สมองฉันรวนในทันทีที่เห็นชื่อเฟสบุ๊คปริศนาก่อนจะรวนหนักขึ้นไปอีกเมื่อฉันก้มหน้าเครียดแล้วพบว่าเสื้อช็อปสีดำสนิทอยู่บนตัวฉัน!
O_O!
อะไร!
ยังไง!
ของใคร!
งงมาก! ฉันทำหน้าเหรอก่อนจะวางโทรศัพท์แล้วชี้นิ้วทั้งสองข้างเข้าหาตัวเสื้อมองอีมิ้งที อีอาร์ตทีอย่างต้องการคำตอบ พวกมันพร้อมใจกันส่ายหัวไม่รู้ ฉันยิ่งออกอาการเหวอหนักด้วยการเบิกตาโตกว่าเก่า
โอย จะเป็นลม พอฉันเมาทีไร มีปัญหาทุกที แต่ก็ไม่จะสำเหนียกสักที ฉันพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ายตัวเองก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อส่งข้อความไปหานายเจคุงอะไรนี่ก่อน
PhakWhan: เฮ้ย โทษที ส่งผิด
ฉันกดส่งก่อนจะคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วจนคนถูกทักตอบกลับมา
Jaykung: เมาอ่ะดิ
เขาตอบกลับมาอย่างรู้ทันทำให้ฉันย่นคิ้วงง รู้ได้ไงวะ เดี๋ยวนะ ฉันชะโงกหน้าเข้าไปใกล้จอมือถือเพ่งพิจารณารูปโปรไฟล์เฟสบุ๊คของเขาแล้วระลึกชาติอยู่ครู่นึง ก็นึกขึ้นมาได้ว่าไอ้ผู้ชายคนนี้คือคนที่เป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนฉันอีกที เรียนที่วิศวะโยธา หน้าตาก็น่ารักพอตัว
PhakWhan: นิดหน่อยอ่ะ
Jaykung: ไม่นิดแล้วมั้ง อย่าลืมเอาเสื้อเรามาคืนด้วยนะ… เปื้อนอ้วกปะเนี่ย?
O_O! ฮะ ฉันชะงักกับข้อความที่เขาส่งมาก่อนจะก้มหน้ามองเสื้อช็อปแล้วมองแชทเขาอีกที เสื้อตัวนี้ของเขาเหรอ งั้นแสดงว่าเมื่อวานฉันก็เจอเขาอ่ะดิ เวรละไง นี่ฉันทำอะไรลงไปบ้างวะเนี่ย จำไม่ได้เลยอ่ะ ความทรงจำเลือนรางมากถึงมากที่สุด แถมยังมีลางสังหรณ์ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องดีด้วยอ่ะดิ
PhakWhan: เอ้า ของแกเหรอ โทษที เราเมามากเลยว่ะ จำไม่ได้อ่ะ ไม่รู้เมื่อวานไปทำอะไรทุเรศๆ ไว้รึเปล่า
Jaykung: เมาแล้วก็น่ารักดีนะ
“ต๊ายยยย อีนี่ เสน่ห์แรงเว่อร์” เสียงอีอาร์ตร้องทันทีที่มันชะโงกหน้าเข้ามาอ่านพอดีกับที่ฉันกำลังนั่งมองแชทตาปริบๆ “เอาเลยแก ดีลเลย เห็นเบ้าหน้าแล้วเพื่อนให้ผ่าน”
มันสปอยแรงมาก ขณะที่ฉันอมยิ้มเบาๆ อารมณ์ว่าพราวในตัวเองนิดหน่อย ก็นะ เบ้าหน้าฉันก็ดี หุ่นก็เซ็กซี่จะมีเรื่องแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก จริงๆ เขาก็หล่อดีด้วย ตอนนี้ฉันก็โสด รับไว้พิจารณาสักคนก็โอเคนะ
“ก็งี้แหละแก คนสวยอย่างฉันอ่ะ หัวบันไดไม่เคยแห้งหรอก” ฉันว่าแล้วหันไปยักคิ้วให้อีอาร์ตจึ๋งนึงแล้วกะจะพิมพ์ตอบแชทเขาไปแบบอ่อยๆ หากแต่ว่าอีตานั่นกลับทำให้รอยยิ้มฉันหุบลงทันทีในไม่กี่วิ…
Jaykung: น่ารักกว่าหมาที่คณะเรานิดนึงอ่ะ
Jay says…
“ไอ้เจ ทำไมวันนี้ใส่ชุดนิสิต?” ไอ้นับโผล่หน้ามาที่คณะหลังจากผมพึ่งเรียนอิ้งเสร็จ แล้วมานั่งเล่นลอยชายที่ซุ้มคณะพร้อมกับเล่นมือถือไปด้วย ที่วันนี้ผมใส่ชุดนิสิตมันเป็นเหตุมาจากยัยขี้เมาตัวปัญหาเมื่อวานมาวอแวจะเอาเสื้อผมไปใส่ พอไม่ให้ก็ขู่ว่าจะกอดอีก ผมไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกแต่กลัวโดนกอดแล้วอารมณ์ขึ้น แม่งดันหน้าตาน่ารักด้วยไง ผมเลยจำใจสละเสื้อช็อปให้ยัยนั่นใส่กันหนาว
“เสื้อมัน เมียมาเอาไปแล้วว่ะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้หลินแซวก่อนจะกลั้นขำเมื่อเห็นผมเบ้หน้าไม่พอใจนัก แหงสิ ใครมันจะไปโอเค ผมเคยทำเสื้อช็อปหายไปรอบนึง ถ้ารอบนี้หายอีก ผมว่าผมควรจะไปทำบุญล้างซวยขนาดใหญ่อ่ะ
“เมียอะไรวะ มีคนเอามึงด้วยเหรอ?”
“แน่น๊อน คนมันหล่อ” ผมทำเสียงกวนประสาทก่อนจะยักคิ้วจึ๋งๆ ใส่ไอ้นับอย่างไม่สะทกสะท้านกับคำปรามาสของมัน
“โอ๊ย จ้า หล่อมากจ้า นี่ไง มึงก็ยืมช็อปไอ้หลินใส่ดิ” ไอ้โจ้เสนอความเห็นที่ทุเรศมากๆ เพราะไอ้หลินมันเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่เป็นผู้หญิงที่ส่วนสูงแค่ร้อยห้าสิบเซนติเมตร ตัวเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ในขณะที่ผมสูงเกือบร้อยแปดสิบ เอาเสื้อมันมาใส่ไม่เป็นเอวลอยเลยเหรอ!
“กูก็อยากจะยืมมันอยู่หรอก แต่มึงดูส่วนสูงมันด้วย แม่งเตี้ยไม่เกรงใจพ่อแม่เลย ใส่ทีกูนึกว่าเอวลอย”
“ศพที่แล้วก็พูดแบบนี้” ไอ้หลินชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ ทำให้ผมหัวเราะก๊ากก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามากอดคออย่างรักใคร่และทะนุถนอมเหมือนหมากระเป๋า
“ไม่ได้จะด่าว่าเตี้ย กูจะชมว่ามึงตัวเล็กน่ารักสมกับแฟนไอ้เซฟไง”ผมพูดอ้อล้อก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดแชทหาคนขี้เมาที่เอาเสื้อผมไป เธอบอกว่าเธอจะเอาเสื้อมาคืนประมาณบ่ายๆ ของวันนี้ ซึ่งเวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงสี่สิบ ผมก็ยังไม่เห็นวี่แวว
Jaykung: เธออยู่ไหนแล้วอ่ะ เรารอที่ซุ้มวิศวะโยธานะ มาถูกปะเนี่ย?
PhakWhan: เราฝากเพื่อนเอาไปให้อ่ะ ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน อ้วนๆ หน่อยอ่ะ ตอนนี้มันอยู่แถวๆ หน้าคณะมั้ง
“พวกมึง ช่วยกูมองหาคนอ้วนๆ ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถือเสื้อช็อปสีดำหน่อยดิ เพื่อนไอ้เซฟบอกว่าเขาฝากคนอื่นมาคืน” ผมเอ่ยก่อนจะกวาดสายตาไปที่หน้าคณะ ซึ่งไกลจากซุ้มไม่เท่าไหร่ ไอ้นับย่นคิ้วก่อนจะชี้ไม้ชี้มือไปข้างหน้า
“คนกูไม่เห็นว่ะ กูเห็นแต่หมา”
“มึงจะมองหาหมาเพื่อ! มึงหาคนดิ” ผมจิ๊ปากใส่มันอย่างหงุดหงิดก่อนที่ไอ้หลินจะกวนประสาทผมอีกคน
“มึง… กูหาไม่เจอเลยคนผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน กูเจอแต่หมา”
“พวกมึงเป็นอะไรกับหมานักหนาวะเนี่ย กูบอกให้หาคน… เหี้ย!” ผมร้องตกใจเมื่อจู่ๆ มีตัวอะไรไม่รู้เดินข้ามเท้าผมไปก่อนที่ไอ้สิ่งมีชีวิตนั่นมันจะหันหน้ามาอย่างอืดอาดประหนึ่งจะด่าว่าผมไปขวางทางมัน ที่สำคัญ…
“ไอ้เหี้ย ใครพิเรนทร์เอาเสื้อช็อปตัวเองมาใส่ให้หมา มันบ้าปะวะ” ผมย่นคิ้วนึกตลกอยู่ในใจกับไอ้คนว่างงานขนาดที่เอาเสื้อช็อปมาใส่ให้ไอ้จีนแดง หมาประจำคณะ มันไม่ใช่หมาธรรมดาแต่มันเป็นหมาอ้วนกลมขนาดที่เสื้อช็อปตัวนั้นแทบปริ
ขณะที่ผมส่ายหัวเหนื่อยหน่าย เจ้าจีนแดงมันก็นอนหงายลงกับพื้นก่อนจะปรากฏเข็มกลัดรูปตัวเจอันเล็กๆ ที่ผมติดไว้ข้างกระเป๋าเสื้อให้มันเก๋ๆ เท่านั้นแหละ…
ชัด
ชัดเลย!
เสื้อผมชัดๆ เลย!!!