บทที่ 1 บทนำ
แมมมอธรู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อลูกน้องรายงานว่าที่คาสิโนมีเรื่องทะเลาะวิวาท ในขณะที่เขากำลังจะมีความสุขกับสาวสวยหุ่นดีตรงหน้า ด้วยความเขาเกิดมาในประเทศที่การทำคาสิโนเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายทำให้ครอบครัวของเขาสามารถเติบโตจากธุรกิจนี้อย่างก้าวกระโดด เพราะงานสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเขาเลยต้องยอมตัดใจเลือกสิ่งที่สำคัญกว่า
“วันนี้กลับไปก่อนนะครับคนสวยเดี๋ยววันหลังผมจะใช้บริการใหม่นะ” เขาบอกออกไปอย่างแสนเสียดายเวลาแห่งความสุขที่จะได้ปลดปล่อย
“ตะ แต่ว่าเรายังไม่ได้สนุกด้วยกันเลยนะคะ” หญิงสาวรู้สึกเสียดายมากที่ไม่มีโอกาสได้ร่วมเตียงกับชายหนุ่ม วันนี้เป็นคิวของเธอแท้ๆแต่กับไขว่คว้าได้เพียงแค่ความว่างเปล่า
“รีบไปเถอะผมมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ”
“ก็ได้ค่ะ” ในที่สุดเธอก็ต้องยอมถอยเพราะถ้าเธอทำเขาหงุดหงิดเธอคงต้องโดนเจ๊บุหงาหักเงินแน่ๆ ชายหนุ่มวางเงินปึกใหญ่ไว้ให้ หญิงสาวแอบซ่อนรอยยิ้มครั้งนี้ไม่เหนื่อยแถมยังได้เงินก็ดีไปอีกแบบเหมือนกัน
ณ คาสิโน
“มันอยู่ไหนลายคราม”
“มันอยู่นั่นครับบอส ผมคิดว่ามันตั้งใจมาป่วนทำให้ลูกค้าของเราทยอยกลับกันไปแล้วครับ” ลายครามรายงานไปตามความเป็นจริง แน่ล่ะสิมีเรื่องแบบนี้ใครจะอยากอยู่ต่อ ที่สำคัญเรื่องนี้ทำให้เขาสูญเสียรายได้ไม่ใช่น้อย
“หึ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครส่งมันมา เอามันไปเข้าห้องมืด”
“ครับบอส” คนที่ก่อความวุ่นวายเวลานี้กำลังถูกทรมานเพื่อให้บอกความจริงมาว่าเป็นใครกันแน่ที่สั่งการ แรกๆมันก็ไม่ยอมปริปากบอกแต่พอเขาสั่งให้ลูกน้องทำรุนแรงขึ้นมันก็ทนอีกต่อไปไม่ไหว
“โอ๊ย ยอมแล้วครับ บอกแล้วครับ” มันบอกออกมาเสียงสั่นเพราะทนความเจ็บปวดไม่ได้แล้ว
“มันคือใคร”
“อะ เอ่อ คุณฟินิกซ์ครับ”
“ผมว่าแล้วว่าต้องใช่มัน” ลายครามบอกออกมาแทบจะทันที
“ในเมื่อมันกล้ามาก่อกวนแบบนี้ ฉันก็คงต้องจัดการอะไรสักอย่างเพราะถ้ายังนิ่งมันก็คงได้ใจ วิดิโอถ่ายไว้แล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มถามออกไปเสียงดัง
“ถ่ายแล้วครับ”
“ดี จบเรื่องสักที”
“ผมมีเอกสารสำคัญต้องให้บอสเซ็นด้วยครับ”
“ฉันจะไปรอที่ห้องรีบมา”
“ครับ”
อีกด้านหลังเลิกเรียนดาหลามาหารายได้เสริมด้วยการแจกใบปลิว แม้จะไม่ได้ค่าจ้างมากนักแต่เธอก็ต้องทำเพราะอยากช่วยพี่ชายอย่างดาวเหนือหาเงินรักษาผู้เป็นแม่ที่กำลังป่วยหนักนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาลมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว พี่ดาวเหนืออายุมากกว่าเธอ 10 ปี เขาทำหน้าที่พี่ชายได้อย่างดีเยี่ยมหลังจากที่คนเป็นพ่อจากไป พอคนเป็นแม่ล้มป่วยพี่เลยต้องวิ่งวุ่นหาเงินมาจ่ายค่ารักษา เธอสงสารเขามากแต่พี่ชายของเธอกับบอกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาในการจัดการ
“ทำไมวันนี้กลับช้าจังล่ะดาหลา”
“อะ เอ่อ...พี่ดาวเหนือก็กลับช้าเหมือนกันนี่คะ”
“ไม่ต้องมาย้อนยังไงพี่ก็ถึงบ้านก่อนดาหลาอยู่ดี นี่แอบไปแจกใบปลิวอีกแล้วใช่ไหม” เขาถามออกไปเสียงเข้ม บอกกี่ครั้งน้องสาวคนนี้ก็ไม่ฟังเลย เขาไม่อยากให้น้องต้องมาลำบากเขาเข้าใจว่าน้องสาวอยากช่วย
“ดาหลาอยากช่วยพี่ดาวเหนือนี่คะ” ดาหลาตอบกลับน้ำเสียงเศร้าให้พี่ชายสงสาร
“แต่พี่ไม่อยากให้น้องสาวของพี่ต้องลำบาก เราน่ะเป็นเด็กดื้อมากรู้ไหม” ดาวเหนือบอกออกไปน้ำเสียงห่วงใย อดจะบ่นน้องสาวไม่ได้ที่ดื้อรั้นเหลือเกิน น้องสาวคนนี้มีความมั่นใจในตัวเองสูงตั้งแต่เด็กแล้ว น้องสาวกับแม่เขาจะดูแลทั้งสองอย่างดีให้ได้เพราะเขาได้สัญญากับคนเป็นพ่อเอาไว้ก่อนที่ท่านจะจากโลกใบนี้ไป
“แหะๆ ดาหลาอยากช่วยต่างหากค่ะ”
“พี่รู้ๆรีบไปอาบน้ำนอนเถอะ วันนี้มีการบ้านหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ อาทิตย์นี้คืออาทิตย์สอบอีกไม่นานดาหลาก็จะจบมอหกแล้วนะคะพี่ดาวเหนือ”
“ดีแล้วล่ะว่าแต่อยากเรียนต่ออะไรล่ะ”
“ดาหลาคิดๆเอาไว้แล้วค่ะ”
“น้องของพี่เรียนเก่งไม่ว่าจะเรียนที่ไหนพี่คิดว่าน้องพี่ทำได้”
“พี่ดาวเหนือเองก็ไปพักเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวก็ต้องไปนอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล”
“อืม พี่ขอไปงีบสักหน่อยแล้วกัน เราก็กินข้าวซะนะพี่ซื้อมาให้สองอย่างอยู่บนโต๊ะในครัว”
“ขอบคุณค่ะ ดะ เดี๋ยวค่ะพี่ดาวเหนือ”
“มีอะไรอีกละเรา”
“นอกจากเรื่องของแม่พี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ หน้าตาของพี่ดาวเหนือดูไม่สบายใจกว่าทุกวันเลย”
“ไม่มีอะไรหรอกไปกินข้าวได้แล้ว”
“ถ้าไม่มีอะไรก็โอเคค่า หิวจัง” ชายหนุ่มส่ายหัวไปมาเบาๆให้กับน้องสาวคนนี้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนน้องสาวคนนี้ก็สามารถจับความรู้สึกของเขาได้อยู่เรื่อย เขาจำเป็นต้องโกหกเพราะไม่อยากให้น้องไม่สบายใจไปกับเขาด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน หลังเลิกงานประจำเขาเดินทางไปหาแฟนสาวที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งตามที่เธอได้นัดหมาย ร้านนี้เป็นร้านประจำของพลอยขวัญแฟนสาวของเขานั่นเอง
“เหนือทางนี้จ้ะ”
“มานานหรือยังรอเหนือนานไหมครับ”
“ไม่นานค่ะ นั่งก่อนสิคะเหนืออยากสั่งอะไรสั่งได้เลยนะคะ”
“ครับ ผมขอเมนูหน่อย” ชายหนุ่มเปิดดูราคาแล้วก็รู้สึกไม่ดี เงินแต่ละบาทเขาควรจะเก็บสะสมเป็นค่ารักษาของคนเป็นแม่แทนที่จะมาใช้จ่ายในร้านกาแฟสุดหรู
“อย่าคิดมากเลยนะคะมื้อนี่พลอยเลี้ยงเองค่ะ ตอบแทนที่หลายๆครั้งเหนือเลี้ยงพลอยไงคะ”
“โอเคครับ” เขาสั่งกาแฟมาแค่หนึ่งแก้วเท่านั้นเพราะเกรงใจหญิงสาว
“เอาเพิ่มอีกหนึ่งอย่างค่ะ อันนี้นะคะ” เธอหันไปพูดคุยกับพนักงาน
“วันนี้มีอะไรหรือเปล่าครับถึงได้นัดมาเจอกันเร็วกว่าทุกวัน”
“เรื่องสำคัญน่ะค่ะ”
“เรื่องอะไรครับทำไมน้ำเสียงจริงจังจัง”
“เราเลิกกันเถอะเหนือ” หญิงสาวบอกออกไปน้ำเสียงราบเรียบอย่างคนที่เตรียมใจมาก่อนแล้ว
“ว่าไงนะ ทำไมพลอยถึงต้องพูดเรื่องเลิกด้วยเหนือทำอะไรผิด” เขาถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจและกำลังมึนงง
“เหนือไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งนั้น”
“แล้วทำไม...”
“บอกตรงๆนะพลอยอายเวลาที่ได้เดินกับเหนือ พลอยต้องการคนที่ดึงพลอยให้สูงขึ้นไม่ใช่ฉุดให้ต่ำลงแบบเหนือ” หญิงสาวบอกออกไปตรงๆอย่างไม่คิดถึงความรู้สึกของชายหนุ่มเลยสักนิด เขารู้สึกหน้าช้ากับคำอธิบายของแฟนสาว เขาและเธอคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปัจจุบันก็หลายปีแล้ว ตอนแรกเธอบอกว่ายอมรับเขาได้ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าฐานะเธอกับเขาจะต่างแค่ไหนเธอก็รับได้ แล้วตอนนี้คืออะไรที่เธอมาบอกว่าอายที่ได้เดินเคียงข้างกับเขา เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“นี่พลอยกำลังล้อเหนือเล่นใช่ไหม”
“เรื่องแบบนี้พลอยไม่ล้อเล่นหรอกนะเหนือ อีกอย่างพลอยก็มีแฟนใหม่แล้ว”
“พลอยนอกใจเหนือหรอ” เขาถามออกไปเสียงสั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่รักกันจะทำแบบนี้ได้ลงคอ
“ใช่ ทุกอย่างต้องโทษเหนือนั่นแหละที่ไม่ค่อยมีเวลาให้พลอย เหนือเอาแต่ทำงาน งาน งาน งานอยู่นั่นแหละคนเป็นแฟนคนไหนเขาจะทนได้”
“…”
“เราจบกันเท่านี้เถอะนะ พลอยอยากมีอนาคตที่สดใสกว่านี้”
“เหนือตามใจพลอยเลิกก็เลิก”
“ดีมากพูดง่ายๆแบบนี้เราจะได้ยังเป็นเพื่อนกันได้อยู่”
“หึ”
“พลอยขอตัวก่อนดีกว่า ค่ากาแฟแค่นี้พลอยสบายมาก” เธอยังไม่วายแซะเรื่องเงินก่อนที่จะเดินจากไป ชายหนุ่มฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างคนหมดแรง เขาเดินออกจากร้านด้วยสายตาที่เลื่อนลอย ในใจเหมือนหมดสิ้นทุกอย่าง ความไว้ใจความซื่อสัตย์ที่เขามอบให้เธอแท้จริงแล้วไม่ได้มีความหมายอะไรกับเธอเลยสักนิด เขายืนอยู่บนสะพานที่ข้างใต้คือแม่น้ำสายใหญ่ของประเทศ เขาอยากจะทิ้งความเศร้าความเสียใจไปกับสายน้ำ ดูกระแสน้ำตรงหน้านี้สิมันไหลแรงจนดูน่ากลัว
ถิงถิงที่นั่งมากับรถยนต์คันหรูรีบบอกให้คนขับรถจอดรถเพราะเธอมองไปข้างทางเห็นว่ามีคนจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย เธอคิดว่าทุกชีวิตมีค่าไม่ควรจบชีวิตแบบนี้
“คุณหนูเดี๋ยวครับ” รถจอดสนิทเธอก็ลงไปคว้าตัวชายหนุ่มที่กำลังคิดสั้นคนนั้นเอาไว้โดยไม่ได้ยินเสียงเรียกของลุงคนขับรถเลย
“นั่นคุณคิดจะทำอะไรน่ะ คุณจะฆ่าตัวตายไม่ได้นะมันเป็นบาปคุณไม่รู้หรือไง” เธอตะโกนบอกชายหนุ่มเสียงดังแข่งกับเสียงการจราจรที่ดังสนั่นอยู่รอบกาย การฆ่าตัวตายสำหรับเธอคิดว่ามันไม่ใช่จุดที่สิ้นสุดของปัญหาเพราะจากการที่ตายไปแล้วนั้นจะทำให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ช้ำใจตลอดไป
“เฮ้ย!”
“อะไรคุณ”
“ผมไม่ได้จะฆ่าตัวตายและตอนนี้คุณก็ทำโทรศัพท์ผมตกน้ำ โถว่เอ้ยอะไรวะเนี่ย” เขายกมือขึ้นมากุมขมับแล้วอย่างนี้เขาจะติดต่อน้องสาวได้อย่างไร เงินจะซื้อโทรศัพท์เครื่องละเป็นหมื่นเขาก็ยังไม่มี
“อะ เอ่อฉันขอโทษเดี๋ยวฉันจะซื้อเครื่องใหม่ให้คุณเอง”
“ไม่ต้องหรอกครับ”
“เถอะนะให้ฉันได้ไถ่โทษเถอะนะคะที่เข้าใจคุณผิดแล้วก็เป็นคนทำให้โทรศัพท์คุณตกน้ำ ฉันชื่อถิงถิงค่ะคุณละคะ”
“ผมชื่อดาวเหนือครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ไปขึ้นรถเถอะค่ะฉันจะได้พาคุณไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่”
“ก็ได้ครับ” เขายอมเดินตามเธอไปนั่งในรถยนต์คันหรู
“คุณมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่าคะฉันแอบเห็นว่าตอนแรกคุณร้องไห้”
“คุณถิงถิงนี่เป็นคนชั่งสังเกตจังเลยนะครับ”
“นี่ไม่ได้ว่าถิงใช่ไหมคะ” เธอตอบกลับยิ้มๆ ประโยคตอบกลับของเธอเรียกรอยยิ้มที่หายไปของเขากลับมาได้ แม้จะเป็นแค่ชั่วขณะแต่ก็ถือว่ายังดีที่เขาสามารถลืมเรื่องที่ทำให้เจ็บช้ำหัวใจก่อนหน้านี้ เธอพาเขามาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ เขาอยากได้ราคาไม่แรงแต่หญิงสาวบอกว่าเธอขอซื้อเครื่องที่ดีที่สุดให้เพื่อเป็นการขอโทษและขอให้เขารับคำขอโทษจากเธอ
“คุณดาวเหนือบันทึกเบอร์ถิงถิงเป็นคนแรกก็แล้วกันนะคะ”
“แล้วแต่คุณถิงถิงเลยครับ”
“เรียบร้อยค่ะ เบอร์อื่นคุณพอจะจำได้ไหมคะ”
“จำได้ครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะคะถิงเองคงต้องขอตัวก่อนคุณกลับเองได้ใช่ไหมคะ”
“ได้สิครับผมไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย” เขาตอบกลับอย่างกวนๆ
“โอเคค่ะ ถ้ามีโอกาสเราคงจะได้เจอกันอีกนะคะ”
“ครับ” ชายหนุ่มมองตามหญิงสาวไปจนสุดสายตา ในใจคิดไปว่าคนรวยก็แบบนี้ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่าง เธอทำให้เขานึกถึงผู้หญิงใจร้ายที่เพิ่งบอกเลิกเขาอย่างเลือดเย็น แค่นึถถึงเรื่องราววุ่นวายมากมายที่ผ่านเข้ามาในวันนี้เขาก็ปวดหัวเวลานี้ของีบพักเอาแรงสักหน่อยจะดีกว่า ด้านถิงถิงเธออารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อกลับถึงบ้าน เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องอามรณ์ดีทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังหงุดหงิดหัวใจสุดๆที่โดยจับหมั้นกับลูกชายเพื่อนของพ่อจนน้องออกมานั่งรถเล่นรอบเมืองแล้วบังเอิญเจอดาวเหนือที่เธอคิดว่าเขาจะฆ่าตัวตายซะงั้น คิดแล้วก็ตลกตัวเองสุดท้ายต้องเสียเงินซื้อโทรศัพท์เครื่องใหมให้เขาจนได้
“ดาวเหนือ” ดาวเรืองเรียกลูกชายเสียงแผ่วเบา
“แม่ต้องการอะไรครับ”เจ้าตัวรีบขยับเข้าไปหาเพราะคิดว่าคนเป็นแม่ต้องการอะไร
“แม่ไม่อยากผ่าตัดเลยลูก”
“แม่อย่าพูดอย่างนี้สิครับ ไม่ว่าจะยังไงผมกับดาหลาก็อยากให้แม่กลับมาแข็งแรงเป็นเจ๊ดางเรืองคนเก่งของลูกๆนะครับ”
“แต่ว่ามันต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้นแม่ไม่อยากให้ลูกต้องลำบาก”
“ไม่ลำบากเลยครับผมพร้อมที่จะหาเงินค่าผ่าตัดมาให้แม่ ขออย่างเดียวขอให้แม่เชื่อใจลูกคนนี้ก็พอครับ” คนเป็นแม่พยักหน้าหงึกๆน้ำตาคลอ หล่อนซึ้งใจที่มีลูกที่ดีขนาดนี้ ตัวเองยอมลำบากเพื่อให้หล่อนมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นพร้อมกับดูแลน้องสาวไปในเวลาเดียวกัน
“อย่าคิดมากเลยนะครับ ผมรักแม่นะครับ ถ้ายัยดาหลารู้ว่าแม่ไม่อยากผ่าน้องจะเป็นทุกข์นะครับ”
“แม่ยอมแล้ว” ดาวเรืองตอบกลับเสียงแผ่วเบา คำตอบของผู้เป็นแม่ทำให้ดาวเหนือยิ้มออก ไม่มีการรักษาที่ดีเท่ากับใจที่สู้ของคนไข้หรอก
“วันนี้มาก่อนใครเลยนะจ๊ะดาหลา”
“ฉันแวะไปหาแม่ที่โรงพยาบาลก่อนมาเรียนน่ะเลยตื่นเช้ากว่าปกติ”
“แม่เป็นไงบ้างอ่ะดีขึ้นยัง”
“รอผ่าตัดอ่ะ”
“ทำไมไม่รีบผ่าล่ะ”
“คือฉันกำลังหาเงินอยู่น่ะ”
“จริงหรอยังเหลืออีกเยอะม่ะ”
“ก็ยังเหลือเยอะอยู่นะ ฉันทำงานแจกใบปลิวค่าจ้างก็นิดเดียวเอง”
“มาทำงานกับพี่ที่ฉันรู้จักสิเห็นว่าได้เงินเยอะเลย” เมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินเธอจึงไม่รอช้าแนะนำหนทางหาเงินให้เพื่อน
“จริงหรอมันคืองานอะไรอ่ะ” เธอถามกลับด้วยความอยากรู้ ถ้าเงินดีจริงไม่นานเอก็คงจะได้เงินเป็นก้อน
“แค่ชงเหล้านั่งอยู่เป็นเพื่อนแขกอะไรทำนองนี้”
“อืม น่าสนใจนะ”
“ถ้าสนก็ติดต่อไปที่เบอร์นี้แล้วกันเดี๋ยวฉันส่งให้ในไลน์”
“ขอบคุณจ้ะ”
“ดาหลา!”
“ตกใจหมดจะเสียงดังทำไมเนี่ยไมเนอร์” เธอกำลังคิดเรื่องงานที่เพื่อนสาวแนะนำให้เพลินๆใครจะคิดว่าไมเนอร์จะโผล่มาตอนนี้ เขาชอบทักทายเธอเสียงดังให้ตกใจอยู่เรื่อย
“ก็จะชวนไปทานข้าวไง”
“ทำไมไม่ไปชวนสาวๆของตัวเองล่ะ” แปลกคนจริงๆ ไมเนอร์น่ะมีแต่คนอยากไปทานข้าวด้วยเธอโชคดีสินะที่เขามาชวนเธอแต่ว่าวันนี้คงต้องปฏิเสธ
“ไม่เอาวันนี้เบื่ออยากไปทานข้าวกับเพื่อนบ้างไม่ได้หรอ”
“เย็นนี้ไม่ว่าง”
“ไปแจกใบปลิวอีกแล้วหรอ ฉันจะช่วยออกค่าผ่าตัดให้เธอก็ไม่ยอม”
“ไม่ใช่มีธุระน่ะ ส่วนเรื่องค่าผ่าตัดฉันขอบใจนายมากนะนายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยแต่ฉันขอหาทางเองก่อนดีกว่าไม่ใช่หรอ”
“เฮ้อ งั้นไปเยี่ยมป้าดาวเรืองหรอ”
“อย่ารู้เลยนายน่ะ”
“อ้าว”
“ไปก่อนนะ”
“วัยรุ่นเซ็ง” ไมเนอร์บอกออกมาอย่างเซ็งๆ เวลาที่ได้ออกไปทานข้าวกับดาหลาเขารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากเลยล่ะ เพื่อนปฏิเสธกันอย่างนี้งั้นวันนี้เขากลับบ้านเลยก็แล้วกัน
ไมเนอร์กลับถึงบ้านเร็วกว่าทุกวันนั่นทำให้ทุกคนในบ้านอดแปลกใจไม่น้อยเพราะเจ้าลูกชายคนนี้ติดเที่ยวเล่นก่อนจะกลับบ้านเสมอ
“กลับมาแล้วคร๊าบบบ”
“เจ้าลูกชายของคุณพี่กลับมาแล้วค่ะ”
“แปลกนะที่วันนี้เจ้าไมเนอร์กลับมาเร็ว”
“โถว่พ่อครับผมแค่อยากจะมาทานข้าวด้วยไม่ได้หรอครับ”
“ก็มันไม่ปกติน่ะสิ วันนี้ไม่ออกไปกับสาวๆหรอ”
“ไม่อ่ะครับผมไม่มีอารมณ์”
“เป็นอะไรไปล่ะลูกชายของแม่หรือว่าเงินหมด”
“โถว่ไม่ใช่หรอกครับ ว่าแต่แม่แพรครับผมจะเรียนต่ออะไรดีละครับ”
“เรียนบริหารธุรกิจสิถามได้” คนเป็นพ่อตอบแทน
“แต่ผมไม่มั่นใจว่าจะชอบหรือเปล่าน่ะสิครับ”
“ยังไงสุดท้ายแล้วลูกก็ต้องมาช่วยพี่ชายของลูกบริหารอยู่ดี”
“สายสุขภาพก็ได้นี่ลูก ลูกชายของแม่เรียนเก่งจะตายลองสมัครเรียนหมอหน่อยสิจ๊ะ”
“งั้นผมสมัครหมอตามที่แม่บอกแล้วกันนะครับ”
“ตามใจแกเถอะ ไม่บริหารของพ่อก็ต้องบริหารโรงพยาบาลของแม่แกก็แล้วกัน”
“ครับผม มีอะไรทานบ้างครับกลิ่นหอมจัง”
“มีแต่ของโปรดลูกทั้งนั้นเลย ลูกน่ะไม่ค่อยกลับมาทานข้าวเย็นด้วยกันแต่แม่ก็เตรียมของโปรดของลูกกับพี่แมมมอธทุกวันนะลูก” คนเป็นแม่บอกออกไปน้ำเสียงเศร้าสร้อย ลูกชายมักจะกลับบ้านไม่ตรงเวลากันทั้งคู่ คนโตน่ะพอจะเข้าใจได้ว่าบางทีก็เรื่องงานแต่คนเล็กนี่สิออกไปเที่ยวเล่นทั้งนั้น
“แม่แพรพูดอย่างนี้ผมรู้สึกผิดเลยนะครับเนี่ย” ไมเนอร์ทำเสียงเศร้า
“กลับมาแล้วครับ”
“วันนี้แปลกจริงๆค่ะคุณพี่” แพรวาหันไปคุยกับผู้เป็นสามี ลูกชายทั้งสองมารวมตัวกันในรอบหลายเดือนจะไม่แปลกได้อย่างไรล่ะ
“วันนี้นายก็อยู่ด้วยหรอไมเนอร์”
“ครับ ผมก็อยากมาทานของอร่อยฝีมือแม่บ้างว่าแต่พี่ล่ะครับวันนี้ว่างได้ไง” เขาถามออกไปด้วยความสงสัย
“ฉันก็ต้องกลับบ้านบ้างเหมือนกันไหมล่ะก่อนที่แม่แพรกับพ่อจะลืมหน้าแล้วยกสมบัติให้นายคนเดียว”
“ฮ่าๆพี่ก็คิดมากเกินไป” ไมเนอร์หัวเราะชอบใจออกมากับคำแซวเล่นของพี่ชาย
“มันก็ต้องกันไว้ก่อน” มื้ออาหารมื้อนี้คนที่มีความสุขที่สุดดูจะเป็นแพรวาเพราะเธอเอาแต่มองดูลูกชายสุดที่รักทั้งสองคนตักของอร่อยเข้าปาก แน่นอนว่าทั้งสองคนทานอาหารฝีมือคนเป็นแม่อย่างเอร็ดอร่อย
“วันนี้ค้างที่บ้านไหมล่ะแมมมอธ”
“วันนี้ขอบายดีกว่าครับ”
“นัดสาวไว้ล่ะสิถ้า”
“รู้ดีนักนะ” แมมมอธหันไปเข่นเขี้ยวน้องชาย ไมเนอร์ชอบแซวทีเล่นทีจริงอยู่เรื่อยจนเขาคิดว่าน้องชายคนนี้เคยเอาจริงเรื่องอะไรบ้างหรือเปล่า แต่ที่ดูขัดแย้งเลยคงจะเป็นหัวสมองอันชาญฉลาดของไมเนอร์หนังสือไม่ค่อยอ่านแต่พอมาหยิบมาปัดฝุ่นก็เข้าใจเนื้อหาทะลุปรุโปร่ง
“น้องตัดสินใจจะเรียนหมอนะแมมมอธ”
“เอาสิครับผมว่าก็ดีนะจะได้ช่วยงานแม่แพรได้ด้วย”
“แม่กับพ่อก็คิดแบบนั้นจ้ะ” หลังจากรับประทานอาหารกับครอบครัวเสร็จเขาก็เดินทางไปยังผับหรูแห่งหนึ่ง วันนี้เขากะว่าจะมาหาสาวสักคนกลับไปนอนกกกอดด้วยกัน
ณ ผับหรู
วันนี้เป็นวันแรกที่ดาหลามาทำงานที่ผับแห่งนี้ตามคำแนะนำของเพื่อน เพื่อนบอกว่าทำงานที่นี่หาเงินจำนวนมากได้ภายในไม่กี่วัน หากต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างเงินจำนวนมากต้องทำงานเป็นเดือนข้อนี้เธอรู้ เงินจึงเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เธอเดินทางมาถึงที่นี่เวลานี้
“อะ เอ่อชุดนี้เลยหรอคะ”
“ชุดนี้แหละจ้ะเหมาะกับน้องดาหลาที่สุด”
“แต่มันไม่โป๊ไปหรอคะพี่นกยูง”
“ดูคนอื่นก่อนนะจ๊ะถึงค่อยคิดว่าชุดของน้องจะโป๊” เธอหันไปมองรอบๆแล้วก็พบว่าคนอื่นๆแทบจะสวมเพียงชุดชั้นในเท่านั้น ชุดของเธอเบากว่าคนอื่นจริงๆนั่นแหละ
“มีปัญหาอะไรไหม”
“แหะๆ ไม่มีแล้วค่ะพี่นกยูง”
“งั้นก็ไปทำงานได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวก็อดได้ทริปหรอก”
“ค่ะๆไปแล้วค่ะ” เอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะแขกตะแรก เธอช่วยรินเหล้าให้พวกเขาดื่มแค่นี่ก็ได้ทริปมาอย่างง่ายดาย เธอมองเงินในมือบางของตนแล้วก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่แสนจะใสซื่อจนไปกระแทกใจของเจ้าพ่อคาสิโนอย่างจัง
“ไปหาแขกโต๊ะนั้นเร็ว”
“ค่ะพี่” เธอเก็บเงินเข้ากระเป๋าแล้วเดินตรงไปยังแขกที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ก่อนอื่นเธอยกมือไหว้เขาก่อนเพื่อเป็นการทำความเคารพและให้เกียรติ
“นั่งเถอะ”
“สวัสดีค่ะหนูชื่อดาหลาค่ะ”
“อยากรู้ชื่อฉันหรอ”
“อะ เอ่อค่ะ”
“ฉันชื่อแมมมอธ รินเหล้าให้ฉันสิ” ประโยคหลังเขาสั่งออกไปเสียงเบาเมื่อเห็นว่ากระต่ายน้อยยังไม่ยอมทำหน้าที่ของตน
“ได้ค่ะ”เธอทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย เขายกดื่มรวดเดียวหมด เธอรินแก้วที่สองแก้วที่สามให้เขาต่อแล้วเขาก็ทานรวดเดียวหมดเช่นเคย
“คุณแมมมอธคอแข็งใช่ไหมคะถึงดื่มได้เยอะขนาดนี้”
“ไม่รู้สิดาหลาอยากพิสูจน์ไหมล่ะ” เขายื่นมือออกไปเชยคางของหญิงสาวให้เธอมองสบตาคู่คมของเขา
“อะ เอ่อ...”
“ดื่มสิแล้วฉันจะให้ทริป” ชายหนุ่มพยายามหลอกล่อหญิงสาวตรงหน้าให้คล้อยตามเขา
“จริงหรอคะ” สาวน้อยถามกลับตาโตแค่ดื่มก็ได้เงินแล้วหรอ
“อืม”
“ตกลงค่ะ” เมื่อเธอดื่มจนหมดแก้วเขาก็ยื่นทริปให้วนอย่างนี้มาสองสามรอบแล้ว แก้มของสาวน้อยแดงระเรื่อเพราะแอลกอฮอล์ในกายกำลังทำให้เลือดสูบฉีด
“พะ พอก่อนค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นห้าม เธอรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำซะแล้ว
“ฮ่าๆไม่ไหวแล้วสิเรา” ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจออกมาเบาๆ
“อื่อ หวายยังหวายย อยากไปห้องน้ำ” เธอบอกความต้องการทันที ขืนถ้ายังชักช้าเธอได้ฉี่แตกตรงนี้แน่ๆ เธอจะไม่มีวันทำเรื่องขายหน้าแน่นอน
“ฮ่าๆพูดยังพูดไม่ชัดเลยนะจะไหวได้ไง” เขารวบตัวสาวน้อยเข้ามาในอ้อมกอดและเตรียมพาเดินออกไปด้านนอก
“อะ เอ่อคุณแมมมอธจะพาน้องดาหลาไปไหนคะ”
“ห้องน้ำอยู่ทางไหน”
“ดาหลาจะเข้าห้องน้ำหรอคะ”
“อืม”
“ให้นกยูงพาดาหลาไปเองดีกว่าค่ะ” นกยูงรีบรับอาสา
“เอางั้นก็ได้” ชายหนุ่มมองตามสองสาวไปจนสุดสายตา รอไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็พาดาหลากลับมาส่ง
“ส่งเธอมาครับ”
“อะ เอ่อค่ะ จะพาดาหลาไปไหนหรอคะ ไม่นั่งในห้องแล้วหรอคะ”
“ไม่น่าถามนะเจ๊นกยูง” ลายครามเป็นคนตอบให้แทน
“คือว่าน้องดาหลาแกมาสมัครแค่นั่งเป็นเพื่อนค่ะไม่ได้ต้องการจะออกไปกับแขกนะคะคุณแมมมอธ”นกยูงพยายามอธิบายให้แขกวีไอพีเข้าใจแต่เขาไม่ได้ฟังสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิดแถมยังคงตั้งหน้าตั้งตาอุ้มสาวน้อยไปที่รถยนต์คันหรู
“คุณแมมมอธคะนกยูงขอร้องเถอะค่ะ” จะบอกอย่างไรได้ว่าเด็กคนนี้ยังอายุไม่ถึงยี่สิบเลยด้วยซ้ำ แต่หล่อนก็ไม่กล้าปริปากเพราะกลัวจะมีปัญหาอื่นๆตามมา
“ฉันจะจัดการทุกอย่างเองรับรองว่าไม่มีปัญหาอะไรถึงคุณแน่” ประโยคของชายหนุ่มทำให้นกยูงพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปเพราะเธอเชื่อว่าเขาจะทำได้อย่างที่พูดออกมา ชายหนุ่มพาหญิงสาวเข้าไปในรถและลายครามก็ขับรถออกไปทันที เป้าหมายคือคอนโดของชายหนุ่ม
“นั่งดีๆสิเดี๋ยวก็ถึงแล้ว”
“นานไหม ไปหน่ายย”
“ไม่นานหรอกคนสวย อีกเดี๋ยวเราก็จะได้ไปนอนพักผ่อนกันนะครับ”
“พักผ่อนที่หน่ายย”
“เราจะไปสวรรค์กันไงครับ” เขาวาดแผนการเอาไว้ในใจแล้วก็ยิ้มเต็มใบหน้า ค่ำคืนนี้คงจะเป็นอีกคืนที่เขามีความสุขมากแน่ๆ
“ไม่เอานะดาหลายังไม่อยากตาย ดาหลาต้องหาเงิน” เธอรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธทันที
“ฮ่าๆไม่ถึงกับตายหรอกนะว่าแต่หาเงินไปทำไมกัน ตัวแค่นี้ใช้จ่ายเกินตัวน่ะสิ” เขาคิดเองว่าเธอคงจะเป็นเด็กที่นิยมของหรู ชอบหาซื้อของหรูมาประดับกายแน่ๆ
“ไม่ช่าย เงินให้แม่ต้องรักษาแม่” คนเมาบอกออกมาเสียงดังฟังชัด ภายใต้จิตสำนึกของเธอนึกถึงคนเป็นแม่และพี่ชายอยู่ตลอด
“…” คำตอบของเธอทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก
“พี่เหนือเหนื่อย ช่วยพี่เหนือหาเงิน” หญิงสาวยังคงบอกต่อ
“โอเคๆฉันเข้าใจแล้วว่าเธอมีความจำเป็นต้องใช้เงิน” เขาเชื่อว่าสิ่งที่เธอบอกออกมาคือเรื่องจริงเพราะถือว่าคนเมาไม่พูดโกหกและที่สำคัญเรื่องเงินเขาตอบสนองเธอได้แน่นอน
“นายไปสืบข้อมูลให้ฉันหน่อย”
“ได้เลยครับบอส”
“ออกไปได้แล้ว”
“ครับ” ลายครามหมุนตัวเดินออกไปทันที ชายหนุ่มวางเธอลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือ เขาไม่รอช้าปลดเปลื้องเสื้อผ้าของอีกฝ่ายรวมถึงเสื้อผ้าบนตัวเขาด้วย จากนั้นก็หันไปหยิบเครื่องป้องกันมาสวมเพื่อความปลอดภัย เขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนนั้นอุ้มท้องมาเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขาได้ง่ายๆแน่นอน อารมณ์วาบหวามที่ชายหนุ่มตั้งใจสร้างขึ้นทำให้หญิงสาวผู้ไม่ประสารู้สึกล่องลอยอย่างอยากรู้อยากเห็นและอยากทดลองสิ่งแปลกใหม่นั้นดู สองร่างเปลือยเปล่าชายหนุ่มยังงมีสติครบถ้วน เขารู้สึกว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้ามันชั่งวิเศษเหลือเกิน สาวน้อยคนนี้ซ่อนรูปเหลือเกิน เขาไม่รอช้าบรรเลงเพลงรักกับเอทันทีและเธอก็ให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดีจะมีอุปสรรคบ้างก็เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ แม้เขาจะตกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ขอเดินหน้าต่อเพราะถ้าถอยตอนนี้ให้เขาตายซะดีกว่า ชายหนุ่มสูบพลังจากหญิงสาวไปหลายชั่วโมงสุดท้ายก็หลับไปด้วยกันทั้งคู่
“อื่อ” เธอขยับตัวไปมาอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ เมื่อลองพิจารณาดีๆก็พบว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธอ ห้องนี้หรูหราเกินไปเธอมาอยู่สถานที่แบบนี้ได้อย่างไรกันนะ พอมองข้างกายเธอก็ต้องตกใจเพราะเธอไม่ได้นอนอยู่บนเตียงกว้างคนเดียว
“นะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ว้าย กรี๊ดดด”
“หนวกหูน่าดาหลา”
“คุณ! คุณรู้จักชื่อหนูได้ยังไง” เธอถามออกไปด้วยความตกใจ ผู้ชายคนนี้ทำเหมือนกับว่าสนิทสนมกับเธอ
“นอนด้วยกันทั้งคืนจะไม่รู้จักได้ไงล่ะ หืม แล้วอีกอย่างนะดาหลาเป็นคนบอกชื่อเองจำไม่ได้แล้วหรอครับ” คำตอบของชายหนุ่มทำให้เธอพอจะนึกได้ลางๆ
“ปะ ปล่อยเลยนะคนโรคจิต หนูแค่นั่งเป็นเพื่อนนะทำไมต้องหิ้วกลับมาคอนโดของคุณแบบนี้ด้วย” หญิงสาวโวยวายออกมาเสียงดัง ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำกับเธอแบบนี้
“หืม กล้าว่ากันขนาดนี้เลยหรอ”
“คุณทำผิดทำไมต้องพาหนูออกมาจากร้านด้วยแล้วยัง ยัง...” เธออายเกินกว่าที่จะพูดมันออกมาว่าเธอกับเขามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันไปแล้ว และดูจากข้าวของที่กระจายอยู่รอบๆทำให้รู้เลยว่าศึกที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคงจะร้อนแรงไม่น้อย
“มีอะไรกัน” เขาตอบกลับท่าทีสบายๆ
“นั่นแหละค่ะ อย่าพูดออกมานะคะ” สาวน้อยยกมือปิดหูทั้งสองข้าง เธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถ้าเกิดพี่ชายรู้เรื่องนี้เข้าเธอต้องแย่แน่ๆที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้ เธอเป็นผู้หญิงแม่กับพี่ชายสอนเสมอว่าต้องรักนวลสงวนตัว
“เราสนุกด้วยกันทั้งคืนลืมไปแล้วหรอ” เขาเห็นใบหน้าของหญิงสาวแล้วก็ยิ่งอยากจะแกล้ง เขาแปลกใจตัวเองไม่น้อยเพราะเขาไม่เคยนอนค้างคืนกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เมื่อใช้บริการพวกเธอเหล่านั้นเสร็จเขาก็จะให้กลับทันทีแต่กับสาวน้อยคนนี้ทำไมเขาถึงทำลายกฏที่ตัวเองเคยตั้งเอาไว้ไม่เหลือซาก
“ไม่รู้ดาหลาจำอะไรไม่ได้ ปล่อยนะดาหลาต้องไปแล้ว” เธอพยายามสลัดมือของชายหนุ่มออกเมื่อเขาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
“ไม่ให้ไป” เขาบอกเธอออกไปเสียงดังฟังชัด
“หมายความว่าไงคะ”