“คับแน่นดีเหลือเกินอรของพี่ อื้ม…พี่อยากเข้าไปอยู่ในตัวอรแบบนี้มานานแล้วรู้ไหมครับ มันดีเหลือเกิน พี่รักอรนะครับ” เหนือตะวันกระซิบบอกพร้อมจูบเรียวปากแสนหวานอย่างหื่นกระหาย เขาขยับสะโพกคร่อมจังหวะรุนแรงเมื่อการเดินทางใกล้ถึงฝั่งฝันก่อนจะกระตุกเกร็งหลายครั้ง ปลดปล่อยสารธารเข้าสู่ร่างกายทุกหยาดหยด
แก้วกานดาเฝ้ารอจนแน่แก่ใจตัวเองแล้วว่าคนที่ช่วงชิงพรหมจรรย์เธอไปหลับไปแล้วจึงค่อยๆ ถอนตัวออกห่าง เธอจ้องมองเหนือตะวันที่กำลังหลับสนิทอยู่ตรงที่เดิมทั้งน้ำตา เจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่รู้ว่าจะสรรหาคำใดมาอธิบายความเจ็บนี้ในเวลานี้ได้เลย
แม้ว่าเธอจะรักเขามาก แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมอบสิ่งมีค่านี้ให้กับเขา เธออยากมอบมันให้ในวันเวลาที่เขารู้สึกรักเธอ ซึ่งวันเวลาที่ว่านั้นมันคงไม่มีวันมาถึง ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกเวทนาตัวเอง
เธอใช้เวลาครึ่งคร่อนชีวิตเพื่อวิ่งไล่ตามความรักที่เขาไม่เคยมองเห็นคุณค่า จนกระทั่งวันนี้แม้จะสูญเสียความสาวให้เขาไปความรักของเธอก็ยังคงเป็นได้มากที่สุดแค่เพียงฝุ่นละอองสำหรับเขาเท่านั้น เศษฝุ่นที่ไม่เคยมีค่า หรือมีความหมายกับเขาหรือใครสักคน
เหนือตะวันอาจจะจำเรื่องราวในค่ำคืนนี้ไม่ได้ และเธอเองจะลืมมัน และหากทำได้มากกว่านั้นเธอก็อาจลืมและลบเขาไปจากใจ
หากทำได้จริงชีวิตของเธอคงไม่ต้องจมปรักอยู่กับรักข้างเดียวแบบนี้ เธอคงจะเป็นคนที่มีความสุขและยิ้มได้อย่างที่ใจใฝ่ฝัน…
ซึ่งสักวันเธอจะทำมันให้ได้!
แก้วกานดาจัดการสวมใส่เสื้อผ้าด้วยมืออันสั่นเทา แม้จะเจ็บปวดไปทั่วตัวทุกครั้งที่เริ่มขยับแต่หญิงสาวกลับไม่คิดรอให้อีกคนได้ตื่นขึ้น เธอเพิ่งรู้ว่าเวลาที่ผ่านพ้นไปนั้นมาถึงวันใหม่แล้วจึงไม่คิดขับรถกลับไปบ้านให้เสียเวลา เลือกที่จะขับรถมาหาแม่เลี้ยงที่วัดแทน
“หนูแก้ว! นี่หนูหายไปไหนมาทั้งคืนจ๊ะ แล้วทำไมหน้าหนูมันถึงได้ซีตแบบนี้” นางเบญจววรณเอ่ยถามลูกเลี้ยงอย่างเป็นห่วงเมื่อพบหน้า สายตามองสำรวจแก้วกานดาที่อยู่ในชุดเดิมขึ้นลงอยู่หลายครั้งเหมือนต้องการจะได้คำตอบว่าเธอหายไปไหนมาตลอดทั้งคืนกัน
ไม่รู้เลยจริงๆ
“หนูไปตามหาพี่เหนือมาค่ะคุณน้า แต่ไม่พบ หนูขอโทษนะคะที่พาเขามาลาน้องให้ไม่ได้” แก้วกานดาเลือกที่จะโกหก ซึ่งแม่เลี้ยงของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากพยักหน้ายอมรับอย่างเข้าใจกัน
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แค่หนูแก้วกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว น้าเห็นหนูไม่กลับบ้านก็เลยคิดว่าหนูอาจจะเลยมาที่นี่เลยให้ป้าเจียมเตรียมชุดมาให้ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะจ๊ะ พิธีใกล้จะเริ่มแล้ว” แก้วกานดาพยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงไปหาแม่นมเพื่อขอชุดสำหรับเปลี่ยนใส่ เธอใช้เวลาจัดการกับตัวเองไม่นานก็วกกลับเข้ามาในงานอีกครั้งก่อนจะพบว่าแม่เลี้ยงไม่ได้อยู่เพื่อต้อนรับแขกตามลำพังแล้วตอนนี้ ยังมีร่างสูงโปร่งของใครบางคนนั่งอยู่เคียงข้างไม่ห่างไปไหน
ใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอหน้าเขาเลยในเวลาแบบนี้
“หนูแก้วมาพอดี นี่ตาเหนือก็เพิ่งมาถึงเดี๋ยวนี้เองจ๊ะ” นางเบญวรรณเอ่ยทักลูกเลี้ยงเมื่อหันมาเห็น ซึ่งแก้วกานดาก็ทำได้เพียงยิ้มตอบอีกฝ่ายกลับไป เธอไม่กล้าที่จะหันมามองอีกคนด้วยซ้ำ ต่างจากเหนือตะวันที่จ้องมองอีกคนขึ้นลง ท่ามกลางความรู้สึกหงุดหงิด
เขาต้องตื่นขึ้นมาแล้วพบกับหยดเลือดเล็กๆ ที่โซฟาในห้องรับแขก หยดเลือดที่เป็นหลักฐานชั้นดีว่าความฝันอันแสนหวานที่เขาคิดว่าตนเองได้ทำร่วมกันกับคนรักที่จากไปนั้นมันไม่ใช่แค่ความฝันแต่มันคือความจริงความจริงที่ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นกับใคร
จนกระทั่งเมื่อเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ของเขาแผดเสียงดังขึ้นพร้อมกับคำถามของผู้เป็นพ่อที่โทรมาเพื่อสอบถามถึงใครบางคน
“แกได้เจอหนูแก้วรึเปล่ายังไอ้เหนือ พ่อเห็นว่าน้องกำลังตามหาแกอยู่ ฉันก็เลยให้กุญแจสำรองเรือนหอของแกน้องไปเมื่อคืนนี้”
นั่นคือคำตอบที่ทำให้เขารู้ว่าคนที่เขาร่วมรักด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นคือใคร ยิ่งคิดความโกรธก็พุ่งพล่านจนอยากจะลุกขึ้นไปกระชากแม่คนหน้าตายเพื่อสอบถามถึงความเป็นจริงว่าเธอทำแบบนั้นได้ยังไง กล้าดียังไงถึงได้ทำเรื่องไร้ยางอายนั่นในเรือนหอของเขา
แต่ถึงอยากทำแบบนั้นแค่ไหนก็คงไม่ใช่ตอนนี้
ชายหนุ่มคิดกับตัวเองก่อนจะเบือนหน้ากลับไปยังรูปถ่ายของอรดีคนรักแทน คงต้องรอหลังจากที่เขาส่งเธอขึ้นสวรรค์ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน หลังจากนั้นค่อยหาทางจัดการแม่ตัวดีอีกคนก็ยังไม่สาย!
แก้วกานดายืนเหม่อมองควันสีขาวขุ่นที่กำลังพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั้งน้ำตา ในขณะที่แม่เลี้ยงของเธอร้องไห้จวนใจแทบสลายโดยข้างๆ กายนั้นมีเหนือตะวันที่คอยดูแลท่านอยู่ไม่ยอมห่างจากไปไหน มีหลายๆ สิ่งที่เธออยากจะพูดกับอรดีแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยมันออกมา สุดท้ายจึงทำได้แค่คิดในใจ หวังว่าน้องสาวสุดที่รักจะได้ยิน
‘พี่ขอโทษสำหรับทุกสิ่งนะอร พี่อยากให้อรรู้ว่าพี่เสียใจและหากเป็นไปได้พี่อยากให้พี่เป็นคนที่จากไปมากกว่า ถ้าชาติหน้ามีจริงพี่อยากให้อรเกิดมาเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่อีกครั้ง ลาก่อนน้องรัก’