แต่แค่คิดถึงงานที่ต้องทำพรุ่งนี้ เธอก็กระอักกระอ่วนใจและสงสัยอะไรมากมายที่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้จะเริ่มถามเขายังไงดี
“อิ่มแล้วเหรอครับ”
หญิงสาวกลืนน้ำลาย ก่อนพยักหน้า
“ค่ะ” เธอบีบมือที่วางบนตักอย่างครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจถาม “คุณจ้างนางแบบมาวาดรูปที่บ้านพักตากอากาศสองต่อสองแบบนี้ แถมยังเป็นการวาด เอ่อ...แบบ...”
“เปลือย” เขาต่อให้
“ใช่ค่ะ” กณิการ์รู้สึกแก้มร้อนเหมือนถูกไฟจี้ เธอยังไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าจะทำตามสัญญาว่าจ้างที่เพิ่งจรดปากกาเซ็นชื่อกำกับลงไปได้ “คือ...ภรรยาคุณไม่ว่าเหรอคะ”
คราวนี้อีกฝ่ายเกือบสำลักน้ำ เขาวางแก้วลง มองเธออย่างขำๆ
“ผมยังไม่มีภรรยา”
“อ้าว” กณิการ์อ้าปากเหวอ “ก็นะ...”
เธอรีบกัดริมฝีปากเมื่อเกือบพูดชื่อวิญญาณตัวน้อยออกไป แต่อาจจะกัดแรงไปหน่อย เพราะเกิดความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่มุมปากซ้ายขึ้นมากะทันหันจนต้องยกมือขึ้นแตะ แล้วหยดน้ำสีแดงที่ติดนิ้วมือมาก็ทำให้หญิงสาวอยากตีตัวเองนักที่ซุ่มซ่ามจนได้เลือด
“เจ็บไหมคุณ” แมทเทียส่งทิชชูให้
กณิการ์ขอบคุณเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนกดทิชชูลงกับแผลเล็กๆ ที่ริมฝีปาก เธอนั่งเงียบอยู่แค่ไม่กี่นาที แมทเทียก็รวบช้อน นัยน์ตาสีอำพันจับจ้องมองเธออย่างพินิจพิจารณาจนกณิการ์อึดอัด
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมมีภรรยาแล้วล่ะ”
นั่นไง! ทำไมทีเวลาเดาว่าลอตเตอรี่จะออกเลขอะไรเธอไม่เคยเดาถูกนะ
“ก็...” กณิการ์ครุ่นคิดสะระตะในใจ ขณะเบนสายตามองออกไปนอกร้านอาหารที่วิญญาณหนูน้อยยังเล่นน้ำทะเลอยู่อย่างสนุกสนาน แทนที่จะมาช่วยกันตรงนี้บ้าง โธ่เอ๊ย! “ก็ฉันเห็นว่าคุณอายุถึงเกณฑ์มีครอบครัวแล้วน่ะค่ะ ทั้งฐานะหน้าตาคุณก็ไม่เป็นรองใคร ฉันเลยคิดว่า...”
“คุณอายุเท่าไร” เขาถามกลับ พลางยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้า ดวงตาคมที่มองมานั้นมีรอยขบขัน จนกณิการ์รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกหน โดยไม่ต้องรอให้เขาถามซักประวัติเธอ หญิงสาวก็เดาออกว่าเขาตั้งใจจะย้อนถามเหมือนที่เธอถามเขาเหมือนกัน จึงตอบคำถามอย่างครบถ้วนเสร็จสรรพ ด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกนิดๆ อย่างขุ่นใจ
“ยี่สิบเจ็ด ยังไม่มีแฟนค่ะ ทั้งที่อายุถึงเกณฑ์แล้วสำหรับผู้หญิง อ้อ ทั้งที่ฉันเองก็สวยมากด้วยค่ะ”
แมทเทียหัวเราะ ในขณะที่อีกฝ่ายนิ่งไปได้ครู่หนึ่งก็หัวเราะตาม กณิการ์ไม่คิดว่าเธอจะหายเกร็งกับผู้ชายตรงหน้าได้แค่เพราะจู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมา ให้ตายเถอะ เธอไม่คิดเลยว่าคนที่ทำหน้าทำตาเหมือนแบกโลกทั้งใบไว้ด้วยไหล่ข้างเดียวมาตลอดหลายชั่วโมง แค่ยิ้ม แค่หัวเราะ จะสร้างความปลอดโปร่งสดใสให้บรรยากาศโดยรอบได้มากขนาดนี้
“แล้วทำไมคุณถึงวาดรูปล่ะคะ เห็นนะ เอ่อ คุณรพี...” กณิการ์บอกตัวเองว่าต่อจากนี้สิ่งที่รู้มาจากเวนิตา อ้างว่ารพีบอกคงดีที่สุด “บอกว่าคุณเป็นลูกชายคนโตของ ลันโซ มาการ์ริโน มหาเศรษฐีเจ้าของแบรนด์ ‘ไดโอไนซัส’[1] ที่ผลิตเครื่องดื่มจำพวกไวน์ แชมเปญ เหล้ากลั่น แล้วยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกเยอะแยะในมือ ไหนจะไร่องุ่นเอย โรงบ่มไวน์เอย ดูคุณน่าจะงานยุ่ง แต่คุณก็ไม่ได้เป็นจิตรกรไม่ใช่เหรอคะ”
“ผมชอบวาดรูป” เขาหยิบคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตกับปากกาสไตลัสขึ้นมาขีดเขียนหน้าจอ “ผมกับน้องชายคนกลางชอบงานศิลปะกันตั้งแต่เด็ก แม่ของพวกเราสอนน่ะครับ แต่ท่านเสียไปตั้งแต่น้องสาวคนเล็กของผมเพิ่งเจ็ดขวบ ผมเองเป็นลูกชายคนโต รู้มาตลอดว่าต้องช่วยแบ่งเบาภาระงานของพ่อ เลยทิ้งงานอดิเรกนี่ไปตั้งแต่แม่เสียแล้วตั้งใจเรียนมาช่วยงานพ่อครับ”
เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงปาดปลายปากกาลงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์พกพา
“ก็อย่างที่คุณรู้ พ่อของผมมีธุรกิจเยอะมาก แต่น้องชายผมปฏิเสธจะสานต่อกิจการของพ่อ...”
แมทเทียเว้นไว้ไม่เล่าต่อว่ามาร์ติโนนั้นหัวแข็ง ดื้อเงียบ และน่าหงุดหงิดที่หมอนั่นตัดช่องน้อยแต่พอตัว หนีไปทำบริษัทผลิตปืนและอาวุธด้วยเงินเก็บของตัวเองเพราะหลงใหลในความงามของปืน ไม่กลับมาช่วยงานเขาและบิดาเลย ส่วนดอนญา น้องสาวคนสุดท้องของครอบครัว อายุพอๆ กับกณิการ์ แม้เรียนจบมานานแล้วแต่ก็เก่งแค่เรื่องผลาญเงินทิ้งไปวันๆ และเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกตามแต่ใจอยาก ความที่เป็นลูกสาวคนเล็ก อีกทั้งยังขาดแม่แต่เด็กจึงถูกโอ๋เอาใจมาตลอด ทำให้เธอเสียนิสัยไปแบบที่แก้ไขกันได้ยาก แม้แมทเทียพยายามอบรมสั่งสอน แต่บิดาของเขากลับเข้าข้างให้ท้ายทุกครั้งที่ดอนญาออดอ้อน จนชายหนุ่มเพลียใจเกินจะจัดการอะไรได้อีก
แต่ดอนญาก็ยังมีข้อดีคือรักครอบครัวมาก แม้ว่าจะไม่ค่อยลงรอยกับมาร์ติโนเท่าใดนัก ความที่สูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเล็กทำให้ดอนญาติดมาร์ติโนแจเพราะหมอนั่นรักและดูแลน้องสาวดียิ่งกว่าอะไร แต่นับจากมาร์ติโนออกจากบ้านไปเริ่มต้นใหม่ ความยุ่งวุ่นวายของการก่อร่างสร้างตัวก็ทำให้คนเก็บตัวแบบมาร์ติโนยิ่งราวกับตายจากบ้านนี้ไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ ดอนญาโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่หลายครั้งที่ติดต่อพี่ชายคนกลางยากเย็นแสนเข็ญ เธอบ่นว่ารู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง แล้วสุดท้ายก็พานโกรธจนไม่ยอมพูดดีๆ กับมาร์ติโนอีกเลย
ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ก่อนเล่าต่อ
“มาร์ติน น้องชายผมทำธุรกิจของตัวเองน่ะครับ ออกจากบ้านไปแล้ว ส่วนดอนญาน้องสาวไม่ค่อยถนัดงานทางนี้” แม้จะเหนื่อยใจอย่างไร แมทเทียก็ไม่คิดพูดให้น้องสาวเสียหายหรือเสียชื่อ “ผมกับพ่อไม่คาดหวังอะไรกับดอนญาอยู่แล้ว ผมเลยช่วยงานพ่ออยู่คนเดียวมาตั้งแต่เรียนจบ นี่ก็สิบกว่าปีแล้ว”
ชายหนุ่มเหลือบมองเธออีกครั้ง จนกณิการ์แม้กำลังฟังเพลินก็เกิดสงสัยขึ้นมาเหมือนกันว่าเขากำลังทำอะไรกับเจ้าคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตนั่น
“สองปีแรกผมเครียดมาก พองานซาๆ ผมเลยหนีมานอนเล่นอยู่ที่นี่ แม่ของผมเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี ท่านได้รับมรดกจากบรรพบุรุษเป็นบ้านพักหลังนั้นที่คุณไปหาผม ตอนที่ผมเหนื่อยมากๆ เครียดมากๆ ผมก็หนีอากาศหนาว หนีภูเขาของทัสคานี มานอนเล่นที่นี่ ฟังเสียงคลื่นทะเล ได้เจออากาศร้อนๆ บ้างก็สบายใจดี”
[1] ไดโอไนซัส (Dionysus) ชื่อของเทพในตำนานกรีก เป็นเทพแห่งไวน์ การทำไวน์ และการเก็บเกี่ยวผลไม้