ฉันเชื่อว่ามนุษย์ใดในโลกหล้าไม่เคยเมาแล้วบ้าหามีจริงไม่ และหนึ่งในนั้นคือฉัน ฉันตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบๆ บนที่นอนขนาดหกฟุตกับอีกสามชีวิต แข้งขาพวกเราก่ายกันสะเปะสะปะ ศีรษะอยู่คนละทิศ สภาพไม่ต่างอะไรจากซอมบี้ที่อืดตายมาแล้วสามปี สาเหตุที่ทำให้พวกเราตื่นมาน่าสยดสยองได้ขนาดนี้เป็นเพราะไอ้เจมส์ แฟนเก่าฉันที่พึ่งเลิกกันไปแค่สองเดือนมันขึ้นสเตตัสครบรอบหนึ่งปีกับอีชะนีหน้าหมวยที่ไหนไม่รู้
ก็นั่นแหละ พูดง่ายๆ คือฉันโดนมันเท นอกจากมันจะเทแล้วมันยังหลอกลวงให้ฉันกลายเป็นกิ๊กลับๆ ของมันอีก แค่คิดฉันก็หงุดหงิดจนต้องพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์ร้อนรุ่มที่สุมทรวงออกไปซะ
ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งก่อนจะปรายสายตาไปมองเพื่อนรักทั้งสองที่นอนขนาบข้างให้ความอบอุ่นแบบสุดๆ ข้างขวามียัยชะนีผมยาวสีดำสนิทหน้าตามึนเมาคือ ‘อีมิ้ง’ ผู้หญิงที่ลืมพกสมองออกมาจากบ้าน มันเป็นมนุษย์สปีชีส์ที่สื่อสารรู้เรื่องยากมาก ยิ่งคุยก็ยิ่งเหนื่อย
ข้างซ้ายมีส้นตีน ‘อีอาร์ต’ ผู้ชายสีน้ำตาลเข้ม สันดั้งโด่งจนน่าอิจฉา ผิวหน้าเนียนละเอียดเหมือนก้นเด็ก ริมฝีปากอมชมพูระเรื่อน่ากัดน่ากิน เสียอย่างเดียวคือมันไม่แมน! นอกจากจะไม่แมนแล้วมันยังแรดกว่าชะนีอย่างฉันอีก!
ทุกอย่างจะดำเนินไปเหมือนเดิม กิน นอน ตื่น เที่ยวเล่นหากแต่วันนี้มีเรื่องที่ต่างออกไป เมื่อฉันใช้มือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา มันก็ไม่แปลกกับแจ้งเตือนเฟสบุ๊คประมาณสามร้อย กดไลค์รูปไปซะร้อยนึง คอมเม้นอีกร้อยกว่า แต่แชทน่ะ...
เฮ้ย บ้าน่า… ฉันคงจะตาฝาด ฉันกลืนน้ำลายเอื๊อกพลางคิดเข้าข้างตัวเองก่อนจะขยี้ตาหนึ่งทีเพื่อมองใหม่แต่ไอ้ข้อความนั่นมันก็ไม่หายไป
“…”
ไม่มั้ง ไหนลองมองอีกที…
เอาใหม่สิ๊…
อีกสักครั้ง…
O[]o!! ย่ะ ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!
ฉันอ้าปากเหวอเมื่อเจอข้อความบัดซบยิ่งกว่าศพซอมบี้สองตัวที่นอนบนเตียงฉัน เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดพรายขึ้นมาจนหน้าเปียก มันไม่ใช่ข้อความธรรมดา แต่ว่ามันเป็นข้อความที่ส่งไปหาไอ้เจมส์แฟนเก่ายาวเหยียดเป็นหน้าเอสี่
กรี๊ดดดดดดดด ไม่จริง มันไม่ใช่ฉัน หมาพิมพ์ แมวลั่น ฉันเปล่านะ! โอ๊ย ยาวขนาดนี้นี่ฉันเขียนเรียงความเหรอ หรือยังไง! อารมณ์ไหนวะเนี่ย!
ทำไงดีวะทำไงดี เสียศักดิ์ศรีอย่างแรง ฉันรับไม่ได้อ่ะ ฉันกุมขมับเครียดก่อนที่สายตาจะสะดุดกับซอมบี้สองตัวที่นอนอืดหมดสภาพ โอ๊ย อีเพื่อนพวกนี้ มันใช่เวลามานอนปะเนี่ย! ฉันกำลังเจอเหตุการณ์วิกฤตอยู่นะโว้ย!
“ชะนี! กะเทย! ตื่น!” ฉันเขย่าเพื่อนพ้องทั้งสองตัวให้ลุกขึ้นมาช่วยกันพิสูจน์ว่าสิ่งที่ฉันเห็นมันมีอยู่จริง ไม่มั้ง ฉันจะเมาหนักไม่มีสติสตังขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันออกจะเรียบร้อยไม่มีที่ไหนด่างพร้อยเลยสักกระเบียดนิ้ว
“อะไรของแกอีหวานนน เพื่อนนอนอยู่นะ มารยาททรามมาก” เสียงอิดออดของอีอาร์ตทำให้ฉันจิ๊ปากก่อนจะใช้ไม้ตายที่ทำให้มันกระเด้งตัวขึ้นมาทันที
“ถ้าแกไม่ลุกนะ ฉันลวนลามแกเสียเชิงชายแน่”
“ต๊าย อีนี่พูดจาผิดผี รับไม่ได้” อีอาร์ตทำหน้าเหรอหราแล้วยกมือทาบอกมองฉันพลางเอาตีนเขี่ยอีมิ้งที่นอนกรนคร่อกๆ อยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ามันนอนหรือซ้อมตาย นอนเหมือนไม่เคยนอนมาก่อนในชีวิต “ไม่ กะเทยจะไม่ยอมเสียเปรียบ ถ้ากะเทยตื่น อีชะนีนี่ต้องตื่นด้วย”
“กะเทย ช่วยเพื่อนด้วย เพื่อนรับไม่ได้ เพื่อนทำอะไรลงไป เพื่อนช็อค” ฉันงอแงแล้ววี๊ดว้ายยื่นมือถือให้อีอาร์ตดูก่อนที่มันจะพยายามเอาหมอนตีอีมิ้งให้ตื่น สุดท้ายไอ้คนขี้เซาก็งัวเงียขึ้นมาตาปรือๆ จนได้
“มีอะไรวะ?” มันย่นคิ้วเมื่อฉันยื่นมือถือให้มันดู ก็ไม่รู้อีผีตัวไหน เป็นเพราะเหล้าเรดเลเบล เบียร์ช้างคะนองหรือยาดองที่ฉันยกกระดกเข้าไปกันแน่ถึงได้เป็นบ้าขนาดนี่
“ฉันเมาแล้วส่งแชทไปหาอีเจมส์อ่ะแก! รับไม่ได้ เสียศักดิ์ศรีอย่างแรง” ฉันเบะปากเป็นกลีบดอกคาร์เนชั่นก่อนจะทำหน้าจิตป่วย สางมือเข้าไปในเรือนผมแล้วขยี้อย่างปวดตับ
“ยังไงคะชะนี ส่งไปว่าอะไร” อีอาร์ตทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วรีบกระชากโทรศัพท์ฉันไปอ่าน มันสตั๊นท์ไปครู่นึงก่อนจะหลุดหัวเราะดังก๊าก โอเค ยอมรับว่าข้อความมันเหี้ยมาก ถ้าส่งไปด่ายังพอแต่ไอ้ที่ฉันส่งไปน่ะ...
‘ไม่เมาเหล้า แล้วแต่เรา ยังเมารัก สุดจะหัก ห้ามจิต คิดไฉน
ถึงเมาเหล้า เข้าสาย ก็หายไป แต่เมาใจ นี้ประจำ ทุกค่ำคืน’
ฮืออออออออออออออออออ จะเจ้าบทเจ้ากลอนไปเพื่อใคร คืออ่านภาษาไทยมาเยอะเหรอ ถึงได้เพ้อเจ้อมาเป็นนิราศภูเขาทองของสุนทรภู่ นอกจากจะดูเวิ่นเว่อเพ้อเจ้อแล้วยังดูจิตไม่ปกติอีก ไอ้เจมส์แม่งต้องนั่งขำฉันอยู่แน่ๆ
ยังค่ะ ยังไม่พอ ความเมามันทำเราบรรลัยได้มากกว่าที่เห็นเพราะนอกจากกลอนนั่นฉันยัง...
‘โปรดรักฉันรักฉันเถอะนะ จะไม่ทำให้เธอเสียใจ
รู้ฉันสู้เขาไม่ไหว เทียบกับใครที่เธอมี
แต่เลือกฉันเลือกฉันได้ไหม ฉันจะดูแลเธอให้ดี
โปรดถามใจเธออีกที เพราะทั้งใจฉันมันยังมีแค่เธอ’
โอ๊ยยยย เพลงพี่อะตอมก็มา นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย จะส่งเพลงไปเลยก็ไม่ส่งนะ ต้องพิมพ์เป็นคำๆ ด้วยความพยายามอย่างแรงกล้าด้วย ฮือๆ T_T
“ว้าย ข้อความแกชั่วมาก” อีอาร์ตหัวเราะหน้าบานขำแหลกลาญอย่างไม่เกรงใจ แต่ฉันอ่ะไม่ตลก ฉันนั่งหน้ามุ่ยแล้วถอนหายใจเครียดๆ
“โอ๊ย ฉันเครียดนะแก มันต้องเอาฉันไปเม้าส์กับแฟนใหม่มันแน่ อีเจมส์ อีนรกนั่นอ่ะ”
“โถ แก มันคงไม่อะไรหรอก มันอาจจะคิดว่าแกกำลังท่องกลอนภาษาไทยไปสอบอยู่ก็ได้ ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คิดแบบนั้นนะ” ไอ้มิ้งพยายามจะปลอบใจฉันว่ามันไม่มีอะไร แต่อย่างไอ้มิ้งนะไม่ควรจะไปฟังมันมาก ไม่ใช่ว่ามันมองโลกในแง่ดีนะ มันโง่ “มันไม่คิดว่าแกง้อมันหรอก อาจจะคิดว่าแกกำลังอินสุนทรภู่กับอยากร้องเพลงพี่อะตอมไง๊”
พอ คุยกับแม่งแล้วเครียด ไม่มีคนบ้าที่ไหนคิดแบบมันหรอก ประสาท =_=^^^
“เดี๋ยวนะแก อีเจมส์มันเปลี่ยนชื่อเฟสเป็นชื่อจริงแล้วไม่ใช่เหรอ? จากเจมส์คุงเป็น ธวัชชัยอะไรนั่นอ่ะ” ไอ้อาร์ตย่นคิ้วสงสัยก่อนจะจ้องหน้าจอโทรศัพท์ฉันนิ่งๆ
“ทำไม มันทำไมอีกกกกกก”
“อีหวาน ฉิบหายละมึง” มันสบถขึ้นมึงกูทำตาถลนทำให้ฉันหัวใจเต้นตึกๆๆๆ แน่ะ มันแกล้งปะเนี่ย ฉิบหายอะไร อย่ามาล้อฉันเล่นนะ มันยังมีอะไรบัดซบมากกว่าส่งข้อความไปง้อไอ้เจมส์แฟนเก่าอีกเหรอ!
“อุ๊ย เหี้ย” ไอ้มิ้งผงะก่อนจะดึงโทรศัพท์มาให้ฉันดูให้เต็มตาว่าไอ้ผู้ชายที่ฉันส่งข้อความไปหาน่ะไม่ใช่ Jamekung ชื่อเฟสแฟนเก่าฉันแต่เป็น...
Jaykung
Jaykung!!
Jaykung!!!!!!!!!!
ฉิบหายยยย! ใครวะเนี่ย!!