ฉันชอบเธอชัดปะ

3255 Words
ฉันที่นั่งอยู่ดีแม่งสะดุ้งขึ้นมาเลยอะ เดี๋ยวนะแล้วมันจะถามทำไมวะหรือจะล้อฉันถ้ายังไม่มีแฟนแล้วถ้าทำแบบนั้นคือคนบ้านะฉันคิดกับตัวเองแล้วก็ได้ยินเสียงเขาถามขึ้นมาอีกรอบ “หึหึ ฉันถามเธอว่าเธอมีแฟนหรือยัง หูมีปัญหาอีกแล้วเธอเนี่ย” ผมหัวเราะออกมาเบาๆเพราะถ้ายัยนี่มีแฟนก็จะไม่ยุ่งหรอก ไม่ใช่คนดีนะ จะบังคับให้แม่งเลิกกับแฟนนี่แหละ ดูเลวใช่ไหมจริงๆแล้วผมคนเลวครับ เอาเถอะด่ากันตามสบายได้ยินมาเยอะแล้วทั้งชั่ว ทั้งเลว ด้านหมดแล้วผมอะ “นายถามฉันทำไม” “เอ้า ฉันก็แค่อยากรู้ปะ” “ยังไม่มีจะทำไมฉัน ถ้าล้อฉันโอนค่าโมโหมาให้ฉันอีกแสนหนึ่งด้วย” ฉันบอกไอ้บ้านี่ออกไปต้องดักทางไว้ก่อนไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน “หึ ใครเขาจะล้อเธอไม่ใช่เด็กอนุบาลปะ คนคุยละ” “นายจะเอาข้อมูลฉันไปทำไร แบบสอบถามของคณะ” ผมหัวเราะออกมาเพราะรู้สึกว่าเสียงของยัยนี่เริ่มจะกังวลขึ้นมาเลยตอบออกไป “ก็แค่ถามดูเพราะดูแล้วน่าจะมีไง” “ก็มีนั่นแหละเรียนหมอ” “อืม เลิกคุย” ฉันขมวดคิ้วก่อนถามเขาออกไปอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ “เฮ้ย นายรู้ได้ไงว่าฉันเลิกคุยไปแล้ว นายชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเหรอเนี่ยนิสัยป้าข้างบ้านเหรอคะ” ผมขมวดคิ้วตอนแรกคือสั่งให้ยัยนี่เลิกคุยแล้วพอได้ยินก็ อ๋อ ยัยนี่เลิกคุยไปแล้วเลยบอกกับยัยนี่กลับไป “อืม ดีละฉันจะได้ไม่ต้องทำบาปเยอะ” “นายโทรมาถามเรื่องแค่นี้อะนะ” ฉันขมวดคิ้วก่อนจะคิดทุกอย่างรวมกันไม่ใช่ว่าไอ้บ้านี่จะจีบฉันหรอกนะเพราะฉันก็มีเพื่อนมีลูกน้องที่เป็นผู้ชายเยอะแล้วก็สนิทพอสมควรเลยเห็นประมาณนี้ค่อนข้างเยอะ อะไรที่ฮิตๆอะ คุยแต่ไม่ได้คบเหรอ อืม นั่นแหละ สักพักก็ได้ยินเสียงเขาตอบกลับมา “ใช่สิ เรื่องสำคัญอยากรู้ก็ถาม” “เดี๋ยวนะ ฉันถามตรงๆ ได้ไหม” ผมหลับตาแม่งตอนรู้เริ่มรู้สึกง่วงแต่ก็ได้ยินเสียงของยัยนี่อยู่ “อืม ว่า” อือหื้อพอจะถามแม่งจริงๆก็ใจสั่นเหมือนกันนะ แล้วถ้าถามไปแล้วไอ้้บ้านี่หัวเราะแล้วหาว่าฉันคิดไปเองละวะ เออบางทีอาจจะคิดไปเองก็ได้แต่เหรอวะ แล้วคือเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเอง เฮ้อ ช่างแม่งเหอะ “หื้อ เธอหลับปะวะ” ผมถามออกไปแล้วก็ยกหน้าจอมาดูก่อนจะเอามาแนบหูอีกรอบเพราะได้ยินแต่เสียงซีรี่ย์ไม่ใช่แม่งหลับไปแล้วหรอกนะ “โอ๊ย ดูเสียงตัวเองก่อนเนาะ ไปนอนซะนายอะโทรมากวนชาวบ้านเขา แค่นี้” “ไม่ เอาไว้แบบนี้แหละคาสายฉันจะหลับละ” ฉันขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมคือการกระทำแม่งเหมือนคนเป็นแฟนกันอะ ไม่ได้ ไม่เอาสถานะไม่ชัดเจนไม่ได้ค่ะ ตอนนี้แม่งยังไม่รู้สึกอะไรเดี๋ยวแม่งวันหนึ่งถ้าทำแล้วเราคิดเองเจ็บแน่ไม่เอาค่ะ ไม่ลงไปเล่นกับความสัมพันธ์แบบนี้เด็ดขาดจ่ะ “นายจะนอนก็ไปนอนแค่นี้” “ถ้าเธอวางฉันก็โทรทั้งคืนให้เธอรำคาญ” “หึ ฉันก็บล็อกนายซะจบเนาะ” “ฉันก็ขับรถไปบ้านเธอ จบเนาะ” ผมวางโทรศัพท์ไว้บนที่บนแล้วก็กดเปิดลำโพง เออ แบบนี้แม่งสบายกว่าเยอะไม่ต้องถือสักพักก็ได้ยินเสียงยัยตัวแสบถามกลับมา “แล้วนายจะเอายังไง! พูด!” “ก็คาสายไว้แบบนี้แหละ เธอจะดูซีรี่ย์จะนอนก็ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละ” ฉันถอนหายใจก่อนจะถามไอ้บ้านี่ออกไปเพราะสุดจะทนละมองหน้ากันไม่ได้ก็ปล่อยแม่งมันแต่มันคาใจอะ “นายทำแบบนี่คือจีบฉันเหรอ หรือชอบฉัน หรือเหงาอะไรยังไงฉันงง หรือไม่มีเพื่อนอยู่ด้วย หรือจะกวนประสาทฉัน เลือกอันไหนพูดออกมา” ผมที่นอนหลับตาอยู่หัวเราะออกมาเบาๆกับคำถามของยัยตัวแสบที่แม่งถามยาวเป็นขบวนรถไฟ “หึหึ เออ กำลังจีบเธออยู่ ลองคุยกันสามวันแล้วเป็นแฟนเลยเตรียมตัวด้วยอาทิตย์หน้าจะไปรับมาอยู่ด้วย บอกกับพี่ชายเธอไว้ละ” “ห๊ะ!!” เออ เอาอะไรมาไม่ตกใจอะตอนแรกยังตกใจเรื่องไอ้เพ้นท์ที่แม่งมีผัวเร็วตอนนี้แม่งมาถึงฉันแล้วเหรอวะเนี่ย “หึหึ ตกใจอะไรของเธอ นี่ให้เวลาปรับตัวแล้วนะ เอาไง” “นายชอบฉัน เหรอวะ” ผมนอนฟังยัยตัวแสบที่เหมือนจะถามกับตัวเองมากกว่าที่จะถามผมนะ ผมหัวเราะออกมาเบาๆแล้วตอบกลับยัยนี่กลับไป “เออ ฉันชอบเธอชัดปะ! ได้ยินไหม!” “ฉันงงวะ เจอกันแค่ไม่กี่วันเอง” “เอ้า คนชอบอะเจอไม่ถึงห้านาทีก็ชอบละชอบก็จีบมันก็แพทเทิร์นทั่วๆไปปะ” ฉันเบาเสียงจากทีวีก่อนจะขมวดคิ้วพร้อมกับถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่นายชอบฉันจริงๆ ไม่ได้เมาหรือพนันกับเพื่อนอะไรใช่มะ พูดซิ” “หึหึ ฉันเมาอะไร ตอนนี้อาบน้ำนอนอยู่บนเตียงละแล้วใครเขาจะไปพนันอะไรปัญญาอ่อนเงินมีเหลือใช้ครับทุกวันนี้” ผมบอกยัยตัวแสบออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม่ง ใครจะเหมือนยัยนี่มั่งเจอคนมาจีบแล้วแล้วดูงงๆยิ่งประโยคที่พูดขึ้นมาทำให้ผมหัวเราะอีกรอบ “เออ ฉันว่านายง่วงจนไม่มีสติละไปนอนไป นายมีสติค่อยคุยกับใหม่นายอาจจะง่วงจนเบลออะไรแบบนี้” ฉันบอกเขาออกไป เพราะเอาจริงๆฉันก็งงๆอยู่วะแก หรือสมัยนี้มันเร็วแบบนี้หรือเพราะเป็นนายนี่เลยมองว่าแปลกวะ “หึหึ เออ คาสายจะทำอะไรก็ทำเดี๋ยวพรุ่งนี้เธอมีสติจะคุยด้วยใหม่ ไม่ต้องวางสายถ้าวางสายฉันคงได้เลื่อนสถานะเป็นผัวเธอวันนี้” “โอ๊ย! นายนี่เนาะ เอาไปไว้ในห้องน้ำแม่ง” ฉันลุกขึ้นและตัดสินใจกับตัวเองนี่แหละทางออกที่ดีแล้วก็ได้ยินเสียงไอ้นี่พูดมาอีก “หึ ถ้าฉันเรียกแล้วไม่ได้ยินเสียงเธอฉันก็ไป” “เออ!! จะตดให้แม่งฟัง” “หึหึ ก็ถือว่าเรื่องของเราเดินเร็วดีเพราะจริงใจขนาดตดให้ว่าที่ผัวฟังได้แล้ว ดีละจะได้ชิน” “ไอ้บ้าเอ๊ย เออ ฉันจะดูซีรี่ย์ละ เงียบ ใช้สมาธิอ่านซับ” ฉันถอนหายใจแล้วก็วางโทรศัพท์ไว้บนเตียงก่อนจะหันมาสนใจดูซีรี่ย์แล้วก็เปิดลำโพงไว้หลังจากนั้นสมาธิก็กลับมาอยู่ที่ซีรี่ย์ต่อ ผมค่อยๆหลับตาลงแล้วสติก็ดับไปเลยเพราะมันเหนื่อยแล้วก็ล้าที่ตาตอนที่เล่นเกมส์เหมือนกันนี่ขนาดใส่แว่นนะแต่มาสะดุ้งในจังหวะที่พลิกตัวเหมือนมีอะไรตกอะ ตุบ! “หื้อ แม่งเที่ยงคืนยังไม่หลับไม่นอนหรือแม่งตกเตียงวะ” ผมปรือตามามองหน้าจอแล้วเหมือนยัยนี่แม่งยังไม่นอนอีกผมเลยเรียกยัยนี่ไปเสียงดัง “ญ่า!!” “อุ้ย ใครเขาเหยียหางแม่งอีก” ฉันเก็บขวดน้ำที่ตกลงบนพื้นขึ้นมาวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วก็ปิดเสียงทีวีพร้อมกับทำเสียงให้เบามากที่สุด แล้วก็ไม่ได้ตอบไอ้บ้านี่กลับไปเพราะจะได้เข้าใจว่าฉันนอนแล้ว แม่งกูมาถึงจุดนี้ได้ไงวะจุดที่เหมือนผัวจับได้แล้วต้องแกล้งตายอะ “หึ! ฉันรู้ว่าเธอยังไม่นอน!! ตอบ!!” “โอ๊ย!! อะไรของนายอีก!” นั่นไง ฮึ ทำไม่จะรู้ไม่ทันว่ายัยนี่ยังไม่นอน ผมเลยพูดกับยัยนี่ด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกรอบ “ปิดนอนได้ละ ดูจะให้ตามันหลุดออกมาเลยหรือไงนี่มันเที่ยงคืนละ” “ฉันใช้ตานายมาดูหรือไง” “เออ เดี๋ยวรวมร่างแล้วตาฉันจะมีปัญหา!! ปิดนอนอย่าพูดยาก!!” “ไอ้บ้า!” “นอน ถ้าไม่นอนจะให้เฮียมันตัดไฟ” “แล้วคิดว่าเฮียมันจะทำตามนายเหรอ” “หรือจะลองดู” “นายตั้งใจฟังฉันนะ” “อืม ว่า” ผมหลับตาแล้วสักพักแม่งต้องลืมตาขึ้นมาหลังจากได้ยินเสียงยัยนี่ดังขึ้นมาแล้วไม่ใช่เสียงพูดนะ “กรี๊ดดดดดดดด!!!!” ฉันกรี๊ดออกมาจนสุดพลังแรงเกิดอะ นี่ขนาดแค่บอกว่าจะจีบนะแล้วถ้าคบกันฉันต้องเข้ารักษาปะวะ เยอะสิ่ง แล้วแทนที่มันจะรำคาญแกดูมันตอบ “อืม ถือว่าเตรียมตัวดี เพราะมีผัวต้องใช้เสียงเยอะ กรี๊ดอีกเลยครับผม เฮ้อ ฟินจังเว้ย” “ไอ้บ้า” “หึหึ” ฉันหยิบน้ำขึ้นมากินอีกรอบก่อนจะล้มตัวลงนอนและดึงผ้าขึ้นมาห่มพร้อมกับหยิบตุ๊กตากระต่ายตัวนิ่มมากอดแล้วนอนตะแคง อืม พอได้ที่ตาก็เริ่มปรือฉันกดปิดทีวีพร้อมกับกดเปิดไฟ LED บนเพดานห้องที่ทำไว้ที่เป็นเหมือนท้องฟ้าแล้วก็มีดาวระยิบระยับหลังจากนั้นก็ค่อยๆหลับตาลง แต่ “ญ่า” “ฮื่อ” “นอน” “อือ” “อืม งั้นนอน” ผมบอกยัยตัวแสบเสร็จหลังจากนั้นมันก็มีแต่ความเงีบแล้วภาพผมก็ค่อยๆตัดไปอีกรอบแล้วรู้สึกมาตื่นอีกทีก็ตอนจะแปดโมงครึ่งแล้วมั้ง 08.24 “แม่งเงียบขนาดนี้ยังไม่ตื่นชัวร์” ผมใช้หยิบแบตสำรองมาชาร์จโทรศัพท์แล้วเรียกยัยนี่อีกรอบ “ญ่า ญ่า!” “ฮือ” ฉันสะดุ้งขึ้นมาหน่อยๆแต่ตาก็ยังไม่ลืมนะเหมือนมีใครมาเรียกอะหรือเฮียมันจะไปไหนวะ “ญ่า ญ่า!!” “ฮือ จะไปไหนก็ไปจะนอน” “หึหึ เธอซ้อมเป็นหมูหรือไง นอนก็ดึกเช้าก็ไม่ตื่น” ฉันค่อยๆลืมตาก่อนแล้วในห้องมันก็มืดอยู่อะสักพักก็ค่อยๆตั้งสติก่อนจะใช้มือเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ อือหื้อ แม่งคาสายกับนายนี่แปดชั่วโมงกว่าแล้วเหรอเนี่ย ฉันเลยถามคนตัวสูงออกไป “นายจะแหกขี้ตาตื่นทำไมมันวันหยุดปะ” “ใครเขาจะนอนสูบบ้านแบบเธอ” “ฮือออ โอ๊ย เมื่อย” ผมฟังเสียงยัยตัวแสบที่ตอนนี้แม่งน่าจะบิดขี้เกียจแหละเลยหัวเราะออกมาแล้วถามยัยนี่ออกไป “หึหึ ทำกายภาพยามเช้าเหรอครับ” “ปากเรียกแขกแต่เช้าเลยเนาะ” “หึหึ แค่นอนก็ปวดเมื่อยเนาะร่างกายเธอเนี่ย” “เออสิ ฉันหิววะ ฉันวางสายละไปหาอะไรกินก่อน” ฉันบอกเขาพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้นนอนอยู่สักพักก็เริ่มจะหิวขึ้นมาปกติตอนนี้ก็ต้องได้กินข้าวแล้วไงแล้วจังหวะที่จะกดวางสายก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมา “อืม อาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวไปรับพาไปหาอะไรกินประมาณชั่วโมงหนึ่งถึงหน้าบ้านเธอ แล้วชุดอย่าขนาดเมื่อวานเพราะถ้าเห็นฉันจะเปลี่ยนชุดใหม่ให้เธอเอง แค่นี้ เข้าใจไหมที่พูดอะ หลับอีกรอบปะวะ” “เออ! รีบมาอย่าช้าฉันหิวละ! สั่งๆเตรียมเงินมาเยอะๆด้วยนะนายอะฉันกินเยอะ” “หึ เตรียมตัวเถอะเธออะ” “อืมแค่นี้” ฉันกดวางเสร็จก็มาพิมพ์บอกพวกไอ้มิวไปในกลุ่มแล้วก็บอกไปว่านายนี่ว่าจะจีบอะไรแบบนี้อะแหละแล้วพวกมันทำไงเหรอ ฮึ สนับสนุนไปอีก แต่เดี๋ยววันนี้จะคุยจริงจังอีกรอบเลยนัดกับนายนี่ไม่งั้นก็ไม่ไปหรอก เพราะอยากคุยแบบต่อหน้ามากกว่าไม่อยากคุยทางโทรศัพท์ ฉันอาบน้ำแต่งตัวโดยใส่ชุดเดรสสีขาวลายลูกไม้แขนตุ๊กตาแต่ช่วงหน้าอกก็กว้างพอสมควรความยาวก็เนื้อเข่าขึ้นมา อือหื้อ ชุดคือเก็บส่วนเว้าส่วนโค้งดีมาก ฉันลงมาด้านล่างก็เดินเข้ามาในครัวพร้อมกับบอกพี่ดาวที่กำลังเอาน้ำผลไม้ที่ซื้อมาเพิ่มใส่ตู้เย็นพอดี “พี่ดาวคะ ญ่าขอน้ำส้มสักแก้วสิคะ เดี๋ยวญ่าถือออกไปเองค่ะ” “ได้จ้า” “ขอบคุณค่ะ” “แล้วคุณญ่าจะทานข้าวเลยไหมคะป้าจะได้ให้เด็กๆตั้งโต๊ะ” “เดี๋ยวญ่าไปข้างนอกค่ะป้านุ่ม” “อ๋อได้ค่ะ” “ป้านุ่มทานกันเลยนะคะ เฮียก็ยังไม่กลับแล้วไม่รู้จะกลับหรือเปล่ากับข้าวไม่ต้องแบ่งไว้หรอกค่ะ” ฉันบอกป้านุ่มเพราะป้าเขาก็เริ่มจะตักอาหารแล้วเริ่มจะจัดโต๊ะกันแล้ว “ค่ะๆ” “งั้นญ่าไปห้องรับแขกนะคะ” “ค่ะ” ฉันเดินเข้ามาในห้องรับแขกนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่สักพักก็เห็นป๊าม๊าส่งรูปมาให้ในไลน์ส่วนตัว อ๋อ แล้วที่ยังไม่เห็นป๊าม๊าฉันเพราะว่าตอนนี้ไปเที่ยวกับคุณลุงคุณป้าพ่อแม่ไอ้เพ้นท์นั่นแหละที่จีน นี่แหละคบกันมันมาตั้งแต่เบบี๋อะแกจะเอาอะไรมาไม่เหมือน ผมขับรถมาจอดที่หน้าบ้านที่ขับวนมาส่งยัยตัวแสบเมื่อวานก่อนจะเดินลงจากรถแล้วเข้ามาในบ้านก็เห็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นทักขึ้นมา “เออ สวัสดีค่ะ มาหาพี่ญ่าเหรอคะ” “ครับ ญ่าอยู่ไหนลงมาหรือยัง” “พี่ญ่าอยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ” “อ๋อ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้กับเด็กน้อยตรงหน้าก่อนจะเดินไปที่ห้องรับแขกแล้วเห็นยัยตัวแสบใส่ชุดเดรสสีขาวนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่พอดีเลยเดินเข้ามาหาก่อนจะใช้มือจับที่หัวของยัยนี่แล้วออกแรงหมุนให้หันมาทางผม “ไป มั่วแต่เล่นโทรศัพท์” “โอ๊ย ถ้าคอฉันหักนะ” “แล้วหักยัง ฉันเห็นมีแต่หน้าเธอแหละที่หัก ไป หรือไม่หิวแล้ว” “หิวสิ” ฉันบอกคนตัวสูงพร้อมกับหยิบกระเป๋าแล้วก็ลุกขึ้นก่อนจะได้ยินเขาถามขึ้นมาอีกรอบ “แล้วเสื้อคลุมไม่ใส่” ผมถามยัยตัวแสบแล้วคือชุดมันเป็นเดรสแล้วช่วงหน้าอกนี่แม่งจะอะไรขนาดนั้น “งั้นรอแป๊บขึ้นไปเอาข้างบนก่อน” ฉันบอกเขาลืมไปเลยเหมือนกันเพราะจะได้เอาไว้ใส่เวลาเดินข้างนอกแล้วเจอแดด “งั้นไม่ต้องขึ้นไปเอาในรถฉันก็มี ไป หิวแล้ว” “นี่ แล้วต้องจับมือด้วย” “เอ้า คนจีบกันเขาก็จับมือสิมีใครจีบกันแล้วจับตูดบ้างละ” “นายนี่มันบ้าจริงๆ” คนตัวสูงจับมือฉันให้เดินตามเขาออกมาพอมาถึงรถเขาสายตาฉันก็เห็นสแตมป์ที่เหมือนจะเดินไปที่สวนเลยหันมาบอกเขาแล้วเรียกสแตมป์ขึ้นมา “แป๊บหนึ่งๆ สแตมป์! มาหาพี่ก่อน!” ผมมองยัยตัวแสบเรียกเด็กน้อยที่เหมือนจะไปไหนสักที่แต่พอได้ยินเสียงยัยนี่เรียกก็รีบวิ่งมาหา “คะพี่ญ่า” “เราจะไปไหน แล้วทำไมไม่ไปกินข้าว” “หนูทำรายงานเสร็จช้าค่ะพี่ญ่าเลยว่าจะไปรดน้ำต้นไม้ก่อน” “ไม่ต้องๆ เข้าไปกินข้าว ไม่ต้องรดต้นไม้พี่ไม่ตายหรอกตอนเย็นค่อยมารดแล้วเราลืมอะไรหรือเปล่า” ฉันมองเด็กน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดูสแตมป์เป็นลูกคนงานในโรงงานนั่นแหละแต่พ่อแม่ส่งเรียนไม่ไหวแล้วดันมาเลิกกันอีกเฮียกับฉันเลยเอ็นดูแล้วชวนมาอยู่ด้วยตอน ป.6 ตอนนี้ ม.3 แล้วฉันเอ็นดูเหมือนน้องสาวนั่นแหละไม่ได้ให้ทำงานแต่ไอ้เจ้านี่ก็ขอทำเลยให้รดน้ำต้นไม้แล้วก็ช่วยงานในโรงงานพวกงานเอกสารต่างๆที่น้องพอทำได้ให้เงินเดือนเอาไว้กินแล้วก็เปิดบัญชีเงินเก็บให้ด้วย น้องมันนิสัยน่ารักอะ ซื่อๆ อ๋องๆ อยู่บ้านก็เลยไม่เหงาถ้าว่างก็นี่แหละเพื่อนไปช็อป “คะ แตมป์ลืมอะไรเหรอคะ” “หึหึ แตมป์เอ๊ย เรานี่เนาะ แล้วจะไปยืนรดทำไมนู่นไปหมุนเปิดน้ำตรงนู้นมันก็รดอัตโนมัติแล้ว” ฉันบอกเด็กน้อยตรงหน้าเพราะเมื่อวานที่อยากรดเองเพราะอยากคิดอะไรไปเรื่อยๆเหมือนได้อยู่กับตัวเอง “อ๋อ ใช่ค่ะหนูลืม” “หึหึ เข้าไปกินข้าวค่อยมารดตอนเย็นเปิดเอาไม่ต้องยืนรดดูเวลาไว้แล้วเราก็ไปทำการบ้านพอถึงเวลาก็ลงมาปิด” “ค่ะ” “ไปกินข้าวเลย ป้าๆเขากินกันอยู่ข้างใน เดี๋ยวพี่กลับมา” “ค่ะพี่ญ่า” ผมเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับพอยัยนี่เข้าไปนั่งผมก็ปิดประตูให้แล้วมาเข้ามานั่งฝั่งข้างๆพอขับรถออกมาก็เห็นเด็กน้อยกับยัยนี่บ๊ายบายกันอยู่เลยถามยัยนี่ขึ้นมา “น้องสาวเหรอ” “ใช่” “แบบพ่อแม่เดียวกันอะนะ ทำไมรู้มาเหมือนเธอเป็นลูกคนสุดท้องอะ” ฉันหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับอธิบายให้เขาฟัง “ไม่ใช่ แต่ฉันเอ็นดูน้องเหมือนน้องสาว น้องเขาเป็นลูกพนักงานครอบครัวมีปัญหาเลิกกันไปตอนแรกอยู่กับพ่อแล้วพ่อส่งเรียนไม่ไหวเลยขอมาดูแลตอนนี้ก็มีครอบครัวใหม่กันไปหมดแล้ว ฉันก็เลยย้ายน้องมันมาเรียนเอกชนแถวๆนี้แหละเวลาที่โรงเรียนมีกิจกรรมเกี่ยวกับผู้ปกครองก็ป๊าม๊าไปบ้างถ้าว่างฉันก็ไปบ้าง” “อ๋อ ฉันก็ว่าน้องใส่ชุดอยู่บ้านทั่วไปไม่ได้ชุดเหมือนพวกพี่ๆเขา” “ก็น้องสาวฉันอะจะให้ใครว่าได้ไง ฉันตามตบทุกคนอะที่มาว่าเพราะดูสิน้องมันสู้คนที่ไหนร้องไห้อย่างเดียว นี่ขนาดฉันสอนยังได้แค่นี้เลยฉันเลยต้องลุยเอง” ผมหัวเราะก่อนจะปรายตามองยัยตัวแสบที่อยู่ข้างๆ ตอนแรกก็ดูเหมือนจะแรงแต่เห็นมุมนี้คงไม่ขนาดนั้นแล้วก็ดูเหมือนจะใจดีกับคนรอบข้างอยู่นะ “หึหึ ไม่ทึก ไม่แกร่งเท่าเธออะเนาะ” “เออสิ จะกลัวใครทำไมมือก็มีเท่ากันทำอะไรมาก็สวนดิคะ” “หึหึ ดีละมีแม่แบบเธอลูกฉันมันจะได้กล้าแกร่ง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD