แต่ก็ไม่อาจจะให้เป็นอย่างที่ใจคิด เมื่อยังต้องพึ่งพาเงินทองของแสงตะวันที่หยิบยื่นให้เป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละเดือน ไหนจะรถกับบ้านอีกที่ได้มาโดยไม่ต้องทำอะไรนอกจากพลีกายให้เขาเชยชม กับต้องคอยข่มอารมณ์เวลาเขาควงคู่ขาคนอื่น หรือแม้แต่แต่งงานกับหญิงอื่นที่รวิสราไม่เข้าใจว่าเจ้าหล่อนทนให้สามีหิ้วผู้หญิงเข้ามานอนกกนอนกอดในบ้านได้ยังไง หรือจะมีเหตุผลเดียวกันคือ
‘เพื่อเงิน เพื่อสมบัติ’
‘ปึก ปึก ปึก’
ผู้จัดการไร่ ‘คล้ายเดือน เหมือนดาว’ เงยหน้าขึ้นไปมองตรงประตูกระจก ก็เห็นอายืนยิ้มแป้นให้ ก่อนจะเปิดเข้ามาพร้อมยกถุง
“สตูหมูกูลาซ กับปลาทอดตาต้าซอส ของดีของอร่อยสำหรับผู้จัดการโปรเจกต์ ‘สวนสวรรค์บนดิน’ หลานคนเก่งของอาจ้ะ รีบมาแทบตายกลัวจะไม่ทันมื้อเย็น”
“ขอบคุณค่ะอา” เหมือนดาวยกมือไหว้แล้วดูนาฬิกาข้อมือ “นี่เพิ่งสี่โมงเย็นเอง อาซื้อมาจากไหนคะนี่” เลยวางถุงไว้บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารมากมายก่ายกอง “แถวสนามม้าน่ะจ้ะ”
“เหรอคะ อาต้องไปกับนุกูลทุกอาทิตย์เลยหรือเปล่าคะ แล้วกลับมากันหรือยังคะ” เพราะแสงตะวันจะส่งม้าเข้าแข่งเสมอๆ จนฟาร์มมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาเมื่อม้าของเขาชนะบ่อยๆ “ถ้าว่างก็ไปถ้าไม่ว่างก็ไม่ไป ตอนนี้อามีหนูดาวมารับงานไร่กับรีสอร์ตไปเกือบหมดแล้วเลยมีเวลาได้พักบ้าง หลังจากเมื่อก่อนไปไหนไม่ได้เลย”
โสรัตน์ทรุดกายลงนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานหลานอย่างคุ้นเคย “แต่ตอนนี้หนูดาวจะบอกว่าอาอาจจะไม่มีเวลาว่างมากแล้วล่ะค่ะ เพราะหนูดาวจะฝากให้ดูแลไร่กับรีสอร์ตแทนบ้าง”
“ทำไมล่ะ นายอิสไปไหนไม่มาช่วยเหรอ”
“คุณอิสก็จะยุ่งเรื่องโปรเจกต์สวน หนูดาวก็ด้วย อาจจะดูแลไม่ทั่วถึงเลยจะฝากอาไว้ก่อนค่ะ ไว้ให้ทุกอย่างลงตัวแล้วอาค่อยพักนะคะ หนูดาวสัญญาว่าจะไม่กวนอาเลย แต่จะให้อากินเที่ยวและพักผ่อนได้ตามสบาย สมกับที่เหนื่อยมานานเพราะหนูดาวกับพ่อและพี่หนูเดือนเลยค่ะ”
“อาบอกแต่แรกแล้วว่าไม่อยากให้หนูดาวทำโปรเจกต์นี้ แล้วเป็นไงล่ะมานั่งเหนื่อยเอง เหนื่อยเยอะกว่าคนอื่นด้วย จะทำไปทำไมในเมื่อไม่ใช่ของเราสักหน่อย” เพราะโสรัตน์เป็นหนึ่งในคนที่โหวตให้โปรเจกต์หลานล้ม แต่ก็ต้านไม่อยู่ เลยต้องมาเห็นสภาพหลานนั่งจมอยู่กับกองเอกสารสารพัดแล้วตัวเองก็ช่วยงานอะไรไม่ได้
“แหม! ทำแล้วไร่เราก็มีผลพลอยได้ไปด้วยนี่คะอา”
“ไร่เราที่ไหน ในเมื่อที่เป็นชื่อคุณตะวันอยู่ ต่อให้คุณป๋าออกปากว่าจะโอนคืนให้หนูดาวก็เถอะ บอกตรงๆ ว่าอาไม่เชื่อน้ำคำหรอก ในเมื่อลูกรับปากแล้วยังคืนคำเรื่องหย่ามาแล้วเลย แล้วคำพ่อจะเชื่อได้แค่ไหนกันเชียว”
ประโยคนี้โสรัตน์เบาเสียงลงและหันซ้ายแลขวาไปด้วย แม้ในห้องจะมีความเป็นส่วนตัวแต่ก็ไม่กล้าไว้ใจใครทั้งนั้น เพราะทั้งตัวเองและหลานต้องพึ่งสองพ่อลูกนี้อยู่อีกนาน
“หนูดาวเชื่อว่าคุณพ่อพูดจริงและจะทำจริงค่ะ ถึงท่านจะให้ หนูดาวก็ไม่สะดวกใจจะรับมาฟรีๆ อยู่ดีค่ะอา แต่จะขอซื้อผ่อนจากท่านดีกว่า จะได้ไม่มีใครมาว่าเรา”
“จะซื้อทำไมล่ะหนูดาว ถ้าเขาให้เราก็รีบรับเลย เอามาไว้ในมือก่อน ถ้าบริหารไม่ไหวเราก็ขายให้คนอื่นไป ที่แปลงนี้มีคนอยากได้เยอะแยะ”
เหมือนดาวคิดตามคำอาอยู่ครู่หนึ่ง “หนูดาวคงไม่ขายหรอกค่ะอา หรือถ้าจะขายก็คงต้องขายคืนให้คุณพ่อตามเดิม ท่านคงไม่อยากให้ที่ของท่านตกไปอยู่ในมือใครนอกจากท่านหรือคุณตะวันเท่านั้น”
“ที่แกออกเยอะแยะ แกไม่มาสนหรอกหนูดาว แต่อีกยาวไกลกว่าจะถึงวันนั้น ไว้ค่อยมาว่ากันอีกทีดีกว่า ว่าแต่จะให้อาช่วยดูแลตรงไหนบ้างล่ะ”
เพราะป่วยการจะเถียงกับหลานหัวดื้อในตอนนี้ คนเป็นอาเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง “ก็ความเรียบร้อยของลูกค้าที่จะเข้าชมไร่ กับเข้าพักรีสอร์ตค่ะอา อาทิตย์หน้าหนูดาวต้องไปขอนแก่นกับสุรินทร์สองสามวันค่ะ แล้วก็คงจะต้องยุ่งกับโปรเจกต์หลายอย่างด้วย”
“ไปทำอะไร” “อ้อ! หนูดาวจะไปคุยกับญาติของเหน่งที่เป็นจ๊อกกี้น่ะค่ะ จะไปดูว่าเขาทำนาเก่งอย่างเหน่งโม้ไว้หรือเปล่า แล้วก็ต้องเข้าไปศูนย์หม่อนไหมด้วย หาคนมาทำงานค่ะ”
“เหรอ แล้วไปกับใคร ให้อาพาไปหรือเปล่า”
“อาไปแล้วใครจะดูแลทางนี้ล่ะคะ หนูดาวอยากให้คนใกล้ชิดดูแลมากกว่า ตอนแรกหนูดาวว่าจะไปเอง แต่คุณพ่อบอกว่าจะให้คุณอิสขับรถให้ค่ะ นี่หนูดาวก็ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จนะคะ วันนี้คงจะเลิกค่ำแน่ๆ เลยค่ะ”
“งั้นอาไม่กวนแล้วล่ะ อย่าลืมเอาของฝากไปกินด้วยนะ อร่อยสุดๆ อาไปพักก่อนขับรถมาไกลเหนื่อย”
“ค่ะอา”
เรนจ์โรเวอร์อีโวคไดนามิคแล่นเข้ามาในเวลาเกือบสามทุ่ม สายตาอันฉับไวมองไปยังชั้นสองของออฟฟิศก็เห็นไฟบางห้องเปิดเอาไว้ แสงตะวันรีบหักพวงมาลัยไปจอดกึกตรงหน้าประตูทันที
กุญแจในมือไม่ได้ใช้ประโยชน์เมื่อพบว่าประตูไม่ได้ล็อกไว้ด้วย เขารีบกลับไปหารถแล้วคว้าสมิธ แอนด์ วิลสัน ออโต้ เก้า มม. จากคอนโซลหน้ารถก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้าไปอีกครั้ง
สองเท้าก้าวขึ้นบันไดอย่างเงียบกริบและคล่องแคล่วแม้จะอยู่ในความมืด เพราะชินพื้นที่แล้ว แต่กับอีกคนกำลังสะพายกระเป๋าออกจากห้องทำงานนั้นไม่ใคร่จะชิน เมื่อนอกห้องมืดมิดไปหมด จึงเดินไปหาสวิตซ์ไฟโดยอาศัยแสงสว่างจากในห้องเท่านั้น
“อุ๊ย!!!”
แต่ยังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ไฟก็เปิดขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เหน็บอะไรสักอย่างไว้ด้านหลังขณะเดินตรงมาหาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับเอาเสียเลย แม้จะตกใจกับการมาของเขาแต่เหมือนดาวก็พยายามควบคุมสติเอาไว้ก่อน