ตอนที่ 14

1240 Words
จริงจัง? “ผมหมายความว่ามันดูสมเหตุสมผลที่จะเอาคุณไปอ้าง” น่านน้ำถอนหายใจแรง ใจเต้นกับคำว่าจริงจัง นี่สินะพรหมลิขิต เราต่างก็จริงจังต่อกัน “ก็ได้ค่ะคุณภูชิต น้ำถือว่ายังอยู่ในเนื้องาน” จะให้ตอบตกลงใบหน้ายิ้มแป้นก็กระไรอยู่ เป็นผู้หญิงมันต้องมีชั้นเชิง น้ำเสียงที่ใช้จึงค่อนข้างราบเรียบ “ไหน...เรียกใหม่ซิ” “ค่ะ...คุณภูขา” คนถูกเรียกกลั้นยิ้มไว้ภายใต้หน้าตานิ่งเฉย คนที่เอ่ยเรียกใจเต้นโครมคราม เมื่อคิดว่าสิ่งที่หวังใกล้ความจริงไปทุกขณะ “ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคุณภูชิตจะมีคู่หมั้นแล้ว” กำนันช้างผู้สูงวัยรูปร่างสูงใหญ่ค่อนข้างท้วม ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา หากแต่สายตาคมกริบและเด็ดเดี่ยวนั้นส่งให้เขากลายเป็นบุคคลที่น่าคบหาและน่าเกรงขามในคราเดียวกัน “เอ่อ...” คนที่ถูกแนะนำว่าเป็นคู่หมั้นอ้าปากเตรียมประท้วง หากแต่มือใหญ่ของคนที่ยกตัวขึ้นเป็นคู่หมั้นของเธอรีบคว้ามือเล็กนุ่มนิ่มไปกุมไว้ และออกแรงบีบเบาๆ ราวกับว่าต้องการเตือนอะไรบางอย่าง “คุณน้ำเป็นเพื่อนของคุณไอรักภรรยาเจ้าของไร่แสงตะวันครับ เราพบรักในงานแต่งของคุณไอรักกับคุณธีร์ครับ” น่านน้ำหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่นั่งกุมมือตัวเองอยู่ ตากลมโตเบิกกว้างปากเล็กเผยอค้าง “อ้อ...หรือครับ เชิญครับเชิญ ทานข้าวกันดีกว่า ว่าแต่งานที่รีสอร์ตค่ำนี้คุณภูชิตจะค้างที่แพริมน้ำไหมครับ ผมจะได้ให้ลูกน้องเตรียมไว้ให้” “ครับ อยากพาคุณน้ำไปพักผ่อนอยู่เหมือนกัน อยู่แต่ในไร่มาหลายวันแล้ว ได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เป็นการพักผ่อนไปด้วย ใช่ไหมจ๊ะที่รัก” ริมฝีปากหยักได้รูปกดจูบที่ขมับคนที่ถูกเรียกว่าที่รักแรงๆ น่านน้ำส่งยิ้มเจื่อนให้ผู้คนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหาร ได้แค่คิดสงสัยว่า เขาแสดงออกกับเธอมากเกินไปหรือเปล่านะ “ทำไมน้ำต้องเป็นคู่หมั้นด้วยล่ะ เป็นคู่รักก็พอแล้วมั้งคะ” “มันฟังแล้วมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่า” “ทำไม...” “มันเป็นงานครับ เดี๋ยวเราไปรอที่รีสอร์ตเลย งานเลี้ยงเปิดตัวรีสอร์ตจะเริ่มหกโมงเย็น นี่เพิ่งบ่ายสองโมง มีเวลาให้เราพักผ่อนเตรียมตัวก่อนงานเริ่มหลายชั่วโมง” “แล้ว...” “ผมสั่งชุดไว้ให้คุณแล้ว รับรองว่าขนาดชุดพอดีตัวแน่นอนครับ” น่านน้ำตวัดสายตามองค้อนแล้วเม้มปากเป็นเส้นตรง ใบหน้านวลแดงเรื่อร้อนวูบวาบ เพราะรู้ดีในความหมายของสิ่งที่เขาพูด ซึ่งอาการเหล่านั้นไม่ได้หลุดลอดจากสายตาคมกริบของภูชิต สองหนุ่มสาวแวะรับชุดสำหรับงานค่ำนี้ที่ร้านหรูในตัวเมือง ก่อนที่ชายหนุ่มจะขับรถตรงดิ่งไปยังรีสอร์ตแพริมน้ำของกำนันช้าง ที่จริงเขายกเลิกงานเลี้ยงค่ำนี้ไปก่อนหน้าแล้ว แต่เมื่อกำนันช้างเสนอว่าจะเปิดห้องให้ทดลองใช้บริการเพื่อพักผ่อนด้วย เขาจึงเปลี่ยนใจรับปากทันที เหตุผลที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจก็นั่งอยู่ข้างๆกันนี่แหละ “รีสอร์ตสวยมากค่ะคุณภู อากาศดีมากๆ ดูสิคะน้ำใสมาก” น่านน้ำเดินเร็วตามหลังพนักงานต้อนรับของรีสอร์ต จนมาถึงแพริมน้ำลักษณะเป็นบ้านหลังเล็กกะทัดรัด เน้นวัสดุธรรมชาติในการก่อสร้าง ด้านหน้าของแพซึ่งอยู่ในลำน้ำสายใหญ่ มีระเบียงโล่งพร้อมด้วยชุดเก้าอี้นอน สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนซึมซับบรรยากาศธรรมชาติ หญิงสาวเพลิดเพลินดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสวยงาม ยิ้มให้สายลมแสงแดดและสายน้ำอย่างมีความสุข “ชอบที่นี่ไหม” น่านน้ำละสายตาจากโค้งน้ำกว้างตรงหน้า หันมาสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มที่เอ่ยถามตนเอง “ชอบค่ะ บรรยากาศดีมากเลย เอ่อ...คุณภูพักหลังไหนคะ” น่านน้ำชะเง้อคอมองหาพนักงานต้อนรับที่พามา เขาคงกลับไปที่ฟร้อนต์แล้ว แล้วเจ้านายหนุ่มสุดหล่อทำไมไม่ไปที่ห้องพักของตัวเอง “ผมพักหลังนี้” “เอ๋?!...ถ้างั้นน้ำพักหลังไหนล่ะคะ” “ก็หลังนี้แหละ” น่านน้ำอ้าปากค้างจนมือใหญ่ต้องเอื้อมมาแตะใต้คางดันขึ้นเบาๆ “เราเป็นคู่หมั้นกันนะ นอนคนละห้องได้ไง เดี๋ยวกำนันช้างสงสัย หรือไม่หากเขาเกิดมีแผนแยบยล มอมเหล้าผมแล้วส่งลูกสาวเข้าหา เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอาได้นะ” น่านน้ำขมวดคิ้วมุ่นงงไปกันใหญ่ ภูชิตก้าวเท้าไปหยุดลงที่เก้าอี้ตัวยาวริมน้ำ เขาถอนหายใจยาวมีสีหน้าเคร่งขรึมลง สายตาคมเข้มมองโค้งน้ำเบื้องหน้านิ่ง หากน่านน้ำอ่านใจเขาออก อาจจะเอ่ยปากเถียงไปว่า คนที่มีแผนแยบยลน่าเป็นเขามากกว่านะ “เอ่อ...ก็ได้ค่ะ” พอเห็นท่าทางราวกับว่าหนักใจนักหนา ทำให้น่านน้ำตอบตกลงไป รอยยิ้มแต่งแต้มในใจของคนฟัง หากแต่ใบหน้ากลับเรียบเฉยซ่อนความรู้สึกลิงโลดไว้อย่างยากเย็น “มานั่งตรงนี้สิ” ตรงนี้ของภูชิตทำให้น่านน้ำลมหายใจสะดุด เมื่อเขาตบที่นั่งข้างตัวเอง “ผมอยากให้คุณคุ้นเคยกับผม เมื่อกลางวันตอนที่ผมแตะต้อง คุณยังดูฝืนๆอยู่” เสียงทุ้มเอ่ยเนิบๆ แต่คนที่ได้ยินหัวใจตีลังกาไปสามตลบแล้ว หญิงสาวยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม “ผมไม่อยากฝืนใจใครนะ คุณจะกลับไปก่อนไหม ผมจะโทรเรียกสินมารับ” น่านน้ำหันรีหันขวาง กล้าไว้น่านน้ำ...เป็นไงเป็นกัน โอกาสแบบนี้ไม่มีบ่อยนัก “ไม่เป็นไรค่ะ น้ำพร้อมแล้วค่ะ” ร่างบางเดินเข้าใกล้ร่างใหญ่ทิ้งตัว ลงนั่งบนตักแกร่งทันทีที่พูดจบ ลำแขนเรียวโอบรอบคอหนาไว้แน่น ใบหน้า งามแหงนเงยหลับตาพริ้มเชิญชวนเต็มที่ ภูชิตเหวอไปชั่วขณะ คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะทำท่าทางแบบนี้ “เอ่อ...คุณน้ำไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้” ภูชิตกระแอมกระไอเรียกสติหญิงสาวที่คิดเตลิดไปไกล น่านน้ำลืมตาขึ้น ยิ้มเจื่อนๆแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง ค่อยๆเคลื่อนตัวลงจากตักไปนั่งข้างๆชายหนุ่มแทน ภูชิตลอบยิ้มกับท่าทางของหญิงสาว ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ แต่การใกล้ชิดกันมากเกินไป เขาเองจะเป็นฝ่ายอดใจไม่ไหวลากเธอเข้าไปในห้อง และกระทำการที่อาจหาญมากกว่าที่เธอคิดเสียอีก “ขอบคุณนะครับที่ช่วยเหลือผม” “ไม่เป็นไรค่ะ น้ำยินดี” น่านน้ำพยายามอย่างยิ่งที่จะกระเถิบให้เข้าใกล้คนตัวใหญ่มากที่สุด ในขณะที่อีกคนพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มจิตข่มใจไม่ให้ทำอะไรอุกอาจ “เอ่อ...คุณภูอยากพักผ่อนก่อนงานเริ่มไม่ใช่หรือคะ เราเข้าไปในห้องกันเถอะค่ะ” ภูชิตเลิกคิ้วสูง คนที่เป็นฝ่ายชวนหน้าแดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัด คนที่อยากจะลองใจแม่สาวใจกล้าจึงพยักหน้ารับ แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับกุมมือบางดึงรั้งให้ลุกขึ้นตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD