วิวรรญาร้องดังๆ ออกมาเพราะเจ็บทั้งขาและก้นที่จ้ำเบ้าลงไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น มีความตกใจกลัวเข้ามาแทนที่จนพูดอะไรไม่ออก
“แจมเป็นอะไรไปลูก!”
และตอบป้าที่ร้องถามมากจากในครัวไม่ได้ ด้วยมีเจ้าอสรพิษร้ายชูคอแผ่แม่เบี้ยขู่อยู่ห่างจากตัวไปแค่ช่วงแขน ด้วยสัณชาติญาณและความรู้ที่เคยมีมาวิวรรญาจึงได้แต่นั่งอยู่กับที่นิ่งๆ
อรพินออกมาดูก็ได้แต่อ้าปากค้างอยู่กับที่ไม่ต่างกันนัก เพราะไม่รู้จะช่วยยังไงได้ ด้วยตัวเองนั้นยืนอยู่ด้านหลังของหลานที่นั่งนิ่งเผชิญหน้ากับงูเห่าตัวเขื่องอยู่
แต่อรพินที่ยังคงยืนอยู่ประตูหลังครัวก็มีความหวังขึ้นมาเลือนราง เมื่อมองเห็นลินเดินมาแต่ไกล บนบ่ามีมีดขอด้ามยาวมาด้วย อรพินดีใจ ชื้นใจขึ้นมาทันที
และเมื่อเขาเดินมาใกล้จึงพยายามส่งสายตาไปทางหลานสาวที่นั่งนิ่งอยู่ และเพียงเท่านั้นลินก็เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ เขาหยุดก้าวขาแล้วหันไปตามสายตาอรพิน
แล้วค่อยๆ เดินอ้อมเพิงไปอีกด้านซึ่งเป็นข้างหลังเจ้าอรพิษร้าย มีดขอด้ามยาวในมือเตรียมพร้อมขณะเขาก้าวเข้าไปอย่างเงียบๆ ชั่วครู่หนึ่งเขาก็ได้จ้องมองตาเจ้าของใบหน้าสวยใสที่ตอนนี้ซีดเผือดเพราะความกลัว ก่อนจะง้างแขนขึ้นแล้วฟัน
‘โช้ะ!!!’
ลงไปตรงตำแหน่งแม่เบี้ยที่แผ่กระจายอยู่นั้น ชั่วเสี้ยววินาทีคองูก็ขาดกระเด็นไปตกอยู่กับพื้น เขารีบใช้ปลายมีดเขี่ยส่วนห่างออกไปให้ห่างร่างผอมบางและอ่อนแรงที่ยังคงนั่งงงอยู่กับที่ทันที
ตามติดด้วยชิ้นหัวที่แม่เบี้ยยังแผ่อยู่อย่างนั้น แม้เจ้าอรพิษจะดับดิ้นไปแล้วก็ตามที อรพินรีบวิ่งเข้าไปหาหลานด้วยความโล่งอก
“แจมเป็นยังไงบ้างลูก”
แล้วโอบกอดหลานไว้
“ป้าพิน!!! ฮือๆ ๆ แจมกลัวค่ะ ฮือๆ ๆ แจมกลัว”
ส่วนหลานก็กอดป้าตอบด้วยร่างกายที่สั่นเทา และขวัญหนีดีฝ่อ
“ไม่เป็นไรแล้วนะจ๊ะลูกแม่ ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูกนะ”
บ่อยครั้งที่อรพินจะหลงลืมว่าหลานสาวเป็นลูกของตัวเอง เพราะรักและเอ็นดูยิ่งด้วยตัวไม่มีลูก บวกกับหลานก็เป็นเด็กดีเหลือเกิน จึงไม่แปลกนักหากจะรักประหนึ่งลูก
“ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับคุณแจม มันตายแล้ว”
ลินกลับจากเอาซากงูไปโยนทิ้งไกลๆ ก็รีบปลอบขวัญ เพราะเห็นได้ชัดว่าคุณแจมตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ร่างก็แทบไม่มีแรงจนเขารีบเข้าไปช่วยพยุงคนละข้างกับอรพินให้ลุกขึ้นยืน
“ขอบใจมากนะลิน โชคดีที่ถือมีดติดมือมาด้วย ไม่งั้นยัยแจมแย่แน่ๆ เลย”
อรพินเพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อพาหลานสาวไปนั่งที่ชุดรับแขกในบ้านแล้ว ลินยิ้มบางๆ ให้ก่อนเอ่ย
“ไม่เป็นไรครับ ตอนอยู่กระท่อมผมก็เพิ่งจัดการไปตัวหนึ่ง หญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด พรุ่งนี้ผมจะจัดการให้เรียบเลยครับ นี่ผมก็กะจะถางแถวๆ หลังครัวให้ก่อน เพราะกลัวมันจะเข้าบ้านเลยถือมีดมาด้วย ไม่คิดว่าจะได้ฟันเพิ่มอีกตัว หน้าฝนแบบนี้ต้องระวังดีๆ ครับ”
อรพินยิ้มให้ในความรอบคอบของลูกจ้างหนุ่มก่อนจะหันไปหาหลานสาวแล้วมองอย่างเอ็นดู
“ป้าว่าแจมขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่านะจ๊ะ ไม่ต้องช่วยป้าทำอาหารหรอกเย็นนี้ ปลาผงปลาเผาก็ไม่กงไม่กินมันแล้วล่ะ กลัว! เผื่อมีอีกตัวซ่อนอยู่ใต้กองฟืน”
หลานหันไปหาป้าด้วยใบหน้าที่ยังตกใจไม่หาย
“เดี๋ยวผมไปก่อไฟเผาให้ก็ได้ครับ จะได้ถางหญ้ารอไปด้วยระหว่างดูปลา เห็นคุณลุงบ่นอยากกินตั้งแต่เมื่อวานแล้ว กลับมาจะได้ไม่ผิดหวัง”
“เอางั้นเหรอลิน”
อรพินหันไปยิ้มให้ด้วยความขอบคุณและเอ็นดูคนงานหนุ่มขึ้นมาอีกระดับ ไม่แพ้เกรียงไกรนักที่รู้เรื่องราวจากปากเมียและหลานระหว่างนั่งกินมื้อเย็นด้วยกัน ส่วนลินนั้นนั่งฟังคนอื่นพูดเงียบๆ ไม่ได้แสดงกิริยาโอ้อวดหรือทวงบุญคุณกับหลานเจ้านายเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทั้งสามชอบใจไม่น้อย
“คุณพี่คะ วันนี้เฮียซ้งจะคุยเรื่องงานแต่งเลยหรือเปล่าคะ”
ดาราเอ่ยถามสามีด้วยท่าทีนอบน้อมตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าบ้านมา มือก็คลายปมเนกไทออกเพราะอึดอัดและเหนื่อยจากงานทั้งวัน
“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแต่พี่เจียงมาถึงไหนกันแล้วล่ะ ไม่ใช่พาหลานมาถึงช้ากว่าแขกนะ”
เพราะวันนี้ประมุขจะมากินข้าวที่บ้าน หรืออีกนัยก็คือพาลูกชายมาดูตัวว่าที่เจ้าสาวนั่นเอง
“อ๋อ! เมื่อกี้โทรมาบอกว่ากำลังอยู่บนทางด่วนค่ะ อีกหน่อยคงจะถึง ปิ่นว่าคุณพี่รีบขึ้นไปอาบน้ำก่อนดีกว่ามั้ยคะ จะได้ลงมารอต้อนรับเฮียซ้งถ้าเกิดพี่เจียงมาช้าค่ะ เดี๋ยวปิ่นจะเข้าไปดูในครัวก่อนว่าป้าหรวยทำกับข้าวไปถึงไหนแล้ว”
“อืม! ก็ดีเหมือนกันร้อนแล้วก็เหนียวตัวจะแย่ ปิ่นดูเรื่องอาหารให้ดีๆ นะ ขาดเหลืออะไรให้รีบไปหามาอย่าให้เขาว่าเราได้ แล้วถ้ายัยแจมมาถึงก็ช่วยดูให้ทีว่าแต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยดีหรือเปล่า สวยหรือเปล่า ฉันไม่อยากให้ฝ่ายชายไม่ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าลูกน่ะ”
เมื่อภรรยายิ้มรับคำสั่งแล้วไกรเดชก็เดินขึ้นชั้นบนด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย ไม่ต่างกับผู้เป็นพี่ชายนักที่เหนื่อยจากการเดินทาง แม้จะเพียงแค่จากบ้านบึงข้ามมาฝั่งธนบุรีเพียงแค่นั้น
แต่ด้วยความที่อายุย่างเข้าหกสิบแล้ว และไม่ชอบการเดินทางเป็นเวลานานๆ บวกกับความเบื่อหน่ายในการจราจร เกรียงไกรเลยเหนื่อยหนักเข้าไปอีก
“เฮ้อ! ถึงสักที ขอบใจนะลินที่เป็นสารถีให้ ต่อไปฉันคงสบายล่ะไม่ต้องขับเองแล้ว”
ลงรถได้เขาก็หันไปหาลูกจ้างสารพัดประโยชน์ด้วยความพึงพอใจ
“ครับ”
คนขับหนุ่มรับคำและยิ้มให้เจ้านายแค่นั้น
“เดี๋ยวเอารถไปจอดไว้แล้วก็อ้อมไปทางด้านหลังบ้านนะ จะมีครัวและที่ให้คนงานนั่งเล่นได้ ถ้าจะกลับฉันจะให้คนไปตาม มื้อเย็นก็กินกับพวกนั้นเลย”
เกรียงไกรไม่วายสั่งเมื่อหลานกับเมียลงจากรถแล้ว