เป็นแค่เพื่อนแต่อยากครอบครอง

1383 Words
คิลเลียนเดินเข้ามาในห้องครัว ขณะที่พายรัญกำลังตักของหวานใส่ถ้วยด้วยความระมัดระวัง เขาเดินเข้ามาใกล้ แววตาดุดันจ้องมองภรรยา บ่งบอกว่ากำลังโกรธจนแทบบ้า "พี่หมอ..." หญิงสาวหวั่นใจเหลือเกินเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของคนเมา "รู้เรื่องหรือเปล่า?" คิลเลียนถามเสียงห้วน "คะ?" คิ้วเรียวขมวดยุ่ง ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มยังไม่มีทีท่าโกรธเคืองเช่นนี้ "เรื่องพี่สาวของพายไง อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง?" น้ำเสียงดุดันยิ่งขึ้น "แล้วมันเรื่องอะไรล่ะคะ พายจะไปรู้ได้ยังไงกัน" "โกหก! เป็นพี่น้องฝาแฝดกันแท้ๆ จะไม่รู้เรื่องได้ยังไง เรื่องใหญ่ขนาดนี้" คำพูดของคิลเลียนยิ่งทำให้พายรัญรู้สึกแปลกใจ ชายหนุ่มไปรับรู้เรื่องอะไรมา หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับพาลินนั้นตนไม่รู้เรื่องจริงๆ "พายก็บอกพี่หมอไปแล้วไงคะ ว่าถึงเราจะเป็นพี่น้องฝาแฝดกันก็ไม่ได้แปลว่าจะรู้ทุกเรื่อง เราไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ" "ลินท้องกับผู้ชายคนอื่น" เธอเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น พายรัญไม่เคยรู้มาก่อนว่าพาลินคบหากับผู้ชายคนอื่น และยิ่งเรื่องตั้งท้องยิ่งไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งพ่อแม่ของตนเอง "ไม่จริงหรอกค่ะ พี่ลินไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ พี่หมอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงคะ?" "ไปฝากท้องถึงโรงพยาบาล ชื่อพาลิน จีราวิรัช หน้าเหมือนกันกับพายไม่ผิดแน่ๆ ใครมันจะไปโกหก" หลังจากที่ชายหนุ่มพูดเช่นนั้น พายรัญจึงเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดได้ คิลเลียนรู้เรื่องทั้งหมดหลังจากที่หมอคิมกลับไป นั่นแปลว่าพาลินคงบังเอิญไปฝากครรภ์กับหมอคิม เขาถึงได้มาบอกเพื่อนสนิทถึงที่บ้าน "พายไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ นะคะ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่รู้เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ลิน" "ใช่! มันก็คงจะเป็นเรื่องส่วนตัวของลินถ้าเขาไม่ได้เป็นแฟนพี่มาก่อน พายรู้ไหมว่ามันรู้สึกยังไง ก่อนหน้านี้พี่ก็ยังไม่อะไรมาก แต่ตอนนี้แม่งรู้สึกโคตรเกลียดผู้หญิงที่ชื่อพาลินเลย เพราะเขาทำให้พี่รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหักหลัง ถูกทรยศ ถูกนอกใจ ถูกสวมเขา!" มันไม่ได้เป็นความเจ็บปวดที่ถูกคนรักทิ้งไป แต่เป็นการเจ็บปวดที่ถูกอีกฝ่ายทรยศหักหลัง คิลเลียนกำมือแน่นจนสั่นเทิ้ม เขาจ้องมองพายรัญด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ขณะที่หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสู้แววตาดุร้ายของคนตรงหน้า เธอหวาดกลัวเหลือเกินว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับตน รวมถึงพาลินและครอบครัวด้วย "พายไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะพูดอะไร นอกจากขอโทษแทนพี่ลิน ขอโทษกับสิ่งที่พี่ลินทำลงไปแล้วมันทำให้พี่หมอโกรธแล้วก็เจ็บปวดมากแบบนี้" "ใช่! พี่โกรธมาก แล้วก็เจ็บปวดมากด้วย พี่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลินจะเป็นคนแบบนี้ ผู้หญิงที่ไม่มีความซื่อสัตย์ หรือว่าผู้หญิงทุกคนจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก" "พี่หมออย่าพูดแบบนี้สิคะ ผู้ชายยังไม่ได้ดีแสนดีเหมือนกันหมดทุกคนเลย" เธอไม่ได้เห็นด้วยเมื่อเขากล่าวหาว่าผู้หญิงทุกคนเป็นเช่นนั้น แม้พายรัญจะไม่เคยมีแฟนแต่ก็ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย หรือความจริงแล้วเพราะหญิงสาวยังไม่เคยเจ็บปวดเช่นที่คิลเลียนกำลังได้รับ จึงยังคงมองโลกของความรักในแง่ดีเช่นนี้ "อยากปกป้องกันนักก็เชิญ แต่รู้เรื่องนี้ก็ดีเหมือนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างพี่กับลินมันจะได้จบลงอย่างถาวร" "ถ้าอย่างนั้น..." พายรัญไม่อยากจะต้องตกอยู่ในสภาพของความทุกข์ใจ รวมทั้งต้องรองรับอารมณ์โกรธเคืองและโมโหของชายหนุ่มอีกแล้ว "อะไร?" เขาพเยิดหน้าถาม "งั้นเราก็หย่ากันได้แล้วสินะคะ" เธอตอบเสียงแผ่ว "อย่ากล้าดีมาพูดเรื่องนี้ตอนนี้!" คิลเลียนตะคอกเสียงดัง ชายหนุ่มรู้สึกโกรธเคืองยิ่งขึ้นที่พายรัญดันพูดเรื่องหย่าขึ้นมาตอนนี้ "ทำไมคะ?" "ไว้ค่อยคุยกัน คืนนี้พี่จะไปค้างที่อื่น" คิลเลียนพูดแล้วจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องครัว เขาเดินไปคว้าเอากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะและเดินพรวดพราดออกจากบ้านไปในเวลาหนึ่งทุ่ม หญิงสาวได้แต่มองตามหลัง แล้วจึงค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ฉุกคิดกลับมาเรื่องที่เขาบอกว่าพาลินตั้งท้อง พายรัญพยายามไตร่ตรองว่าพี่สาวฝาแฝดคบหากับใครและตั้งท้องกับใคร ทว่าเธอกลับไม่เคยรู้เลยว่าพาลินคบกับผู้ชายคนไหน เพราะทั้งสองไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันนั่นเอง "พี่ลินนะพี่ลิน ทำไมเรื่องมันถึงดูเลวร้ายลงแบบนี้ ถ้าเกิดพี่ลินกับพี่หมอแตกหักกันจริงๆ แล้วเมื่อไหร่พายจะได้หย่ากันเนี่ย" เธอพึมพำ ก่อนจะตัดสินใจลุกเดินออกไปเก็บโต๊ะอาหารหลังรับประทานมื้อค่ำเสร็จ ไนต์คลับ คิลเลียนยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ซดเหล้าถี่จนนับแก้วไม่ได้ โดยมีหมอหวานเพื่อนสาวคนใหม่คอยดื่มเป็นเพื่อน "หวานไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคิล แต่ถ้ามันทำให้คิลทุกข์ใจขนาดนี้หวานก็เสียใจด้วยจริงๆ" หล่อนพูดปลอบใจ และเอื้อมมือมากุมมือหนาของคิลเลียนไว้ "ไม่ต้องพูดถึงมันหรอก สั่งเหล้ามาอีก ผมอยากดื่มอีก" เขาพูดรัวจนแทบจับใจความไม่ได้ หมอหวานรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงไม่ยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอก "คุณเมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะคะ หวานไปส่งที่บ้านดีกว่านะ" "ไม่! คืนนี้ไม่อยากกลับบ้าน" คำพูดของหมอคิลเลียนทำให้หล่อนพอจะรู้ว่าเขาคงทะเลาะกับภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ได้เพียงสองวัน หมอหวานคลี่ยิ้มน้อยๆ แล้วจึงประคองเพื่อนสนิทเดินออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าไนต์คลับ "ถ้าไม่อยากกลับบ้าน งั้นคืนนี้ไปค้างที่คอนโดของหวานก็ได้ คิดซะว่าหวานช่วยเหลือคุณในฐานะเพื่อนนะคะ" หมอหวานหลงรักคิลเลียนอย่างหัวปักหัวปำ ทั้งที่เขาเพิ่งย้ายกลับมาทำงานในโรงพยาบาลเดียวกันได้เพียงหนึ่งเดือน ทั้งคู่เพิ่งจะเป็นเพื่อนกันเพราะทำงานในแผนกเดียวกัน "อืม..." เสียงเรียบตอบเพราะอาการมึนเมา หญิงสาวจึงคลี่ยิ้มและขับรถออกจากไนต์คลับกลับไปยังคอนโดของตนเอง บนเตียงนอนสีขาวขนาดพอดีสำหรับคนสองคน หมอหวานให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียมช่วยประคองคิลเลียนขึ้นมา หล่อนจ้องมองเขานอนหลับอย่างคนไร้สติ และถอดเสื้อผ้าของชายหนุ่มออกจนร่างสูงกำยำอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า หมอหวานกวาดสายตามองบุรุษที่ตนใคร่หลงรัก แล้วจึงถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนเรือนกายอรชรอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า หล่อนก้าวขึ้นเตียง และคร่อมร่างกำยำที่นอนแผ่หลาอยู่ สายตาจับจ้องแกนกายความเป็นชายที่ยังคงหลับอยู่เฉกเช่นเจ้าตัว หมอหวานค่อยๆ ทิ้งตัวนอนลงบนลำตัวหนาของคิลเลียน หล่อนซบใบหน้าลงบนแผงอกกว้างของชายหนุ่ม ท่ามกลางราตรีที่มืดมิด ภายในคอนโดหรูหราปราศจากคนอื่น นอกจากสองกายเปลือยเปล่าแนบชิดไร้สิ่งใดขวางกั้น หมอหวานกำลังจินตนาการไปไกลแสนไกล จินตนาการถึงรสรักบนเตียงที่หล่อนพร่ำเพ้อปรารถนากับหมอคิลเลียนมานานนับเดือน มือเรียวลูบไล้สัมผัสลำเอ็นอุ่นที่กำลังขยายตัวแข็งชัน เขาเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น... เปิดฉากมาก็เพื่อนรักเพื่อนร้ายเลยนะคะ แต่ว่าพี่หมอจะรอดหรือเปล่า ฝากติดตามตอนหน้าด้วยหนา ส่งคอมเมนต์มาให้กำลังใจปันหยีด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ❤❤
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD