“ผมช่วยดีกว่าครับ” สาวน้อยหิ้วกระเป๋าใบใหญ่สองใบออกมาลายครามรีบอาสาขนกระเป๋าไปเก็บให้ เมื่อเธอขึ้นมาบนรถเขาก็ถามออกไปว่า
“เก็บของมาครบไหม”
“ครบแล้วค่ะ”
“โอเค งั้นก็ออกรถเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกลูกน้องทันที ระหว่างทางทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย เมื่อมาถึงคอนโดสุดหรูของชายหนุ่ม ลายครามก็เป็นธุระยกข้าวของของเธอขึ้นไปเก็บให้ เขาจูงมือเธอเดินเข้าคอนโดไปด้วยกันด้วยความสนิทสนมไม่ได้สนใจสายตาที่มองมา นั่นทำให้สองสาวประชาสัมพันธ์ด้านล่างอดสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ไม่ได้
“คุณแมมมอธพาผู้หญิงมาอยู่ด้วยอะแก”
“ฉันเห็นแล้ว นี่เป็นคนแรกเลยมั้งที่ได้มาค้างคืนด้วย”
“ใช่สิทุกครั้งเห็นกลับออกไปตอนเช้าตลอด”
“คงไม่นานหรอกเดี๋ยวคุณแมมมอธก็คงจะเบื่อเด็กนั่น”
“หล่อนอิจฉาเด็กนั่นน่ะสิ”
“หรือว่าเธอไม่อิจฉา”
“ชิ มันอยู่ที่ดวงไหมล่ะแกคุยคุณแมมมอธยังไม่เคยเดินมาคุยกับพวกเราเลย”
“จริง แยกย้ายๆ” สาวสวยโบกมือไหวๆเป็นอันสลายตัว
“ผมวางกระเป๋าให้ในห้องนะครับบอส ผมขอตัวก่อน”
“ไปเถอะ” ลายครามเดินออกไปแล้ว หญิงสาวถือโอกาสมองไปรอบๆก็พบว่าคอนโดของชายหนุ่มนั่นตกแต่งสไตล์เรียบหรู เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูก็รู้ว่าไม่นำเข้าก็สั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะทั้งนั้นเพราะมันไม่ได้พบเห็นตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆไป ถ้าเกิดเธอทำข้าวของเขาพังเธอคงไม่มีปัญญาชดใช้แน่ๆ
“ให้ดาหลานอนที่ไหนคะ อะ เอ่อห้องนั้นหรอคะ” เธอถามออกไปอย่างต้องการความหวังเล็กๆเพราะคนอย่างเขาคงจะมีพื้นที่ส่วนตัวไม่น้อยที่ไม่อยากให้เธอเข้าไปยุ่งวุ่นวาย หากเธอนอนร่วมเตียงกับเขาก็ไม่วายจะต้องสนองความต้องการของเขาทุกคืน
“ก็ห้องฉันไง” ความหวังอันน้อยนิดของเธอดับสลายเมื่อเขาตอบกลับมาแทบจะทันที
“จะดีหรอคะ”
“จะกลัวอะไรล่ะ”
“มะ ไม่ได้กลัวสักหน่อย”
“ไม่กลัวก็รีบเก็บของแล้วก็ออกมาเถอะฉันหิวจะแย่แล้ว”
“ค่ะ” เธอทำตามความต้องการของเจ้าของห้องทุกอย่าง เขานั่งรอเธอที่โต๊ะอาหาร ด้านหน้ามีราเมงร้อนๆสองชามวางอยู่บนโต๊ะ
“ทานสิกำลังร้อนๆนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอพนมมือไหว้ขอบคุณเขาเหมือนอย่างเวลาที่ผู้ใหญ่ให้ของ
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้ ทำไมเธอต้องตอกย้ำกันอยู่เรื่อยว่าฉันแก่แล้ว”
“นะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะว่าสักหน่อย”
“เอาล่ะชั่งเถอะ ว่าแต่จะไปเรียนแล้วตื่นเต้นไหม”
“ตื่นเต้นมากเลยค่ะ”
“มีเพื่อนบ้างไหม”
“มีเพื่อนเก่าหนึ่งคนค่ะแต่อยู่คนละคณะ”
“ก็ยังดี ดาหลาทำอาหารเป็นไหม”
“ทำเป็นค่ะ ทำอาหารได้หลายชาติเลยค่ะ”
“ดีมากจะได้ไม่จำเจ มีโอกาสก็ทำให้ทานเลยนะ”
“ได้เลยค่ะ” เวลาทำอาหารเป็นเวลาความสุขของเธอเช่นกัน เธอชอบรังสรรค์เมนูใหม่ๆให้คนเป็นแม่และพี่ชายได้ทาน และตอนนี้คนที่เธอจะทำให้ทานคือชายหนุ่มที่แสนจะเอาแต่ใจ
“กำลังนินทาอะไรฉันหรือเปล่า”
“ปะ เปล่านะคะคุณน่ะคิดมาก”
“งั้นก็แล้วไป”
ค่ำคืนนี้เป็นคืนแรกที่เธอได้นอนร่วมเตียงนอนกับเขา แม้จะรู้สึกกลัวและกดดันแต่เธอก็พยายามบอกกับตัวเองว่ามันคือสิ่งที่เธอได้เลือกด้วยความสมัครใจแล้ว เธอนอนพลิกไปมาอยู่บนเตียงกว้างเวลานี้เขากำลังอาบน้ำอยู่
“ไม่ง่วงหรอ” เขาทักออกไปเมื่อเห็นว่าคนตัวน้อยยังไม่ยอมนอนทั้งๆที่พรุ่งนี้ต้องไปเรียนเป็นวันแรก
“ยะ ยังค่ะ”
“ไม่รีบนอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นเช้าไม่ไหวหรอก”
“แล้วอะ เอ่อ...”
“ฉันไม่ได้หื่นขนาดนั้นหรอกนะ ฉันแยกแยะได้ว่าควรทำอะไรเวลาไหน รีบนอนเถอะ”
“ค่ะคุณแมมมอธ” เธอพยักหน้าหงึกๆจากนั้นก็รั้งผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่าง หญิงสาวนอนหลับตาพริ้มภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ของเขา เขาส่ายหน้าไปมาเบาๆให้กับความคิดมากของคนตัวน้อย เขาไม่คิดจะรังแกเธอในวันนี้หรอกแต่ว่าวันอื่นไม่แน่จากนั้นก็เดินไปหยิบหนังสือที่ชั้นมาอ่าน เขาชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องการบริหารและการวางแผน เขาต้องหมั่นเติมความรู้ให้ตัวเองเสมอเพราะต้องก้าวตามโลกของธุรกิจให้ทัน แม้ในอนาคตน้องชายคนเดียวของเขาอย่างไมเนอร์มาช่วยบริหารโรงพยาบาลแต่เขาก็ยังอดห่วงและต้องคอยดูแลอยู่ห่างๆ อะไรที่ทำได้เขาก็จะทำและคอยช่วยเหลือคนในครอบครัวจนกว่าจะเป็นวันสุดท้ายของเขา
“สวัสดีครับ”
“ผมเองครับ”
“นายมีอะไรโทรมาดึกดื่น”
“พี่ช่วยมาจ่ายบิลให้ผมหน่อยสิครับ”
“นี่นายหนีแม่ออกมาเที่ยวอีกแล้วหรอ พรุ่งนี้ก็จะไปเรียนแล้วไม่ใช่หรอ”
“นั่นมันก็ใช่แต่พี่มาจ่ายให้ผมก่อนเร็ว ไม่งั้นเขาได้จับผมส่งตำรวจแน่ๆ”
“ให้ถูกขังสักวันก็ดีนี่”
“ไม่เอานะผมไม่อยากมีประวัติ”
“ฮ่าๆ รู้แล้วๆส่งที่อยู่มา”
“ขอบคุณครับพี่ชาย”