วันนี้เมธาวีเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่สามีของเธอเป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นการมาครั้งแรกในฐานะเมีย...เมียที่ไม่มีใครรู้ รู้กันเพียงเธอ หมอปั้นและที่น่าจะรู้ดีที่สุดคงเป็นเทวดาบนฟ้าที่หมอปั้นเพิ่มรอบแล้วเพิ่มรอบอีกเพื่อให้ท่านได้รับรู้
เมธาวี Talks
“สวัสดีค่ะ น้องเมญ่า”
“สวัสดีค่ะ พี่แดง สบายดีไหมคะ ไม่เจอกันนานเลย” พี่แดงคือหัวหน้าพยาบาลของโรงพยาบาลที่นี่ ซึ่งทำงานมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อของปั้นแล้ว เออจะบอกว่าตอนนี้คนที่โรงพยาบาลยังไม่มีใครรู้เรื่องว่าฉันกับปั้นแต่งงานกันแล้ว ในสายตาคนอื่นปั้นก็ยังโสด
“น้องเมญ่า มาหาหมอปั้นเหรอคะ” พี่แดงถามคงเพราะเห็นฉันแวะมาหาหมอปั้นเป็นบางครั้ง คนส่วนมากจะรู้ว่าฉันกับหมอปั้นเป็นเพื่อนกัน
“เปล่าค่ะ มาคุยยาตัวใหม่กับหมอพีน่ะค่ะ”
“งั้นเชิญห้องหมอพีเลยนะคะ”
หมอพีหรือนายแพทย์ปฐพี เป็นเพื่อนที่เรียนหมอมาพร้อมกันกับหมอปั้น พวกเราทำวิจัยร่วมกันเพื่อพัฒนายาสูตรใหม่ ๆ นายแพทย์คนนี้ นิสัยดี หล่อ รวย แต่เจ้าชู้ไก่แจ้เกิ๊น ชอบหยอดเล่นทุกครั้งที่เจอกัน แต่ฉันรู้ว่าหมอพีไม่ได้สนใจฉันอย่างปากพูดหรอก แค่แกล้งคนบางคนแค่นั้น
ทั้งหมอปั้น หมอพี หมอก้อง หมอของขวัญ คือสามทหารเสือและหนึ่งองค์หญิงที่สมัยเรียนใคร ๆ ก็อิจฉาหมอของขวัญ เพราะเธอคือหนึ่งองค์หญิงที่สามทหารเสือหรือสามหมอหล่อ คอยดูแลเอาใจใส่และปกป้องไม่เคยห่าง
ทุกคนต่างคิดว่าหมอของขวัญต้องเป็นแฟนกับหนึ่งในสามคุณหมอหนุ่มกลุ่มนี้แน่นอน แต่จนแล้วจนรอดจนเรียนจบ หมอของขวัญก็ไม่ได้คบใครในคุณหมอทั้งสามนั้นเลย
“สวัสดีค่ะ หมอพี”
“สวัสดีครับเมญ่าคนสวย” นั่นไง ฉันบอกแล้วว่าเจ้าชู้ไม่มีใครเกินก็หมอพีนี่แหละ
“ปากหวานเชียวนะคะ” ฉันยิ้มหวานให้หมอพีอย่างเคยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าหมอพีไม่ได้คิดอะไรกับฉัน
“ก็หวานกับเมญ่าคนเดียวแหละค่ะ”
“ยังไงญ่าก็ช่วยอยู่แล้วไม่ต้องปากหวานขนาดนี้ก็ได้”
“เมญ่ารู้ใจผมตลอด”
เห็นไหมคะ ว่าหยอดทุกทีที่มีโอกาส ฉันกับหมอพีคุยธุระกันเสร็จเกือบเที่ยง หมอพีเลยชวนฉันไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารข้างล่างโรงพยาบาล ระหว่างที่เรานั่งรับประทานอาหารอยู่...
“อ้าว ไอ้หมอปั้น หมอขวัญ มาทานข้าวเหมือนกันเหรอ” หมอพี ทักทายเพื่อนของเขาหรือสามีฉันเอง หมอปั้นมากับหมอขวัญเหรอ อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก พอฉันเงยหน้าไปสบตาหมอปั้นและหมอขวัญ ก็พบกับสายตาที่ว่างเปล่าของหมอปั้น
“ปั้นมากินข้าวเหรอคะ” ฉันทักทายหมอปั้นด้วยเสียงที่เบามากจนแทบไม่ได้ยิน ไม่ทักคงจะแปลก เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าฉันกับหมอปั้นสนิทกัน
“อือ” คำตอบสั้น ๆ ตามเคยของปั้น
“งั้นเราไปนั่งทางโน้นนะปั้น ขวัญจองโต๊ะไว้แล้ว”
หลังจากที่หมอของขวัญกับหมอปั้นเดินออกไป หมอพีก็พูดขึ้น
“ปากแข็งทั้งคู่”
“อะไรนะคะหมอพี” ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่หมอพีพูด
“ขวัญกับปั้นแหละ ปากแข็งทั้งคู่ ไม่ยอมสารภาพความในใจ
กันสักที”
“หมอปั้นกับหมอของขวัญชอบกันเหรอ”
“มั้ง” คำพูดตอบสั้น ๆ ของหมอพี ทำให้ใจและมือของฉันสั่นเทา ทำไมหมอปั้นไม่เคยบอกฉัน นี่ฉันทำร้ายหมอปั้นกับคนรักของเขาเหรอ ถ้าหมอขวัญรู้เรื่องของฉันกับหมอปั้นล่ะ เธอจะคิดยังไง ฉันมันผู้หญิงหน้าไม่อาย ทำให้หมอปั้นเดือดร้อนตลอด
“หมอพี พอดีญ่ามีธุระด่วนน่ะค่ะ ญ่าขอตัวกลับก่อนนะคะ”
ฉันไม่สามารถทนนั่งดูอะไรต่ออะไรอยู่ตรงนี้ได้อีก เลยรีบวิ่งมาที่รถแล้วขึ้นไปร้องไห้ในรถ เหตุการณ์เดิม เมญ่าคนอ่อนแอ ชอบทำเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่น แต่พออยู่คนเดียวก็ร้องไห้ตลอด ฉันทำร้ายหมอปั้นอีกแล้วเหรอ ทุก ๆ ครั้งเป็นฉันตลอดที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หมอปั้นตามแก้ ตามช่วย
‘ขอโทษนะปั้น ญ่าขอโทษจริงๆ ถ้าญ่ารู้ว่าปั้นมีคนที่ชอบอยู่แล้วญ่าจะไม่รบกวนปั้นเลย’
สองทุ่ม @ คอนโดฯ หมอปั้น
ฉันกลับมาถึงคอนโดตั้งแต่บ่ายสองหลังจากปล่อยโฮอยู่ในรถเป็นชั่วโมง ฉันไม่มีแรงจะทำอะไร ทำไมมันปวดหัวปวดตาไปหมดอย่างนี้ คงเพราะร้องไห้หนักเกินไป เพราะตั้งแต่แยกกับหมอพีน้ำตาฉันก็ยังไหลไม่หยุด มันมีหลายความรู้สึกปะปนกันอยู่ในนั้น ทั้งเสียใจ ทั้งสมเพชตัวเองที่ทำอะไรแบบสิ้นคิด
“เมญ่า เมญ่า” เสียงเรียกของหมอปั้น ทำให้ฉันพยายามจะดันตัวลุกขึ้นจากที่นอน แต่มันไม่ไหวจริง ๆ ฉันปวดหัวมาก ตาก็ลืมไม่ขึ้น
“ปั้น”
“ไม่สบายเหรอ” มือนุ่ม ๆ ของหมอปั้นทาบลงบนหน้าผากฉัน
ทำไมหมอปั้นต้องดีกับฉันตลอดเลยนะ
“ปั้น ญ่าขอโทษ”
“อือ อย่าทำอีก” หมอปั้นคงหมายถึงไม่ให้ฉันไปเจอที่โรงพยาบาลอีก อย่าแสดงตัวต่อหน้าหมอของขวัญอีก ฉันเข้าใจแล้ว หมอปั้นคงรักหมอของขวัญมาก
“ญ่าเข้าใจแล้ว”
“นี่ยา กินแล้วก็นอนซะ จะร้องไห้ทำไม”
“อือ ญ่าขอโทษนะ อย่าโกรธเลย ญ่าจะไม่ทำอีก”
ฉันนอนขดตัวงอพยายามซุกตัวกับผ้านวม ไม่อยากร้องไห้มากกว่านี้ แค่นี้ปั้นก็ช่วยฉันมากแล้ว อีกแค่ปีเดียว ปีเดียวเท่านั้น เมื่อฉันอายุครบยี่สิบหกปีเมื่อไหร่ฉันจะหย่ากับหมอปั้นทันที