาคตขององค์ไท่จื่อก็หายกังวลไปได้เสียเกือบเจ็ดส่วนแล้วนะฝ่าบาทยังจะทรงกลัดกลุ้มอันใดอีกเล่า"   ซางเหอกงกงที่มิใช่เป็นเพียงข้ารับใช้ทว่าเขายังเป็นที่ปรึกษาอันดีให้แก่องค์ฮ่องเต้มายาวนานนับจากหลี่หยางเฉินนั้นเพิ่งขึ้นรับตำแหน่งไท่จื่อเลยด้วยซ้ำ   "มันก็จริงของเจ้า ซางเหอ หากแต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าบางทีข้าก็อยากให้เจ้าสามกับเจ้าห้านั้นมันมีความทะเยอทะยานให้น้อยลงกว่านี้อีกสักหน่อย อยู่ในที่ในทางของตนเอง ทุกฝ่ายก็จะไม่ต้องลำบากแล้ว ส่วนเจ้าเจ้าแปดและเฉิงเอ๋อร์ ก็รักสันโดษจนเกินไป ไม่ใส่ใจต่อลาภยศเอาเสียเลย หากแบ่งมาให้เท่าๆ กันได้ข้าคงนอนตายตาหลับกว่านี้มากทีเดียว"   ...ยามนี้ชายที่มีวัยสูงที่สุดทำได้เพียงถอนหายใจอย่างกับชายชราวัยเก้าสิบก็มิปานเมื่อนึกไปถึงลูกชายอีกสองคนที่เฝ้าแต่แก่งแย่งห้ำหั่นกันไปมาไม่มีวันหยุดพักจนบางที...เขาก็เกรงเหลือเกินว่า...ว่าอาจจะต้องเฉือนเนื้อร้ายหนึ่งส่วนรักษาเอาเนื้อดีอีกเก้าส่วนเอาไว้   "นิ้วคนเรายังมิเท่ากันเลยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทจะมาหวังให้คนเราต้องมามีนิสัยคล้ายกันนั้นคงจะยากเกินไปแต่กระหม่อมเชื่อในความปราดเปรื่องของพระองค์ว่าสุดท้ายแล้วจะทรงแก้ไขปัญหาพวกนี้ได้ลงเป็นอย่างดีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ "  ขันทีเฒ่าเขามิได้กล่าวเกินจริง  "ปกครองชาวประชาไพร่ฟ้ามาทั้งแผ่นดินพระองค์ยังแก้ไขมาได้ด้วยดี นี่เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยภายในที่มักเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว อย่างไรเสียก็ต้องเรียบร้อยอย่าทรงกังวลจนเสียสุขภาพเลยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"   สิ่งที่ขันทีคู่พระทัยกล่าวมานั้นหลี่หยางเฉินเขาล้วนเห็นจริงทุกสิ่ง   "เฮ้อ...ก็เห็นจะต้องเป็นดังเช่นที่เจ้ากล่าวมาแล้วสินะ...อ้อจริงสิซางเหอกงกงเจ้าจงถ่ายทอดคำสั่งลงไปที่เจ้ากรมพิธีการ ให้จัดเตรียมสินเดิมของว่าที่ลูกสะใภ้ของข้าอย่าให้ขายหน้าได้ทีเดียวเร่งสั่งการลงไปวันนี้เลยนะแล้วพิธีการนั้นต้องถูกต้องอย่าได้ขาดตก ไปสักเพียงข้อเดียวแล้วก็สินเดิมที่จะมีติดกายห้อยท้ายให้แก่นางตบแต่งออกไปกับรองแม่ทัพจ้าวนั้นจะต้องมากมายเทียบเท่าองค์หญิงตบแต่งออกไปต่างแดนเลยเชียว"   จู่ๆ มังกรเฒ่าผู้ซึมเศร้าอยู่เมื่อครู่ก็เปลี่ยนอารมณ์กะทันหันจนผู้เป็นข้ารับใช้คนสนิทยังเปลี่ยนทิศทางตามอารมณ์ของฝ่ายแทบไม่ทัน! .....   "ฝ่าบาท...ทรงพระทัยเย็นพ่ะย่ะค่ะ ได้ข่าวว่าพระองค์ทรงเพิ่งออกราชโองการเรื่องแต่งตั้งแม่นางเซียวให้เข้ารับตำแหน่ง'หย่งผิงกงจู่'ไปเมื่อเช้าส่วนงานสมรสยังต้องรออีกสองเดือนนะพ่ะย่ะค่ะ จะเร่งรีบจัดสินเดิมก่อนพิธีการแต่งตั้งยศมันจะมิงามกระหม่อมเกรงว่าอาจจะมิสมควรนะพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"   ซางเหอกงกงที่ยืนหายใจติดขัดเมื่อได้ฟังคำสั่งแสนจะเอาแต่พระทัยของเจ้าเหนือศีรษะจำต้องแอบกระซิบเตือนให้หลี่หยางเฉินนั้นใจเย็นลงสักหน่อยด้วยบัดนี้ออกอาการมากไปจนเขาเกรงว่าแผนรวบรัดยัดเยียดทั้งทรัพย์สินและตำแหน่ง'ราชบุตรเขย'ให้แก่บุตรชายนอกสมรสที่มิอาจรับรองฐานะบุตรชายได้ตามใจเลยต้อง'ยัดเยียด'ตำแหน่งราชบุตรเขยให้ไปแทนเช่นนี้หลี่หยางเฉินเขาจึงนับว่ายิ่งนกด้วยธนูหนึ่งดอกกลับได้ผลถึงสามนั่นก็คือได้ลูกสะใภ้...ได้มอบตำแหน่งสักตำแหน่งที่สำคัญให้บุตรชายและสุดท้าย...เขาจะได้หลานน่ารักมาเชยชม...อันใดจะประเสริฐไปกว่าการนี้ไปได้...   "แต่ข้าสั่งออกไปแล้วเจ้าก็ไปจัดการเถิดน่าแค่ราชโองการข้าตวัดพู่กันไม่ถึงครึ่งก้านธูปหรอกน่าจะแตกตื่นไปไยว่าแล้วข้าไปร่างราชโองการอีกสักฉบับยกทรัพย์ให้ลูกสะใภ้ข้าอีกสักหน่อยคงจะดียิ่งอภิโธ่...บุตรชายข้าตบแต่งภรรยาทั้งทีต้องเอิกเกริกยิ่งใหญ่ฉลองสักเก้าวันเก้าคืนย่อมดีแน่"   ซานเหอกงกงละอยากจะเอ่ยขัดขึ้นใจแทบขาดแล้วว่า...ผู้ซึ่งจะแตกตื่นนั้นมิใช่เขาทว่าอาจเป็นสะใภ้ของพระองค์!   ในยามเช้าสามีก็สร้างเรื่องผูกมัดจนนางรับไม่ไหวเป็นลมไปหนึ่งยกนี่พ่อตกเข้ายามใกล้ค่ำบิดาสามีก็จะปรนเปลอนางด้วยทรัพย์สินมหาศาลเกรงว่าพอนางทราบจะมิหัวใจวายช็อกตายไปเลยหรือไร 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD