เจ้ากลับไปเรียนอีกครั้ง

1565 Words
หยางหนิงเฉิงเป็นบัณฑิตเรียนดีลายมืองดงามจึงมีรายได้จากการเขียนหนังสือและวาดภาพอวยพร สาเหตุที่จางชุนเลือกลงมือกับเขาก็เพราะต้องการให้หยางหนิงเฉิงเสียชื่อเสียง คบชู้ภรรยาคนอื่นจะมีสิทธิ์เข้าสอบได้อย่างไร เพราะตาทึ่มนี่ขาเจ็บไปสอบคราวนี้ไม่ได้ตำแหน่งซิ่วไฉจึงตกเป็นของไอ้หน้าปลาในนั่น "หึ ยังหรอกแกยังรับผลกรรมไม่พอ ยังมีของขวัญอีกหึ" ไป๋ซู่ฮวาอวยพรไอ้หน้าปลาในนั้นอย่างกัดฟัน ยามเหมาแล้วโจ๊กในหม้อได้ที่ไป๋ซู่ฮวาปั้นหมูใส่ในน้ำแกงกระดูกหมูก่อนจะค่อยๆเทใส่หม้อโจ๊กทีละน้อยคนเบาเมื่อเรียบร้อยก็เอาหม้อออกต้มน้ำสำหรับล้างหน้าให้ทุกคน จากนั้นก็หันไปนึ่งหมันโถว เสียงกุกกักๆเดินมาหาก่อนที่จะมานั่งข้างๆคอยดูไฟให้ "ตื่นมาทำไมแค่นี้พี่ทำเองได้ ไม่ได้อยู่บ้านนั้นแล้วพักผ่อนเถอะฟ้าสว่างค่อยตื่น" "ข้านอนไม่หลับ พี่ใหญ่ข้าคิดถึงท่านพ่อกับท่านแม่ขอรับ"ไป๋ซูหยางร้องไห้ซุกกับหน้าอกพี่สาวกอดนาวแน่น สะอื้นจนไหล่สะท้านไป๋ซู่ฮวากอดเขาไว้ตบหลังให้น้องชายเบาๆ "พี่ก็คิดถึง แต่ซูหยางฟังพี่นะคนจากไปแล้ว เราสองคนต้องมีชีวิตที่ดีท่านพ่อท่านแม่มองอยู่จากบนนั้นจะได้ไม่ทุกข์ใจ" "พี่ใหญ่ พี่เขยเป็นคนดีไหมขอรับ เอ่อเขาสั่งให้เรียกเขาว่าพี่เขย"ไป๋ซูหยางมองหน้าพี่สาว "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อก่อนแค่เจอหน้าไม่เคยพูดคุยหรือทักทาย แต่ในเมื่อต้องอยู่ด้วยกันแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ น้องเล็กพี่ติดหนี้ท่านหมออยู่สิบตำลึง หากหมดหนี้ก้อนนี้พี่จะส่งเจ้าไปเรียนอีกครั้งหนึ่ง" "พี่ใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการศึกษานั้นสูงมาก ข้าไม่เรียนแล้วขอรับ ข้าไม่อยากเห็นท่านลำบากอีก"ไป๋ซูหยางสงสารพี่สาวของเขา นางยอมถูกทุบตีเพื่อแอบแบ่งอาหารให้เขาเสมอ ไป๋ซูหยางคลอดก่อนกำหนดร่างกายจึงอ่อนแอ หลังจากที่พ่อแม่จากไป บ้านใหญ่ก็ลำเอียงเห็นได้ชัด อาหารก็ให้พี่สาวเขาทำหญ้าหมูเขาก็เป็นคนเกี่ยว อาเล็กมาเขาช่วยก็ถูกด่าไล่ไปหาว่านางเป็นตัวเชื้อโรคเดี๋ยวจะเอามาติดหมูที่เลี้ยงอีก "น้องเล็ก พี่กับพี่เขยคนนั้นของเจ้าไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร อีกอย่างเขามีคนรักอยู่แล้ว หากเจ้าไม่เรียนภายภาคหน้าพี่จะพึ่งผู้ใด สตรีที่เป็นหม้ายใช้ชีวิตลำบากมากนะ เจ้าดูท่านป้าไป๋ฮวนท้ายหมู่บ้านสิ จะไปมาไหนก็ลำบากมีแต่สายตาจ้องมอง หากว่าสามีนางตายยังพอทำเนา แต่นี่สามีนางอยากมีเมียน้อยแล้วทอดทิ้งพวกนางแม่ลูก วันหนึ่งพี่เขยเจ้าก็ต้องเลือกคนรักเขาอยู่ดี ตอนนี้เขาป่วยร่างกายย่ำแย่อาศัยบ้านเขาเราก็ช่วยกันดูแลเขากับน้องไปก่อน หากเขาหายดีเราค่อยว่ากัน อาจแบ่งที่ดินตรงนั้นปลูกบ้านหลังเล็กๆอยู่กันพี่น้องก็ได้" ไป๋ซู่ฮวาลูยหัวน้องชายก่อนจะผสมน้ำอุ่นเตรียมไปเช็ดตัวให้หยางหนิงเฉิง เมื่อคืนเขามีไข้ไม่รู้ว่าตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง ไป๋ซู่ฮวาไม่รู้เลยว่าคนบนเตียงโมโหนางจะเป็นจะตายอยู่แล้ว ไอ้เด็กบ้านั่นเก้าขวบแล้วนะจะร้องไห้ก็ร้องไปสิ ทำไมต้องกอดแน่นเชียวยังซุกหน้ากับอกพี่สาวเจ้าอีกที่ตรงนั้นของข้านะไอ้น้องเมีย อาหลี่ที่เพิ่งมารายงานข่าวเห็นหน้าที่ดำเป็นก้นหม้อของเขาก็ถามไถ่ "ท่านแม่ทัพขอรับ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าอาหลี่ทำอะไรผิดไปหรือไม่ขอรับ" "ไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอกสตรีบ้านนั่นฟุ้งซ่านปีนเตียงข้าเสร็จแล้ววันๆคิดแต่จะถีบหัวส่ง"หยางหนิงเฉิงโมโหจะตายอยู่แล้วคำก็จะไปสองคำก็จะไปหึ "เอ่อ ว่ากันว่าหากสตรีชอบคิดฟุ้งซ่านก็ต้องทำให้นางไม่ว่างขอรับ" "ทำให้พวกนางไม่ว่าง ทำอย่างไรใช้งานพวกนางหรือ" "เอ่อ ว่ากันว่าหากสตรีตั้งครรภ์มีบุตรพวกนางจะไม่มีเวลาว่างให้ไปคิดเรื่องอื่นขอรับท่านแม่ทัพข้าน้อยได้ยินมาเช่นนี้" เสียงไป๋ซู่ฮวาเดินเจ้ามาอาหลี่จึงรีบไป หนางหนิงเฉิงยังคงแกล้งหลับอยู่ ไป๋ซู่ฮวาถูกเขาบีบข้อมือเมื่อคืนนี้ยังเจ็บอยู่ ตาที่มนี่สัญชาตญาณระแวงภัยดูไม่เหมือนบัณฑิตแก่เรียนสักนิด นางกลัวเขาจะเล่นงานนางอีกจึงเอ่ยปากเรียกก่อน "หยางหนิงเฉิง ตาทึ่มท่านตื่นหรือยัง" เสียงงึมงำจากคนบนเตียงทำให้ไป๋ซู่ฮวาเดินไปใกล้ๆก่อนจะเอามืออังหน้าผากของเขา ยังตัวรุมไปนิดๆ "หนางหนิงเฉิง เมื่อคืนเจ้ามีไข้เดี๋ยวข้าจะเช็ดตัวให้ อย่างอแงล่ะ" เขาไม่ใช่เด็กนะจะได้งอแง แต่ก็เพียงพยักหน้ารับรู้ ไป๋ซู่ฮวาปลดสายรัดเอวเขาออก ค่อยๆใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามตัวเน้นซอกคอรักแร้ และจุดอับต่างๆเพื่อคลายความร้อนในร่างกาย หยางหนิงเฉิงที่ตอนนี้เขาร้อนรุ่มกว่าพิษไข้เสียอีก กลิ่นกายนางยั่วเย้าคนป่วยเสียจนอยากพลิกนางลงใต้ร่างแล้วทำให้นางครางเสียงหวานให้เขาฟังอีกจริงๆ ทำให้นางตั้งครรภ์ให้นางมีลูกจะได้ไม่ฟุ้งซ่านหรือช่างเป็นความคิดที่ดี กักไว้บนเตียงสักสามวันสามคืนน่าจะพอทำให้หยางเฉิงน้อยมาเกิดได้ ไป๋ซู่ฮวาไม่รู้ว่าคนป่วยคิดอะไรอยู่หลังจากเช็ดตัวเขาเรียบร้อยนางก็ยกน้ำออกไปเททิ้ง สักพักก็ถือชามโจ๊กเข้ามา "หยางหนิงเฉิง ท่านลุกไหวหรือไม่ทานโจ๊กหน่อยเถอะเดี๋ยวจะได้กินยา" ทำไงดีลูกไม่ไหวนางจะป้อนเขาไหม อืมเอาตามนี้แหละ "เมียจ๋าข้าไม่มีแรง เจ้าวางไว้ก่อนเถอะเดี๋ยวลุกไหวข้ากินเอง ลำบากเจ้าแล้ว" "อึ๊ยตาบ้านี่เลี่ยนแต่เช้าเลย ลุกขึ้นมาเถอะเดี๋ยวข้าประคองเอง" ไป๋ซู่ฮวาก้มลงไปโอบหยางหนิงเฉิง เขากอดแผ่นหลังของนางแน่นราวกับกลัวว่านางจะทำเขาตกเตียง อาหลี่ที่แอบมองอยู่ถึงกับถอนหายใจ ท่านแม่ทัพท่านแสดงเก่งเกินไปแล้ว ไปซู่ฮวาวางหมอนข้างหลังเขา ก่อนจะคนโจ๊กเบาๆป้อนเขาทีละคำๆ คนตัวโตอ้าปากรอ "อร่อยหรือไม่ ในหม้อมีอีกท่านป่วยอยู่อีกทั้งยังลงจากเตียงไม่ได้ ขยับเขยื้อนน้อยร่างกายท่านตอนนี้กินทีเดียวไม่ดี" "ไม่มีอะไรอร่อยเท่ากับเจ้าหรอกเด็กดี" หยางหนิงเฉิงกระซิบเสียงพร่า ไป๋ซู่ฮวาฟังไม่ถนัดจึงมองหน้าเขา "ท่านว่าอะไรนะ ข้าฟังไม่ถนัด" "ข้าบอกว่าไม่มีใครทำอาหารอร่อยเท่าเจ้าแล้ว" หยางหนิงเฉิงไม่พูดปากเปล่ารั้งนางเข้ามากอดกดจมูกโด่งลงบนซอกคอนางเอ่ยน้ำเสียงอู้อี้ "ข้าหนาวจัง สงสัยไข้ขึ้นอีกแล้วขอกอดหน่อยนะหนาวมากเลย" "นอนดีๆเดี๋ยวห่มผ้าให้ อย่ามือไม้ซุกซนเป็นเด็กน้อย" คนตัวโตงอแงจนนางอ่อนใจ นางคิดว่าเขาไม่สบายตัวเพราะพิษไข้จึงไม่ถือสา คนตัวโตแอบแตะนั่นจูบนี่ตลอดเวลา นางให้เขานอนลงก่อนจะห่มผ้าให้ไป๋ซู่ฮวาขยับขึ้นเตียงทอดกายลงข้างๆกอดเขาไว้ มือบางลูบหลังให้เขาอย่างอ่อนโยน หยางหนิงเฉิงกอดนางแนบแน่น ความรู้สึกนี้ช่างอบอุ่นหอมหวานจริงๆทั้งๆที่เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะแต่งงานแต่ ผู้หญิงคนนี้ทำใจเขาหวั่นไหวกระทั่งได้ยินเสียงนางกระซิบอ่อนโยน "อย่างอแงนอนได้แล้ว เดี๋ยวตอนเที่ยงค่อยตื่นมากินยา" หยางหนิงเฉิงค่อยๆหลับไป เสียงเด็กๆตื่นแล้วไป๋ซูหยางกำลังช่วยพวกเขาล้างหน้าแปรงฟัน ไป๋ซู่ฮวาค่อยๆขยับเอาลำแขนแกร่งที่โอบนางออกก่อนจะห่มผ้าให้หยางหนิงเฉิงอย่างเบามือ อังหน้าผากเขาอีกครั้งตัวไม่ร้อนเท่าไหร่แล้วหลังจากนั้นก็ไปดูเด็กๆ อาหลี่ที่จะไปตามท่านหมอหยุนคราแรกเลยไม่ต้องไป ท่านแม่ทัพมีหมอประจำตัวดูแลแล้ว เขาหาข่าวมาทั้งคืนอยากนอนบ้างเช่นกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD