ภายในห้องโดยสายที่มีเพียงแค่เสียงแอร์นั้น สีหน้าของหยกแก้วดูดีขึ้นมาเล็กน้อย เธอขยับตัวแล้วเอ่ยขอบคุณดามิทรีออกมาด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น
“ขอบคุณมากนะคะพี่กัปตัน ถ้าหยกมีโอกาสได้เจอกับเพิร์ล คงต้องชมให้ฟังสักหน่อยแล้ว"
“ครับ ยังไงคุณก็เป็นเพื่อนของน้องสาวผม เรื่องแค่นี้สบายมากครับ"
“หยกขอคอนแท็กของพี่กัปตันเอาไว้หน่อยได้ไหมคะ" หยกแก้วถาม ท่าทีดูไม่เหมือนคนป่วยเมื่อครู่เลยสักนิด
“พี่ไม่สะดวกครับ ถ้าจะติดต่ออะไรพี่ หยกติดต่อผ่านเลลามาเลยดีกว่า" ดามิทรีเอ่ยปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะถามถึงจุดประสงค์ หยกแก้วเมื่อได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ เพียงแต่ยิ้มออกมาบาง ๆ
“เข้าใจแล้วค่ะ…”
จังหวะนั้นพอดีกับที่เลลาเปิดประตูรถออกพร้อมกับแทรกตัวเข้ามานั่ง
“ยาได้แล้วละเลลา ไม่ต้องจ่ายเงินให้เรานะ ถือว่าเราซื้อให้ ทานให้ครบ พักผ่อนเยอะ ๆ ด้วย"
“ขอบคุณมากเลยนะเลลา" หยกแก้วเอื้อมมือไปรับถุงยาที่คนข้างหน้ายื่นให้ ก่อนจะนั่งเงียบเชียบไม่พูดไม่จาไปตลอดเส้นทาง แล้วลงจากรถตรงทางเข้าหมู่บ้านของเลลา พร้อมทั้งชี้บอกว่าเดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงอะพาร์ตเมนท์ที่เธอเช่าอยู่แล้ว เลลามองตามไปด้วยความไม่สบายใจนัก
“ทำไมไม่ให้ไปส่งข้างหน้าเลยล่ะ หยกโอเคแน่นะ”
“ถ้าไปส่งถึงที่จะหาที่กลับรถยากน่ะสิ แค่นี้ก็รบกวนพี่กัปตันมากแล้ว ขอบคุณมากอีกครั้งนะคะ" หยกแก้วยิ้มให้ ซึ่งดามิทรีเองก็พยักหน้ารับ
หลังจากบอกลากันเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ขับรถพาเลลาเข้าไปส่งถึงหน้าบ้านเหมือนเมื่อวาน แต่คราวนี้เขาลงจากรถพร้อมกับดับเครื่องยนต์ด้วย
“เดี๋ยวก่อน คุณกัปตัน คุณจะ…”
“พี่ขอฝากท้องหน่อยได้ไหมคะบี๋ขา ในฐานะคนที่นั่งเฝ้าบี๋ขาทำวิจัยมาทั้งวันแล้ว" ดามิทรีกลับมาเปิดโหมดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ขี้อ้อนอีกครั้ง ทำให้เลลาที่คิดจะทักเรื่องหน้าตึงทั้งวันเป็นอันต้องพับคำพูดนั้นไป ต่อหน้าคนอื่นดามิทรีเป็นเหมือนชายหนุ่มภูมิฐานที่ดูเข้าถึงยาก แต่สำหรับเธอแล้ว นี่มันตรงข้ามชัด ๆ
“ในบ้านฉันมีแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" เลลาเดินหน้าบึ้งไปไขกุญแจเปิดบ้านออก “คุณนี่ก็อยากเข้าไปบ้านฉันซะเหลือเกินนะ แล้วก็ฉันจะบอกจนคุณเบื่อนั่นแหละ ว่าให้เลิกเรียกฉันว่าบี๋ขาได้แล้ว ฉันไม่ชอบ" หญิงสาวพยายามบอก รู้สึกว่าคำเรียกของเขามันชวนจักจี้ใจมากเกินไป
ดามิทรียังคงลอยหน้าลอยตา เดินเข้าไปในบ้านของเธออย่างอารมณ์ดี ผิดกับสีหน้าที่ใช้ขับรถมาตลอดเส้นทาง ชายหนุ่มถอดรองเท้าวางบนชั้นอย่างเรียบร้อย พร้อมกับเดินตรงปรี่ไปยังครัว บ่งบอกถึงความหิวจริง ๆ ไม่ได้ล้อเล่น เลลาเหนื่อยกับสถานการณ์ตรงหน้าและป่วยการจะเถียงกับชายหนุ่มแล้ว จึงทิ้งตัวลงนั่งพักสายตาบนโซฟาอย่างอ่อนล้า วันนี้ทั้งวันเธอทุ่มเทให้กับการทำวิจัยจนรู้สึกปวดร้าวไปทั้งแขนขา รวมถึงกระบอกตาจนไม่อยากทำอะไรสักนิด
เสียงกระทบกันของเครื่องครัวทำให้เลลาอดไม่ได้ที่จะต้องลุกขึ้นเดินไปดู ภายในใจขอให้ไฟไม่ไหม้ครัวไปเสียก่อน
“คุณทำอะไรคะ” เธอกอดอกพร้อมกับพิงกรอบประตูครัวถาม ดามิทรีซึ่งในตอนนี้มอมแมมกว่าปกติไปด้วยแป้งอเนกประสงค์หันมาตอบ
“พี่ตั้งใจจะทำขนมหวานให้หนูทานด้วย แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมันธรรมดาเกินไป”
ได้ยินคำตอบแบบนั้นเข้า เลลาก็แทบจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก
“วัตถุดิบที่ฉันมีมันไม่ครบหรอกค่ะ ทั้งเนย ทั้งผงฟูอะไรฉันก็ไม่มี แป้งอเนกประสงค์นี่ฉันก็ซื้อเอาไว้เป็นปีจนหมดอายุแล้วมั้งเนี่ย นึกครึ้มยังไงถึงอยากทำขนมให้ฉันคะ"
“พี่ก็แค่…” ดามิทรีเอานิ้วถูแป้งที่หกอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวขึ้นมานิ่ง ๆ เลลาเงี่ยหูตั้งใจฟัง ทำให้พลาดไม่ทันระวัง ถูกดามิทรีป้ายแป้งลงมาบนแก้มนวลสามนิ้วทั้งสองข้างสำเร็จ
“นี่ ! เล่นอะไรของคุณเนี่ย !” เลลาโมโหมากที่ถูกแกล้ง จึงเอามือไปกอบเศษแป้งที่หกกองอยู่บนเคาน์เตอร์นั้นมาละเลงใส่หน้าคนตัวสูงกว่าบ้าง การได้เห็นใบหน้าหล่อ ๆ ของแขกไม่ได้รับเชิญเปรอะไปด้วยผงสีขาวจนหมดหล่อนั้น เรียกเสียงหัวเราะได้ทันที “ตลกอะ"
นิ้วเรียวชี้ไปยังดามิทรีซึ่งเลอะแป้งตั้งแต่คอยันหน้า ลามไปจนถึงเส้นผม พร้อมรอยยิ้มชอบใจ
“อย่ามาแกล้งฉันเลย ฉันแรงเยอะกว่าที่คุณคิดค่ะ"
“ในที่สุดก็ยิ้มออกแล้ว" ดามิทรีพูด พร้อมกับไอเอาแป้งที่ลงไปในคอออก
“คะ ?” เลลาขมวดคิ้ว
“พี่เห็นบี๋ขาเครียดกับวิจัยทั้งวันแทบไม่ยิ้มเลย อยากให้บี๋ขาผ่อนคลายไงคะ เป็นไง ได้แกล้งพี่แล้วยิ้มออกเลยนะ แถมยังหัวเราะซะด้วย มีความสุขมากเลยเหรอคะบี๋ขาของพี่" ดามิทรียิ้มยียวน เลลาที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนยิงจุดอ่อนแบบนั้น จึงรีบยืนกอดอกหันหลังทันที
“คุณนี่มันกวนประสาทฉันเป็นบ้าเลย ! แล้วบอกกี่ครั้งว่า…”
“อย่าเรียกฉันว่าบี๋ขา~ จะพูดแบบนี้ใช่ไหมคะ” ดามิทรีพูดอย่างรู้ทัน เลลาจึงรีบหันไปตั้งใจจะเถียงกลับ แต่ต้องตกใจเมื่อหันกลับมาเผชิญหน้ากับดามิทรีซึ่งเข้ามายืนประชิดโดยตรง “ก่อนจะห้ามเรียกบี๋ขา บี๋ขาต้องรับผิดชอบหัวของพี่ก่อนนะคะ พี่จะกลับยังไงถ้ายังเต็มไปด้วยแป้งแบบนี้ หืม”
หญิงสาวหน้าแดง รอยสามนิ้วที่แก้มยิ่งขับให้เธอดูเหมือนลูกแมวแร็กดอลล์ที่กำลังถูกเจ้าไซบีเรียนเจ้าเล่ห์ตัวใหญ่ไล่ต้อนจนหมดหนทางสู้เข้าไปใหญ่
“ก็… ก็ไปอาบน้ำซะสิ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่มีเสื้อผ้าให้คุณเปลี่ยนหรอกนะ ใส่เสื้อผ้าตัวเดิมออกมาเลย ให้ตายสิ มาทำห้องครัวฉันฟุ้งไปด้วยแป้งแล้วยังจะ…”
“เย้ ! ขอบคุณนะคะบี๋ขา พี่ไปอาบน้ำก่อนนะคะ แต่ถ้าจะให้ดีเนี่ย บี๋ขาต้องมาถูหลังให้พี่ด้วยนะ โอ๊ย !”
เลลาฟาดมือลงบนกลางอกของดามิทรีทันที พร้อมกับรีบดันแขนให้เขาเดินไปยังห้องน้ำ
“เลิกเรียกฉันว่าบี๋ขาสักที ! ไปอาบน้ำได้แล้วไป !!”
คนตัวสูงหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีที่ได้ทำให้เลลายิ้มออก แม้ตนเองจะถูกฟาดจนรู้สึกแสบอกไม่น้อยก็ตาม
หญิงสาวเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวสำรองแล้วโยนให้เขาซึ่งยืนรออยู่แล้วในห้องน้ำ โดยที่ชายหนุ่มก็รับเอาไว้ได้อย่างเหมาะเหม็ง
“เพอร์เฟกต์ชู้ตมากค่ะบี๋ขา มาอาบน้ำด้วยกันไหมคะ”
“ฝันไปเถอะ !" เลลาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ พร้อมทั้งเดินไปดึงประตูให้ปิด เธอได้ยินเสียงลงกลอนประตูพร้อมกับผิวปากอย่างอารมณ์ดีดังมาจากข้างใน พลันริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติของเธอคล้ายว่าจะโค้งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
หมอนี่เป็นเหมือนยาวิเศษในวันเหนื่อย ๆ เลยแฮะ… ทำให้ยิ้มออก หัวเราะได้ด้วย
เลลาเผลอชมอยู่ในใจ ก่อนจะรีบเปลี่ยนความคิด
ไม่ ! ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่เป็นยาพิษต่างหาก !
อย่าคิดใจอ่อนไปลิ้มลองเชียวนะยัยเลลา ! โธ่เอ๊ย ทำไมต้องเผลอใจอยู่เรื่อยเลยเนี่ย !