EP 9 แค่เขายิ้ม

1233 Words
กณิการ์ตื่นลืมตามองเพดานห้องแต่เช้าตรู่ด้วยความรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษประหารที่จะถูกทางการจับแขวนตะแลงแกงเช้าวันนี้ เธอกำผ้าห่มบนอกแน่น พยายามลดทอนหัวใจที่เต้นตึกตักให้ช้าลงสักนิดก็ยังดี แม้เมื่อวานแมทเทียจะอธิบายเรื่องชุดของเธอว่าเซฟแค่ไหน และเขาบอกตรงๆ ว่านางแบบสามคนแรกทุกคนพอใจที่จะไม่สวมอะไรข้างใน แต่สำหรับเธอ เขาคิดว่าเธอจำเป็นต้องสวมมัน ก็แหงสิ! เธอมีอาชีพเป็นเชฟทำขนมนะ ไม่ใช่นางแบบจริงๆ เสียหน่อย กณิการ์ครางฮือในคอก่อนขยับนอนตะแคง ถึงจะสวมบอดี้สูทสีเนื้อไว้ในผ้าบางโปร่งพลิ้วนั่นอย่างไร ชุดนั่นก็บางแสนบางและเห็นทะลุไปถึงส่วนเว้าส่วนโค้งของเธออยู่ดี นี่เธอตัดสินใจผิดหรือถูกกันแน่นะที่เออออตามวิญญาณของเวนิตามาจนถึงขั้นนี้ “ถูกสิคะ พี่ตัดสินใจถู้กถูก” ใบหน้าจิ้มลิ้มโปร่งใสห้อยหัวลงมาทักทายเธอในอากาศจนผมเปียสองข้างห้อยตกลงมาทะลุหายลงไปในฟูกนอนขนนกอ่อนนิ่ม “ลุกได้แล้วพี่หลิน นอนถ่วงเวลาไปก็ไม่ได้ทำให้งานวันนี้ถูกแคนเซิลหรอกค่ะ” กณิการ์ค้อนขวับอย่างหมั่นไส้ ก่อนหยิบหมอนอีกใบมาปิดศีรษะ “พี่ไม่สบาย” เธอแกล้งกระแอมไอ “ถ้าพี่ป่วยก็แคนเซิลได้สิ” “ไม่ได้ค่ะ” พร้อมคำตอบ หมอนใบนั้นก็ราวกับถูกดึงออกจากมือบางด้วยอำนาจของอะไรบางอย่างที่ไม่มีตัวตน พร้อมๆ กับที่ผ้าห่มเลื่อนหล่นลงปลายเตียงไป “อย่าหาข้ออ้างเหมือนเด็กอนุบาลที่ไม่อยากไปเรียนสิคะ ลุกได้แล้ว...” เวนิตาลากเสียงยาวเหยียด แต่เมื่อผู้ใหญ่ดื้อยังใช้หมอนที่ตนหนุนมาปิดหน้าไม่ยอมอีก เธอก็อมลมป่องแก้ม กอดอกอยู่ครู่หนึ่งจึงยิ้มแฉ่ง “คุณย่าของพี่บอกว่า ถ้าวันนี้เป็นเด็กดี คุณย่าจะให้รางวัลค่ะ” คำบอกนั้นทำให้กณิการ์ผุดลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าเหลอหลา เรือนผมอ่อนนุ่มสยายยุ่งเหยิง แต่กลับไม่อาจบั่นทอนความงดงามอรชรไปทั้งตัวจนแม้แต่เวนิตาเองที่เป็นวิญญาณเด็กผู้หญิงยังต้องยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอสวยหมดจด และดึงดูดสายตาจนน่าอิจฉา และเพราะกณิการ์มีรูปลักษณ์ที่สวยสะคราญตาแบบนี้ไง เวนิตาจึงใช้ความงามของหญิงสาวคนนี้ดึงดูดใจแมทเทียได้ในความฝันหลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้พ่อจะทำให้ความฝันแสนงามที่เวนิตาบันดาลขึ้นกลายเป็นความฝันวาบหวิวเสียหลายหนก็เถอะ เฮ้อ! คิดแล้วเพลียกับความหื่นของพ่อตัวเอง “คุณย่าอยู่เหรอ” เวนิตาถอนหายใจเฮือก รู้สึกสลับบทเด็กกับผู้ใหญ่กับกณิการ์กันอย่างไรชอบกลเช้าวันนี้ “อยู่ตลอดแหละค่ะ ท่านดูแลพี่อยู่นะคะ” “ก็ได้ ฝากบอกคุณย่าด้วยว่าอย่าลืมรางวัลของพี่นะ” “ค่า” เวนิตาตะโกนตามแผ่นหลังบอบบางที่วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำครู่หนึ่ง จึงหันไปมองวิญญาณสาวสูงวัยที่นั่งตัวตรงอยู่ขอบหน้าต่างอย่างมีมารยาทงดงาม แล้วยกมือประนมเก้กังตามแบบที่เห็นคนไทยทำกันเวลาขอโทษ ก่อนกระซิบกระซาบไม่ให้หญิงสาวในห้องน้ำได้ยิน “ขอโทษที่อ้างชื่อนะคะคุณย่า” วิญญาณคุณย่ามัทนายิ้มละไม แม้ไม่ตอบ แต่อากัปกิริยานุ่มนวลอ่อนหวานของท่านก็ทำให้เวนิตารู้สึกเกรงใจเสียทุกที วิญญาณเด็กหญิงหันมองประตูห้องน้ำ ยกมือกอดอกอีกครั้ง ก่อนเอียงคอสงสัยว่าทำไมย่ากับหลานถึงต่างกันขนาดนี้ ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้น กณิการ์ก็อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนพอดีตัวสบายๆ เธอใช้เตาอบทำไข่อบขนมปังสำหรับหนึ่งที่ง่ายๆ กินแกล้มกาแฟหอมกรุ่น แดดอ่อนๆ ส่องมาจากหน้าต่างเคล้าเสียงคลื่นทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวจิบกาแฟไป ฮัมเพลงไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังเธอสักพักหนึ่งแล้ว ริมฝีปากหนาได้รูปขยับเป็นรอยยิ้ม เฝ้ามองร่างเล็กบอบบางในชุดธรรมดาๆ แต่ดึงดูดสายตาอย่างร้ายกาจ เส้นผมอ่อนนุ่มทิ้งตัวลงถึงบั้นเอวบอบบางที่แมทเทียสาบานได้ว่าเขาสามารถใช้สองมือของตนกำรอบเอวเล็กๆ น่าทะนุถนอมนั่นได้เลย เหมือนในความฝันของเขาไง เล็กคอด นุ่มนวล หอมหวาน ชายหนุ่มนึกสนุก ขยับไปใกล้หมายจะแกล้ง ก่อนโน้มลงไปกระซิบข้างศีรษะเธอจากทางด้านหลัง “ขนมนั่นน่ากินจัง ขอผมสักที่สิ” กณิการ์สำลักกาแฟพรืด ก่อนสูดปากด้วยความเจ็บเพราะกาแฟอุ่นๆ ลามเลียริมฝีปากเธอตรงแผลที่กัดลงเมื่อคืนนี้พอดี หญิงสาวแทบไม่รู้เลยว่าอะไรเกิดขึ้นก่อนหลัง ระหว่างที่เธอร้องโอ๊ยและยกมือขึ้นแตะปาก กับที่แมทเทียดึงทิชชูออกมาจากกล่องบนโต๊ะแล้วจับคางเธอหันไปหาด้วยความไวทายาด เขาซับทิชชูลงบนรอยเปื้อน พยายามเบามือตรงแผลเธออย่างที่สุด และค่อยๆ ซับลงไปจนถึงลำคอ และแอ่งชีพจรที่เต้นระรัว... มือบางคว้ามือเขาไว้ตรงแอ่งชีพจรของตน แม้ว่าแมทเทียจะไม่ซับลงไปถึงอกเสื้อที่ปรากฏหยดกาแฟเป็นวง แต่การที่มือเขาเลื่อนต่ำลงไปหยุดที่คอ ก็ทำให้เธอรู้สึกใจหายใจคว่ำอยู่ดี “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวดึงทิชชูมาซับเสื้อเอง ขณะหมุนตัวหันหลังให้เขาแล้วแอบกรี๊ดในคอเบาๆ ทำไมเธอถึงเจ็บตัวเสมอเมื่อมีผู้ชายคนนี้อยู่ใกล้ๆ ด้วยเนี่ย เจ็บตัวไม่เท่าไร...แต่ที่หัวใจเต้นถี่ระรัวขนาดนี้ เธอไม่เคยเป็นกับใครเลย แล้วเขาน่ะ คือบิดาของเวนิตานะ ถึงจะเป็นบิดาในอนาคต ถึงตอนนี้เขาอาจจะยังตามหาแม่ของเวนิตาไม่เจอ แต่กณิการ์ก็มั่นใจว่าไม่ใช่เธอแน่ ไม่อย่างนั้นเวนิตาคงเรียกเธอว่าแม่ เหมือนที่เรียกแมทเทียว่าพ่อแล้ว ไม่เรียกพี่หลินๆ อยู่แบบนี้หรอก... หวั่นไหวกับเขาไม่ได้เด็ดขาด กณิการ์สั่งตัวเองอยู่ในใจ “โกรธเหรอคุณ” แมทเทียเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ เขาชะโงกมองมา แต่กณิการ์ลุกจากเก้าอี้ของตัวเอง ทำใจอยู่ชั่วครู่ก็หันไปยิ้มเจื่อนๆ ให้เขา “เดี๋ยวจะทำอาหารเช้าให้นะคะ ส่วนกาแฟคุณชอบแบบไหนคะ” “ครีมสองน้ำตาลหนึ่งครับ” “โอเคค่ะ” หญิงสาวใช้เวลาเพียงไม่นานในการเตรียมอาหารเช้าอีกชุด และชงกาแฟถ้วยใหม่ให้ตัวเอง เมื่อกลับมาที่โต๊ะรับประทานอาหารจึงเห็นว่าเจ้าของบ้านทำความสะอาดหยดกาแฟที่โต๊ะและที่พื้นจนหมดจดแล้ว เธอได้ยินเสียงน้ำไหลซู่มาจากทางห้องน้ำ ครู่หนึ่งเจ้าของบ้านจึงเดินออกมา เขายิ้มเมื่อเห็นเธอมองไป แต่กณิการ์สะบัดหน้าหนีโดยอัตโนมัติ ก็ใครใช้ให้หัวใจมันเต้นแรงขนาดนี้เล่า...แค่เขายิ้มเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD