@ เมื่อสิบปีก่อน
วันนี้เป็นวันที่ฉันย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใหม่ได้สองเดือนแล้วสินะ และวันนี้ข้างสนามฟุตบอลหลังโรงเรียนมีรุ่นพี่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอยากพบฉัน
“อย่าบอกนะว่าเธอชอบปั้น” รุ่นพี่คนหนึ่งถามฉันขึ้นมา ตอนฉันไปถึง
“ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเลย ปั้นไม่มีทางชอบผู้หญิงอย่างเธอหรอก” รุ่นพี่ที่สวยสุดในกลุ่มพูดขึ้นมา ใช่ ฉันรู้ตัวดีว่าปั้นไม่มีทางชอบฉันหรอก ไม่เป็นไรปั้นไม่ชอบฉันตอนนี้ก็ไม่เป็นไร อนาคตปั้นอาจชอบฉันก็ได้ ใครจะไปรู้
@ เมื่อเก้าปีก่อน
“เมญ่า เธอจะเรียนต่อด้านไหน” ยายทานตะวันเพื่อนสนิทฉันถามขึ้นตอนที่เราติวหนังสือกันอยู่ในห้องสมุด
“จะเรียนเภสัช เพราะที่บ้านเราทำบริษัทยา จะได้ช่วยพี่เมธัชได้”
“งั้นตะวันเรียนเภสัชด้วยดีกว่า จบมาแล้วขอทำงานที่บริษัทของเมญ่าได้ไหม”
“ฮ่า ฮ่า ได้สิ เราจะให้ทานตะวันเป็นผู้จัดการเลย” ทานตะวันตาโตกับคำตอบของฉัน
“ห้ามล้อเล่นนะ สัญญาก่อน”
“สัญญาสิ เรียนเภสัชแล้วมีโอกาสจะได้แฟนเป็นหมอไหมน้า”
“เมญ่าอยากได้แฟนเป็นหมอเหรอ” ทานตะวันถามขึ้นอย่างจริงจัง
“อือ เห็นหนุ่มเสื้อกาวน์แล้วใจมันสั่น”
ฉันกับทานตะวันนั่งคุยกันสนุกสนานในห้องสมุดอาจจะเสียงดังนิดหน่อย เพราะแถวนี้ไม่มีใคร ซึ่งห้องสมุดจะจัดเป็นล็อก ๆ สำหรับอ่านหนังสือโดยมีไม้กั้นไว้แต่ละช่อง เหมือนคูหาเลือกตั้งในทีวีแบบนั้นแหละ
สิ้นเสียงหัวเราะของเราสองคน อยู่ ๆ ก็มีคนหนึ่งเงยหน้ามาจากฝั่งตรงข้าม แค่เห็นหน้าใจฉันก็หล่นไปอยู่ตาตุ่ม
“ปั้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“อือ มานานแล้ว อ่านหนังสือแล้วง่วงเลยหลับไป”
“ญ่ากับตะวันทำให้ปั้นตื่นรึเปล่า”
“คงใช่มั้ง” คำตอบพร้อมท่าทางกวนตามสไตล์เขาละ
“ปั้นอะ”
“ปั้นติวคณิตฯ ให้ญ่าหน่อยสิ”
บ้านฉันกับปั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกันแต่คนละซอย ถ้าเข้าด้านหน้าบ้านจะไกลนิดหนึ่ง แต่ถ้าเดินทางจากทางหลังบ้านที่เป็นทะเลสาบก็ไม่ไกลมากเท่าไหร่ ครอบครัวเราเริ่มสนิทกัน เพราะทำธุรกิจร่วมกัน แต่พ่อแม่เพิ่งรู้ว่าฉันกับปั้นรู้จักกันตอนฉันย้ายมาเรียนที่เดียวกันนี่แหละ
“อือ ไปเจอกันที่สโมสรหมู่บ้านแล้วกัน วันเสาร์นี้สิบโมง”
วันเสาร์สิบโมง @ สโมสรหมู่บ้านหรู
“ไม่เข้าใจตรงไหน” ปั้นถามด้วยเสียงราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์
“เลขยกกำลัง”
“อือ” ปั้นอธิบายเลขยกกำลัง แบบที่ฉันเห็นภาพเลยทีเดียว ความไม่เข้าใจนั้นหายไปจนหมด จบแล้วเหรอ ฉันยังอยากติวกับปั้นอยู่เลย ทำยังไงดีล่ะ
“มีอะไรจะถามอีกไหม”
“ปั้นจะเรียนต่ออะไร”
“เรียนหมอ”
“หมอเหรอ ดีใจจัง”
“หือ ดีใจทำไม” ก็อยากเห็นปั้นใส่เสื้อกาวน์ไง..ไม่รู้จะใจสั่นไหม
“เปล่า ไม่มีอะไร”
ปัจจุบัน @ สระว่ายน้ำ
ฉันกำลังแช่ตัวในสระว่ายน้ำกับหมอปั้นในอ้อมกอดเขา ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเราแนบชิดกัน อ้อมกอดที่อบอุ่น ฝ่ามือเขายังคงเกาะกุมเต้างามและคลึงเล่นอย่างเพลิดเพลิน สร้างความหรรษาให้ทั้งฉันและเขาได้เป็นอย่างดี
“ปั้น”
“จ๋า” เสียงตอบรับข้างหูของฉัน เดี๋ยวนี้มีจ่ง มีจ๋า
“ทำไมปั้นมาเป็นหมอ เพราะที่บ้านทำโรงพยาบาลเหรอ”
“เปล่า”
“อ้าว งั้นทำไมละ”
“อยากใส่เสื้อกาวน์” คำตอบที่ทำให้ฉันงงหนักกว่าเดิม
“แค่เนี๊ยนะ”
“อือ”
ก่อนที่ปั้นจะทำให้ฉันเกือบช็อกด้วยคำพูดต่อมา
“ก็มีคนบอกว่า อยากได้แฟนเป็นหมอเห็นเสื้อกาวน์แล้วใจสั่น”
“ปั้น ปั้นได้ยินเหรอ”
“อือ จำขึ้นใจ ทุกครั้งที่ท้อจะนึกคำพูดนี้ตลอด”
“ปั้น”
“เรียกชื่ออยู่ได้ทั้งวัน” ก็ใครทำให้เขินได้ทั้งวันล่ะ
“เห็นปั้นใส่เสื้อกาวน์แล้วใจสั่นไหม” แน่ะ ยังจะแซวอีก
“ก็สั่นนะ”
“ปั้นว่า...ปั้นไม่ใส่อะไรเลยญ่าสั่นกว่าอีก”
“หมอปั้น!”
“หรือไม่จริง”
“ถึงญ่าจะสั่นแต่ก็สั่นสู้นะ”
“เมียปั้นหื่นได้ใจเลย” เสียงหัวเราะชอบใจของหมอปั้น ทำให้มีคำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว...น่ารัก
หัวใจของฉันทำงานหนักมากเมื่ออยู่กับหมอปั้น เต้นจังหวะแรงเร็วตลอด แก้มก็ร้อนบ่อยมาก เมื่อก่อนก็ว่าสั่นระดับหนึ่ง ตอนนี้สั่นหนักกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะตอนที่ไม่ใส่อะไรเลย แล้วตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดุนก้นฉันอยู่ ให้ตายเถอะ ฉันจะเป็นโรคหัวใจหรือหัวใจวายเข้าสักวันไหมเนี่ย
“ปั้น”
“ครับ”
“ญ่าว่าญ่าชอบปั้นเข้าแล้วล่ะ”
หมอปั้นไม่ได้ตอบอะไรนอกจากกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากขึ้น แผงอกแกร่งที่แนบชิดแผ่นหลังของฉัน สายตาของเราที่มองไปท้องทะเลเบื้องหน้า โดยไม่ได้พูดอะไรกันต่อ ปล่อยให้ความเงียบผ่านพ้นไปพร้อม ๆ กับแสงสุดท้ายของวัน
ความลับสิบปีของฉัน ฉันได้บอกหมอปั้นสักที
เก่งมากเมญ่า...เธอทำได้แล้ว