ตำหนักชินอ๋องแห่งแคว้นเหลียว
''พระชายา ตื่นแล้วหรือเพคะ''
หญิงสาวได้นอนฝันถึงสตรีที่มีใบหน้าคล้ายกับนางและหลังจากนั้นเรื่องราวของสตรีที่มีชื่อว่า 'หลี่ซู' ก็แสดงขึ้นมาภายในฝันของนาง สรุปแล้วนางย้อนยุคมาเป็นสตรีที่มีชื่อว่าหลี่ซู พระชายาของชินอ๋องเสี่ยวเฟิง
นางกับเขาอภิเษกสมรสกันมาปีกว่าแล้ว แต่เขากลับไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวนางเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นางอยู่ตัวคนเดียวในแถบชนบทในวันนั้นเองชินอ๋องเสี่ยวเฟิงเขามาล่าสัตว์ภายในป่าแล้วเกิดบาดเจ็บสาหัสเข้า หลี่ซูนางไปพบเขาโดยบังเอิญและได้พาเขามารักษาที่บ้านของนางเกือบหนึ่งเดือนได้
ฮ่องเต้เห็นว่านางได้ช่วยชีวิตแถมยังรักษาน้องชายเพียงคนเดียวของเขาเอาไว้เลยอยากจะตอบแทน แต่คาดไม่ถึงว่านางอยากจะขอแต่งงานกับน้องชายของเขา เป็นเช่นนั้นก็คงต้องทำตาม เป็นถึงฮ่องเต้พูดคำไหนคำนั้น
ชินอ๋องเสี่ยวเฟิงเขามิพอใจอย่างมากแต่ก็คงจะขัดคำสั่งของฮ่องเต้ได้อย่างไร เขามีคนที่ชื่นชอบอยู่แล้วแต่ต้องฝืนใจมาแต่งงานกับสตรีที่มิได้ชื่นชอบ
- กฎหมายบ้านเมืองต้องมีภรรยาเพียงคนเดียวแต่ถ้าหากทั้งสองคนหย่าขาดกันสามารถแต่งงานใหม่ได้ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง
ด้วยเหตุนี้ชินอ๋องเสี่ยวเฟิงเลยมิได้พาพระชายาของเขาออกงานแม้แต่น้อย และพยายามทำทุกวิถีทางให้นางนั้นเขียนใบหย่าให้กับเขาเสียที โดยการเมินไม่สนใจนาง แถมยังปากร้ายด่าต่อว่านางจนทำให้นางทนมิไหวแล้วรีบเขียนใบหย่าเสียที
แต่ทำอย่างไรนางก็มิยอมเขียน แต่จะคอยตามตื๊อเขาทุกวี่ทุกวันถึงแม้ว่าเขาจะด่าว่านางอย่างไรนางก็มิยอมไป
เป็นเช่นนี้นางคงจะต้องสวมบทบาทเป็นสตรีที่มีชื่อว่าหลี่ซูไปก่อนสินะแล้วก็ค่อยหาทางกลับไปในยุคของนาง แม้ว่าสตรีที่มีชื่อว่าหลี่ซูนางจะบอกให้ฝากดูแลใครสักนี่แหละแต่ยังไม่ได้ยินชื่อ หลี่ซูนางก็หายไปแล้วเป็นเช่นนี้นางคงจะต้องจัดการอีตาท่านชินอ๋องเสียหน่อย ฝันถึงวีรกรรมเขาเยอะเหลือเกิน
''พระชายาถึงเวลารับประทานอาหารแล้วเพคะ''
หญิงสาวแต่งตัวเสร็จแล้วเดินตรงไปที่ห้องโถงใหญ่ข้างในตกแต่งไปด้วยเครื่องประดับประดาราคาแพงสมกับตำแหน่งชินอ๋องซะจริง หญิงสาวพลางคิดในใจแล้วก็เดินลงมานั่งที่โต๊ะก่อนที่นางจะมองตรงไปที่อาหารมากมายอยู่ตรงหน้า
สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนเดินตรงมาที่นางทำให้หญิงสาวได้มองขึ้นไปก็พบเข้ากับบุรุษรูปงามผู้หนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นท่านชินอ๋องเสี่ยวเฟิงเป็นแน่
ในใจของนางในวันนี้นางตั้งใจว่าจะมาเซ็นใบหย่าแล้วจะเรียกเอาเงินเยอะๆเสียหน่อย ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วนางเปลี่ยนใจดีกว่า ดูจากภายนอกนั้นกล้ามเนื้อต้องเป็นมัดๆซิกแพคอีก...!
อยากได้! จะเอา จะเอา!!
แค่คิดก็ไม่ไหวน้ำลายจะไหล จะทำอย่างไรข้าถึงจะได้กินท่านกันนะ...
''น้ำลายของเจ้าหกใส่อาหารหมดแล้วกระมัง ช่างเป็นสตรีไม่มีมารยาทเสียจริง!'' ชินอ๋องเสี่ยวเฟิงพลางมองไปที่สตรีน่ารำคาญ
หลี่ซูเห็นเช่นนี้ก็ได้รีบหาผ้าเช็ดหน้ามายกเช็ดที่ริมฝีปากบางทันที ปากร้ายใช่ย่อยอีตาท่านชินอ๋องผู้นี้! สักวันข้าจะทำให้ท่านกลายเป็นไอโบ้เลยคอยดู
ชินอ๋องเสี่ยวเฟิงลอบมองสตรีตรงหน้าที่มีใบหน้าแปลกๆเลยเลือกที่จะไม่ใส่ใจแล้วได้ลงมือทานอาหารต่อไป
บรรยากาศภายในห้องนั้นเงียบมากไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อยแถมในห้องนั้นยังเหลือกันเพียงแค่สองคน
''แล้วเหตุใดผมของเจ้าจึงเป็นสีน้ำตาล?'' หญิงสาวได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจนี่นางสีผมไม่เหมือนหลี่ซูคนเก่าหรือยังไง
''อ่า..สงสัยโดนแดดเยอะมั้งเพคะแฮะๆ''
''....''
''เมื่อไหร่เจ้าจะเขียนใบหย่าให้กับข้าเสียที!'' ชินอ๋องเสี่ยวเฟิงเริ่มเอ่ยแบบนี้ทุกครั้งที่เขาเจอหน้าของนาง แต่ไม่มีท่าทีที่สตรีผู้นี้จะยอมเขียนใบหย่าให้กับเขาเลยสักนิด แม้จะเอาของมีค่ามากมายมาหลอกล่อนางสักแค่ไหน
''ถ้าหากว่าท่านยอมมาเป็นของหม่อมฉันสักครั้ง...บางทีหม่อมฉันอาจจะยอมเขียนใบหย่าให้กับท่านก็ได้นะเพคะท่านชินอ๋อง'' หญิงสาวจ้องมองใบที่ชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยั่วยวน
จนชายหนุ่มรู้สึกตกใจเหตุใดนางจึงกลายเป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เขามาบอกให้นางเขียนใบหย่า นางจะมีท่าทีที่จะร้องไห้ออกมาหรือมีใบหน้าที่น่าสงสารทุกครั้งเหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปกัน หรือว่าเป็นธาตุแท้ของนางซินะ
''เฮอะ! ให้ตายข้าก็ไม่มีวันเป็นของเจ้า!'' เอ่ยจบชายหนุ่มก็ได้รีบลุกออกไปจากห้องอย่างหัวเสีย
หญิงสาวที่ได้เห็นท่าทีของเขาเช่นนั้นแล้วก็ได้นึกอะไรออกบางอย่าง หากว่านางได้กับเขานางคงจะตายตาหลับเป็นแน่คนอะไรหล๊อหล่อ เกิดมาพึ่งเคยจะพบจะเห็นคิดเช่นนี้แล้วก็รู้สึกทนไม่ไหว
''ระวังตัวไว้เถิดท่านชินอ๋องข้าผู้นี้จะทำให้ท่านเป็นไอโบ้เลยคอยดู''