บทที่ 4 เจ้าช่อมาลี - 35%

1800 Words
ช่อมาลีจัดเตรียมเอกสารสำหรับเข้าประชุมในช่วงบ่ายโดยเตรียมไว้ให้ครบตามจำนวนของผู้ที่จะเข้าร่วมประชุมด้วย เธอถือโอกาสศึกษาระบบงานของบริษัทไม่ว่าจะเป็นรุ่น และแบบของรถอย่างละเอียดถี่ถ้วนจากข้อมูลที่เขาวางกองไว้ให้เมื่อวานระหว่างที่เขาไม่อยู่ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากสำหรับการเริ่มต้นทำงานวันแรก ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกมาอย่างเร็วพร้อมกับเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ที่กำลังย่ำมาทางที่หญิงสาวกำลังยืนเรียงเอกสารอยู่ ช่อมาลีหันหน้าไปมองผู้เข้ามาใหม่แล้วยกมือไหว้ ส่งยิ้มทักทายเจ้านายคนใหม่ของตนเองทันที “สวัสดีค่ะท่านประธาน ดิฉันเตรียมเอกสารสำหรับเข้าประชุมตอนบ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ท่านประธานมีอะไรจะใช้ให้ดิฉันไปทำอีกรึเปล่าคะ” ช่อมาลียืนตัวตรงประสานมือกันไว้ที่ด้านหน้า แล้วยิ้มนิด ๆ ขณะมองไปยังคนที่กำลังเดินมาที่โต๊ะสำหรับวางแฟ้มและเอกสารไว้บนนั้น “ขอกาแฟให้ผมแก้วหนึ่งแล้วกันครับคุณช่อ” พชรตอบพลางหยิบเอกสารชุดหนึ่งขึ้นมาเปิดดูคร่าว ๆ “ช่อมาลีค่ะ ท่านประธานจะเรียกดิฉันว่ามาลีเฉย ๆ ก็ได้นะคะ” เธอแก้ไขชื่อเล่นของตนเองให้ถูกต้องเพื่อให้คนตรงหน้าเรียกได้ถูก เขาจะเรียกเธอว่าช่อเฉย ๆ ได้อย่างไร ก็ในเมื่อชื่อนั้นเป็นชื่อมารดาของเธอ! “ไม่ล่ะ ผมจะเรียกคุณว่าช่อเฉย ๆ นี่แหละ มาลีมันหลายพยางค์เกินไปผมขี้เกียจเรียก อีกอย่างนะ ผมไม่ชอบเรียกเหมือนใคร” พชรหันมายักคิ้วให้หญิงสาวที่ยืนอ้าปากค้างอยู่ ก่อนจะถือเอกสารชุดนั้นเดินไปนั่งที่โต๊ะของตนเอง พอเห็นเลขาฯ คนใหม่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเขาจึงเอ่ยทวนความจำเธออีกครั้ง “กาแฟของผมคือเอสเปรสโซสองแคปซูลนะคุณช่อ คุณคงใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลเป็นนะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นถาม แต่เห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของเธอ เขาก็รู้แล้วว่าคงไม่ต้องเทรนด์อะไรแล้ว “อ้อ...ของผมนมสดอย่างเดียวเท่านั้นนะ น้ำตาลไม่ต้อง” เขาสั่งเสร็จก็ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือ ครั้นพอลับร่างเลขาฯ คนใหม่แล้ว พชรก็ลอบยิ้มที่มุมปาก ตวัดสายตาขึ้นมองประตูที่เพิ่งปิดลงไป “ทำงานเรียบร้อยใช้ได้ วันเดียวทำได้ขนาดนี้นับว่าไม่เลว” เขาพลิกเปิดดูหน้าต่อไปด้วยความพอใจ ช่อมาลีทำงานได้ละเอียดยิบ ตรงตามที่เขาต้องการทุกอย่าง นี่ขนาดเธอยังไม่ได้เรียนรู้งานในบริษัทเลยสักครั้ง แค่ศึกษาเอาจากกองเอกสารที่เขาทิ้งไว้ให้เมื่อวานก็สามารถทำได้ขนาดนี้แล้ว คิดแล้วก็รู้สึกว่าตนตัดสินใจไม่ผิดที่รับเธอเข้าทำงาน ไม่นานนัก ช่อมาลีก็ถือถาดใส่กาแฟเข้ามาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ชายหนุ่มยกกาแฟขึ้นดื่มไปอึกแรกแล้วเหลือบตาขึ้นมองหน้าเลขาฯ ใหม่ที่ยืนทำหน้าลุ้นอยู่ “อะแฮ่ม! คุณช่อ มานี่มา ผมจะบอกอะไรให้นะ กาแฟของผมใส่นมแค่หนึ่งส่วนสี่ของแก้วก็พอ ที่เหลือกาแฟล้วน ๆ เข้าใจนะ คราวหน้าจะได้ชงให้ผมถูก ครั้งนี้ไม่เป็นไร ผมผิดเองแหละที่ไม่บอกคุณให้ละเอียดกว่านี้...เอาละ เดี๋ยวเรามาคุยเรื่องที่จะเข้าประชุมกันบ่ายนี้ดีกว่า” พชรนั่งเท้าแขนมาข้างหน้า ในขณะที่ช่อมาลีเดินไปหยิบเอกสารอีกชุดที่อยู่บนโต๊ะตัวยาว ก่อนจะมาหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มเผลอตัวมองจ้องใบหน้าเนียนใสไร้สิ่งแปลกปลอมนั้นอย่างเพลินตา ในหัวจินตนาการไปว่าหากผู้หญิงตรงหน้าไม่มีแว่นสายตาอันใหญ่บดบังความสวยงามก็คงจะดีไม่น้อย ผมสีดำสนิทของเธอ ถ้าหากปล่อยให้สยายลงมาคลอเคลียแผ่นหลังเปลือยเปล่ามันจะเป็นอย่างไรนะ ผิวของเธอก็ช่างเนียนละเอียดจนน่าลองเอาหลังนิ้วลูบไล้ที่แก้มนวลนั้นไปมาแล้วแทนที่ด้วยปาก และจมูกของเขา เฮ้ย! บ้าแล้ว...ไก่วัดเว้ยไก่วัด ท่องไว้ไอ้โอม... เมื่อเห็นพชรจ้องไม่วางตา ช่อมาลีก็เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะกลัวจะถูกชายหนุ่มจับได้ว่าเธอเป็นคนคนเดียวกันกับม็อท นักร้องสาวของวงบัตเตอร์ฟลาย ช่อมาลีไม่ต้องการให้พชรรู้ว่าตนหาลำไพ่พิเศษด้วยการเป็นนักร้องอยู่ในคลับของเขา เพราะกลัวปัญหาที่จะตามมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน เขาคงคิดแน่ว่าเธอทำงานควบทั้งกลางวันและกลางคืน อาจจะทำงานให้เขาได้ไม่เต็มที่ และที่สำคัญคือเธอกลัวจะเหมือนกับที่ทำงานเก่า ซึ่งเธอไม่ได้ปิดบังอาชีพเสริมของตนเอง ผลปรากฏว่าเจ้านายกลับยื่นข้อเสนอให้เป็นเมียเก็บของเขา ซ้ำยังหาเรื่องลวนลามไม่เว้นแต่ละวันเพราะคิดว่าทำงานกลางคืนคงจะดูเป็นผู้หญิงง่าย ๆ เพียงแค่เอาเงินเข้าล่อ พอเธอไม่รับข้อเสนอ เขาก็ไประรานถึงผับที่เธอร้องเพลงอยู่ สุดท้ายแล้ว คริส ในฐานะหัวหน้าวงจึงตัดสินใจลาออกจากที่เดิมแล้วมาสมัครที่ใหม่ ซึ่งก็คือที่นี่...คลับซุส นัยน์ตาคู่สวยเริ่มมองหาตัวช่วยบนโต๊ะที่จะพอหยุดยั้งสายตาช่างสำรวจนั้นได้ และเธอก็เจอมันอยู่ตรงหน้า แคร้ง! หญิงสาวแกล้งเอามือปัดไปโดนแก้วกาแฟของเขาที่เหลืออยู่ประมาณครึ่งแก้ว ตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้มันแค่กระฉอกออกมานอกแก้วเท่านั้น ทว่ามันกลับเอียงล้มจนกาแฟที่อยู่ในแก้วหกราดรดเสื้อผ้าของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายของเธอเอง “เฮ้ย!” พชรตกใจลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที ส่วนช่อมาลีก็ตกใจไม่แพ้กัน หญิงสาวลุกพรวดพราดเข้าไปถึงตัวเขาที่อยู่อีกฝั่งโต๊ะพร้อมกับดึงกระดาษทิชชูไปซับตามชายเสื้อ และกางเกงให้ทั้งที่มันคงไม่ช่วยอะไร เธอนั่งคุกเข่าลงตรงหน้า มือก็ถือกระดาษทิชชูเช็ดถูขึ้นลงไปมาโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าบริเวณที่เธอกำลังยุ่มย่ามอยู่นั้นมันคือเป้ากางเกงของเขา! พชรยืนมองการกระทำของหญิงสาวด้วยความตื่นตะลึง เขารู้ว่าเธอคงไม่ทันสังเกตว่ากำลังเช็ดถูอยู่ที่ส่วนไหนของร่างกายเขา แต่เขานั้นรู้ดี! นั่นก็เพราะใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าห่างจากไอ้ตัวดีของเขาไม่ถึงฟุตนั้นกำลังเผยอปากจนเห็นฟันซี่หน้าที่เรียงตัวสวยจนเขานึกอยากจะตวัดลิ้นไปไล้เล็มมันเล่น สายตาของเธอก็จับจ้องอยู่ที่ตรงนั้นไม่วางตา ทั้งยังดูตั้งอกตั้งใจกับการเช็ดถูคราบกาแฟให้เขาเสียเหลือเกิน ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ และดูเหมือนไอ้ตัวดีของเขาจะความรู้สึกไปไวกว่าสมอง เมื่อมันพองตัวตอบรับสัมผัสจากเจ้าหล่อนอย่างเต็มที่จนเจ้าของอย่างเขาจนปัญญาจะห้ามปราม ช่อมาลีมัวแต่ตกใจจนมือไม้สั่นที่คิดแกล้งเจ้านายแต่กลับพลาดเป้าจนได้ เธอรู้สึกว่าบริเวณที่กำลังเช็ดอยู่นั้นเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาทีละนิดจนน่าสงสัย ครั้นเมื่อมือหยุดทำงานแล้วเพ่งมองชัด ๆ ถึงได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร คราวนี้ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง ร่างผงะถอยหลังจนล้มก้นจ้ำเบ้า พอดีกับที่พชรโพล่งขึ้นมาเสียงดัง “คุณจัดการเช็ดโต๊ะให้ผมด้วยแล้วกันคุณช่อ ผมจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องข้างใน” พูดจบเขาก็ก้าวฉับ ๆ เข้าไปยังห้องที่อยู่หลังฉากทันที พอหายตกตะลึงช่อมาลีก็รีบลุกขึ้นยืน ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดูพร้อมกับทำหน้าสยดสยองราวกับเมื่อครู่เผลอไปจับสิ่งแปลกปลอมเข้า “เจ้าช่อมาลีเอ๊ย...มาวันแรกก็ได้เรื่องเลย” ทางด้านพชรที่ยืนเปลือยเปล่าอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าตอนนี้กำลังก้มลงมองเจ้าตัวดีของตนที่ยังคงพร้อมรบไม่เลิกราแล้วก็ได้แต่บ่นพึมพำอยู่คนเดียว “ไอ้บ้าเอ๊ย...ตื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยนะ ทำเอาฉันขายหน้าหมด” พชรหยิบกางเกง เสื้อเชิ้ตและเสื้อสูทออกมาจากตู้ ในห้องนี้จะมีเสื้อผ้าของเขาเตรียมเอาไว้หลายชุด เผื่อว่าบางครั้งต้องเปลี่ยนใส่ไปงานเลี้ยงต่าง ๆ นอกจากนั้นยังเป็นห้องนอน หรือห้องพักผ่อนของเขาด้วย เพราะมีหลายครั้งที่เขาต้องอาศัยที่นี่เป็นที่หลับนอนถ้าหากมีงานเร่งด่วนเข้ามา หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ก้าวออกมาจากห้อง ตาคมตวัดมองไปยังเลขาฯ ของตนเองที่นั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่บนโซฟา และราวกับรู้ว่ากำลังถูกมอง ช่อมาลีก็ยิ่งก้มหน้าลงต่ำ นิ้วชี้ดันกรอบแว่นขึ้นไปอยู่บนดั้งจมูกเหมือนเดิมทำทีเป็นจดจ่อกับเอกสารตรงหน้า อดตำหนิตนเองไม่ได้ที่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ แต่อีกใจก็แอบบ่นผู้เป็นนาย...มีอย่างที่ไหน แตะนิดแตะหน่อยทำเป็นสู้ อะไรมันจะตื่นตัวง่ายดายขนาดนั้น พชรเดินเข้ามาที่โต๊ะด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ เขาแกล้งทำปากกาหลุดมือเพื่อให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา และก็ได้ผลเมื่อเธอเงยหน้าพรวด แต่สายตาเจ้ากรรมของหญิงสาวกลับไปโฟกัสอยู่ที่เป้ากางเกงเขาเสียได้ ช่อมาลีหน้าร้อนฉ่าเมื่อสายตาไม่รักดีกลับไปมองตรงนั้นของเขาอย่างควบคุมไม่อยู่ หญิงสาวยกมือขึ้นจับกรอบแว่นแล้วเดินเข้ามาใกล้โต๊ะตัวยาว จากนั้นก็เริ่มชวนเขาคุยก่อนเพื่อลดบรรยากาศน่าอับอายนี่เสีย “เอ่อ...ท่านประธานจะรับกาแฟอีกไหมคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปชงให้ใหม่ ดิฉันต้องขอโทษด้วยค่ะที่ซุ่มซ่ามไปหน่อย” หญิงสาวพนมมือขึ้นไหว้ขอโทษขอโพย พยายามจำกัดสายตาของตนเองให้มองแค่ปกเสื้อของเขาเท่านั้น “ก็ดี ชงตามที่ผมบอกด้วยนะ จำได้ใช่ไหม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD