ต้วนอาหลี่
ไป๋ซู่ฮวาเดือนออกมาก็เห็นน้องขายกำลังผสมน้ำอุ่นให้เด็กทั่งสองล้างหน้าอยู่ ตอนกลางคืนอากาศจะเย็น ทำไมเลือกบ้านติดป่าติดเขาแบบนี้นะ ยังดีที่ล้อมรั้วอิฐแข็งแรง ไม่งั้นหากสัตว์ป่าหลุดลงมาเจ้ากับน้องไม่กลายเป็นอาหารจานโปรดหรือ
"กินข้าวแล้วพี่จะไปบ้านท่านน้าฮวนสักหน่อย มะรืนจะเก็บเกี่ยวแล้วพี่จะไปหากระสอบมาใส่เสบียง น้องเล็กเจ้าอยู่บ้านดูแลหนิงจินกับหนิงหรงนะ ห้องใหญ่ที่ติดกับห้องที่เจ้านอนช่วยกันเก็บกวาดหน่อย พี่จะใช้เก็บเสบียงน่ะ"
เด็กๆรับปากก่อนจะกินโจ๊กกับหมั่นโถว ไป๋ซู่ฮวาตักโจ๊กใส่ชามจากนั่นก็ใส่ตระกร้าคลุมผ้าเดินไปทางบ้านใหญ่
"อาเล็กๆ ข้าเองเจ้าสามท่านอยู่หรือไม่"
"อยู่ๆ เสี่ยวฮวาหรือเจ้ามาหาอาทำไมกันเดี๋ยวติดโรคจากอาหรอก" ไป๋ลู่เอ่ยแก่หลานสาว นางมีตุ่มขึ้นตามใบหน้า บางครั้งก็เจ็บมาก ไป๋ซู่ฮวาเห็นใบหน้าอาสาวก็ไม่ได้ตกใจ นางเป็นสิวอักเสบสินะ ต้องทำให้หน้าตาสะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่สะสมฝุ่นละออง
"อาเล็ก ท่านไม่ได้ป่วยหรอกมันเป็นอาการของคนที่ผิวแพ้ง่ายนะ ท่านอย่ากินพวกผักดองมากล่ะ ล้างหน้าบ่อยๆเดี๋ยวก็ดีขึ้น น้ำซาวข้าวเก็บเอาไว้รินแต่ที่ใสๆเอาไว้ล้างหน้าอดทนหน่อยไม่นานก็ดีขึ้น แต่มีเรื่องหนึ่งข้าต้องพูดท่านย่าจะขายท่านให้คนต่างถิ่นเขาต้องการสตรีที่หุงหาได้ซักผ้าเป็น เพื่อไปทำงานให้ที่เหมืองบางทีอาจต้องหลับนอนกับคนงานด้วยหากพวกเขามีความต้องการ เดิมทีคิดจะขายน้องชายข้าด้วยแต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วเสี่ยวหยางแยกบ้านมาแล้ว ข้ารู้จักคนๆหนึ่งถ้าท่านตัดใจจากบิดามารดาแสนซื่อตรงได้ข้าจะพาไปพบเขาให้เขาช่วยเหลือ"
ไป๋ลู่รู้ดีว่าหลานสาวเอ่ยประชด บิดามารดารังเกียจที่จนป่านนี้นางยังแต่งไม่ออกเดิมทีตอนเด็กใบหน้างดงาม ใครจะรู้พออายุสิบสามก็เริ่มมีตุ่มขึ้นตามใบหน้า จากนั้นใบหน้าเกลี้ยงเกลาก็ดูน่ารังเกียจ พวกเขาจะขายนางหนำซ้ำยังจะขายให้พวกกรรมกรเร่ร่อนที่อาศัยรับจ้างขุดเหมือง น้ำตาไป๋ลู่ค่อยๆไหล ช่างเป็นพ่อแม่ที่รักลูกเหลือเกิน
"ฮือๆๆ หากพวกเขาอยากขายข้าเสี่ยวฮวาเจ้าก็ช่วยอาไม่ได้หรอกฮือๆ ว่าแต่เจ้าเป็นอย่างไรบ้างบุรุษผู้นั้นดีกับเจ้าหรือไม่ ข้ารู้เรื่องจากเสี่ยวหยางแล้ว โชคดีที่ไม่ได้แต่งกับคนแซ่จางนั่นไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเอาเจ้าไปขายที่ใดหรือทำอะไร สารเลวจริงๆ ว่าแต่เหตุใดถึงงามขึ้นนัก ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าขาดๆเก่าๆแล้ว ยังมีดอกไม้ผ้าแซมผมมอีก เจ้างามจริงๆนะเสี่ยวฮวา"ไป๋ลู่เอ่ยชมหลานสาวนางไม่อยากเศร้าเรื่องที่บิดามารดาลำเอียง
"อาเล็กข้ามีวิธีรับมือกับพวกเขา ส่วนสามีข้าคนนั้นนับว่าเป็นคนดีไม่น้อย แต่ว่าเขามีคนรักอยู่แล้วหากวันหนึ่งเขาต้องการหย่ากับข้าๆก็คงต้องทำใจ ไม่เป็นไรหรอกคนเราบังคับกันไม่ได้ " อาหลี่ที่ได้ยินถึงกับสะอึก คนรักหรือท่านแม่ทัพท่านมีคนรักเมื่อใดกันเหตุใดอาหลี่ไม่ทราบเล่าอยู่มาจนปูนนี้แล้ว
ด้วยความที่หยางหนิงเฉิงใบหน้าเด็กมากเขาที่อายุยี่สิบสามในตอนนั้นกลับเข้าเรียนสำนักศึกษาผู้ใฝ่คุณธรรมได้ง่ายดายด้วยการบอกว่าเขาอายุสิบเจ็ด จนถึงตอนนี้ยี่สิบหกแล้วคนก็ยังดูไม่ออก
"อาเล็กรอข้าจัดการเรื่องท่านก่อนค่อยรักษาใบหน้าของท่าน ข้ารู้จักหมอเทวดาคนหนึ่งแต่หากรักษาตอนนี้ท่านงดงามขึ้นมาเกรงว่าท่านแม่และท่านพ่อที่แสนดีของท่านจะเร่ขายท่านให้เศรษฐีคนใดคนหนึ่งอีกเพื่อนำเงินมาเติมท้องลุงใหญ่ ข้าไปล่ะจะไปหาท่านน้าฮวนสักหน่อยเพื่อขอซื้อถุงกระสอบ"
ไป๋ซู่ฮวากำลังจะจากไปแล้วอาหลี่เดินมาจากทางไหนไม่ทันสังเกตเขาเห็นไป๋ลู่จึงคำนับเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย
"แม่นางข้าชื่ออาหลี่ขอรับ คือว่าข้าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับบัณฑิตขาเป๋ที่ชื่อหนิงเฉิง ได้ข่าวว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่ไม่ทราบว่าท่านรู้จักหรือไม่ขอรับ"
"อ้อ สี่ยวฮวานั่นใช่ชื่อสามีเจ้าหรือไม่มีญาติของเขามาหาน่ะ" ไป๋ซู่ฮวาหันหน้ามามองเด็กหนุ่มที่มาใหม่ ไอ้หมอนี่มาจากทางไหนกัน นี่ไม่ใช่ทางเข้าหมู่บ้านนี้ อาหลี่รู้ว่านางสงสัยจึงเอ่ยขึ้น
"เอ่อ ท่านคือภรรยาพี่ชายข้าหรือคือข้าเดินตัดเขามานะไม่มีเงินจ้างเกวียนหรอกเห็นคนบอกว่าหมู่บ้านไป๋ฮวาเดินข้ามเขาสิบวันก็ถึงข้าเลยเดินเอาขอรับ"
"อ้อ งั้นก็ตามมาเถอะ อาเล็กท่านอย่าลืมที่ข้าพูดนะออกไปบ่อยๆให้คนเหล่านั้นเห็นใบหน้าไม่ต้องปิด พวกเขาอยากขายท่านแต่คนเขาไม่กล้าซื้อยังจะขายได้หรือ อยากได้เงินจนลืมผิดชอบชั่วดีไม่คิดหรือว่าบุตรสาวอาจถูกคนตีตายหมายังรักลูกตัวเองเลย มารดาท่านนี่เทียบสุนัขยังไม่คู่ควร"
อาหลี่สะอึกแม้แต่เหล่าเพื่อนองครักษ์บนต้นไม้ก็สะอึก ฮูหยินที่ด่าอยู่นี่มิใช่ผู้อาวุโสบ้านท่านหรอกหรือ มิน่าท่านแม่ทัพถึงบอกว่าปากเก่งนักสักวันจะทำให้หยุดพูดให้ได้ เฮ้อสงสารฮูหยินจริงๆไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษแบบใดคงไม่กรอกยาใบ้ให้หรอกนะเสียดายตายเลย ฮูหยินงามอย่างกับเทพธิดาเมื่อก่อนถูกใช้อยู่แต่ในนาไม่แต่งตัว พอนางเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวเกล้าผมขึ้นมางดงามยิ่งนัก พวกเขาอยู่ที่นี่กันมาสามปีแล้วยังไม่เคยเห็นใครงามเท่านางเลย เจ้าบัณฑิตหน้าขาวนั่นถ้ามาเห็นตอนนี้คงเสียดายจนกระอักเลือดตายแน่ๆ
ไป๋ซูหยางกับกำลังช่วยกันกับเด็กทั้งสองกวาดพื้นห้อง โต๊ะเก้าอี้หนักเกินไปพี่สาวเขาบอกว่าจะกลับมาทำเอง ไป๋ซู่ฮวาเปิดประตูห้องที่หยางหนิงเฉิงนอนหลับอยู่ ก่อนจะให้คนมาใหม่รอด้านนอกนางปลุกเขาค่อยๆเขย่า
"นี่ตาทึ่ม ตื่นเถอะมีคนมาหาท่านแหนะ ตื่นๆ" หยางหนิงเฉิงลืมตาก่อนจะใช้แขนรัดแผ่นหลังนางแล้วจับพลิกไว้ใต้ร่าง
" คำก็ตาทึ่มสองคำก็ตาทึ่ม เรียกใหม่ไม่งั้นข้าจะลงโทษเจ้านะ"
"นี่ข้าหนักนะ เดี๋ยวขาท่านก็อักเสบหรอกหายไข้แล้วหรือ ไม่เรียกตาทึ่มจะให้เรียกอะไรเล่า อื้อๆๆๆ"
หยางหนิงเฉิงจูบนางเรียกร้องจนคนใต้ร่างทั้งทุบทั้งผลักไม่นานนางก็อ่อนลงยอมรับจุมพิตแสนหวานนั้น ก่อนหยางหนิงเฉิงจะปล่อยอย่างเสียดาย
"ต่อไปให้เรียกว่าท่านพี่ หรือไม่ก็สามีเข้าใจไหมไม่งั้นข้าจะทำโทษเจ้าอีก ขาข้าเจ็บแต่อย่างอื่นข้าแข็งแรงนะเด็กดื้อ"
"ได้ๆ ไม่เรียกตาทึ่มแล้วปล่อยก่อนข้าหนักอื้อๆ"เขาจูบนางอีกครั้งๆนี้เรียกร้องกว่าเดิมมือหนาเริ่มซุกซนจนไป๋ซู่ฮวาต้องยึดเอาไว้ ก่อนจะออกแรงผลักเขาออก
"ข้าก็ไม่เรียกตาทึ่มแล้วไงท่านยังรังแกข้าอีก ไม่รักษาสัญญานี่" หยางหนิงเฉิงพลิกกายลงรั้งนางมากอดก่อนจะเอ่ย
"ข้าไม่ได้ลงโทษ ข้าให้รางวัลเด็กดีต่างหาก เจ้าน่ารักขนาดนี้ใครจะลงโทษลง ว่าแต่ใครมาหาหรือ"
ไป๋ซู่ฮวาค้อนเขา เฮ้อนางมาอยู่ร่างนี้สองวันก็จริงแต่ดูเหมือนว่ายัยหนูคนก่อนจะมีใจให้ไอ้หมอนี่ พอถูกจู่โจมถึงอ่อนระทวยนี่ถ้าไม่หยุดคงได้เปลื้องผ้าซัดกันยับแน่ ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกเจ้าของร่างเดิมที่หลงรักผู้ชายคนนี้ ไอ้บ้าจางชุนนี่วางยาถูกคู่ซะด้วย ไป๋ซู่ฮวาดันตัวเองออกจากคนตัวโตจัดเสื้อผ้าก่อนจะบอกธุระแก่เขา
"มีคนมาหา เขาบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องท่านชื่ออาหลี่น่ะ"
"อ้อ เรียกเขาเข้ามาเถอะข้าขาเจ็บไม่สะดวกลุกออกไป ดูเหมือนจะเจ็บเอวตั้งแต่คืนนั้นยังไม่หายดีเลยข้าคงออกแรงมากไปกระมัง เห็นทีว่าต้องออกแรงอีกสักครั้งที่เขาว่าหนามยอกเอาหนามบ่งประมาณนั้น"
"คนลามกนี่ขนาดท่านเจ็บขานะยังเอาเปรียบอยู่ได้ ข้าจะไปตามคนพวกท่านคุยกันไปเถอะ อ้อเมื่อสักครู่ท่านหลับข้าจะไปท้ายหมู่บ้านไปขอซื้อกระสอบกับท่านน้าฮวน เดี๋ยวกลับมาอื้อๆๆๆ" เขารั้งนางมาจูบอย่างไม่รู้อิ่มอีกครั้ง ไป๋ซู่ฮวารีบเอ่ยละล่ำละลักทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออก ทำไมตอนรังแกนางดูไม่เหมือนคนเจ็บสักนิด ทีตอนนี้สีหน้าดูเหมือนทรมานเสียเต็มประดา คนบนเตียงทรมานมากนักแต่เขาทรมานเพราะนางนี่แหละอยากจับเมียกดลงที่นอนจะแย่ ไม่นานอาหลี่ก็เข้ามาก่อนจะทักทาย
"พี่ข้าตามหาท่านตั้งนาน กว่าจะรู้ว่าท่านอยู่ที่นี่ อ้อเมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าพี่คือสามีของแม่นางคนนี้หรือขอรับ"
"หึแสดงเก่งกว่าข้าอีกนะองครักษ์หลี่"หยางหนิงเฉิงค่อนขอด
"แหม่ท่านแม่ทัพ ข้าเรียนมาจากท่านมิใช่หรือ"
สองนายบ่าวส่งสายตาไปมา
"เอ่อ อาซ้อข้าชื่ออาหลี่ยินดีที่ได้พบท่านะขอรับ"
"อ้อ เช่นกันข้าชื่อซู่ฮวา ข้ามีธุระต้องไปก่อนขอตัวนะพวกท่านตามสบายเถอะ"
ไป๋ซูหยางออกไปแล้วเสียงเกวียนวัวค่อยๆเคลื่อนออกไปจากบ้าน อาหลี่จึงหันมาหาเขา
"ได้ข่าวว่าตอนนั้นที่ถูกตามล่าฉินกุ้ยเฟยกับคนของนางหนีไปได้หลังจากที่ซ่อนองค์ชายกับองค์หญิงไว้แล้วจึงล่อคนของฮองเฮาออกไป ดูเหมือนนางยังไม่ตายขอรับ"
"หนิงจินกับหนิงหรงยังไม่ถึงห้าขวบ หากเข้าวังตอนนี้ก็ต้องถูกเลี้ยงดูโดยฮองเฮา รอตามหาฉินกุ้ยเฟยให้เจอก่อนหากนางไม่อยากเข้าวังค่อยว่ากัน แต่อย่างไรนี่ก็คือสายเลือดมังกรจะระเหเร่ร่อนนานไปก็ไม่ได้ แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม"
"เอ่อ ได้ยินแว่วๆว่าบ้านใหญ่จะขายบุตรสาวคนเล็ก เห็นอาซ้อบอกว่าให้อาเล็กนางออกไปให้คบพบหน้าบ่อยๆให้เรื่องถึงหูคนที่จะมาซื้อขอรับ"
"เมียข้าฉลาดจริงๆนะ อืมมีเรื่องอะไรอีก ข้าง่วงสงสัยเพราะยาแก้ไข้นั่นแหละ"
"เห็นอาซ้อบอกอาเล็กของนางให้เก็บเห็ดให้มากหน่อย เพื่อขอบคุณใต้เท้าลู่ที่มาจากเมืองหลวงอาจอยากชิมอาหารป่าขอรับ"
"ใครใช้ให้นางวุ่นวายกัน ไอ้เด็กนั่นไม่อยู่เมืองหลวงมาวุ่นวายอะไรเมียชาวบ้าน"
"ท่านแม่ทัพเขาเป็นถึงหลายชายท่านเสนาบดี อีกอย่างยังพ่วงตำแหน่งหนึ่งในสี่ยอดบุรุษงามแห่งเมืองหลวงเชียวนะขอรับ"
"เหอะ ก็แค่หนึ่งในสี่ของเมืองหลวงข้าเป็นยอดบุรุษงามในใต้หล้ายังไม่อวดเลย หลานเสนาบดีลู่แล้วไง ข้าเป็นหลานฮ่องเต้มีอะไรต้องกลัวกัน"
"ท่านอ๋องโรคหลงตัวเองต้องให้ท่านหมอหยุนรักษานะพ่ะย่ะค่ะ" อาหลี่พูดจบก็รีบจากไปทันทีอย่างรู้ตัว หยางหนิงเฉิงสะบัดมือใส่ไอ้เด็กบ้านั้นไม่ทัน หึเกาะแกะเมียข้าหรือระวังตัวให้ดีนะคุณชายลู่