“ทำงานจะครบสามเดือนแล้ว หนูดาวมีปัญหาอะไรจะถามพ่อบ้างหรือเปล่า หรือมีอะไรจะเสนอแนะบ้างมั้ย บอกพ่อมาได้นะไม่ต้องเกรงใจ” และก่อนจะถึงกำหนดกลับจากสเปนของลูกชาย อาทิตย์ก็เอ่ยปากถามสะใภ้ ขณะนั่งกินมื้อเช้าด้วยกัน
“งานไม่มีปัญหาอะไรค่ะคุณพ่อ แต่...เอ่อ...” เหมือนดาวหันไปหาสองเพื่อนที่รู้ดีว่ามีอะไรค้างคาในใจอยู่ “มีอะไรก็ว่ามาเลย ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ถึงพ่อไม่ได้ทำงานมานานแล้ว แต่พ่อก็ไม่ใช่ไม่รู้ไม่เห็นอะไรนะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในนี้ไม่รอดพ้นตาพ่อไปได้หรอก”
สะใภ้วัยละอ่อนยิ้มจางๆ ให้เมื่อพ่อสามีเดาถูก และได้โอกาสขนาดนี้ สิ่งที่คิดไว้ในใจมาแรมเดือนก็ถึงเวลานำเสนอทันที แม้จะไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม “ความจริงหนูดาวมีโครงการเสนอคุณพ่อเหมือนกันค่ะ แต่ไม่กล้าคิดว่าคุณพ่อจะเห็นด้วยหรือเปล่า จะให้หนูดาวทำเป็นโปรไฟล์ส่งเลยมั้ยคะ คุณพ่อจะได้เอาไปอ่านทีเดียวเลย”
“เล่าคร่าวๆ ด้วยปากเปล่ามาก่อนสิ พ่ออยากฟัง ถ้าพ่อสนใจค่อยทำเสนอมาเต็มรูปแบบ” อนุทัยกับนรรยารับพยักหน้าให้เพื่อนเพื่อเป็นกำลังใจด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มทันที
“คือว่าหนูดาวอยากจะเสนอให้คุณพ่อทำสวนสวยๆ มีของให้ดูแบบครบวงจร แล้วดึงคนเข้ามาชมได้ตลอดปี ไม่ใช่มาชมเป็นหน้าๆ เหมือนไร่ทานตะวันของพ่อน่ะค่ะ” อาทิตย์คิดตามแต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี “แล้วยังไงต่อล่ะหนูดาว” สะใภ้สาวค่อยมีกำลังใจขึ้นมาอีกนิด เมื่อพ่อสามีมีท่าทีสนอกสนใจขึ้นมา
“ก็คือว่าหนูดาวอยากใช้พื้นที่พันกว่าไร่ที่คุณพ่อบอกว่าเป็นแค่ทุ่งหญ้าให้ม้ากิน มาทำเป็นสวนพฤกษาโดยการเอาไม้ดอกพันธุ์ต่างๆ มาปลูกจนเต็ม ให้มี ดอกออกมาตลอดปี ดึงคนเข้ามาชมน่ะค่ะ หรือไม่ก็ดึงเอาประเพณีหรือวิถีชีวิตของคนอีสานมาไว้ในสวน ไม่ว่าจะเป็นการทำนา ทำสวนผักสารพัดที่เรากินเองได้ หรือขายให้คนเข้ามาชมสวนได้ ข้าวก็เหมือนกันค่ะ เราทำกินและขายในราคาถูกให้คนมาชมก็ได้”
“แต่เท่าที่พ่อจำได้เรามีคู่แข่งสำคัญที่เขาทำแบบนี้อยู่แล้วนะหนูดาว” แม้จะโปรดสะใภ้ แต่อาทิตย์ก็ไม่คิดจะทำเป็นลืมโดยไม่โต้แย้งหากไม่ตรงกับใจคิด
“มีค่ะคุณพ่อ แต่ปีหนึ่งเขาเปิดให้คนเข้าไปดูแค่เดือนหรือสองเดือนเท่านั้นค่ะ ส่วนอีกฟาร์มเปิดตลอดปี แต่ค่าเข้าแพงไปหน่อยในความคิดของหนูดาว เราน่าจะปรับข้อเสียของสองที่นี่มาใช้กับสวนเรานะคะ อีกอย่างเรามีม้าเป็นร้อยๆ ตัว ดึงคนได้เพิ่มอีกค่ะ”
“อืมห์! ก็น่าคิดนะ”
“จริงๆ ค่ะ แล้วที่สำคัญหนูดาวคิดว่าเราน่าจะทำเป็นจริงจัง ด้วยการสร้างโรงแรมไว้รองรับคนอยากจะมาพักผ่อนหลายๆ วันไว้ในสวนด้วย พืชผักหรือว่าข้าวก็เอาเข้ามาใช้ในโรงแรมได้ มีรถกอล์ฟคอยบริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือไม่ก็เก็บสักคนละสิบบาทขึ้นได้ตลอดสายเลย อาจจะจัดการแสดงต่างๆ ไว้สักเวที โชว์วันละสักสองสามรอบ ถ้าวันหยุดก็เพิ่มรอบไปหน่อย ให้ชมฟรีไปเลยค่ะ คร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะ คุณพ่อคิดว่าไงคะ”
อาทิตย์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองหน้าสะใภ้ที่ดูเหมือนจะรอคำตอบอย่างใจจดจ่ออยู่แล้ว “มันก็น่าคิดนะ แต่ว่าเจ้าตะวันไม่ชอบงานบริการอะไรเลย ยกเว้นสอนคนขี่ม้าน่ะ ใครจะเป็นหัวแรงสำคัญล่ะ”
“ก็หนูดาวไงคะ คุณอิสก็ช่วยได้ คนอื่นๆ ก็ช่วยได้ค่ะ เราร่วมแรงร่วมใจกันทำแบ่งงานกันให้ดีๆ รับรองว่าต้องรุ่งแน่ๆ ค่ะ”
เหมือนดาวส่งแววตาสุกใสไปหาพ่อสามีทันที เมื่อเห็นแววว่าโปรเจกต์ตัวเองจะมีผลบวกขึ้นมา “อ้าว! แล้วถ้าเกิดเลยสามปีแล้วหนูดาวหย่ากับเจ้าตะวันล่ะ ใครจะทำต่อไม่ใช่ให้พ่อลุงทุนเป็นร้อยล้านพันล้านแล้วก็มาทิ้งกันนะ พ่อไม่เอาหรอก เดี๋ยวเจ้าตะวันด่าตายเลย”
“หนูดาวจะทิ้งไปไหนคะ ในเมื่อไร่กับรีสอร์ตของหนูดาวก็จะอยู่ในสวนเดียวกัน ถึงเวลานั้นหนูดาวก็ทำงานต่อให้คุณพ่อได้ค่ะ จะให้เป็นลูกจ้างหรือเป็นหุ้นส่วนมีรายได้จากผลประกอบการก็ได้นะคะ คุณพ่อไม่ต้องกลัวเลยค่ะ รับรองว่าหนูดาวไม่ไปไหนไกลแน่ ก็นี่เป็นกิจการของพ่อหนูดาวด้วยนี่คะ”
“จริงเหรอ”
“จริงๆ ค่ะ” เมื่อเห็นพ่อสามียิ้มให้ สะใภ้เลยยิ้มออกมาบ้าง “งั้นก็ทำโปรเจกต์ส่งมาให้พ่ออีกที จะได้เอาไปคุยกับเจ้าตะวันด้วย ว่ามันจะเห็นด้วยหรือเปล่า” แต่มาถึงคำนี้เหมือนดาวทำหน้าละห้อยลงทันที เพราะรู้ดีว่าสามีในนามจะไม่มีทางสนใจแน่ หรือเผลอๆ ก็อาจจะล้มโครงการตั้งแต่ยังไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ
“แล้วลูกค้าของคุณจะเป็นคนกลุ่มไหน มาจากไหนบ้าง เดือนหนึ่งๆ จะได้สักกี่บาทกันเชียว คุ้มค่ากับเงินลงทุนเป็นร้อยเป็นล้านเหรอ” เป็นจริงอย่างคิดไว้ไม่มีผิด เมื่อเรื่องนี้ถูกนำเข้าที่ประชุม โดยมีอาทิตย์เป็นประธานเพื่อกันไม่ให้ลูกชายปิดกั้นโอกาสเพราะความไม่ชอบเจ้าของโปรเจกต์เป็นการส่วนตัว
“ลูกค้าก็ทั่วประเทศล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวอร์คอิน เป็นกรุ๊ปจากส่วนเอกชนหรือราชการ เพราะเราไม่ได้มีแค่สวนไว้ให้ชม แต่มีที่พัก มีห้องจัดสัมนา ห้องจัดเลี้ยงรองรับได้สารพัดงาน ถ้าทีมขายเราเก่งๆ เราก็สามารถเรียกลูกค้าเป็นกรุ๊ปๆ จากต่างประเทศได้ด้วยค่ะ”
เหมือนดาวแจกแจงด้วยท่าทีสงบนิ่งไม่ใส่อารมณ์เหมือนเวลาปกติที่ปะคารมกับเขา “พูดน่ะมันง่าย แต่เวลาทำจะได้อย่างที่พูดหรือเปล่านี่สิมันยาก คุณเอาอะไรมาวัดว่ามันจะทำรายได้ให้ หรือใช้แค่ความรู้สึกเท่านั้น”