บนโต๊ะอาหารมื้อเย็น หมอคิมกำลังจ้องมองพายรัญด้วยความแปลกใจ เพราะใบหน้าสวยสง่างาม รอยยิ้มหวานน่าเสน่หา หญิงสาวตรงหน้าแลดูเป็นคนใจเย็น มีความละเมียดละไม แตกต่างจากพาลินคนที่ตนพบที่โรงพยาบาลเมื่อเช้าโดยสิ้นเชิง
"อร่อยไหมคะพี่หมอคิม?" พายรัญเอ่ยถาม เพราะอีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองตนจนรู้สึกประหม่า ในขณะที่หมอคิลเลียนเอาแต่ดื่มไวน์หลังรับประทานมื้อเย็นเสร็จ หมอคิมรู้สึกแปลกใจ ที่เพื่อนสนิทไม่ได้มีสีหน้าของคนมีความสุขเลยหลังงานแต่งงาน
"อร่อยสิครับ อร่อยมากเลย ว่าแต่คุณลินทำกับข้าวเก่งจังเลยนะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยชื่นชม รอยยิ้มบนใบหน้าสวยของพายรัญจางหายไป เพราะหญิงสาวรู้สึกราวกับว่าคนที่ได้รับคำชื่นชมเรื่องทำอาหารเก่งนั้นคือพาลินไม่ใช่ตน
"กำลังหัดทำเรื่อยๆ ยังไม่ถึงกับเก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"โอ้โห รสชาติแบบนี้ระดับร้านหรูเลยล่ะครับ" เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว เพราะที่บ้านของเธอทำธุรกิจร้านอาหาร พายรัญจึงชื่นชอบการทำอาหารและขนมหวานเป็นที่สุด
"ชมเกินไปแล้วค่ะ" หญิงสาวคลี่ยิ้มเขินอาย
"พี่พูดจริงๆ นะครับ ไม่ได้ยอเลย"
"ขอบคุณค่ะ ถ้างั้นเชิญพี่หมอคิมคุยกับพี่หมอคิลตามสบายเลยนะคะ พาย...เอ่อ ลินจะไปเตรียมของหวานให้ค่ะ" คำพูดหลุดปากของหญิงสาวทำให้หมอคิมฉุกคิดครู่หนึ่ง ร่างเล็กรีบลุกจากเก้าอี้และเดินตรงเข้าไปในห้องครัว เขาจึงหันกลับมาหาคิลเลียนทันที
"ไอ้หมอ กูทนเรื่องนี้ไม่ได้แล้วว่ะ" หมอคิมร้อนใจแทบระเบิด
"เรื่องอะไรของมึง?" เขาไม่ใส่ใจคำพูดของเพื่อนมากนัก
"เรื่องเมียมึง จะให้พูดเรื่องจริงหรือให้โกหก จะให้เอาแบบปลอบใจหรือเอาแบบความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์วะ?"
"ตอนนี้ชีวิตกูไม่มีอะไรเฮงซวยไปมากกว่านี้แล้ว เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมโลกอ้อมจักรวาล"
"ท่าจะจริง" หมอคิมหนักอกหนักใจ
"ตกลงมีเรื่องอะไรวะ?"
"คือ..." เขาตะกุกตะกัก
"ว่ามา"
"ความจริงเรื่องนี้กูจะยังไม่บอกมึงก็ได้นะ ใจก็อยากจะพูดอ้อมโลกอ้อมจักรวาลปิดบังไว้เพราะไม่อยากให้มึงเสียใจหลังแต่งงานได้วันเดียว"
"ตอนนี้มึงอ้อมไปครึ่งค่อนโลกแล้ว เมื่อไหร่จะพูด?" คิลเลียนนึกรำคาญ เขากระดกไวน์เข้าปากอีกรวดเดียวอึกใหญ่
"เพราะกูเห็นมึงเป็นเพื่อนรัก และเราก็พูดกันตรงๆ เสมอมา เมื่อเช้าคือ...คือว่าเมียมึงไปฝากท้องกับผู้ชายอีกคนว่ะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่วะไอ้หมอคิล?"
"มึงว่าอะไรนะ ฝากท้อง?" คิลเลียนเบิกตากว้าง เขาวางแก้วลงบนโต๊ะเสียงดัง อารมณ์มึนเมาแทบหายไป ใบหน้าคมคายกลายเป็นความเกรี้ยวกราด
"กูจำไม่ผิดแน่ หน้าตาแบบนี้เลย ที่สำคัญชื่อพาลิน จีราวิรัช ไปฝากท้องกับผู้ชายที่ชื่อสิธา เธอท้องได้สามเดือนกว่าแล้ว" คิลเลียนแค่นหัวเราะในลำคอ แววตาประกายราวกับมีเปลวเพลิงลุกโหมอยู่ในนั้น เขากำมือแน่นจนสั่นเทิ้ม
"หึ! เพราะแบบนี้นี่เอง"
"ทำไมมึงถึงพูดเหมือนรู้อะไรอยู่แล้ววะ?" หมอคิลเลียนไม่ยอมตอบ และเอาแต่ครุ่นคิดถึงคำพูดที่เคยพูดคุยกับพาลินเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ตอนที่ตนเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย
'พี่หมอขา...เราสองคนก็คบกันมานานแล้วนะคะ ใกล้จะแต่งงานกันแล้วด้วย ทำไมเราถึงยัง...ไม่ยอมมีอะไรกันซะทีล่ะคะ?'
'พี่อยากให้เกียรติลิน ให้เกียรติพ่อแม่ลิน แล้วพี่เองก็ค่อนข้างถือเรื่องแบบนี้ อดทนอีกหน่อยนะครับ อีกแค่เดือนเดียวเอง คืนเข้าหอพี่จะทำให้ครั้งแรกของเรามีความสุขที่สุด'
'แต่ลินอยากมีอะไรกับพี่หมอก่อนแต่งงานนี่คะ ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลย'
'ความจริงพี่ก็ไม่ได้เป็นคนหัวโบราณขนาดนั้น เพียงแค่ลินเป็นผู้หญิงที่พี่จะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นพี่จึงไม่รีบร้อน พี่อยากอดเปรี้ยวไว้กินหวานใจเย็นๆ หน่อยนะครับ'
'ไม่รู้ล่ะค่ะ ถ้าเกิดว่าลินมีคนอื่นขึ้นมา พี่หมอจะมาโทษลินไม่ได้นะคะ'
'ทำไมลินพูดแบบนั้นล่ะครับ?'
'เอ่อ...ลินแค่ล้อเล่นค่ะ'
"ที่แท้ก็ไม่ได้ล้อเล่น ลินแอบคบกับผู้ชายคนอื่นมาตลอดระยะเวลาที่กูอยู่เมืองนอก" ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำ อารมณ์แสดงออกชัดเจนว่าโกรธเคือง
"แต่มึงก็ยังยอมแต่งงานกับเขาแล้วก็อยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเขา แล้วก็...มีอะไรกับผู้หญิงที่ท้องกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ?"
"มึงจะบ้าเหรอ กูยังไม่เคยมีอะไรกับลิน มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้โหยหาเรื่องพวกนี้ แค่ทำงานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว"
"ทั้งๆ ที่แต่งงานกันแล้วเนี่ยนะ?"
"เฮ้อ...กูมีความจริงจะบอกมึงเหมือนกัน" คิลเลียนจ้องมองไปยังห้องครัว เขากำมือแน่นเพราะความโกรธ คิดในใจว่าพายรัญจะต้องรู้เห็นเรื่องนี้กับพี่สาวอย่างแน่นอน
"ทำไมดูเรื่องมันซับซ้อนจังวะ?"
"ผู้หญิงคนที่มึงเห็นตอนนี้ไม่ใช่พาลิน"
"มึงพูดว่าอะไรนะ ไม่ใช่พาลิน แล้ว...?" หมอคิมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาเรียบเรียงเหตุการณ์ในใจก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าพาลินมีฝาแฝด
"นี่มึงอย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้คือ..."
"ใช่ พายรัญ น้องสาวของพาลิน กูยังไม่ได้เล่าให้ใครฟังว่าลินหายตัวไปในวันแต่งงาน พายเลยต้องแต่งงานแทนพี่สาวเพื่อไม่ให้งานแต่งล่ม มีเพียงสองครอบครัวเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้"
"โอ้โห นี่มันนิยายน้ำเน่าชัดๆ"
"กูรู้ซึ้งก็ตอนนี้แหละ ว่าบางทีนิยายมันก็ไม่ต่างกับชีวิตจริงมากนักหรอก"
"แล้วสภาพจิตใจของมึงเป็นยังไงบ้างวะตอนนี้ พอรู้เรื่องแล้วกูโคตรเป็นห่วงมึงเลยว่ะ"
"ก็แปลกดี มันทำให้กูตระหนักเลยนะว่า ความจริงแล้วกูไม่ได้รักลินขนาดนั้น อาจจะเพราะว่าเราไม่ได้มีความสัมพันธ์พื้นฐานที่ใกล้ชิดเพราะว่าอยู่ห่างไกลกันมาตลอด แต่มันเจ็บปวดที่รู้สึกว่าโดนหักหลัง โดนทรยศ"
"กูเสียใจด้วยจริงๆ กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งมึงและคุณพายเลย" หมอคิมตบหัวไหล่เพื่อนเบามือเป็นการปลอบใจ
"มึงจะสงสารพายทำไม กูควรจะโกรธพายมากกว่า ถ้าเกิดว่าเขารู้เรื่องนี้แต่ว่าปิดบังกู" คิลเลียนกัดฟันดังกรอดจนกรามนูนเป็นสัน
"มึงอย่าไปคิดแบบนั้นสิ ถ้าเธอยอมปิดบังเพื่อช่วยพี่สาวและเข้าพิธีแต่งงานแทนพี่สาวมันก็ดูเสียสละเกินมนุษย์ กูว่าคุณพายไม่รู้เรื่องด้วยหรอก" หมอคิมพูดในสิ่งที่ตนเองรู้สึก เพราะแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ของพายรัญนั้นสามารถบ่งบอกทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
"มึงไม่ต้องปกป้องใครทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวก็รู้"
"ไปถามเขาให้รู้เรื่องก่อน ว่าเขารู้เรื่องนี้หรือเปล่า อย่าตีโพยตีพายเด็ดขาด"
"กูถามแน่ ตอนนี้มึงกลับไปก่อนเถอะ กูมีเรื่องจะต้องจัดการ" แววตาของเขาประกายเกรี้ยวกราดอีกครั้ง น้ำเมาถูกรินลงแก้ว และกระดกรวดเดียวอึกใหญ่ ร่างสูงกำยำหยัดกายลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงเดินพรวดพราดตรงเข้าไปในห้องครัวโดยไม่รอส่งแขก
หมอคิมรู้สึกใจคอไม่ดี ไม่รู้ว่าควรเป็นห่วงใครมากกว่ากันระหว่างสองคนนี้ แต่ก็ยอมกลับบ้านไปแต่โดยดี เพราะเห็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของสามีภรรยาที่จะต้องจัดการกันภายในบ้าน...
ถึงคราวที่จะต้องมาลุ้นกันแล้วว่าน้องพายจะโดนอะไรบ้าง พี่หมออย่ารุนแรงกับน้องพายมากนักเลย สงสารน้อง แต่พี่หมอก็น่าสงสารเหมือนกันนะคะ
อ่านจบแล้วส่งคอมเมนต์มาพูดคุยให้กำลังใจกันได้นะคะ ขอบพระคุณค่ะ❤