“ยายสายคะ คุณแม่ล่ะคะ”
เมื่อมิรินมาถึงบ้านก็เอ่ยถามยายสายแม่นมของมาวินพ่อของเธอแต่ตอนนี้ยายสายนั้นได้มาเป็นแม่นมของเธอต่อแล้ว
“คุณเพลงขวัญอยู่ในห้องทำงานกับคุณมาวินค่ะคุณหนู”
“ขอบคุณค่ะ”
มิรินพูดขอบคุณยายสายอย่างนอบน้อมเพราะถึงจะเป็นแม่บ้านมาวินและเพลงขวัญก็สอนให้ลูกๆ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะให้นอบน้อมกับผู้ใหญ่เสมอ จากนั้นมิรินก็วิ่งขึ้นไปหาพ่อกับแม่ของตัวเองทันที
“คุณพ่อคุณแม่ขาหนูกลับมาแล้ว อุ๊ย! ขอโทษค่ะ นี่หนูมาขัดจังหวะสวีทหวานคุณพ่อคุณแม่มั้ยเนี่ย”
มิรินพูดแซวพ่อกับแม่ตัวเองทันทีเพราะเธอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นมาวินกำลังกอดเพลงขวัญที่นั่งอยู่บนตักอย่างออดอ้อนจนเพลงขวัญต้องรีบลุกขึ้นยืนด้วยความเขินเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามา
“ขัดมากเลยมิริน พ่อกำลังอ้อนแม่เราอยู่เลย”
มาวินพูดกับลูกสาวด้วยรอยยิ้ม
“พี่วิน พูดอะไรออกมาคะ อายลูกบ้างสิ”
เพลงขวัญแว๊ดเสียงใส่มาวินด้วยความเขินเมื่อได้ยินคำพูดของมาวินที่พูดกับมิริน จนมิรินได้แต่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่าทางเขินของแม่ตัวเอง
“แหม ไม่ต้องอายหรอกค่ะคุณแม่ หนูชินแล้ว คุณพ่อนี่เสมอต้นเสมอปลายกับคุณแม่ดีจังนะคะ ทำยังไงหนูถึงจะหาแฟนแบบคุณพ่อได้”
มิรินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วเดินไปยืนกอดแขนแม่ตัวเองอย่างออดอ้อน
“อย่าคิดหาคนนิสัยแบบพ่อเรามาเป็นแฟนเลยลูก พ่อเราก็อ่อนโยนเฉพาะกับเราสองคนนี่ล่ะ คนอื่นก็ทั้งร้ายทั้งดุใส่เค้า”
เพลงขวัญแกล้งพูดใส่มาวินจนมาวินได้แต่เงยหน้ามองเมียตัวเอง
“บอกลูกว่าไม่ให้มีแฟนแบบพ่อ แต่หนูก็ชอบคนแบบพี่นิ แถมยังชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอด้วย โอ๊ย! ตีพี่ทำไมครับ”
มาวินร้องเจ็บทันทีเมื่อโดนเพลงขวัญตีเข้าที่แขนเขา
“ใครบอกว่าหนูชอบพี่ตั้งแต่เจอครั้งแรก พี่นั่นล่ะที่ชอบหนูก่อน หยุดพูดเรื่องความหลังให้ลูกฟังเลยนะ ว่าแต่มิรินเข้ามาหาพ่อกับแม่มีอะไรรึเปล่าลูก”
เพลงขวัญหันไปเอ่ยถามลูกสาวทันทีเพราะปกติมิรินจะไม่มาวุ่นวายในห้องทำงานของพ่อตัวเอง
“หนูแค่จะมาถามว่าวันนี้พวกพี่ทั้งสามจะกลับมาบ้านมั้ยคะ”
มิรินเข้าเรื่องทันทีเพราะถ้าอคินกลับบ้านมักจะโทรหาแม่ก่อนเสมอ
“วันนี้คงไม่มาจ้า ลูกมีอะไรหรอ”
เพลงขวัญตอบมิรินพร้อมกับถามเธอกลับอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่อยากจะถามเรื่องเรียนกับพี่ๆ งั้นหนูไม่รบกวนคุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ สวีทหวานกันต่อได้เลยค่า อิอิ”
พูดจบมิรินก็วิ่งออกจากห้องทำงานของมาวินไปทันที
“ดูท่าลูกสาวเรายิ่งโตนิสัยจะยิ่งเหมือนเมย์มากขึ้นนะ”
มาวินพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นมิรินวิ่งออกจากห้องทำงานของตัวเอง
“ลูกก็ซนตามวัยค่ะพี่ อีกอย่างเหมือนยัยเมย์ก็ดีออก จะได้ทันคนไม่โดนใครรังแก”
เพลงขวัญพูดกับสามีด้วยรอยยิ้ม
“แต่พี่กลัวจะไปสร้างเรื่องมากกว่านี่สิ อย่าลืมสิว่ายัยเมย์แสบแค่ไหน”
“ที่บ่นๆ อยู่เนี่ยคือกลัวลูกสาวเราไปจีบหนุ่มๆ ก่อนรึเปล่าคะ”
เพลงขวัญพูดแซวมาวินอย่างรู้ทัน
“เฮ้ออ ลูกโตเป็นสาวแล้วคนเป็นพ่อก็กลัวเป็นธรรมดาล่ะครับ”
มาวินพูดขึ้นอย่างตัดพ้อ
“อย่าคิดมากเลยค่ะพี่วิน หนูเชื่อว่ามิรินต้องเจอผู้ชายที่รักเธอจริงแน่นอน เผลอๆ อาจจะนิสัยเหมือนพี่ก็ได้นะคะ”
เพลงขวัญพูดขึ้นด้วยยรอยยิ้มส่วนมาวินก็ได้แต่พยักหน้าตอบเมียตัวเองจากนั้นก็เลิกสนใจเรื่องของมิรินแล้วดึงเพลงขวัญมานั่งตักอ้อนเมียเหมือนเดิม ทางด้านมิรินก็เดินมานั่งเล่นที่สวนหลังบ้านของตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแชทกลุ่มพี่น้องของตัวเองทันที
Mirin : พี่ๆ ช่วยน้องด้วย มาบ้านด่วนเลยนะ
Akin : เป็นอะไร
Dimon : เกิดอะไรขึ้นน้องริน
Ramin : พวกพี่จะพิมพ์ถามน้องทำไมเนี่ย รีบไปหาน้องกันสิครับผม
Akin : เออ
Dimon : เออ
มิรินได้แต่นั่งหัวเราะเมื่อเห็นเหล่าพี่ชายกำลังเถียงกันอยู่ในแชท โดยที่เธอไม่ยอมตอบอะไรใคร
“ใครจะมาถึงก่อนน๊า”
มิรินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าลุ้นเพราะอยากรู้ว่าพี่ชายคนไหนจะมาถึงบ้านก่อน เธอจึงนั่งเล่นโทรศัพท์รอพี่ชายทั้งสามของตัวเอง ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีก็เห็นไดม่อน อคิน และรามินกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหามิรินที่ส่วนหลังบ้านอย่างร้อนรนเพราะเป็นห่วงมิริน จนมิรินได้แต่ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเหล่าพี่ชายตัวเองมาถึงแล้ว
“น้องรินเป็นอะไรครับ ใครทำอะไรน้องพี่”
รามินเอ่ยถามมิรินแล้วนั่งลงข้างๆ เธอทันทีเมื่อเดินมาถึงมิรินแล้ว ส่วนไดม่อนและอคินก็นั่งลงเก้าอี้ที่ว่างพร้อมกับมองหน้ามิรินอย่างตั้งคำถาม
“ไม่มีใครทำอะไรหนูทั้งนั้นล่ะค่ะ”
มิรินตอบรามินด้วยรอยยิ้มทำเอาเหล่าพี่ชายถึงกับคิ้วขมวดกันทุกคน
“ไม่มีใครทำอะไร แล้วจะเรียกพวกพี่มาทำไมมิริน”
อคินเอ่ยถามมิรินพร้อมกับมองน้องสาวอย่างตั้งคำถาม
“เอ้า! มีเรื่องให้ช่วยมันจำเป็นต้องมีคนมาทำอะไรน้องด้วยหรอคะพี่คิน”
“ไม่มีใครทำอะไรแล้วเรียกให้พวกพี่มาช่วยเรื่องอะไรครับน้องริน”
ไดม่อนเอ่ยถามมิรินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คือหนูมีคนที่อยากตามหาค่ะ”
มิรินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าจริงจัง จนเหล่าพี่ชายทำหน้าจริงจังตามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ
“น้องรินจะตามหาใครหรอ บอกพี่มาเลยงานนี้พี่ถนัด แค่รู้ชื่อกับมีรูปหนึ่งวันเจอแน่นอน”
รามินพูดขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่ามิรินจะให้ช่วยอะไร
“ประเด็นคือหนูไม่รู้จักชื่อแล้วก็ไม่มีรูปเค้าด้วยค่ะ แฮร่”
มิรินพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ใส่รามิน
“สูตรไอ้ตัวแสบอีกแล้ว เดี๋ยวนะ น้องรินคงไม่ได้ไปนอนกับใครมาใช่มั้ย”
คำถามของไดม่อนทำเอารามินและอคินหันไปมองมิรินทันทีเรียกได้ว่าสายตาพี่ๆ ทั้งสามของเธอตอนนี้เริ่มแผ่รังสีอัมมหิตออกมาแล้ว
“นอนเนินอะไรเล่า นี่พวกพี่คิดไปไกลแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย ที่ให้ตามหาเพราะหนูแค่อยากรู้จักชื่อเค้าแค่นั้นเอง”
มิรินรีบพูดแก้ตัวเมื่อเห็นพี่ชายเริ่มคิดไปไกลแล้ว ทำเอาไดม่อน อคินและรามินต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“คนที่จะให้ตามหาผู้หญิงหรือผู้ชาย”
อคินเอ่ยถามมิรินเสียงเรียบ
“ผู้ชายค่ะ”
“มันเป็นใคร!”
มิรินถึงกับตกใจเมื่อไดม่อน อคินและรามินถามออกมาพร้อมกันเสียงแข็ง
“จะพูดพร้อมกันทำไมเนี่ยหนูตกใจหมด มาถามว่าเป็นใคร ถ้าหนูรู้จะมาให้พวกพี่ช่วยตามหาหรอ”
มิรินบ่นให้พี่ชายทั้งสามทันทีเมื่อเห็นอาการหวงน้องสาวของเหล่าพี่ชายออกมาชัดเจน
“ทำไมต้องตามหา”
อคินยังถามมิรินขึ้นอีกครั้ง
“นี่หนูให้พวกพี่มาช่วยไม่ได้ให้มาสอบสวนหนูนะคะ สรุปจะช่วยมั้ย ถ้าไม่ช่วยก็กลับไปเลย”
มิรินพูดขึ้นพร้อมกับกอดอกทำหน้าบึ้งใส่พี่ๆ ทั้งสามทำเอารามินถึงกับรีบเปลี่ยนอารมณ์ทันทีเพราะกลัวน้องงอน
“ช่วยครับช่วย อย่าทำหน้าบึ้งสิเดี๋ยวไม่สวยนะ”
รามินรีบพูดง้อมิรินจนมิรินได้แต่อมยิ้มเมื่อเป็นไปตามแผนเธอ เพราะเธอแกล้งโกรธเพื่อให้เหล่าพี่ชายเลิกถาม
“ดีค่ะ ถ้าช่วยหนูจะได้เข้าเรื่องเลย คือหนูเห็นพี่เค้าใส่ช็อปสีแดงสัญลักษณ์ของมหาลัยเหมือนของพี่ม่อนกับพี่มินเลย หนูเลยคิดว่าพี่เค้าต้องเรียนคณะวิศวะมหาลัยเดียวกันกับพวกพี่แน่ๆ”
“แล้วยังไงต่อ”
อคินเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
“พี่ม่อนกับพี่มินพอจะรู้จักผู้ชายหล่อๆ ส่วนสูงน่าจะประมาณพี่ม่อน ตาดุๆ นิ่งๆ ไม่ค่อยพูด เจาะหูข้างเดียวใส่ต่างหูไม้กางเขนค่ะ พวกพี่คุ้นหน้าบ้างมั้ยคะ”
มิรินบอกลักษณะบุคลิกของเจไดให้เหล่าพี่ชายฟังอย่างละเอียดทำเอาอคินถึงกับจ้องหน้ามิรินนิ่งเพราะอยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกับมิรินยังไงแต่ก็ไม่อยากถามเซ้าซี้
“หน้าดุๆ พี่นึกออกอยู่คนหนึ่งนะน้องริน”
“ใครหรอคะพี่มิน”
มิรินตาลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของรามิน
“ก็พี่คินไง ทั้งดุทั้งร้าย แถมยังนิ่งสุดๆ อีก”
“โอ๊ย! พี่มินอะ มันใช่เวลาพูดเล่นมั้ยเนี่ย หนูจะตามหาพี่คินไปทำไมกัน ว่าไงคะพี่ม่อนพอคุ้นๆ มั้ยคะ”
มิรินแว๊ดเสียงใส่รามินแล้วหันไปถามไดม่อนทันทีเมื่อเห็นพี่ใหญ่นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิดอยู่
“นึกไม่ออกเลยครับน้องริน ปกติพี่ก็แทบจะไม่ได้สนใจใครอยู่แล้ว”
ไดม่อนตอบมิรินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เฮ้ออ! ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรอหนูเข้ามหาลัยค่อยไปตามหาเองก็ได้ ขอบคุณนะคะพี่ๆ ที่มาช่วย เชิญกลับไปหาเมียๆ ได้แล้วค่า หนูหมดเรื่องให้ช่วยล่ะ”
พูดจบมิรินก็เดินเข้าบ้านไปทันทีทำเอาเหล่าพี่ชายถึงกับนั่งอึ้งมองมิรินเดินเข้าบ้านไป
“นี่เราต่างคนต่างเหยียบรถมาอย่างเร็วเพื่อมาฟังเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ แสบจริงๆ เลยน้องรินนิ”
รามินพูดขึ้นทันทีเมื่อมิรินเดินเข้าไปแล้ว เพราะพวกเขาทั้งสามต่างขับรถมาหามิรินอย่างเร่งรีบ
“มึงมีคำตอบให้มิรินแต่มึงไม่ตอบใช่มั้ยไอ้ม่อน”
อคินเอ่ยถามไดม่อนอย่างรู้ทันเพราะเขาเห็นไดม่อนนิ่งเงียบเหมือนกำลังนึกอะไรออกอยู่ จนรามินต้องหันไปมองไดม่อนอย่างตั้งคำถาม
“อืม บุคลิกและท่าทางแบบนี้มันมีคนหนึ่งที่กูรู้จัก”
ไดม่อนตอบอคินไปตามตรงเพราะเขานึกออกแต่ไม่อยากตอบมิรินเพราะไม่อยากให้วุ่นวาย
“เจไดใช่มั้ย”
อคินถามไดม่อนอีกครั้งเพราะเขาก็รู้จักเจไดพอสมควร
“มันจะบังเอิญไปมั้ยพี่ แล้วทำไมน้องรินต้องตามหาพี่เจไดด้วยล่ะ”
รามินพูดขึ้นอย่างตั้งคำถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ต้องสำคัญกับน้องรินแน่ๆ เพราะน้องรินไม่เคยมาถามเราเรื่องผู้ชายเลยสักครั้ง”
ไดม่อนตอบรามินพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิดได้แต่ตั้งคำถามว่าผู้ชายคนที่มิรินตามหาสำคัญกับเธอยังไง
“พรุ่งนี้พวกมึงไปสังเกตไอ้พวกที่เรียนคณะพวกมึงทุกคนเลยนะ ว่านอกจากเจไดมีใครมีบุคลิกท่าทางแบบนี้มั้ย”
ไดม่อนและรามินพยักหน้าตอบอคินทันที สามหนุ่มนั่งคุยกันเรื่องมิรินสักพักก็แยกย้ายกลับคอนโดไปหาเมียตัวเอง