สู้กับผู้ใช้เสียง(1)

1509 Words
หยางผู่เยว่เงยหน้าขึ้นมองมังกรยักษ์สีหมึกตรงหน้าอย่างใช้ความคิด แต่มังกรตัวนั้นกลับไม่ให้เวลาเขามากนัก มันบินฉวัดเฉวียนอยู่บนท้องฟ้าอย่างดุร้าย ทั้งยังอ้าปากกู่ร้องจนผู้คนในลานประลองต้องยกมือขึ้นปิดหู หางขนาดใหญ่ฟาดลงมาอย่างแรงบนเวทีตรงที่หยางผู่เยว่ยืนอยู่ เสียงไม้แตกกระจายดังราวอัสนีบาตร หยางผู่เยว่ที่กระโดดหลบไปด้านข้างหันกลับมามองตรงพื้นที่ตนเคยยืน พบว่าเวทีไม้แตกละเอียดเป็นทางยาวอย่างน่าสะพรึงกลัว เศษฝุ่นไม้ปลิวว่อนไปในอากาศด้วยแรงกระแทกที่มหาศาล แรงของมังกรน้ำหมึกแปรตามพลังวัตรของผู้วาด นั่นแสดงว่าจางจิวผู้นี้พลังวัตรล้ำลึกมิอาจดูแคลน หยางผู่เยว่เหลือบมองจางจิวอย่างเลื่อมใส สู้กันมาจนถึงบัดนี้เขายังไม่สามารถเข้าประชิดตัวจางจิวได้เลย อีกทั้งตอนนี้ยังมีมังกรยักษ์ขวางอยู่ยิ่งทำให้จู่โจมยากเข้าไปใหญ่ หยางผู่เยว่กางแขนที่ถือกระบี่ออก เมื่อเขาปล่อยมือ กระบี่สีเงินก็เคลื่อนที่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ทั้งยังส่องประกายเจิดจ้ายามต้องแสงอาทิตย์ มันลอยฉวัดเฉวียนรอบตัวเขาอย่างเริงร่า ราวกับรอเวลาที่จะได้ทะยานไปในอากาศอย่างอิสระนานแล้ว เขาเห็นดังนั้นก็ไม่รอช้า กระโดดขึ้นยืนบนกระบี่ และเหินไปในอากาศด้วยกัน เสียงฮือฮาของผู้คนด้านล่างที่โดนเสียงมังกรน้ำหมึกกลบเมื่อครู่ก็ดังกระหึ่มอย่างลุ้นระทึกขึ้นมาอีกครั้ง เยี่ยนหรงที่ยืนดูการประลองอยู่นั้นอดชื่นชมดังๆ ว่า ‘เยี่ยม’ ไม่ได้ ในฐานะที่นางใช้กระบี่ และขี่กระบี่จนชำนาญ ท่วงท่าของหยางผู่เยว่ถือว่าองอาจน่ามองอย่างยิ่ง ที่แท้มนุษย์ที่เปราะบางในสายตานางก็เก่งกาจ และเข้มแข็งถึงเพียงนี้ นางมองเด็กๆ อายุไม่ถึงร้อยปีรอบตัว แต่ละคนต่างมีความฮึกเหิมและกล้าหาญ ดวงตาที่วาวโรจน์เวลาเผชิญอันตรายหรือคู่ต่อสู้ที่จัดการยากกลับไม่มีความขลาดกลัวแม้แต่น้อย ความจริงแล้วมนุษย์กลับเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก หยางผู่เยว่ขี่กระบี่ขึ้นฟ้า สายลมปะทะใบหน้าจนผมปลิวไสว ที่ผ่านมาเขาแทงจุดตายของสัตว์ร้ายแต่ละตัวอย่างแม่นยำ จึงสามารถจัดการได้ภายในชั่วพริบตา แต่มังกรจุดตายอยู่ที่เส้นเอ็นด้านหลัง เขาจึงต้องเหินกระบี่ขึ้นมาต่อสู้ในอากาศเช่นนี้ เขาขี่กระบี่หลบหลีกการโจมตีของมังกรตัวนั้นอย่างคล่องแคล่ว แต่มังกรก็เป็นเหมือนจางจิว พละกำลังมหาศาลทั้งยังว่องไวมาก แต่หยางผู่เยว่ก็เคลื่อนที่ว่องไวไม่แพ้กัน ดังนั้นการต่อสู้บนฟ้าที่ทุกคนต้องแหงนหน้าขึ้นมองเปรียบเสมือนเป็นการแสดงที่ตระการตาชุดหนึ่ง เยี่ยนหรงสายตาดีเยี่ยม นางมิได้มองการต่อสู้อันตื่นตาตื่นใจที่กลางอากาศ แต่กลับมองไปที่ร่างจางจิว พบว่าใบหน้าเด็กหนุ่มมีเหงื่อเม็ดใหญ่ซึมลงมาไม่ขาดสาย คิ้วก็ขมวดหากันแน่นจนแน่นกว่านี้ไม่ได้แล้ว “ผลการประลองชัดเจนแล้ว” “เอ๋” เชียนจือหวาที่ยืนดูมังกรบินไปบินมาอย่างตื่นเต้นได้ยินดังนั้นก็หันมามองเยี่ยนหรงอย่างแปลกใจ นางมองกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง พบว่าหยางผู่เยว่ใช้กระบี่แทงที่ศีรษะด้านหลังของมังกรได้แล้ว เมื่อไม่มีกระบี่รองรับที่ใต้เท้า ร่างของหยางผู่เยว่จึงห้อยอยู่กลางอากาศโดยมือทั้งสองจับกระบี่แน่น เขาออกแรงดึงให้กระบี่ผ่าลงด้านล่าง ทั้งยังต้องทรงตัวจากการสะบัดไปมาอย่างรุนแรงของมังกร เกิดเป็นภาพน่าหวาดเสียวยิ่ง ผู้คนด้านล่างเริ่มส่งเสียงฮือฮาไม่ขาดสาย กระบี่ของหยางผู่เยว่ผ่าลงด้านล่างเป็นทางยาวตามลำตัวของมังกร ในมือของเขายังกำเอ็นมังกรสีดำกระชากลงมาตามการตกลงสู่พื้นของร่างกายเขาด้วย มังกรน้ำหมึกร้องคำรามเสียงดังจนรอบข้างสั่นสะเทือน หลังจากนั้นจึงเลือนหายไปราวโดนน้ำชะล้าง จางจิวสีหน้าซีดเผือดค้อมกายลงหอบหายใจ เขาใช้พลังวัตรไปมหาศาลกลับไม่สามารถจัดการกับหยางผู่เยว่ได้ในช่วงเวลาอันสั้น พละกำลังที่ถดถอยส่งผลต่อมังกรน้ำหมึกอย่างชัดเจนจนพลาดท่า เมื่อไม่มีมังกรน้ำหมึกรั้งเขาไว้ ร่างของหยางผู่เยว่ก็ร่วงลงจากกลางอากาศ เขาร่ายเวทเรียกให้กระบี่คู่ใจเหาะกลับมารองรับอยู่ที่ด้านล่าง ปลายเท้าสะกิดกระบี่ครั้งหนึ่งเพื่อทรงตัว หลังจากนั้นหยางผู่เยว่ก็มายืนถือกระบี่จ่ออยู่ตรงหน้าจางจิวแล้ว จางจิวไม่ได้ดึงดันต่อ แพ้แล้วก็คือแพ้ เขายิ้มออกมา ยกมือคารวะหยางผู่เยว่อย่างเลื่อมใส หยางผู่เยว่ก็เก็บกระบี่และทำอย่างเดียวกัน ผลการต่อสู้ชัดเจน การประลองก็เป็นอันจบลงเพียงแค่นี้ เสียงประกาศผู้ชนะของหลิวเส้าชงดังก้อง หยางผู่เยว่ได้เป็นหนึ่งในสองคนที่จะไปเข้าร่วมการประลองกับอีกแปดสำนักแล้ว ตลอดหลายวันที่การแข่งขันถูกจัดขึ้น เชียนจือหวาถูกเยี่ยนหรงเรียกซ้อมวิชาแส้อย่างหนักหนาสาหัสยิ่ง ฝึกฝนจนแทบจะไม่มีอะไรให้ฝึกฝนแล้ว ดังนั้นช่วงสองวันก่อนการประลองตัดสินกับฮวาอิ๋นมี่นางจึงแค่นั่งๆ นอนๆ และก็ซักซ้อมกลยุทธ์การต่อสู้กับเยี่ยนหรงเท่านั้น เชียนจือหวานอนแผ่อยู่บนเตียงของตนอย่างสบาย และเหลือบมองไปที่ศิษย์น้องของนางที่เหมือนจะนั่งเข้าฌานอยู่บนเตียงอีกด้านหนึ่งของห้อง “วันนี้เจ้าไม่ไปฟื้นฟูร่างกายที่ป่าปริศนาหรือ” เชียนจือหวานอนหงายเอามือรองบนศีรษะ เมื่อศิษย์น้องอยู่ว่าง นางก็อยากชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย เรื่องความผิดปกติของร่างกายเยี่ยนหรงนั้นนางดูออกนานแล้ว ศิษย์น้องไม่สามารถรับรู้รส หรือกลิ่นได้ ประสาทการรับรู้หลายอย่างหายไป อารมณ์บางประเภทก็หายไป ที่เห็นนางกลมกลืนกับคนอื่นก็เป็นเพียงการแสดงสีหน้าให้เหมาะสมกับสถานการณ์เท่านั้น เชียนจือหวาเคยถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เยี่ยนหรงก็ตอบตามตรงว่าหลังจากฟื้นขึ้นมาที่สำนักอู่เฉิง อารมณ์ความรู้สึกหลายอย่างก็หายไป แต่ไม่ได้บอกสาเหตุให้เชียนจือหวาทราบ นางเพียงบอกว่าบางทีอาจจะต้องเข้าไปฟื้นฟูในป่าปริศนาบ่อยๆ เท่านั้น เยี่ยนหรงได้ยินก็ลืมตาขึ้นจากการเข้าฌาน “เผื่อว่าท่านต้องการข้าอย่างไรล่ะ พรุ่งนี้ต้องประลองแล้ว ยังไม่รีบพักผ่อนอีก” “ในตอนแรกข้าคิดว่าจางจิวจะเป็นฝ่ายชนะ” เชียนจือหวาเริ่มชวนคุยอีกครั้ง “ความจริงแล้วหยางผู่เยว่และจางจิวมีความว่องไว และพละกำลังใกล้เคียงกัน เหลือเพียงใครจะต่อสู้ยืนระยะได้นานกว่ากันเท่านั้น” เชียนจือหวารับคำในลำคอ เป็นอันว่าข้าใจแล้ว ในวันพรุ่งนี้นางก็จะต้องยืนระยะให้ได้เช่นกัน ไม่ยอมให้ฮวาอิ๋นมี่ชนะได้หรอก! เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เวทีการประลองถูกซ่อมแซมอย่างรวดเร็วจนกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง เศษฝุ่นเศษไม้ก็ถูกเก็บกวาดจนเรียบร้อยราวกับเมื่อวานไม่ได้มีการประลองเกิดขึ้น เชือกถูกผูกไว้รอบเวทีไม้ ป้องกันไม่ให้ผู้ชมเข้าใกล้จนเกิดอันตรายเช่นเดิม ต้องยกย่องเหล่าศิษย์ที่รับหน้าที่ซ่อมเวทีตลอดการประลองที่ผ่านมา งานของพวกเขาตลอดหลายวันมานี้หนักหนาเอาการทีเดียว ในวันนี้เยี่ยนหรงก็ยังคงมารอตั้งแต่เช้ามืดเพื่อยืนชมการประลองอยู่ด้านหน้าสุดเหมือนเดิม ด้านเชียนจือหวาไปพบเหล่าบรรดาผู้อาวุโสของสำนักเพื่อรายงานตามปกติก่อนการประลอง เมื่อนางมาถึงก็พบกับเหล่าศิษย์ในสำนักประปราย และก็ศิษย์ที่กำลังเก็บกวาดเวทีอย่างขะมักเขม้นคนหนึ่ง นางจึงทักทายเขาอย่างเป็นมิตร ทั้งยังกล่าวชื่นชมการซ่อมเวทีประลองที่รวดเร็วราวกับยกมาวางใหม่ เขาก็ยิ้มร่ากลับมาให้นางอย่างภาคภูมิใจ ไม่นานหยางผู่เยว่ก็เดินเข้ามาทักทายคนทั้งสองอย่างมีอัธยาศัย แน่นอนว่าการมาของเขาทำให้รอบเวทีประลองมีศิษย์หญิงเนืองแน่นขึ้นหลายส่วน ไม่นานจางจิวก็เดินเข้ามาสมทบอีกคน วันนี้เขาดูแจ่มใสขึ้น เมื่อกล่าวทักทายคนก่อนหน้าเสร็จก็ยืนข้างหยางผู่เยว่เพื่อรอชมการประลอง ทั้งคู่ยิ่งสู้ยิ่งสนิท ยิ่งคุยยิ่งถูกคอ จึงคบหาเป็นเพื่อนกันได้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลา เชียนจือหวาและฮวาอิ๋นมี่ก็ก้าวขึ้นมาบนเวทีเพื่อรอเจ้าสำนักกล่าวเปิดการประลอง รูปแบบดำเนินไปเหมือนกับเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD